Snow day in New York city

Story by Editorial Staff

มหานครนิวยอร์ก (New York city) เมืองที่สนุกสนานและเต็มไปด้วยผู้คนตลอดเวลา ทุกช่วงฤดูกาล แม้ว่าในช่วงฤดูหนาวที่ฟ้าหม่น อุณหภูมิบางวันลดต่ำกว่า 0 องศา โดยเฉลี่ยแล้วอุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ประมาณ ติดลบ 10 องศา หรือวันที่ฟ้าเปิด แต่กลับมีลมหนาวก็พัดจนรู้สึกเย็นยะเยือกไปหมด ฟังดูเหมือนจะไม่น่ารื่นรมย์เท่าไรนัก สำหรับนิวยอร์กช่วงฤดูหนาว แต่คุณก็ยังสามารถเพลิดเพลินในช่วงฤดูกาลนี้ได้

เริ่มจากเตรียมเสื้อผ้าให้พร้อมกับการลุยหน้าหนาว แนะนำว่าใส่เสื้อโค้ตแบบอุ่นพอประมาณ แต่ใส่เป็นหลายชั้น เริ่มจากด้านในก็สวมเบสเลเยอร์ (อาจจะเป็นฮีทเทคหรือลองจอห์น) สวมเสื้อปกติ เสื้อไหมพรมหรือเสื้อฟรีซ ตามด้วยเสื้อโค้ต และควรมีถุงมือ หมวกและรองเท้าที่อุ่นๆ สำหรับคนขี้หนาวจะใส่ที่ปิดหูก็ไม่ว่ากัน

เสร็จแล้วตามผมไปเดินเที่ยวเมืองนิวยอร์กหน้าหนาวได้เลย ในวันก่อนหิมะตกทางรัฐบาลจะมีการนำเกลือเม็ดใหญ่มาโปรยตามถนนหนทาง เพื่อเวลาหิมะตกจะได้ละลาย รถสำหรับโกยหิมะจะมาโกยหิมะออกไปจากเส้นทางให้ผู้คนสัญจรไปมาได้ ถ้าอุณหภูมิต่ำมากๆ เราก็จะเปิดฮีตเตอร์ที่พักไว้อย่างต่ำ 20 องศาเพื่อกันไม่ให้ท่อน้ำแอร์เรากลายเป็นน้ำแข็ง

สำหรับจุดแรกที่แนะนำเลยคือ บริเวณหน้าศูนย์การค้าร็อกกี้เฟลเลอร์เซ็นเตอร์ (Rockefeller Center) ศูนย์การค้าที่มีภาพแกะสลัก Wisdom และ รูปปั้น Prometheus เทพในเทพปกรณัม ที่ด้านหน้าตึก ความพิเศษนอกจากด้านบนชั้นที่ 70 ของตึกเลขที่ 30 จะเปิดเป็นจุดชมวิวกลางเมืองนิวยอร์ก แบบไร้สิ่งบดบัง 360 องศา แล้วด้านหน้าตึกยังมีลานสเกต (The Rink) ลานสเกตน้ำแข็งขนาดย่อมที่ได้ปรากฏอยู่เป็นส่วนหนึ่งในภาพยนตร์ดังๆ มากมายหลายเรื่อง พอช่วงคริสต์มาส ทางห้างก็จะตั้งต้นคริสต์มาสขนาดใหญ่ที่มีดาวคริสตัลของสวารอฟกี้ (Swarovski Star) อยู่บนยอดพร้อมกับการประดับไฟ LED อย่างสวยงาม

ที่นี่เขาจริงจังกับการตกแต่งต้นคริสต์มาสมาก มีประเพณีเปิดไฟต้นคริสต์มาสที่เรียกว่า Tree Lighting Ceremony ที่มีประวัติยาว นานกว่า 80 ปี สำหรับปีนี้ จะมีการจุดไฟในวันพุธที่ 1 ธันวาคม ส่วนเวลายังไม่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการจาก Rockefeller Center แต่ในปีที่ผ่านมาไฟจะเปิดขึ้นเวลา 21.00 น. ซึ่งก่อนเปิดไฟประมาณ 19.00 น. มีการแสดงสดจากนักร้องและวงดนตรีชั้นนำ รวมถึง Radio City Rockettes ไปตั้งแต่เวลา 15.00 น. เลยก็ดี เพราะคนเยอะและบรรยากาศ สนุกสนานมาก จริงๆ บริเวณหน้าอาคารแต่ละ ด้านก็มีงานศิลปะแบบสวย ไม่ซ้ำกันจัดแสดงในแต่ละด้านอีกด้วย เดินชมได้

