Vitamin Sea

หน้าร้อนกลับมาอีกแล้ว ร้อนแบบนี้ สถานที่ท่องเที่ยวที่ดูน่าจะเหมาะที่สุด ก็ต้องยกให้กับะเลเลย และถ้าหากคุณกำลังวางแผนไปลันล้า ร่าเริง ท้าแดด ท้าลมกับเมืองท่องเที่ยวชายทะเลทั้งแบบที่มีหาดทรายสีขาว น้ำทะเลสีฟ้า ท้องฟ้าสดใส ผู้คนคึกคัก หรือแบบที่หาดสงบๆ แบบไม่ต้องตบตีแย่งพื้นชายหาดและร่มกันแดด ผมขอยกตัวอย่างมาให้สักหน่อย ไปรับวิตามิน C กันที่ The Sea ได้เลย

กระบี่ (Krabi) สวรรค์ของคนรักกิจกรรม

หาดทรายขาว น้ำทะเลใส ปะการัง ถ้ำ และหมู่เกาะน้อยใหญ่กว่า 100 เกาะ ถือได้ว่าเป็น the most relaxing part to be in all of Thailand เริ่มต้นจากหาดไร่เลย์ (Railay Beach) ที่หลายคนอาจคิดว่าเป็นเกาะ แต่จริงๆ หาดไร่เลย์ ตั้งอยู่แผ่นดินเพียงแต่ชายหาดนั้นล้อมรอบด้วยภูเขาสูงชันทุกด้าน จึงไม่มีทางเข้าจากทางอื่น นอกจากนั่งเรือไปอย่างเดียวจากตรงอ่าวนาง ไปที่หาดไร่เลย์ นั่งเรือไปประมาณ 200 บาท

หาดไร่เลย์ แบ่งออกเป็น หาดไร่เลย์ตะวันออกและด้านหาดไร่เลย์ตะวันตกหาดที่โค้งเข้าหากันโดยมีทางเดินเล็กๆ เดินเชื่อมทะลุถึงกันได้ และมีทางปีนขึ้นไปชมลากูน (Lagoon) หรือทะเลปิดกลางหุบเขาได้ ซึ่งหาดไร่เลย ์ เป็นที่รู้จักกันดีในหมนูั่กท่องเที่ยว โดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมปีนหน้าผา การปีนผานั้นสามารถมาปีนได้ทั้งปี ส่วนบริเวณที่นิยมปีนผาคือบริเวณไร่เลย์ตะวันออก อ่าวต้นไทร และเขาแถวๆถ้ำพระนางใน สหรับราคาโปรแกรมปีนผา ครึ่งวันตั้งแต่ 09.00 -14.00 น. ราคาประมาณคนละ 1,000 บาท และเต็มวันตั้งแต่ 09.00 -18.00 น. อยู่ที่ 1,800 บาท ถ้าใครสะดวก

ผมแนะนำแบบครึ่งวันก็ได้ ลองปีนผาเสร็จแล้วก็ไปดูลากูน จบด้วยชมพระอาทิตย์ตกที่หาดไร่เลย์ สวยงามไม่แพ้ที่ไหนเลย หากวันหนึ่งคุณไปปีนผา อีกวันผมแนะนำให้ไปดำน้ำตาม
หมู่เกาะต่างๆ ของกระบี่ และหนึ่งในเกาะที่วิ่งลิ่วขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งไม่ว่าคนไทย หรือคนต่างชาติ คือหมู่เกาะพีพี (Phi Phi Island) ส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ หาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี เดิมชาวทะเลเรียก หมู่เกาะนี้ว่า “ปูเลาปิอาปิ” คำว่า “ปูเลา” แปลว่าเกาะ คำว่า “ปิอาปิ” แปลว่าต้นไม้ทะเลชนิดหนึ่งจำพวกแสม และโกงกาง ต่อมาเรียกว่า “ต้นปีปี” ซึ่งภายหลัง กลายเสียงเป็น “พีพี” ที่นี่เคยติดอันดับ 1 ใน 10 อันดับเกาะที่สวยงามที่สุดในโลกเลยทีเดียว ประกอบด้วย 2 เกาะใหญ่ๆ คือ เกาะพีพีดอนเกาะพีพีเล และเกาะเล็กๆ ข้างเคียง คือ เกาะยูง เกาะไม้ไผ่

