Romantic Onsen in Japan

ญี่ปุ่นในช่วงเดือนมกราคม กุมภาพันธ์เป็นช่วงฤดูหนาว หนึ่งในกิจกรรมที่นิยมทำกันคือ การแช่ออนเซ็น(onsen) หรือการแช่น้ำพุร้อน ซึ่งเกิดจากค􀄢ำว่าออน (On) ที่แปลว่า ร้อน กับค􀄢ำว่าเซ็น (Sen) ที่แปลว่า“น้ำพุ” นั่นเอง หลายคนที่เดินทางไปญี่ปุ่นช่วงนี้ ก็อยากมีประสบการณ์ไปแช่ออนเซ็นสักครั้งซึ่งทั่วทั้งประเทศญี่ปุ่นมีออนเซ็นหรือน้ำพุร้อนมากกว่า 3,000 แห่งด้วยกัน ครั้งนี้ขอยกตัวอย่างสัก 5-6 แห่งที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมมาแนะนำกัน

กินซันออนเซ็น (Ginzan Onsen) เมืองโอบานาซาวะ จังหวัดยามากาตะ

จากสถานีโตเกียวเรานั่งรถไฟ Yamagata Shinkansen ใช้เวลาประมาณ 3.5 ชั่วโมง ไปยังสถานี Oishida จากนั้นนั่งรถบัสไปยังป้าย Ginzan Onsen ประมาณ 40 นาที กินซันออนเซ็นอยู่ในพื้นที่เมืองโอบานาซาวะ (Obanazawa) จังหวัดยามากาตะ(Yamagata) แนะนำให้เดินทางมาท่องเที่ยวที่จังหวัดยามากาตะแล้วแวะมาเที่ยวที่นี่ จะสะดวกกว่า

เดิมที่นี่เป็นพื้นที่เหมืองเงินขนาดใหญ่อันเจริญรุ่งเรืองในสมัยก่อน กินซันมาจากคำว่า “โนเบซาวะกินซัน” ต่อมาได้ปรับปรุงและพัฒนาใหม่จนสวยงาม ออนเซ็นที่นี่มีกำมะถันใสไม่มีสี มีสรรพคุณช่วยรักษาบาดแผลโดนบาด,บาดแผลไฟไหม้, โรคผิวหนังเรื้อรัง, โรคเรื้อรังยอดฮิตของผู้หญิงและโรคหลอดเลือดแข็ง ภายในกินซันออนเซ็นมีโรงอาบน้ำสาธารณะให้บริการเช่นกัน ยิ่งถ้าได้มาในช่วงฤดูหนาวที่หิมะขาวปกคลุมทั่วทั้งเมือง แล้วมีภาพแสงไฟจากโคมที่หน้าอาคารไม้แบบโบราณความสวยงามคุ้มค่าของที่นี่จะทำให้คุณหายเหนื่อยทีเดียว

อาริมะออนเซ็น (Arima Onsen) เมืองโกเบ จังหวัดเฮียวโงะ

อาริมะออนเซ็นเป็น 1 ใน 3 หมู่บ้าน ออนเซ็นที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นตั้งอยู่บนภูเขาร็อกโค (Rokkosan) ของเมืองโกเบ(Kobe) ในจังหวัดเฮียวโงะ (Hyogo) เป็นออนเซ็นที่สามารถ
เข้าถึงได้จากเมืองท่องเที่ยวอย่างโอซาก้าและเกียวโต ใช้เวลาประมาณเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้นก็สามารถเดินทางถึงสถานีอาริมะออนเซ็น (Arimaonsen Station) ได้อย่างง่ายดายจุดเด่นที่ทำให้ออนเซ็นแห่งนี้ต่างจากที่อื่นคือมีบ่อน้ำร้อนให้เลือกแช่ถึง 3 แบบด้วยกันซึ่งมีคุณสมบัติแตกต่างกันไป

ได้แก่Kinsen บ่อน้ำพุร้อนสีทอง ที่มีแร่ธาตุเหล็กและเกลือผสมอยู่
โดยคุณสมบัติพิเศษของแร่ธาตุสองชนิดนี้มีสรรพคุณช่วยรักษาอาการเจ็บป่วยหลายอย่างทั้งกล้ามเนื้อ ข้อต่อ และ Ginsen หรือบ่อน้ำพุร้อนสีเงิน อีก 2 แบบ ประเภทแรกจะมีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ผสมอยู่มาก และถูกเรียกอีกชื่อว่าน้ำแร่โซดา มีสรรพคุณช่วยบรรเทาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ เช่น เพิ่มการไหลเวียนโลหิต เป็นต้นประเภทที่สองคือบ่อน้ำพุร้อนสีเงินที่มีเรเดียมอ่อนๆ ผสมอยู่ช่วยในการกระตุ้นเซลล์ เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้ร่างกายด้วยความเรียบง่ายห้อมล้อมด้วยธรรมชาติที่สวยงาม เดินทางสะดวก จึงไม่แปลกใจที่จะดึงดูดทั้งคนญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาที่นี่เป็นอย่างมาก

