Yokohama โยโกฮาม่า- I love museum

Story & Photo by Editorial Staff

“ราเมงสิพี่” “ไปดูเครื่องยนต์ของมิตซูสิ เก๋ดี”
“งานศิลปะเพียบพี่ มีพิพิธภัณฑ์ด้วย”
“บะหมี่ถ้วยสิน้อง ซื้อไว้เผื่อ ไม่มีอะไรกินสิ้นเดือน”
“โรงหมักเบียร์คิรินไง เชื่อพี่ พรายฟองเบียร์สีทองอร่าม เยี่ยม”

Yokohama 08654

นึกในใจ แหม…อันหลังนี้ดูน่าสนใจไม่ใช่น้อย นี่เป็นตัวอย่างคำตอบจากหลากหลายความเห็นของพี่ๆ น้องๆ ในกองฯ หลังจากที่ถามว่าจะแวะไปเที่ยวโยโกฮาม่า (Yokohama) แล้ว ควรไปดูพิพิธภัณฑ์อะไรดี ไม่น่าเชื่อว่าที่เมืองท่าเรือแห่งนี้จะมีพิพิธภัณฑ์มากมายถึงขนาดนี้ งานนี้จัดไปตามทุกความคิดเห็นกันเลย

Yokohama 08757

เช้าวันแรกที่โยโกฮาม่าของฉัน ได้รับการต้อนรับจากภูเขาไฟฟูจิที่เผยตัวออกมาทักทายฉันด้านนอกหน้าต่างของที่พักซึ่งไม่ไกลจากสถานีรถไฟชินโยโกฮาม่ามากนัก ถือได้ว่าเป็นเช้าที่รื่นรมย์เสียนี่กระไร หลังกินอาหารเช้าที่โรงแรมพอให้มีกำลังออกเดินสำรวจเมืองโยโกฮาม่า ฉันก็วิ่งขึ้นรถไฟสาย Minatomirai Line ไปลงที่สถานี Bashamichi จากนั้นเดินพอเหนื่อยก็มายืนอยู่ท่ามกลางเหล่านักเรียน นักศึกษาที่หน้า พิพิธภัณฑ์บะหมี่ถ้วย (Cup Noodle Museum)

Yokohama 08593

สิ่งแรกที่เห็นคือ น้องๆ ถือถุงสูญญากาศ สายสีแดงที่ด้านในบรรจุบะหมี่ถ้วยกันคนละอันถ้วนหน้าทุกคน ในใจคิดนี่สิน่ะ บะหมี่แบบฉบับของตัวเอง

Yokohama 08624

ว่าแล้วเดินไปลองทำข้างในกันพิพิธภัณฑ์บะหมี่ถ้วยแห่งนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1958 โดยเจ้าพ่อแห่งวงการบะหมี่ถ้วย บริษัทนิชชิน (Nissin Food Company) นั่นเอง สิ่งที่เห็นแทบทุกมุมของที่นี่

Yokohama 08602

ลูกเจี๊ยบสีเหลืองที่ชื่อ Hiyoko-chan มาสค็อตของ Chicken Ramen บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสไก่สินค้าตัวแรกของนิชชิน และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตัวแรกของโลกที่มีประดับอยู่แทบทุกจุด เด่นสุดน่าจะเป็นบนถ้วยนิชชินก่อนชั้นไปที่ชั้น 2 ของอาคาร

Yokohama 08615

บริเวณชั้น 2 จะแสดงถึงประวัติความเป็นมา แนวคิดตลอดจนถ้วยบะหมี่ในยุคต่างๆ และในแต่ละเมือง ของเมืองไทยก็มี ห้องจัดแสดงบะหมี่นี้เรียกว่า Instant Noodles History Cube Nissan

Yokohama 08636

ถัดไปจะเป็นห้องให้ชมประวัติความเป็นมาในการทำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของ Momofuku Ando ผู้ประดิษฐ์ และผู้ก่อตั้ง Nissin ตัววิดีโอและเจ้าหน้าที่บรรยาย พูดเป็นภาษาญี่ปุ่นทั้งหมด ดูรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง แต่ก็อดทึ่งไม่ได้