สำหรับคนที่ต้องการพักบนเกาะที่เกาะพีพีดอนมีบริการที่พักสามารถจองได้ บนเกาะมีสาธารณูปโภคครบถ้วนเหมือนกัน แต่สำหรับคนที่ซื้อทัวร์ดำน้ำแบบ one day trip เกาะพีพีดอน คือ จุดที่เราจะไปพักรับประทานกลางวันกันนั่นเอง เกาะพีพีดอนประกอบด้วยอ่าว 2 อ่าวที่เป็นเวิ้งอ่าวคู่ คือ อ่าวต้นไทรกับอ่าวโละดาลัม ซึ่งเป็นเวิ้งวงเข้าหากันคั่นด้วยที่ราบเล็กๆ ร่มรื่นด้วย ทิวมะพร้าว ส่วนเกาะพีพีเล อ่าวที่ขึ้นชื่อคงหนีไม่พ้น อ่าวมาหยา ที่นี่ถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ฮอลลีวู้ด เรื่อง“The Beach” ทำให้จากที่อ่าวมาหยาเป็นที่รู้จักมากอยู่แล้วก็เป็นที่โด่งดังมากยิ่งขึ้น นอกจากเม็ดทรายของหาดที่เนียนดั่งผงแป้งแล้ว เวิ้งอ่าวใหญ่ที่โอบล้อมด้วยแนวหน้าผาเป็นลากูนที่สวยงาม อ่าวมาหยาปิดไม่ให้ขึ้นหาดมากว่า 2 ปีเพื่อฟื้นฟูธรรมชาติ ตั้งแต่ปี 2562 คาดว่าในปี 2564 จะมีการพิจารณาอีกครั้งว่าจะเปิดหรือไม่เปิดอย่างไร ในฐานะที่ผมเคยไปอ่าวมาหยาตั้งแต่ก่อนปิด ยอมรับถึงความสวยงามและเห็นด้วยที่มีการปิดฟื้นฟูในช่วงที่ผ่านมา แต่แม้จะไม่ได้ขึ้นอ่าวมาหยาแต่ที่เที่ยวอื่นๆ ของหมู่เกาะพีพีก็สวยงามไม่แพ้กัน และนอกจากหมู่เกาะพีพีจะสามารถเดินทางจากทางกระบี่แล้วยังสามารถเดินทางมาจากทางภูเก็ตได้อีกด้วย

ภูเก็ต (Phuket) ไข่มุกแห่งอันดามัน

ภูเก็ต อีกเมืองท่องเที่ยวทางทะเลที่ได้ชื่อว่าเป็น ไข่มุกแห่งอันดามัน (The Pearl of the Andaman) เป็นเกาะขนาดใหญ่ที่สุดและจังหวัดขนาดเล็กที่สุดของไทย ผมเชื่อว่าคนต่างชาติแทบทุกคนรู้จักภูเก็ต ด้วยเป็นเกาะที่ครบครันทั้งความสวยงามทางธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ ความเป็นมา สำหรับคนที่ชื่นชอบความผสมผสานทางวัฒนธรรม ความสะดวกสบายของที่พัก และสาธารณูปโภค ภูเก็ตจึงถือได้ว่าเป็นจุดหมายปลายทางอันดับต้นของเหล่านักท่องเที่ยวที่ต้องการ Vitamin Sea ก็ว่าได้ ภูเก็ตล้อมรอบด้วยน้ำทะเลสีเขียว
มรกต หาดหลายหาดของภูเก็ตมีหาดขาว เม็ดทรายละเอียด ทำให้ชื่อเสียงของหาดของภูเก็ตไม่ว่าจะเป็น หาดป่าตอง หาดกะตะ หาดกะรน ติดอันดับสรวงสวรรค์ของนักท่องเที่ยวทั่วโลก

แม้ว่าภูเก็ตจะเจอกับสึนามิ เมื่อปี พ.ศ. 2547 แต่หลังจากเหตุการณ์ เกาะภูเก็ตก็ได้เปลี่ยนแปลงเติบโตอย่างรวดเร็ว มีร้านค้าร้านอาหาร ร้านกาแฟ คาเฟ่ ตลอดจนโรงแรม และสถานบันเทิงเกิดขึ้นมากมาย พอมาปี พ.ศ. 2563 เหตุการณ์ไวรัสโควิด-19 ที่สร้างความเดือดร้อนไปทั่วทุกพื้นที่ก็ส่งผลกระทบกับเมืองท่องเที่ยวที่มีรายได้หลักจากนักท่องเที่ยวต่างชาติเช่นกัน แต่สำหรับผมคิดว่าช่วงนี้น่าจะเป็นช่วงโอกาสอันดีของคนไทยที่จะได้ท่องเที่ยวเกาะภูเก็ตในยามที่นักท่องเที่ยวเบาบาง คุณจะไม่ต้องไปวุ่นวายกับนักท่องเที่ยวมากนักแม้บางหาดจะเงียบไปบ้าง ให้คิดว่าเงียบสงบมากกว่าคำว่าเงียบเหงาดีกว่า

