เกาะอิชิงากิ (Ishigaki Island) แดนสวรรค์แห่งทะเลใต้

โอกินาวา (Okinawa) แดนสวรรค์แห่งทะเลใต้ นอกจากเกาะหลักอย่างเกาะโอกินาวาแล้ว ที่นี่ยังมีเกาะแยกออกไปอีกกว่า 600 เกาะ ให้คุณได้สัมผัสกับความสวยงามของธรรมชาติ และวัฒนธรรมของเกาะ ที่โดดเด่น ในบรรดาหมู่เกาะทั้งหลาย

หมู่เกาะยาเอยามา (Yaeyama Islands) ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศใต้สุดของประเทศญี่ปุ่นก็เป็นอีกหนึ่งหมู่เกาะที่น่าสนใจ โดยประกอบไปด้วยเกาะ 10 เกาะที่มีผู้อาศัยอยู่ ได้แก่ เกาะทาเคโทมิ เกาะโคะฮามะเกาะคุโระ เกาะฮาโตมะ เกาะฮาเตรุมะ เกาะอารากุสุคุ (พานารี) เกาะอิริโอโมเตะ เกาะยุบุ เกาะโยนากูนีและเกาะอิชิงากิ (Ishigaki Island) ซึ่งเป็นเกาะหลักของหมู่เกาะยาเอยามาแห่งนี้ ถ้าจากเกาะหลักของโอกินาวา หมู่เกาะยาเอยามาตั้งอยู่ในทิศตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 400 กิโลเมตร โดยเกาะอิชิงากิซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่อันดับสามในจังหวัดโอกินาวานั้นมีหน้าที่เป็นศูนย์กลางการขนส่งเดียวของหมู่เกาะยาเอยามา ประกอบด้วย สนามบิน สถานีขนส่งเรือโรงแรม ร้านค้า ร้านอาหาร และบาร์ เป็นต้น ถือว่าเป็นทางเข้าของหมู่เกาะยาเอยามาก็ว่าได้ จากเกาะอิชิงากิไปแต่ละเกาะสามารถเข้าถึงได้โดยทางเรือ

แต่ถ้าคุณเดินทางมาจากเมืองหลักอย่างโตเกียวก็มีเที่ยวบินบินตรงจากสนามบินหลักอย่าง สนามบินฮาเนดะกรุงโตเกียว (Haneda Airport Tokyo) มีเที่ยวบินบินตรงถึงสนามบิน New Ishigaki Airport (Ishigaki Island) ของเกาะอิชิงากิ ค่าใช้จ่ายประมาณ70,000 เยน (ในช่วงโปรโมชันประมาณ 20,000-40,000 เยน) ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง 30 นาทีหรือจะเลือกโดยสารเครื่องบินโดยแวะที่สนามบิน Naha Airport แล้วต่อเครื่องไปลงที่ Ishigaki สนามบิน New Ishigaki Airport (Ishigaki Island) ประมาณ 1 ชั่วโมง ราคา ประมาณ 11,000 เยน แต่ไม่มีเรือจากเกาะหลักของโอกินาวาไปเกาะอิชิงากินะ

บอกไว้ก่อนเสน่ห์ของเกาะอิชิงากิ นอกจากจะเป็นที่รู้จักเรื่องชายหาดอันสวยงาม และแหล่งดำน้ำดูปะการังทั้งแบบสน็อกเกิล และสกูบาไดฟ์แล้ว ยังอุดมไปด้วยธรรมชาติกึ่งเขตร้อน มีถำ้หินงอกหินย้อยให้ได้ชมด้วย นอกจากนี้ยังมีแม่น้ำอยู่บนเกาะอีกด้วย สามารถเช่าเรือคายัคพายสำรวจธรรมชาติเช่นเดียวกัน ใจกลางเมืองมีร้านขายอาหารพื้นเมืองอร่อยๆ ร้านขายเครื่องดื่ม สามารถเลือกลิ้มลองกันได้ และมีร้านขายของที่ระลึก เป็นแหล่งรีสอร์ตที่กำลังได้รับความนิยม

สำหรับการเดินทางภายในเกาะสามารถเชา่รถยนต์เที่ยวได้ จากใจกลางเมืองขับรถไปได้ เพียง 30-45 นาที ยกเว้นแหลมทางทิศเหนือสุดที่ห่างออกไปถึง 35 กิโลเมตร หรือถ้าจะใช้บริการรถสาธารณะ มีรถบัสวิ่งจากสนามบินไปยังสถานีขนส่งใจกลางเมือง (ใช้เวลา 35-50 นาที ค่าใช้จ่าย 540 เยน บัสออกทุกๆ 15 นาที) แต่รถบัสที่วิ่งไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ นั้นมีน้อย ได้แก่ รถบัสสาย Kabira Line ที่วิ่งจากใจกลางเมืองไปยังสนามบิน โดยผ่านชายหาดโยเนะฮาระ (Yonehara Beah) ที่มองเห็นอ่าวคาบิระ (Kabira Bay)(45 นาที 720 เยน หรือตั๋ว 1 day pass ราคา 1,000 เยน และ 5days pass ราคา 2,000 เยน บัสออกทุกๆ 1-3 ชั่วโมง) เป็นต้น

