สีสัน..วิถีศรัทธาศิลปทัศน์ญี่ปุ่นสู่ไทย

เรื่องและภาพโดย อ.พลาดิศัย สิทธิธัญกิจ

จากเอกสารและจดหมายเหตุทางประวัติศาสตร์นั้นพบว่า ญี่ปุ่นกับไทยมีความสัมพันธ์ต่อกันมายาวนานมากกว่า ๖๐๐ ปีแล้ว คนทั้งสองประเทศนี้ได้ผ่านเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวพันด้านความสัมพันธ์ระหว่างราชสำนักมาแต่สมัยอยุธยาแล้ว ยังมีบทบาทด้านเศรษฐกิจการค้า การเมือง สังคม ตลอดจนการช่วยเหลือเกื้อกูลกันมาตลอดตามยุคสมัย ทำให้ทั้งสองประเทศมีเรื่องราวผูกพันกันหลายเรื่องในอดีต

ที่จำกันได้คือ เส้นทางการค้าเครื่องเคลือบ ออกญาเสนาภิมุข (ยามาด้า) กองอาสาญี่ปุ่น การปลูกหม่อนเลี้ยงไหมและโรงทอไหม สงครามมหาเอเชียบูรพา การสร้างเส้นทางรถไฟสายมรณะ อีกทั้งมีเรื่องราวผ่านตัวละครในนวนิยายหลายเรื่องเช่น ระย้าของสด กูรมะโรหิต คู่กรรมของทมยันตี และบุญผ่องของไทยทีวี เป็นต้น จนไม่มีใครที่ไม่รู้จัก พระเอกโกโบริ และ นายบุญผ่อง

ครั้งหลังสุดทั้งสองประเทศนั้นได้มีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการโดยการลงนามในปฏิญญาทางไมตรี และการพาณิชย์ เมื่อวันที่ ๒๖ กันยายน พ.ศ. ๒๔๓๐ ขึ้น อันเป็นผลให้ทั้งสองประเทศได้เริ่มความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการ และความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับญี่ปุ่นได้พัฒนาก้าวหน้าขึ้นอย่างมาก ทำให้ไทยเป็นประเทศหนึ่งที่มีจำนวนบริษัทเอกชนของญี่ปุ่นเข้ามาตั้งอยู่เป็นจำนวนมาก นอกจากนั้นยังมีชาวญี่ปุ่นนิยมที่จะพำนักอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากแห่งหนึ่งในโลก จนชาวญี่ปุ่นต่างมีความรู้สึกใกล้ชิดกับไทยเป็นอย่างดี

การเสด็จฯ ไปเยี่ยมเยือนระหว่างพระราชวงศ์ไทยกับพระราชวงศ์ญี่ปุ่นซึ่งกันและกันหลายครั้งนั้น ได้แสดงถึงสัมพันธภาพอันแน่นแฟ้นยาวนานของทั้ง ๒ ประเทศ โดยเฉพาะการเสด็จฯ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถ บพิตรและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เสด็จฯ เยือนประเทศญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๐๖ นั้นได้ยิ่งทำให้สองประเทศมีความสัมพันธ์กันอย่างแน่นแฟ้นมากขึ้น

ซึ่งในปีต่อมานั้นสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตและสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะ เมื่อยังดำรงพระอิสริยยศเป็นมกุฎราชกุมาร เจ้าชายอากิฮิโตและเจ้าหญิงมิชิโกะ นั้นได้เสด็จฯ เยือนประเทศไทย ในฐานะผู้แทนพระองค์สมเด็จพระจักรพรรดิฮิโรฮิโต ทำให้ความร่วมมือของทั้งสองประเทศนั้นมีบทบาทต่างๆ ทั้งในด้านเศรษฐกิจ การเมือง สังคม และวัฒนธรรม เพื่อเสริมสร้างศักยภาพของประเทศ ไทย ได้มุ่งกระชับความสัมพันธ์ และความร่วมมือกับญี่ปุ่นให้พัฒนาไปสู่ความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์และเศรษฐกิจ (Strategic and Economic Partnership) เป็นอย่างดี

การเยือนสำคัญระดับพระราชวงศ์ และผู้นำประเทศได้กระชับความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นและประเทศไทยจนต่างมีความน่าเชื่อถือและมีความสนิทสนมอย่างมาก ทำให้ชาวไทยชาวญี่ปุ่นนิยมเดินทางท่องเที่ยวต่อกันมากที่สุด ทำให้ต่างได้เรียนรู้และเข้าใจศิลปวัฒนธรรมซึ่งกันและกันด้วย พ.ศ. ๒๕๖๐ เป็นปีสำคัญเนื่องจากเป็นปีที่ครบรอบ ๑๓๐ ปีแห่งความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศไทย-ญี่ปุ่น จึงทำให้ ๒ ประเทศได้ร่วมมือกันจัดนิทรรศการพิเศษกระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมศิลปากร ร่วมกับสำนักกิจการวัฒนธรรมแห่งประเทศญี่ปุ่น พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ โตเกียว-คิวชู และเจแปนฟาวน์เดชั่น แลกเปลี่ยนโบราณวัตถุและศิลปวัตถุเพื่อจัดแสดง ซึ่งกันและกัน

โดยเฉพาะชิ้นงานจากญี่ปุ่นนั้น จัดเป็นนิทรรศการพิเศษถึง “วิถีแห่งศรัทธาจากศิลปทัศน์ญี่ปุ่น” (The History of Japanese Art: Life and Faith) ณ พระที่นั่งศิวโมกขพิมาน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร ระหว่างวันที่ ๒๗ ธันวาคม ๒๕๖๐ – ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ โดยศิลปวัตถุชิ้นสำคัญจากญี่ปุ่นที่หาชมได้ยากนั้นได้เปิดโลกการเรียนรู้ด้านทัศนศิลป์ให้ชาวไทยได้เห็นสีสันจากความงดงามแห่งวิถีศรัทธา เพื่อระลึกถึงความสัมพันธ์อันยาวนานจากมหาสมุทรแปซิฟิกสู่ทะเลไทยที่เคยมีแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา

Share This Post:Share on Facebook0Share on Google+0Tweet about this on TwitterShare on LinkedIn0