Yokohama 08633

ชั้น 2 นี้ยังมีอีกหลายจุดที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องไอเดียในการคิดสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ต่างๆ อย่างเช่น Space Ramen ที่ไว้สำหรับนักบินอวกาศเป็นต้น ขึ้นไปต่อที่ชั้น 3 เป็นส่วนของกิจกรรมเวิร์คช็อป ที่มาของถุงสุญญากาศสายสีแดงที่แทบทุกคนสะพายกันไปมา มี 2 กิจกรรมให้เลือกคือ การทำบะหมี่ถ้วยด้วยตัวเอง (My CUPNOODLES Factory) และ การทำบะหมี่ชิคเค้นราเมง (Chicken Ramen Factory)

Yokohama 08651

ฉันเลือกที่จะทำบะหมี่ถ้วยในแบบฉบับของตัวเอง เริ่มจากเลือกถ้วยจากนั้นเอามาตกแต่งระบายสีวาดรูปตามต้องการ ก่อนจะไปให้เจ้าหน้าที่บรรจุเส้น ผงปรุงรสชาติต่างๆ จากนั้นก็เลือกเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นข้าวโพดอบ ปูอัด ผัก เนื้อ อบแห้ง เลือกได้ 3 อย่าง จากนั้นปิดปากถ้วย ก่อนนำใส่ถุงสุญญากาศ ร้อยเชือกสะพายกลับบ้านกัน

Yokohama 08640

เป็นกิจกรรมระยะเวลาสั้นๆ แต่ก็สร้างความสนุกสนานและความสัมพันธ์ในการช่วยเหลือกันได้ไม่ใช่น้อย ส่วนด้านบนชั้น 4 ของอาคารเป็น CUPNOODLES Park และ NOODLES Bazaar สวนสนุกและห้องอาหารซึ่งมีบะหมี่ให้เลือกกินกันชั้นนี้จะมีระเบียงเปิดออกไปให้เห็นวิวทิวทัศน์ของอ่าวโยโกฮาม่าอีกด้วยพิพิธภัณฑ์ที่แรกที่แวะมาค่อนข้างประทับใจฉันเป็นอย่างมาก “ฉันน่าจะแวะมาที่นี่ก่อน จะไปพิพิธภัณฑ์บะหมี่ถ้วยนะ” ฉันคิดในใจ

68008952 - yokohama museum of art

หลังจากที่เดินตรงมาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ศิลปะโยโกฮาม่า (Yokohama Museum of Art) ซึ่งไม่ไกลจากพิพิธภัณฑ์บะหมี่ถ้วยมากนัก เนื่องจากที่นี่มีศิลปะหลากหลายรูปแบบ แบ่งเป็นถึง 7 แกลลอรีเลยทีเดียว สามารถนำไปเป็นไอเดียรังสรรค์งานศิลปะบนถ้วยบะหมี่ได้อีกเยอะ โดยแกลลอรีหนึ่งจัดแสดงภาพถ่าย อีก 3 แกลลอรีจัดแสดงผลงานแบบถาวร ส่วน3 แกลลอรีที่เหลือก็สำหรับจัดนิทรรศการพิเศษวนเวียนไป 4 ครั้งต่อปีงานศิลปะที่จัดแสดงส่วนใหญ่เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเมืองโยโกฮาม่า ท่าเรือและศิลปินที่ร่วมสมัย หาดูได้เฉพาะที่นี่ ไม่ซ้ำที่ไหนแน่นอน ที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีคาเฟ่ตกแต่งแบบเรียบๆ แต่ดูเก๋ไก๋ชื่อ Café Ogurayama กับร้านอาหารสไตล์ฝรั่งเศสที่ Restaurant BRASSERIE T’S Musée เปิดให้บริการอยู่ด้วย สนใจแวะไปลองชมศิลปะ ชิมขนมหรือรับประทานอาหารอย่างรื่นรมย์กันได้