อย่างคนที่ไม่ชอบความวุ่นวายมากนัก ผมว่าอย่างหาดในหาน (Nai Han Beach) ที่อยู่ตอนใต้ของเกาะภูเก็ตก็น่าสนใจเป็นหาดทรายยาวเพียง 700 เมตรแต่บรรยากาศเงียบสงบ ผู้คนไม่พลุกพล่าน เป็นส่วนตัวมาก หรืออย่างที่หาดไม้ง้าวที่เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ สงบ และความงามของธรรมชาติ จนนักท่องเที่ยวให้สมญานามว่า “Freedom Beach” คำว่าไม้ง้าว น่าจะเพี้ยนมา
จากคำว่า “ไม้งาม” ที่มาจากความงามของเหล่าพรรณไม้ที่นี่นั่นเอง

มัลดีฟส์ (Maldives) The Sunny Side of Life

อย่าบอกนะว่า ….ถ้าพูดถึงทะเลสวย ฟ้าใส แล้วไม่นึกถึงมัลดีฟส์ สำหรับคนที่เคยแต่ได้ยินชื่อมัลดีฟส์ มัลดีฟส์ แล้วนึกไม่ออกว่าเป็นประเทศหรือแค่หมู่เกาะ หรืออยู่ตรงตำแหน่งไหนแล้วละก็ อันดับแรกให้บอกกับตัวเองเลยว่า มัลดีฟส์เป็นประเทศนะ ชื่อว่าสาธารณรัฐ
มัลดีฟส์ แต่เป็นประเทศที่ประกอบด้วยหมู่เกาะปะการังจำนวนมากรวมกัน อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ประเทศอินเดียและประเทศศรีลังกา ดังนั้นมัลดีฟส์ ตั้งอยู่ในพื้นที่ของมหาสมุทรอินเดียนั่นเอง

การเดินทางไปมัลดีฟส์ไม่ว่าคุณจะจองโรงแรมไหนอะไรอย่างไรก็ต้องไปเริ่มกันที่เกาะหลักที่เกาะมาเล่ แล้วจึงเดินทางไปยังเกาะต่างๆ ของมัลดีฟส์ ที่ทางโรงแรมที่คุณจองมีตำแหน่งปักพิกัดอยู่ อาจจะเดินทางต่อโดยแบบเรือเร็ว Speedboat หรือจะบินกับเครื่องบินน้ำ (Seaplane) ชมวิวสวยๆ ด้านล่างก็ได้เหมือนกัน โดยมากหลายโรงแรมจะมีรวมบริการในส่วนนี้อยู่แล้ว

กิจกรรมที่ทำที่มัลดีฟส์ สำหรับผมนอนก่อนเลย แล้วตื่นมาว่ายน้ำ ดำน้ำหน้าที่พัก โดยมากตั้งอยู่กลางทะเลของใครของมัน แล้วก็กิน แล้วก็กลับมาว่ายน้ำ แล้วก็นอน อาจจะมีหลบไปนวดสปาบ้างเป็นการพักผ่อนตามฉบับผม แต่สำหรับคนที่รักกิจกรรม ไม่ต้องกังวลไปที่นี่มีบริการกิจกรรม แบบหนึ่งวันให้เลือกสารพัดไม่ว่าจะเป็น กีฬาในร่ม เช่นการออกกำลังกายในร่ม เล่นโยคะ หรือจะเป็นกิจกรรมทางน้ำอย่าง แคนู วินด์เซิร์ฟ ดำน้ำลึก ดำน้ำตื่น มีทัวร์ดำน้ำทั้งแบบครึ่งวัน เต็มวันให้เลือก ราคาก็ตั้งแต่ 80-100 ดอลลาร์ (หรือประมาณ 2,000-3,000 บาท) ซึ่งราคาแล้วแต่จุดที่ไป แล้วแต่กิจกรรม ขึ้นกับปัจจัยหลายอย่าง รวมไปถึงอุปกรณ์ด้วย

อย่างถ้าจะไปดูปะการังต้องไปที่ North Atoll เพราะว่ามีความสมบูรณ์กว่ามาก แต่ก็ต้องเดินทางไกลกว่า และราคาจะสูงกว่า South Atoll เป็นต้น จริงๆ มัลดีฟส์มาได้ทุกฤดูกาลสวยสุดก็ต้องยกให้เดือน มีนา – เมษา เพราะว่าเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านลมมรสุม น้ำจะใสมาก เวลาห่างจากประเทศไทยแค่ 2ชั่วโมง ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ มาก็ 4 ชั่วโมง ที่สำคัญเดินทางเข้ามัลดีฟส์ ไม่ต้องขอวีซ่า สามารถอยู่ได้ยาวๆ 30 วันกันเลย

