FANTASTIC DAEGU – แทกู (แดกู) ที่น่าอัศจรรย์ ตอน 1

เมืองแดกูหรือแทกู (Daegu) เป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศที่อยู่ทางตอนใต้ของเกาหลี เราสามารถนั่งเครื่องบิน บินตรงจากท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ประเทศไทย มุ่งตรงสู่ท่าอากาศยานนานาชาติแทกูได้ด้วยสายการบิน T’Way (ทีเวย์)

ซึ่งใช้เวลาเพียง 5 ชั่วโมง สำหรับเที่ยวบินขาไป ออกจากกรุงเทพฯ 02.25 น. ถึงแทกู 09.20 น. และเที่ยวขากลับเวลา 21.10 – 01.10 น. (+1) ใช้เวลาบิน 6 ชั่วโมง เปิดให้บริการทุกวันถือได้ว่าเป็นช่วงเวลาบินที่ดีทีเดียว มาถึงปุ๊บก็สามารถสัมผัสอากาศดีๆ กับบรรยากาศที่ล้อมรอบด้วยภูเขาและธรรมชาติของแทกูได้ทันที ส่วนแทกูจะมีที่เที่ยวอะไรบ้างนั้นไปสัมผัสความมหัศจรรย์ของแทกูกันได้เลย

ท่องเที่ยวในตัวเมือง (City Tour)

ถนนสายนักดนตรีคิม กวัง ซอก (Kim Gwangseok-gil Street หรือ Kim Kwang Seok Street)

คิม กวัง ซอก (Kim Kwang-seok) เป็นชื่อของนักดนตรีแนวโฟล์กร็อกที่โด่งดังมากของเกาหลีใต้ในยุค 1980-1990 บทเพลงของเขามีบทบาทสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการเมืองและศาสนา เพราะเนื้อเพลงที่ถ่ายทอดอารมณ์เกี่ยวกับความโศกเศร้าและยากลำบากของประชาชน การเปลี่ยนแปลงของสังคม

ต่อมาในปี 1996 ซึ่งเขาก็ได้เสียชีวิตลงอย่างเป็นปริศนา ขณะที่มีอายุเพียง 32 ปีและกำลังโด่งดังสุดๆ ที่บ้านพักที่กรุงโซล ทางเมืองแทกูซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขาจึงสร้างถนนสายนี้อุทิศให้ เพื่อเป็นที่ระลึกตลอดถนนที่มีความยาวกว่า 350 เมตร

ฝั่งหนึ่งเป็นภาพวาดบนผนังกำแพงที่บอกเล่าเรื่องราวและผลงานของ คิม กวัง ซอก อีกฝั่งจะเป็นร้านขายอาหาร ร้านกาแฟและร้านขายสินค้าของที่ระลึก

และที่พิเศษคือตลอดแนวถนนคุณจะได้ยินบทเพลงของเขาที่เปิดคลอไปตลอดเส้นทาง

ถนนดงซองโร (Dongseong-ro Street)

หากมยองดง คือถนนสายช้อปปิ้งของโซลแล้วไซร้ ถนนดงซองโร เรียกได้ว่าเป็นถนนสายช้อปปิ้งของแทกูด้วยเช่นกัน แต่พิเศษกว่าตรงที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่กว่ามยองดงมากถึง 3 เท่า

อัดแน่นไปด้วยร้านค้ามากมาย ทั้งร้านขายเครื่องสำอาง เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า แว่นตา เครื่องประดับ สินค้าแฟชั่น รวมไปถึงร้านอาหาร โรงภาพยนตร์ที่แทรกตัวอยู่

นอกจากนี้ยังมีห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ อย่างเช่น LOTTE Young Plaza ก็มี ที่สำคัญราคาสินค้าของที่นี่ไม่แพง แถมสินค้าบางอย่างสามารถหาได้ง่ายกว่าที่โซลอีกด้วย
การเดินทาง นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินลงที่สถานี Jungangno ทางออก 1 จะเป็นถนนสายอาหารแต่ถ้าทางออก 2 ตลอดแนวถนนจะเป็นร้านค้าช้อปปิ้ง