Yokohama Mitsubishi Minato Mirai Museum

สำหรับคนที่ไม่ชื่นชอบงานศิลปะ แต่ชอบแนวทางวิทยาศาสตร์ตรงข้ามกันนั้นมีอีกหนึ่งพิพิธภัณฑ์ นั่นคือ พิพิธภัณฑ์มิตซูบิชิ (Mitsubishi Minatomirai Industrial Museum) ก่อตั้งขึ้นโดยMitsubishi Heavy Industries, Ltd. ในเดือนมิถุนายนปี ค.ศ. 1994สร้างขึ้นเพื่อเสริมสร้างจินตนาการและความฝันของเด็กๆ ให้มีการพัฒนา ต่อไป โดยมีสื่อคอมพิวเตอร์จำลองเพื่อนำเสนอความรู้ต่างๆ ให้เด็กๆได้มีการเรียนรู้และทดลองเกี่ยวกับนวัตกรรมใหม่ๆ ทางเทคโนโลยีในเครือมิตซูบิชิโดยเฉพาะทางเครื่องยนต์กลไก โดยแบ่งออกเป็น6 โซน ใน 2 ชั้นจัดแสดง ชั้น 1 มี 4 โซนเริ่มจากทางเข้าที่เห็นด้านซ้ายมือจะเห็นโซนชีวิตประจำวัน หันไปทางขวามือเป็นโซนการขนส่งด้านในเป็นโซนอวกาศ และโซนมหาสมุทรอยู่เรียงกันพอขึ้นบันได ตรงกลางโถงขึ้นไปเป็นชั้น 2 จะเป็นโซนสิ่งแวดล้อม และโซนแสวงหาเทคโนโลยี โดยแต่ละโซนจะจัดแสดงทั้งแบบปัจุบัน และอนาคต คนไหนที่ชื่นชอบคงต้องตื่นตาตื่นใจและร้องว้าวเลยทีเดียว ขนาดฉันเป็นผู้หญิงยังอดทึ่งกับนวัตกรรมหลายๆ ชิ้นไม่ได้

Yokohama 08894

แค่ 3 พิพิธภัณฑ์นี้ก็หมดวันแล้วเวลาพูดถึงโยโกฮาม่า เชื่อว่าสิ่งแรกที่ทุกคนนึกถึงน่าจะเป็น พิพิธภัณฑ์ราเมงชินโยโกฮาม่า (Shinyokohama Raumen Museum) ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสถานีชินโยโกฮาม่ามากนัก เดินไปประมาณ 10 – 15 นาที แต่ให้สังเกตซอยดีๆ เพราะอาจจะเดินเลยหลงแบบฉันก็เป็นได้

Yokohama 08909

ราเมงถือเป็นเมนูเส้นอันขึ้นชื่อของญี่ปุ่น และสถานที่แห่งนี้ก็สามารถตอบโจทย์สำหรับคนที่ไม่รู้ว่าจะกินราเมงแบบไหนดี และคนที่ไม่อยากเดินทางตระเวนไปทั่วญี่ปุ่นทางพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้ยกเอาสุดยอดราเมงถึง 9 ร้านจากทั่วทุกภูมิภาคของประเทศญี่ป่นุ มารอเสิรฟ์ให้คุณในที่เดียว แม้ว่าจะก่อตั้งมาตั้งแตปี่ ค.ศ. 1994 แต่ความนิยมก็ยังไม่เสื่อมคลาย

Yokohama 08902

ในพื้นที่ทั้ง 3 ชั้นถูกออกแบบจำลองเป็นหมู่บ้านญี่ปุ่นโบราณชิตะมาชิ (Shitamachi) ซึ่งเป็นแหล่งที่ราเมงเริ่มได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในช่วงปี ค.ศ. 1958 บริเวณชั้น 1 แสดงความเป็นมา ประวัติของราเมงโดยละเอียดรวมไปถึงสินค้าที่เกี่ยวข้องในการทำราเมงตั้งแต่วัตุดิบ ไปจนถึงอุปกรณ์ประกอบไม่ว่าจะเป็น อุปกรณ์ ถ้วยผ้ากันเปื้อน เส้นราเมงแบบต่างๆ ให้ซื้อกลับไปลองทำรับประทานเอง