โบรา โบร่า (Bora Bora) ราชินีแห่งหมู่เกาะทะเลใต้

ช่วงสามสี่ปีหลังที่ผ่านมา ผมได้ยินชื่อของโบรา โบร่า หรือบอราบอรา ค่อนข้างบ่อย ตอนแรกยังนึกภาพไม่ออกว่าอยู่ตรงไหนของโลก ยิ่งบอกว่าโบรา โบร่า เป็นเกาะ ตั้งอยู่ในหมู่เกาะโซไซเอตี ประเทศเฟรนช์โปลินีเซีย(French Polynesia) เป็นดินแดนโพ้นทะเลของฝรั่งเศส (Territoire d’outre-mer : TOM) เป็นหน่วยการบริหารของประเทศฝรั่งเศส ยิ่งงง
ไปใหญ่ อยู่ยุโรปเหรอ ไม่ครับ ไม่เลย โบรา โบร่า นั้นมีฐานะเป็น “เขตรัฐบาลกลางโพ้นทะเล” การจะหาประเทศเฟรนช์โปลินีเซียให้มองหาทวีปออสเตรเลียก่อน แล้วก็มองลงไปที่มหาสมุทรแปซิฟิกใต้ (South Pacific Ocean) ก็จะเห็นประเทศเฟรนช์โปลินีเซีย ซึ่งเป็นที่ตั้งของเกาะโบราโบร่านั่นเอง หากมองหาไม่เห็นให้มองหาฟิจิ (Fiji) ก่อน เนื่องจากเกาะโบราโบร่า อยู่ในเขตการปกครองฝรั่งเศส ดังนั้นหากจะเดินทางไปต้องไปขอวีซ่าที่สถานทูตฝรั่งเศสก่อน

ส่วนการเดินทางไปจากเมืองไทย ต้องไปต่อเครื่องที่นิวซีแลนด์ก่อนจะเลือกไปต่อที่
ไครสต์เชิร์ช หรือโอ๊กแลนด์ ก็ได้ จากนั้นค่อยต่อไปยังสนามบินปาเปเอเต (Papeete)
สนามบินหลักของเกาะตาฮิติ (Tahiti) ซึ่งเป็นเกาะใหญ่ที่สุดของประเทศ จากสนามบินโดย
มากก็จะมีรถของที่พักของคุณมารอรับ

กิจกรรมหลักคล้ายกับเวลาเราไปมัลดีฟส์ กิน นอน สปา ดำน้ำ เป็นต้น เนื่องจากโบรา
โบร่า เดิมเคยเป็นหมู่เกาะภูเขาไฟทำให้มีความอุดมสมบูรณ์มาก ท่านจะได้สัมผัสฝูง
ปลามากมาย และปลาหายาก ฉลามหลายสายพันธุ์ สำหรับจุดดำน้ำ เช่น เกาะปะการังรังกิรัว (Rangiroa) เกาะปะการังที่ใหญ่เป็นอันดับที่สองของโลก และเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในโลกสำหรับการดำนํ้า

ที่นี่ยังมีกิจกรรมอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น การไปชมปืนใหญ่โบราณที่หลงเหลืออยู่ตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ที่นี่มีโรงกลั่นไวน์ชื่อดังของประเทศโปลินีเซีย ด้วย ชื่อ เดอ ลา เคฟ
เดอ รังกิรัว (De La Cave De Rangiroa) ไร่ไวน์ที่ปลูกบนดินสีขาวเนียนเหมือนชอล์กป่น
ดินลักษณะพิเศษที่เกิดจากการย่อยสลายของซากปะการัง ทำให้ไวน์ที่นี่มีกลิ่นอายของ
ความเป็นทะเลอยู่ด้วย ช่วงเวลาท่องเที่ยวที่ดีที่สุด คือ เดือนพฤษภาคมถึงตุลาคม เป็นช่วง
ที่อากาศกำลังแจ่มใส โอกาสเจอฝนน้อย

ฟิจิ (Fiji)

สาธารณรัฐฟิจิหรือฟิจิ เป็นประเทศที่ตั้งอยู่บนมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้แบบเดียวกับเกาะโบราโบร่า แต่เดินทางสะดวกกว่า สามารถไปต่อเครื่องของสายการบินฟิจิที่สนามบินฮ่องกง จากฮ่องกงใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมงเพื่อไปยัง Nadi International Airport ณ เมือง
Nadi เมืองชายทะเลที่เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของฟิจิได้เลย และที่สำคัญที่นี่เป็นหนึ่งในประเทศที่คนไทยเดินทางไปได้ โดยไม่ต้องขอวีซ่าในการเดินทาง แถมอยู่ได้นานถึง 4 เดือนกันเลยทีเดียว จากท่าเรือ Port Denarau Marin ท่าเรือที่วุ่นวายที่สุดในฟิจิ จากที่นี่สามารถเชื่อมต่อไปยังหมู่เกาะต่างๆ ได้