บนเกาะอิชิงากิ มีทั้งหาดทราย และหาดหินที่บริเวณชายหาดนักท่องเที่ยวสามารถว่ายน้ำ(ในช่วงน้ำขึ้น) หรือจะดำแบบสน็อกเกิล ดำแบบสกูบาไดฟ์ บนเกาะแห่งนี้เต็มไปด้วยปะการังสีขาวบริสุทธิ์และแนวปะการังที่งดงาม หรืออาจจะนอนอาบแดดก็ได้เช่นกันอย่างเช่นที่ ชายหาดโยเนะฮาระ (Yonehara Beach) ก็ถือว่าเป็นหนึ่งชายหาดยอดนิยมของเกาะแห่งนี้ จากสนามบินขับรถไปเพียงแค่ 25นาทีเท่านั้น

ใกลกั้บชายหาดโยเนะฮาระ บริเวณแม่น้ำฟูกิโดะ (Fukido River)มีให้บริการคายัคทัวร์ในแม่น้ำ (River Kyak Tours) โดยเราสามารถเช่าเรือคายัคเพื่อพายชมธรรมชาติบริเวณป่าชายเลนที่มีต้นโกงกางที่กว้างใหญ่แผ่กระจายปกคลุมพื้นที่ได้ มี 2 รอบคือช่วงเช้าและช่วงบ่าย ค่าบริการ 6,500 เยนต่อ 3 ชั่วโมง หรือเล่นกระดานโต้คลื่นแบบ Stand-up paddle ที่ไปตามแม่น้ำเพื่อชมป่าชายเลนรูปร่างต่างๆ ไประหว่างทาง ก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมยอดนิยมแต่ถ้าไม่ชอบทำกิจกรรมออกแรงมาก จากชายหาดโยเนะฮาระไปต่อกันที่ อ่าวคาบิระ (Kabira Bay) ในวันที่อากาศแจ่มใส น้ำทะเลเป็นสีฟ้าอมเขียวไล่ระดับสวยงามมาก ด้วยความสวยงามเช่นนี้ทำให้อ่าวคาบิระเป็นหนึ่งในจุดชมวิวที่เป็นตัวแทนของโอกินาวาก็ว่าได้

แม้ที่นี่จะไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวลงไปว่ายน้้ำหรือดำน้ำดูปะการัง แต่มีบริการนั่งเรือท้องกระจกเพื่อชมธรรมชาติอันงดงามของใต้ท้องทะเล ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีราคาอยู่ที่ 1,030 เยน มีให้บริการตั้งแต่ 09.00-17.00 น. แต่ถ้าใครอยากจะว่ายน้ำ ดูปะการังใกล้ๆ นั้นมีชายหาดซูคุจิ (Sukuji Beach) ชายหาดแห่งนี้มีระยะทางยาว 1 กิโลเมตร หาดทรายที่นี่ขาวละเอียดที่สุดของเกาะเลยก็ว่าได้ แถมบริเวณลานจอดรถของชายหาดมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยว เช่น ห้องอาบน้ำ ห้องน้ำ และห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นต้น และสุดปลายทางด้านหนึ่งของชายหาดเป็นที่ตั้งของ Club Med Resort ในช่วงฤดูร้อนบริเวณรอบอ่าวคาบิระ ใกล้ๆ ชายหาดซูคุจิ ถ้าคุณลงไปดำน้ำโอกาสที่คุณจะได้พบกับปลากระเบนราหูมีมากทีเดียว เพราะช่วงเวลานั้น มีปลากระเบนราหูจะมารวมตัวกันถึงขนาดที่ว่าคุณจะเจอปลากระเบนราหูแทบทุกครั้งที่ลงดำน้ำ

เที่ยวชมธรรมชาติกันแล้ว แวะไปศึกษาประวัติศาสตร์กันบ้าง บนเกาะยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์หลายจุด จากบริเวณอ่าวคาบิระเราขับรถย้อนกลับมาทางฝั่งสนามบินไปเที่ยวชมสุสานโทจินบากะ (Tojinbaka) ฟังแล้วอาจดูแปลกหูและไม่ชวนให้น่าไปเท่าไร แต่สุสานแห่งนี้ตกแต่งไว้อย่างสวยงาม เป็นสุสานของคนงานจีนกว่า 300 ศพที่สร้างขึ้นในปี 1852 ที่แท้จริงแล้วควรถูกส่งไปเป็นคนงานเหมืองในอเมริกาในช่วงกลางปี 1800 แต่เนื่องจากมีการกบฏจึงทำให้ถูกสังหารที่เกาะอิชิงากิแห่งนี้ เปิดให้เข้าชม 24ชั่วโมงแบบไม่มีค่าใช้จ่ายเลย แต่เราคงไม่เลือกไปช่วงกลางคืนหรอก จริงไหม?