Yokohama 08897

เดินลงไป 1 ชั้นใต้ดิน เรียกว่า ชั้น B1F ส่วนนี้จะมีร้านราเมง 3 ร้าน ร้านขนมและร้านขายของเล่นโบราณ ให้อารมณ์เหมือนย้อนอดีตเลย ส่วนร้านที่อยู่ชั้นล่างสุด เรียกชั้น B2F มีอีก 6 ร้านตั้งรายล้อมลานตรงกลาง โดยราเมงของทั้ง 9 ร้านก็มีความพิเศษที่แตกต่างกัน โดยมากจะเน้นที่น้ำซุปที่พิเศษแตกต่างกันทั้งซุปปลา ซุปกระดูกหมู เป็นต้น วิธีการสั่งก็ง่ายดายมาก

Yokohama 20161202_145011

หลังจากไปยืนด้อมๆ มองๆ หน้าร้านที่สนใจแล้วก็ให้กดเมนูที่ต้องการจากตู้อัตโนมัติหน้าร้าน หยอดเหรียญตามจำนวน ให้เรียบร้อย จะมีบัตรเล็กๆ ออกมา เพื่อนำไปยื่นให้พนักงาน จากนั้นก็นั่งรอราเมงสุดวิเศษที่คุณเลือกที่โต๊ะได้เลยราเมง 1 ชามที่นี่ขนาดใหญ่มาก

Yokohama 08908

แต่เราก็สามารถสั่งเป็นชามเล็กมาหารกันกินได้ ตรงลานกว้างตรงกลางในบางช่วงเวลาจะมีจัดกิจกรรมการแสดง และมีมุมหนึ่งให้บริการเบียร์ ฉันสังเกตเห็นคนญี่ปุ่นหลายคน ออกมานั่งดื่มสังสรรค์กัน ทั้งๆ ที่เป็นเวลาเพิ่งบ่ายนิดๆ เอง

Yokohama 08780

และถ้าจะพูดถึงวัฒนธรรมการดื่มเบียร์แล้วล่ะก็ ทำให้ฉันนึกถึงหมู่บ้านเบียร์คิริน (Kirin Beer Village) หรือบางคนก็เรียกว่าโรงหมักเบียร์คิริน ที่ตั้งของโรงกลั่นเบียร์ประจำเมืองโยโกฮาม่าที่โด่งดังไปทั่วโลก ยี่ห้อคิริน (Kirin Beer) เบียร์ยี่ห้อนี้มีต้นกำเนิดมาจากเมืองนี้ ก่อตั้งขึ้นในปี 1907 นานพอๆ กับประวัติความเป็นมาของเบียร์ในประเทศญี่ปุ่นหลังจากการเปิดประเทศเพื่อทำการค้ากับต่างประเทศกันเลยทีเดียว

Yokohama 08818

ดังนั้น ที่นี่ถือได้ว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำหรับผู้ใหญ่คอแอลกอฮอลล์ที่ไม่ควรพลาด ส่วนไม่ควรพลาดอย่างไร ตามฉันมาเลย การเดินทางมาที่นี้ สามารถนั่งรถไฟสายKeikyu Line แล้วลงที่สถานี Namamugi จากนั้นเดินต่ออีก 10 – 15นาทีสามารถถามชาวบ้านได้ถ้าหาทางไม่ถูกเพราะแถวนี้แทบทุกคนรู้จักโรงงานนี้เป็นอย่างดี ฉันพิสูจน์มาแล้ว โดยที่โรงเบียร์นั้นได้เปิดให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าชมกรรมวิธีการผลิต การกลั่น และการผลิตเบียร์ โดยการนำชมแต่ละรอบใช้เวลา 1 ชั่วโมง

Yokohama 08792

เริ่มจากการชมวัตถุดิบ ประวัติความเป็นมาของเบียร์คิริน การผลิต การหมักเบียร์ และการบรรจุลงกระป๋อง แม้เจ้าหน้าที่นำชมจะแนะนำเป็นภาษาญี่ปุ่น แต่มีเอกสารคู่มือเป็นภาษาอังกฤษให้อ่านประกอบไม่ต้องเป็นกังวล เพราะเอกสารละเอียด