แม้ฟิจิประกอบด้วยหมู่เกาะหินภูเขาไฟมากเป็นร้อยๆ เกาะ มีเกาะหลักๆ เช่น เกาะ Denarau เกาะ Vanua Levu เกาะ Taveuni เป็นต้น เนื่องจากที่ฟิจิแทบไม่มีโรงงานอุตสาหกรรม ธรรมชาติก็อุดมสมบูรณ์ ทำให้นักท่องเที่ยวเลือกที่จะมาพักผ่อนและสัมผัสธรรมชาติที่นี่ นอกจากธรรมชาติที่สวยงามแล้ว น้ำแร่ก็เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ขึ้นชื่อ เชื่อว่า
ทุกคนคงเคยคุ้นชื่อน้ำแร่ฟิจิมาบ้าง

การท่องเที่ยวบนเกาะฟิจิ สามารถใช้บริการแท็กซี่หารกันได้ ส่วนการเดินทางระหว่างเกาะมักจะท่าผ่านทางเรือขนาดเล็กวิ่งตามโรงแรมหรือโฮสเทล กิจกรรมต่างๆ อย่างดำน้ ล่องแก่ง ราคาก็ไม่ถือว่าแพงมากนักอย่างดำน้ำอยู่ที่ 125-200 FJD (1 FJD ประมาณ 14 บาท) จุดดำน้ำที่มีชื่อเสียง ได้แก่ ดวงดาวแนว Beqa Lagoon และแนวปะการังสายรุ้งหรือจะเที่ยวอุทยานมรดกแห่งชาติ Bouma บนเกาะ Taveuni ก็น่าสนใจไม่น้อย ที่นี่สามารถดำน้ำดูปะการัง เดินป่า ชมทะเลสาบตาจีมัวเกีย(Lake Tagimaucia) ที่ตั้งอยู่ตรงบริเวณปล่องภูเขาไฟที่ระดับความสูง 800 เมตร โดยบริเวณทะเลสาบนั้นมีดอกไม้หายาก สวยงาม ชื่อเดียวกับทะเลสาบนั่นเอง เรียกว่า ที่เที่ยวของฟิจิเยอะมาก คุณสามารถอยู่เที่ยวได้จนครบ 4 เดือนของฟรีวีซ่าเลย

ฮาวาย (Hawaii) หมู่เกาะสวรรค์ของนักท่องเที่ยว

ชื่อเสียงของหาดไวกิกิ ของฮาวาย ความสวยงามท่ามกลางมหาสมุทรแปซิฟิกน่าจะเป็นที่รู้จักกันดีสำหรับคนชื่นชอบทะเล หาดไวกิกิตั้งอยู่ที่ เกาะโออาฮู (O’ahu) ซึ่งเป็นที่ตั้งเดียวกับเมืองหลวงคือ โฮโนลูลู และเกาะโออาฮู ไม่ได้ตั้งอยู่บนเกาะหลักที่เรียกว่า เกาะฮาวาย (Hawaii หรือ Big Island) เป็นที่เลื่องลือถึงความสวยงามของแนวชายฝั่งที่มีทรายขาว และท้องทะเลที่เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของคนเล่นเซิร์ฟโต้คลื่นเป็นที่สุด หาดที่นี่สามารถลงเล่นน้ำได้เหมือนกัน เพียงแต่ต้องระมัดระวังหน่อย เนื่องจากหาดไม่ได้ค่อยๆ ลาดลงทะเลแต่เป็นหาดที่ตัดลึก

บางทีบริเวณชายหาดไวกิกิก็ยังมีการแสดงอื่นๆ ให้ได้รับชมกันอยู่เป็นประจำอีกด้วย เช่น การแข่งขันเต้นระบำฮาวายและการโต้คลื่นแบบโชว์ลีลา จากหาดไวกิกิ ใกล้กันโซนช้อปปิ้ง ที่เรียกว่า คาลาคาอัว(Kalakaua Avenue) คุณสามารถซื้อเสื้อผ้าสินค้าได้ตั้งแต่แบรนด์ราคาย่อมเยาไปจนถึงสินค้าแบรนด์เนม เช่น หลุยส์ วิตตอง (Louis Vuitton) ก็สามารถซื้อได้จากที่นี่ มีกิจกรรมสนุกๆ ให้ทำมากมาย เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงามที่สุดในโฮโนลูลูอีกด้วย