E–World & 83 TOWER

สวนสนุกแห่งนี้ มีความใหญ่เป็นอันดับ 3 ของเกาหลีใต้

มีเครื่องเล่นมากมาย ที่เหมาะสำหรับเด็กเรื่อยไปจนถึงวัยรุ่นที่เน้นความท้าทาย

ทั้งส่วนของพลาซ่าสำหรับเด็ก (Children’s Plaza), พลาซ่าสำหรับวัยทีน (Young Town Plaza), เซ็นทรัลพลาซ่า (Central Plaza) ฯลฯ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองภายในสวนสนุกแบ่งโซนเครื่องเล่นเป็นธีมแตกต่างกันออกไป

นอกจากสวนสนุกแล้วยังมีลานสเกตในร่ม ส่วนภายนอกก็มีการจัดสวน แสดงแสงไฟและดอกไม้ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ อีกด้วยด้านในของสวนสนุกจะมีหอคอยชมวิวเมืองแทกูชื่อว่า 83 Tower สูงถึง 220 เมตร

ซึ่งเราสามารถขึ้นไปชมวิวมุมสูงของเมืองแทกูได้ แต่มีค่าใช้จ่ายเพียงเล็กน้อย คุณก็ไปจิบเครื่องดื่มชมวิวเมืองแบบ 360 องศาได้อย่างสบายๆ

สำหรับใครที่เป็นแฟนวาไรตี้เกาหลี อย่างเช่น Running Man อาจจะคุ้นภาพของที่นี่บ้าง เพราะเคยใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำรายการ รวมไปถึงละครเกาหลีหลายเรื่องก็เลือกที่นี่เป็นสถานที่ถ่ายทำเช่นกัน

การเดินทาง รถไฟใต้ดินสายสีเขียว ลงที่สถานี duryu ออกประตู 12 หรือ 15 แล้วเดินต่ออีก 5 นาที

ตลาดซอมุน (Seomun Market)

ตลาดซอมุน ตลาดขนาดใหญ่ที่สุดของเมือง สวรรค์ของนักกินและนักช้อปอาหารสไตล์ Street food เปิดในช่วงกลางคืนตั้งแต่เวลาประมาณ 1 ทุ่มถึงเที่ยงคืน

ส่วนในช่วงกลางวันร้านค้าที่ตั้งประจำซึ่งมีสินค้าประเภทข้าวของเครื่องใช้ เสื้อผ้า เครื่องประดับราคาย่อมเยา อารมณ์คล้ายประตูน้ำบ้านเราของขึ้นชื่อของตลาดแห่งนี้คือ ลูกพลับแห้งและชุดฮันบกที่แบบสวยงามและการตัดเย็บที่ประณีตมาก บางร้านราคาถูกจนน่าตกใจเมื่อเทียบกับคุณภาพที่ได้รับ

พอช่วงเย็นถึงค่ำก็จะมีร้านแผงลอยออกมาตั้งวางขายกัน ไม่ว่าจะเป็นสินค้าแฮนด์เมด น่ารักน่าซื้อหรือของกินสไตล์เกาหลี ที่ปรุงสำเร็จพร้อมกินผัก ผลไม้ เครื่องดื่ม มีคนบอกว่า มีเงินแค่ 1,000 วอนก็สามารถอิ่มได้ที่นี่ แต่ด้วยข้าวของเยอะขนาดนี้เราว่า มี 10,000 วอนก็หมดเชื่อสิ
การเดินทาง สถานีรถไฟฟ้า Seomun Market

มหาวิทยาลัยคเย มยอง (Keimyung University Daegu Campus)

ภาพของอาคารสถาปัตยกรรมสไตล์โบสถ์คริสเตียน ที่มีความคล้ายคลึงกับโครงสร้างของอาคารในแถบยุโรป คือ ภาพคุ้นตาของมหาวิทยาลัยแห่งนี้