เกโระออนเซ็น (Gero Onsen) เมืองเกโระ จังหวัดกิฟุ

สามารถเดินทางไปได้ง่ายจากนาโกย่า และถ้าหากขึ้นรถไฟด่วนก็สามารถไปถึงสถานีเกโระได้ภายในเวลา 1 ชั่วโมง 40 นาทีเท่านั้นก็ถึงที่เกโระออนเซ็นโดยไม่ต้องเปลี่ยนรถไฟแต่อย่างใด เมืองออนเซ็นที่ถือว่าดีที่สุดอีกแห่งของญี่ปุ่น เนื่องจากน้ำพุร้อนคุณภาพสูง มีอาชิยุ (บ่อแช่เท้าออนเซ็น) บ่อแช่ออนเซ็นสาธารณะ และเรียวกังออนเซ็นฟรีมากมายในเมือง

ดังนั้นที่นี่จึงเหมาะเป็นอย่างยิ่งกับนักท่องเที่ยวที่ตั้งใจจะไปเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับ โดยน้ำพุร้อนของที่นี่จะโดดเด่นเรื่องความนุ่มเบาสบายที่สัมผัสได้จากตัวน้ำ ที่น่ารักคือ ทั่วทั้งเมืองจะมีรูปกบ หรือภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า เกโระ น่ารักๆ เต็มไปหมด

คิโนซากิ ออนเซ็น (Kinosaki Onsen) เมืองโทโยกะ จังหวัดเฮียวโงะ

คิโนซากิ ออนเซ็น เป็นอีกหนึ่งในเมืองออนเซ็นที่มีชื่อเสียงและสวยงามของญี่ปุ่นใช้เวลา 2 ชั่วโมงครึ่งโดยรถไฟด่วนพิเศษจากเกียวโต หรือ 3 ชั่วโมงโดยรถไฟจากโอซาก้า แม้จะไม่ได้พักโรงแรมที่นี่ แต่ก็มีโรงอาบน้ำสาธารณะให้บริการอยู่ถึง 7 แห่งด้วยกัน ได้แก่ โคโนะยุ (Kouno-yu), มังดาระยุ (Mandara-yu),โกะโชโนะยุ (Goshono-yu), อิจิโนะยุ (Ichino-yu), ยานากิยุ (Yanagi-yu),จิโซยุ (Jizou-yu) และซาโตะโนะยุ (Satono-yu) ซึ่งแต่ละแห่งสามารถเดินถึงกันได้ โดยโรงอาบน้ำแต่ละแห่งมีเสน่ห์ในตัวเอง


สัญลักษณ์ของเมืองคือแม่น้ำโอตากาว่า (Otagawa) ซึ่งไหลผ่านใจกลางเมืองที่ขนาบข้างด้วยต้นหลิวสีเขียว ดอกซากุระ และเรียวกังออนเซ็น คิโนซากิยังเป็นหนึ่งในเมืองออนเซ็นที่ดีที่สุดสำหรับการเดินเล่นไปในเมืองด้วยชุดยูกาตะสีสันสดใสได้โดยไม่ต้องรู้สึกแปลก

นิวโตะ ออนเซ็น (Nyuto Onsen) เมืองเซมโบกุ จังหวัดอาคิตะ

หม่บู ้านออนเซ็นได้รับการโหวตให้เป็นออนเซ็นอันดับหนึ่งในญี่ป่นุ ประจำปีค.ศ. 2020 เป็นหมู่บ้านออนเซ็นที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาของเมืองเซมโบกุ(Semboku) จังหวัดอาคิตะ (Akita) เนื่องจากพื้นที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติโทวาดะ ฮาจิมันไต (Towada Hachimantai) ที่ได้รับการอนุรักษ์เป็นอย่างดีท􀄞ำให้หมู่บ้านแห่งนี้มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติเป็นอย่างมากหมู่บ้านออนเซ็นนี้ประกอบด้วยออนเซ็น จำนวน 7 แห่ง ได้แก่ ซึรุโนยุออนเซ็น (Tsurunoyu Onsen) คุโรยุออนเซ็น (Kuroyu Onsen) ทาเอโนยุออนเซ็น (Taenoyu Onsen) กานิบะออนเซ็น (Ganiba Onsen) มาโกโรคุออนเซ็น (Magoroku Onsen) โอกามะออนเซ็น (Ogama Onsen) และคิวกามุระ (Kyukamura)

ความพิเศษของออนเซ็นที่นี่อยู่ที่สีของน้ำที่เป็นสีขาวขุ่นคล้ายน้ำนมบริสุทธิ์ ที่มีส่วนประกอบของกำมะถันผสมแคลเซียมและแมกนีเซียมที่ช่วยรักษาโรคผิวหนังเช่น เป็นแผลฟกช้ำ, แผลถูกของมีคมบาด หรือผิวหนังเป็นผื่นแดง และช่วยให้ระบบย่อยอาหารดีขึ้น สำหรับคนที่กระเพาะอาหารและลำไส้อ่อนแอ หากเราพักที่พักของโรงแรม โดยมากจะมีบริการรับส่งถึงสถานีรถไฟที่ใกล้เคียง แต่ถ้าเดินทางด้วยตัวเอง สามารถนั่งแท็กซี่จากสถานีทาซาวาโกะ(Tazawako Station) ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีก็ถึงหมู่บ้านได้

Share This Post:Share on Facebook0Share on Google+0Tweet about this on TwitterShare on LinkedIn0