สำหรับคนที่อยากจะเห็นวิวมุมสูงของเกาะโออาฮู แนะนำให้ขึ้นไปที่ไดมอนด์ เฮด(Diamond Head) ถือเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของเกาะ สามารถปีนขึ้นไปชมวิวที่สวยงามแบบ 360 องศาบนขอบปากปล่องภูเขาไฟซึ่งมีความสูง 560 ฟุต นอกจากนี้ที่นี่ยังนับเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดแห่งหนึ่งของชาวฮาวายและครั้งหนึ่งบริเวณนี้เคยใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีบูชายัญมนุษย์

หาดบอนได (Bondi Beach) หาดพระจันทร์เสี้ยว

หาดทรายกว้างใหญ่ระยะทางกว่าหนึ่งกิโลเมตร สีขาวสะอาดรูปพระจันทร์เสี้ยวทอดยาวเลียบชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกเป็นหนึ่งในชายหาดชื่อดังที่สุดของออสเตรเลีย และติดอันดับหาดสวยงามแห่งหนึ่งของโลก ไม่เพียงแต่นักท่องเที่ยวเท่านั้นที่เดินทาง
มารับลมและสูดกลิ่นอายทะเลที่นี่

คนออสเตรเลียเองก็นิยมมาพักผ่อนอาบแดดและทำกิจกรรมท่ามกลาง สายลม แสงแดด เสียงคลื่นและกลิ่นอันสดชื่นของทะเล กับทิวทัศน์ของอ่าวซิดนีย์ และท้องทะเลสีครามของมหาสมุทรแปซิฟิกที่นี่เช่นกัน จุดเด่นของหาดบอนได คือ การเล่นเซิร์ฟ เพราะที่นี่คลื่นแรงมาก เรียกได้ว่าเป็นอีกจุดที่เป็นสวรรค์ของคนชอบโต้คลื่นก็ว่าได้สิ่งพลาดไม่ได้ นอกจากกิจกรรมทางน้ำของหาดบอนไดแล้วก็คือ การกินอาหารกลางวัน ลิ้มรสกับเครื่องดื่ม ลองไปที่ บอนไดไอซ์เบิร์ก บาธส์ (Bondi Icebergs Baths) ที่นี่เปิดเป็นสระว่ายน้ำ

สำหรับผู้ใหญ่ เปิดให้บริการตลอดทั้งปี นักท่องเที่ยวสามารถดื่มด่ำบรรยากาศริมทะเลไปพร้อมๆ กับรับประทานอาหารกลางวัน และยังมีบาร์ด้านล่างที่ให้บริการเครื่องดื่ม แม้จะเสียค่าบริการค่าเข้าแต่ค้มุ ค่าอยู่ แต่ถ้าไม่อยากกินในร้านอาหาร บริเวณถนนหน้าหาดอย่าง ร้านอาหาร ร้านค้าแฟชั่นหลากหลาย รวมทั้งมีภาพ street art ศิลปะบนกำแพงที่เป็นสัญลักษณ์ของที่นี่

เซเชลส์ (Seychelles) ท้องทะเลและเต่ายักษ์

ประเทศเซเชลส์ หรือชื่ออย่างเป็นทางการคือ สาธารณรัฐเซเชลส์ (Republic of Seychelles) เป็นหมู่เกาะมีภูมิทัศน์ทางทะเลที่สวยงาม อยู่ในมหาสมุทรอินเดีย มหาสมุทรเดียวกับมัลดีฟส์แต่เซเชลส์ค่อนไปทางทวีปแอฟริกาใต้มากกว่า เป็นที่รู้จักมากขึ้นเนื่องจากเป็นที่ฮันนีมูนของเจ้าชายวิลเลียมและเจ้าหญิงเคทเป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยวที่ชอบการท่องเที่ยวทางน้ำ กีฬาและกิจกรรมต่างๆ ในทะเล

โดยเฉพาะการดำน้ำ ประกอบไปด้วยเกาะ115 เกาะ และมีเกาะที่ได้รับความนิยมเช่น เกาะเบิร์ด (Bird Island)เกาะมาเฮ (Mahe) เกาะพราสลิน (Praslin) และเกาะลาดีก (LaDique) ซึ่งชายหาดบนเกาะนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นชายหาดที่สวยที่สุดในโลกอีกแห่ง นอกจากนี้บนเกาะก็ยังมีสถานที่พักผ่อนหย่อนใจในบรรยากาศแบบส่วนตัว ด้วยผืนทรายขาวละเอียดราวแป้งฝุ่น น้ำทะเลใสปิ๊งราวกระจก ซึ่งเหมาะกับการมาท่องเที่ยวฮันนีมูนสำหรับคู่รัก