ถัดไปอีกหน่อยคือ หมู่บ้านซามูไรมิยาระดันจิ (Miyara Dunchi) ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของซามูไร ในสมัยอาณาจักรริวกิว สร้างโดยขุนนางประจำท้องถิ่นในปี ค.ศ. 1819 ถือเป็นอาคารที่รอดมาได้จากการถูกทำลายในช่วงสงคราม นักท่องเที่ยวอนุญาตให้เข้าชมรอบนอกของบ้าน และสวนหย่อมเท่านั้น เปิดให้เข้าชมตั้งแต่ 09.00-17.00 น. แม้จะเสียค่าเข้าชม 200 เยน แต่คุ้มค่าแน่นอน ถ้าจะไปเช็กวันให้ดีๆ เพราะที่นี่ปิดทุกวันอังคาร และวันที่ 1-3 มกราคม (ช่วงปีใหม่)

อีกจุดสำหรับคนที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์คือที่พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นหมู่เกาะยาเอยามา (Yaeyama Museum) มีค่าเข้าชมอยู่ที่ 200 เยน เช่นกัน แต่ที่นี่ปิดทุกวันจันทร์ และวันที่
29 ธันวาคม – 3 มกราคม สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1972 ปีเดียวกันกับที่เกาะโอกินาวากลับมา
เป็นของประเทศญี่ปุ่น ภายในพิพิธภัณฑ์จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับประวัติศาสตร์
และวัฒนธรรมของหมู่เกาะยาเอยามา เช่นเครื่องมือพื้นบ้านที่ใช้ในการแกะสลัก แสดง
ภาพวาด และงานเขียน รวมถึงเครื่องปั้นดินเผาผ้าที่ย้อมเป็นลวดลายสวยงาม และข้าวของ
มีค่าต่างๆ จากนิทรรศการถาวร นอกจากนี้ยังมีนิตยสารที่ทางพิพิธภัณฑ์จัดพิมพ์ให้ผู้เข้าชม
อ่านอีกด้วย ในปีหนึ่งๆ จะมีการเปลี่ยนแปลงนิทรรศการถาวรหลายครั้ง และจะมีการ
จัดแสดงนิทรรศการประจำฤดูกาลเป็นพิเศษจริงๆ ที่เกาะยังมีจุดท่องเที่ยวอีกหลายจุด
เช่น แหลมอุกันซากิ (Uganzaki) ที่ปลายสุดทางทิศตะวันตก และแหลมฮิราคุโบะซากิ
(Hirakubozaki) ที่จดุเหนือสุดของคาบสมุทรฮิราคุโบะ จากแหลมที่มีประภาคารสีขาว
บริสุทธิ์ตั้งอยู่ ซึ่งมีระเบียงชมวิวทามะโทริซากิเท็มโบได (Tamtorizaki Tembo-dai) อยู่ตรง
คาบสมุทรฮิราคุโบะแห่งนี้

นอกจากนั้นจะได้เห็นดอกไม้เขตร้อนเช่นดอกชบาตามทางเดินที่มุ่งหน้าไปยังระเบียงชมวิว และจากระเบียงชมวิวนั้นคุณก็สามารถเห็นทะเลสีเขียวมรกต หาดทรายขาวและทิวทัศน์คาบสมุทรที่สวยงามแห่งนี้

อากาศของเกาะอิชิงากินั้นอบอุ่นตลอดทั้งปีฤดูร้อนอุณหภูมิประมาณ 30 องศาเซลเซียส และในฤดูหนาวมีอุณหภูมิประมาณ 20 องศาเซลเซียส

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการมาเที่ยวคือตั้งแต่เดือนเมษายน-พฤศจิกายน อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 25 องศาเซลเซียส แต่ช่วงปลายเดือนมิถุนายน-ตุลาคมเนื่องจากเป็นฤดูมรสุม เลี่ยงจะดีกว่า นอกจากธรรมชาติที่สวยงามแล้ว ที่นี่ยังเป็นสวรรค์ของนักชิมอีกด้วย ไปแล้วอย่าพลาดอาหารจำพวกเนื้อที่ใช้เนื้ออิชิงากิ เนื้อวัวระดับพรีเมียม หรือชิมยาเอยามาโซบะนั้น เป็นที่รู้กันอย่างกว้างขวางถึงวัตถุดิบในการทำเส้นซึ่งจะทำมาจากแป้งบักวีตดั้งเดิมแทนที่จะใช้แป้งธรรมดา ทำให้เส้นโซบะของที่นี่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร

Share This Post:Share on Facebook0Share on Google+0Tweet about this on TwitterShare on LinkedIn0