Yokohama 08786

เดินชมไปเรื่อยๆ ปิดท้ายลงที่เจ้าหน้าที่แจกถั่วกันคนละถุง และแจ้งว่าสามารถทดลองชิ้มเบียร์คิรินสดๆ ได้ถึง 3 แก้ว งานนี้ร้องว้าวกันทีเดียวและที่สำคัญการเดินทางมาชมที่นี่ไม่เสียค่าเข้าชม ฟรีอีกต่างหาก ว้าวครั้งที่2 กันเลย นอกจากนี้ในบริเวณเดียวกันนั้นยังมีร้านอาหารของทางคิรินและร้านอาหาร Spring Velly Brewery ให้เลือกรับประทานอาหารเป็นการปิดท้ายสำหรับการเดินทางของฉันครั้งนี้มาในวันธรรมดา

Yokohama 08800

ดังนั้นผู้คนที่เข้าเยี่ยมชมในสถานที่ต่างๆ โดยมากมักจะเป็นคุณลุงคุณป้า หรือคุณตาคุณยายเสียส่วนใหญ่ เป็นทัวร์ผู้สูงวัย แต่มีความสนุกสนานเป็นอย่างมาก ยกเว้นที่พิพิธภัณฑ์บะหมี่ถ้วยที่มีน้องนักเรียน นักศึกษามากหน่อย ทำให้เห็นวิถีชีวิตของคนที่พ้นวัยทำงานของคนญี่ปุ่นและวัยที่กำลังศึกษาเล่าเรียน ว่าทางเขาให้ความสนใจกับสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นสถานที่ที่ให้ความรู้เป็นอย่างมากและกิจกรรมต่างๆ ที่อยู่ให้สถานที่ดังกล่าวเหล่านั้นก็มีความสนุกและให้ความเพลิดเพลินแก่ผู้มาเยี่ยมชม

Yokohama 08877

นอกจาก 5 สถานที่ที่ทางฉันยกมาแล้ว โยโกฮาม่ายังมีที่เที่ยวอีกมากมายให้เยี่ยมชม ครั้งต่อๆ ไป ฉันจะมาเล่าให้ทุกคนได้ฟังอีก ครั้งนี้ขอไปจัดการเบียร์ที่ซื้อมาให้เรียบร้อยก่อน คัมปาย

พิพิธภัณฑ์บะหมี่ถ้วย (Cup Noodle Museum)
เวลาเปิด – ปิดทำการ 10.00 – 1 8.00 น. (เข้าชมก่อน 17.00 น.) ปิดวันอังคาร
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 500 เยน เด็ก (อายุต่ำกว่า 18 ปี) ไม่เสียค่าใช้จ่าย (ไม่ร่วมค่าเข้าร่วมเวิร์คช้อป)
พิพิธภัณฑ์ศิลปะโยโกฮาม่า (Yokohama Museum of Art)
เวลาเปิด – ปิดทำการ 10.00 – 18.00 น. (เข้าชมก่อน 17.30 น.)
ปิดทุกวันพฤหัสบดี ค่าเข้าชม 500 เยน (ไม่รวมค่าเข้าชมนิทรรศการพิเศษ)
พิพิธภัณฑ์มิตซูบิชิ (Mitsubishi Minatomirai Industrial Museum)
เวลาเปิด – ปิดทำการ 10.00 – 17.00 น. (เข้าชมได้ถึง 16.30 น.) หยุดทุกวันอังคาร (กรณีที่ตรงกับวันหยุดราชการ จะปิดทำการในวันถัดไป) ช่วงสิ้นปีและต้นปี (มีวันหยุดแน่นอน)
ค่าเข้าชมผู้ใหญ 500 เยน, นักเรียนมัธยม 300 เยน, นักเรียนประถม 200 เยน
พิพิธภัณฑ์ราเมงชินโยโกฮาม่า (Shinyokohama Raumen Museum)
เวลาเปิด – ปิดทำการ 10.30 – 23.00 น.
ค่าเข้าชมผู้ใหญ่ 310 เยน สำหรับเด็กและผู้สูงอายุ 100 เยน
หมู่บ้านเบียร์คิริน (Kirin Beer Village)
เวลาเปิด – ปิดทำการ 11.00 – 22.00 น. หยุดทุกวันจันทร์ ยกเว้นวันจันทร์ที่เป็นวันหยุดพิเศษจะเปิดให้เข้าชม
ที่นี่ไม่เสียค่าเข้าชม

Share This Post:Share on Facebook0Share on Google+0Tweet about this on TwitterShare on LinkedIn0