นอกจากนั้นเวลาพูดถึงเซเชลส์หลายคนจะนึกถึงเต่าบก ซึ่งโด่งดังมากไม่ใช่เป็นเต่าเลี้ยงด้วย เต่าที่นี่เป็นเต่าธรรมชาติที่อาศัยอยู่บนเกาะมานาน บางตัวมีอายุมากกว่า 100 ปีเลยทีเดียว ที่เกาะลาดีกมีเต่าอยู่กระจายตัวทั่วเกาะ ซึ่งการเดินทางไปมาบนเกาะลาดีกที่มีขนาด
ค่อนข้างเล็กมีความยาวประมาณ 5 กิโลเมตร การเช่าจักรยานสะดวกที่สุด ราคาเช่าต่อวันอยู่ที่ประมาณ 100 SCR (ประมาณ 140 บาท) เราสามารถปั่นไปเที่ยวหาดฝั่งตะวันออกที่มีชื่อเสียงระดับโลกอย่างหาดGrand Anse. หากต้องการไปที่ชายหาดนี้คุณต้องเข้าอุทยานแห่งชาติมีเสียค่าเข้าเล็กน้อย ชายหาดค่อนข้างเงียบ และฝั่งตะวันตกซึ่งมีวิวทิวทัศน์ ที่เป็นหาดแบบมีโขดหินทรายขนาดใหญ่หลากหลายรูปแบบเหมือนรูปแบบโปสต์การ์ดได้ บอกเลยว่าสวยไม่แพ้ในรูปเลย

สำหรับการเดินทางไปมาระหว่างเกาะสามารถใช้บริการเรือเฟอร์รี ได้ ใช้เวลาตั้งแต่ 15 นาที จนถึง 2 ชั่วโมง แต่ถ้านั่งเครื่องบินเล็กก็ประมาณ 15นาที (ขึ้นอยู่ว่าจะไปเกาะไหน) อย่างเช่นจากเกาะพราสลิน ไปยังเกาะลาดีกใช้เวลา 15 นาที แต่ถ้ามาจากเกาะมาเฮ ก็ต้องผ่านพราสลิน ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงเลย

หาดไมอามี (Miami) ฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา

ถ้าพูดถึงเมืองชายทะเลฝั่งอเมริกาแล้วละก็ เชื่อว่าชื่อของหาดไมอามี แห่งฟลอริดาตอนใต้น่าจะวิ่งขึ้นมาอยู่ในใจของใครหลายคนเลยทีเดียว ไมอามีเป็นเมืองตากอากาศสุดฮิตทั้งของชาวอเมริกันและชาวต่างชาติ เป็นชายหาดทรายขาวโค้งเว้าเป็นแนวยาวกว่า 7 ไมล์ (หรือเกือบ 12 กิโลเมตร)

ไมอามีมีท้องฟ้าที่ฟ้าสด และแจ่มใสเกือบตลอดทั้งปีนอกจากชายหาดที่สวยงามแล้วยังมีทางเดินเลียบชายหาดที่เรียกว่าMiami Beach Boardwalk โดยเส้นทางเริ่มจากสวนสาธารณะ Indian Beach บนถนน 46th Street และ Collins Ave ลงไปจนถึงถนน 23rd ทาง
เดินริมหาดจะยาวไปตามถนน Ocean Drive Promenade จนถึง 5th Street ซึ่งจะผ่านสวนสาธารณะ South Pointe ตลอดทางเดินคุณสามารถชมอาคารที่พัก โรงแรม ที่ออกแบบสไตล์อาร์ตเดโค (Art Deco) ที่สวยงามและท่าเรือไมอามีได้ที่นี่

สำหรับชายหาดทางตอนใต้ (South Beach) ขึ้นชื่อว่าเป็นส่วนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของหาดไมอามีในช่วงฤดูร้อนชายหาดนี้เต็มไปด้วยชาวบ้านและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก แต่ในช่วงฤดูหนาวพื้นที่จะกลายเป็นสถานที่พักผ่อนที่เย็นสบายและเป็นสถานที่ยอดเยี่ยม ช่วงกลางวันก็จะมีเก้าอี้ชายหาดและผู้คนออกมานั่งอาบแดดกัน แลนด์มาร์กหนึ่งที่ผู้คนนิยมถ่ายรูปกันคือ Miami South Beach Lifeguard Tower ที่มีหลากหลายรูปทรงและหลากสีสัน ให้โพสท่าถ่ายกันไม่ซ้ำพอช่วงเย็นหลังเก็บเก้าอี้แล้วก็เป็นช่วงเวลาเดินชมหาด และชมrระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า