ยิ่งถ้าใครเป็นติ่งซีรีส์เกาหลี หรือแฟนคลับนักร้องเกาหลีแล้วละก็จะยิ่งคุ้นเคยเป็นอย่างดี เพราะมหาวิทยาลัยแห่งนี้ถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำหลายต่อหลายเรื่องยกตัวอย่างเช่น Love Rain, F4 เวอร์ชันเกาหลี, Extraordinary You เป็นต้น

ด้วยเพราะความสวยงามของอาคารสถานที่และบรรยากาศร่มรื่นของต้นไม้น้อยใหญ่โดยรอบของมหาวิทยาลัยนั่นเอง

ไม่ว่าคุณจะมาฤดูกาลไหนที่มหาวิทยาลัยก็มีวิวถ่ายรูปให้ช่างภาพได้ลั่นชัตเตอร์อยู่ตลอดเวลา สำหรับใครที่สนใจมาเรียนภาษาที่นี่ทางมหาวิทยาลัยก็มีเปิดสถาบันสอนภาษาเกาหลี (Keimyung University KoreanLanguage Institute) ให้กับชาวต่างชาติด้วยเช่นกัน

การเดินทาง นั่งรถไฟฟ้าสายสีเขียวมาลงที่สถานี Myeongdeog-Yeog

คริสตจักรคาทอลิก Gyesan-dong Cathedral หรือ Our Lady of Lourdes Cathedral)

คริสตจักรคาทอลิกแห่งนี้ เดิมทีเป็นบ้านของชาวเกาหลีที่ถูกสร้างในรูปแบบตะวันตก อาคารถูกสร้างขึ้นด้วยไม้เป็นครั้งแรกในเกาหลี

ต่อมาในปี 1899 เกิดเพลิงไหม้ขึ้นจึงเปลี่ยนเป็นสังกะสีอิฐสีแดงดำ หินแกรนิต ใช้เวลาสร้างเพียง 3 ปีแล้วเสร็จในปี 1902 ภายในตกแต่งด้วยกระจกสีที่ปล่อยให้แสงส่องสว่างที่ลอดเข้าภายในอาคาร

ที่นี่ถือเป็น 1 ใน 3 คริสตจักรที่สำคัญของเกาหลี อีก 2 แห่งคือ คริสตจักรมยองดง (Myeong-dong Cathedral) ที่กรุงโซล และคริสตจักรคาทอลิกช็อนดง (Jeondong Catholic Cathedral) เมืองช็อนจู (Jeonju)
การเดินทาง นั่งรถไฟฟ้าสายสีแดงมาลงที่สถานี Jungangno แล้วเดินไปอีกประมาณ 10 นาที

ชื่นชมธรรมชาติ

ยอดเขาอัพซัน (Mt.Apsan Observatory)

ตัวเลือกหนึ่งที่จะทำให้เราได้เห็นเมืองได้อย่างชัดเจนที่สุด คือการได้มองลงมาจากวิวมุมสูง ที่เมืองแทกูเอง มีจุดชมวิวหลายจุดหนึ่งจุดที่หลายคนนิยมกันก็คือ

ยอดเขาอัพซัน (Mt.Apsan Observatory) บนความสูงกว่า 660 เมตร ที่คุณสามารถชมวิวความสวยงามของเมืองได้อย่างเต็มตาแบบพานอราม่า และไม่ต้องกังวลว่าต้องเดินขึ้นไปให้เหนื่อย เพราะที่นี่มีบริการกระเช้าลอยฟ้าสนนราคาไปกลับเพียง 9,500 วอนเท่านั้น 15 นาทีก็ถึงยอดเขา

ระหว่างทางคุณจะได้เห็นความงดงามของต้นไม้หลากสายพันธุ์ ที่นี่เป็นแหล่งเรียนรู้ทางพฤกษศาสตร์อีกแห่งที่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ตรงบริเวณจุดชมวิวของยอดเขา