นอกจากนี้ช่วงกลางคืนแถว Ocean Drive ซึ่งเป็นย่านกลางคืนของที่นี่ ยังมีบาร์และไนต์คลับยุค 50 ให้บริการยามค่ำคืนให้ทุกคนจะมาสนุกสนานไปกับร้านค้าที่เรียงรายยาวไปตลอดเส้น Ocean Drive ถนนเลียบ South Be

ชิงก์ แทร์เร (Cinque Terre) หมู่บ้านผางาม

สำหรับเมืองชายทะเลอีก 1 แห่งที่ผมเลือก ผมขอเลือกชิงก์ แทร์เร(Cinque Terre) หมู่บ้านผางามริมทะเลของจังหวัด ลา สเปเซีย (La Spezia) แคว้นลิกูเรีย (Liguria) ประเทศอิตาลี เป็นเมืองที่อากาศดีตลอดทั้งปี โดยในช่วงฤดูร้อนก็มีอุณหภูมิเฉลี่ยโดยประมาณอยู่ที่ 25 องศา
เซลเซียสอบอุ่นกำลังดี และในช่วงฤดูหนาวอากาศก็ไม่หนาวจัด มีอุณหภูมิโดยเฉลี่ยประมาณ 10 องศาเซลเซียสเท่านั้น

ในภาษาอิตาเลียนคำว่า Cinque แปลว่า ห้า ส่วนคำว่า Terre แปลว่า แผ่นดิน รวมกันแล้ว ชิงก์ แทร์เร แปลว่า 5 แผ่นดินหรือแผ่นดินทั้งห้า ซึ่งสำหรับในที่นี้หมายถึงหมู่บ้านทั้งห้านั่นเอง ประกอบไปด้วย 1. มอนเตรอสโซ อัล มาเร(Monterosso al Mare) เป็นหมู่บ้านที่ใหญ่ และกว้างที่สุด มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก และ มีหาดทรายกว้างและยาวที่สุด 2. เวร์นาซซา (Vernazza)
หมู่บ้านที่คงความเป็นประมงไว้ได้สูงสุด เมืองเล็กๆ ที่แสนจะเงียบสงบ แต่โรแมนติกสมกับฉายาไข่มุกแห่ง Cinque Terre 3. คอร์นีเลีย(Corniglia) ตั้งอย่บู นหน้าผาสูง แม้ไม่มีชายหาด ไม่มีท่าเรือ แต่เป็นเมืองที่มีวิวที่สวยที่สุดหากล่องเรืออยู่กลางทะเลและถ่ายรูปกลับมาที่หมู่บ้าน 4. มานาโรลา (Manarola) เป็นเมืองที่มีหมู่บ้านหนาแน่นและสีสันจัดจ้านที่สุด และ 5. ริโอมัจจอร์เร (Riomaggiore) เป็นหมู่บ้านที่อยู่ทางใต้สุดของหมู่บ้านทั้งห้า ที่นี่นับเป็นหมู่บ้านที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2บรรยากาศจึงคึกคักทีเดียว

โดยหมู่บ้านทั้งห้านั้น เป็นชุมชนที่มีบ้านเรือนไล่เรียงไปตามหน้าผาหรือชายเขาที่ติดทะเล แต่ละหมู่บ้านจะมีทางเดิน และทางรถไฟที่เชื่อมหากันเดินทางสะดวก มีเส้นทางเดินชมธรรมชาติให้เลือกมากมาย ที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นเมืองมรดกโลกจากยูเนสโก (United Nations Educational, Scientificand Cultural Organization – UNESCO) ในปี 1997 ให้เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ หมู่บ้านทั้ง 5เราจะเห็นว่าไม่มีสิ่งปลูกสร้างสูงๆ และที่นี่ยังได้รับการคุ้มครองให้เป็นเขตอุทยานแห่งชาติอีกด้วย

นี่เป็นเพียง 10 เมืองที่ผมนึกถึงหากต้องการวิตามินที่เรียกว่า Sea หรือท้องทะเล ซึ่งบนโลกที่สวยงามใบนี้ยังมีเมืองชายทะเลอีกมากมาย ไว้ครั้งต่อไปผมจะยกมาพูดคุยอีกครั้ง พักร้อนครั้งนี้ เลือกชายหาดและเมืองที่ใกล้กับคุณแล้วพักผ่อน ก่อนกลับมาพร้อมสู้กับสถานการณ์ในปัจจุบันกัน

Share This Post:Share on Facebook0Share on Google+0Tweet about this on TwitterShare on LinkedIn0