หากมาช่วงเวลาเย็นคุณจะได้เห็นแสงไฟที่ค่อยๆ สว่างจากบ้านเรือนส่องระยิบระยับราวกับดวงดาวเลย

บริเวณด้านล่างของยอดเขาเป็นถนนที่สองข้างทางเรียงรายไปด้วยร้านกาแฟ และเบเกอรี่น่ารักๆ เต็มไปหมด บริเวณนี้เรียกกันว่าถนนสายกาแฟแห่งอัพซัน (Apsan cafe street)

มีร้านกาแฟหลายร้านที่น่ารักและน่านั่ง

อีกทั้งผู้คนก็ไม่พลุกพล่านเกินไป เราสามารถเลือกนั่งแนวที่ชอบได้แบบไม่ต้องแย่งใคร ไม่ว่าจะเป็นแบบทันสมัยวินเทจหรือเก๋ไก๋

แล้วดื่มด่ำกับบรรยากาศรอบข้างได้อย่างเต็มที่

การเดินทาง นั่งรถเมล์สาย 300, 410,410-1, 750, 600 ลงป้าย Apsan Park Management Office แล้วเดินต่ออีก 15 นาทีไปถึงจุดขึ้นกระเช้า Apsan Cable Car

ทะเลสาบซูซอง (Suseong Lake)

เป็นทะเลสาบที่ล้อมรอบด้วยสวนสาธารณะขนาดใหญ่ ตัวทะเลสาบทอดยาวคู่ขนานไปกับถนนกลางเมืองที่นี่เรียกได้ว่าเป็นโอเอซิสของเมืองก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นเช้า สาย บ่าย เย็น

คุณจะเห็นคนที่นี่ออกมาทำกิจกรรมต่างๆ ริมทะเลสาบไม่ว่าจะเป็นการวิ่งจ๊อกกิ้ง ออกกำลัง ปิกนิก ของบรรดาครอบครัวต่างๆ

หนุ่มสาวหลายคู่เลือกนั่งเรือเป็ดออกไปลอยลำกินลมชมวิวกลางแม่น้ำ ยิ่งตอนเย็นแสงอาทิตย์ที่กระทบกับผิวน้ำเกิดเป็นประกายสวยงามเป็นอย่างมาก
การเดินทาง จากสถานีแทกู (Daegu Station) นั่งรถเมล์สาย 401 มาประมาณ 15 นาทีลงที่ป้าย Suseongmot

สวนซงแฮ (Songhae Park)

สวนซงแฮ เป็นสวนสาธารณะที่จะมีการจัดต้นไม้ดอกไม้หมุนเวียนเปลี่ยนไปทุกฤดูกาล สร้างคล้ายเขื่อนที่ล้อมรอบด้วยภูเขา โดยมีสะพานไม้ล้อมรอบเพื่อให้ผู้ที่มาเที่ยวชมสามารถมาเดินเล่นพักผ่อนชมวิวได้ ตรงกลางสระขนาดใหญ่มีการสร้างศาลากลางน้ำ และทำสะพานไม้เชื่อมไปยังศาลาหลายจุดในสวนตกแต่งให้เป็นมุมถ่ายรูป

ในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่นี่จะโอบล้อมไปด้วยสีเขียว เหลือง ส้ม แดง แต่ถ้าในฤดูหนาวจะเห็นธารน้ำที่แข็งเป็นน้ำแข็ง หากมาในช่วงเย็นถึงพลบค่ำก็จะได้รับชมแสงสีที่น่าตื่นตาตื่นใจการเดินทาง นั่งรถไฟใต้ดินสายสีแดง ลง Hwawon Station ออกทางออก 1 จากนั้นนั่งรถเมล์สาย 600 ไปลงSonghae Park ได้ หรือนั่งแท็กซี่ประมาณ 5,000 วอน

อ่าน FANTASTIC DAEGU ตอน 2 ต่อได้ที่ http://www.vacationistmag.com/fantasticdaegu2/

Share This Post:Share on Facebook0Share on Google+0Tweet about this on TwitterShare on LinkedIn0