คนที่ชื่นชอบการดูละครบรอดเวย์แนะนำให้มาช่วงประมาณปลายเดือนมกราคม ถึงต้นกุมภาพันธ์ เหตุที่ผมแนะนำให้มาช่วงนั้นเพราะโรงละครบรอดเวย์ จะมีการขายตั๋วแบบ ซื้อ 2 จ่าย 1 เรียกช่วงอาทิตย์นั้นว่า NYC Broadway Week ถ้าไม่รู้จะดูเรื่องอะไรแนะนำให้ไปชมการแสดง The Phantom Of The Opera เรื่องราวโศกนาฏกรรมความรักอันมืดมนสุดโรแมนติกความรักสามเส้าระหว่างชายอัปลักษณ์ชื่ออีริก (Erik หรือ แฟนธอม) (Christine Daaé) ผู้เป็นนักร้องอุปรากรสาวซึ่งเป็นลูกศิษย์ของเขา และราอูล (Raoul) การแสดงนี้จัดแสดงที่ โรงละคร Majestic Theater มาตั้งแต่ปี 1988 จนถึงปัจจุบันเรียกได้ว่ายาวนานมาก ปกติราคาตั๋วจะอยู่ที่ประมาณ 100 เหรียญ (นั่งไกลๆ) แต่ถ้าช่วงนั้นเท่ากับได้ลด 50% จ่ายราคานี้ได้ดูสองคนนั่นเอง สามารถจองได้ที่ NYCgo.com

นอกจากนั้นในช่วงปี ถือได้ว่าเป็นช่วงเวลาแห่งเทศกาลและกิจกรรมที่รู้จักกันดีอย่างคริสต์มาส การประดับไฟคริสต์มาส สวยงามไม่แพ้ที่ไหนๆ หรืออย่าง Macy’s Thanksgiving Day Parade ที่ยิ่งใหญ่อลังการจัดโดยห้าง Macy ห้างสรรพสินค้าชื่อดัง เป็นทั้งงานเทศกาลที่มีขบวนพาเหรดบอลลูนยักษ์ รูปแบบต่างๆ ที่ลอยสูงแข่งกับตึกในแมนฮัตตัน (Manhattan) จัดช่วงวันอีสเตอร์ เขาก็จะปิดถนน 5th Avenue เฉลิมฉลองกันเลย นักท่องเที่ยวทั่วโลกที่หลั่งไหลมาเที่ยวนิวยอร์กในช่วงนี้ ก็เพื่อเทศกาลนี้

เพราะนอกจากขบวนพาเหรดแล้ว ที่ห้างก็จะลดราคาจนเรียกว่าเป็นสุดยอดแห่งเซลประจำปีของนิวยอร์ก ทั้งลดเยอะ ลดยาว ลดมากที่สุด แบบใครไม่อยากซื้อก็ต้องซื้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกสินค้า Doorbuster คือลดเฉพาะที่ร้านเท่านั้น ลดราคาแบบคนต่อคิวยาวมาก สำหรับปี 2021 Macy’s Thanksgiving Day Parade จะจัดในวันพฤหัสบดีที่ 25 พ.ย. 2021 อย่าลืมว่าช่วงนี้ร้านส่วนใหญ่จะเปิดช่วงเย็น ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องตื่นเช้าเว้นแต่จะมาดูพาเหรด หรือถ้าใครชอบช้อปปิ้งแบบเอาต์ดอร์ตลาดคริสต์มาส บริเวณ Union Square Park, Columbus Circle ก็น่าสนใจมีสินค้าผลิตภัณฑ์ที่ทำจากอเมริกันแท้ มีเสื้อผ้า กระเป๋า เครื่องประดับสินค้าแทบทุกอย่างมาให้คุณได้จับจ่าย ถ้าเป็นนักสะสมเชื่อว่าจะได้ของขวัญ งานศิลปะพิเศษจากตลาดเหล่านี้

อีกจุดที่แนะนำแม้คนที่เคยมานิวยอร์กแล้วก็คือ เซ็นทรัลพาร์ก (Central Park) โอเอซิสกลางเมืองที่เคยถ่ายทำภาพยนตร์หลายต่อหลายเรื่อง ในช่วงฤดูอื่นๆ คนที่นี่จะมาปิกนิกที่เซ็นทรัลพาร์กกัน แต่ในช่วงฤดูหนาว ผู้คนก็จะออกมาเล่นไอซ์สเกตกัน (Ice Skate) ถือได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในช่วงฤดูหนาวที่โรแมนติกที่สุดและเหมาะเป็นที่สนุกสนานของครอบครัวแห่งหนึ่งของเมือง

ตรงบริเวณลานสเกตน้ำแข็งทางตอนใต้ของเซ็นทรัลพาร์ก ที่เรียกว่า โวลแมน ริงค์ (Wollman Rink) ค่าเข้าชมแม้จะไม่เล่นอยู่ที่ 5 ดอลลาร์ แต่ถ้าเล่นผู้ใหญ่อยู่ที่ 12 ดอลลาร์ในวันจันทร์ถึงพฤหัส ส่วนวันหยุด อยู่ที่ 19 ดอลลาร์เข้าไปเล่นได้เลยถ้ามีรองเท้า คนสูงอายุและเด็กราคาก็ลดหลั่นไป อย่างเด็กอายุต่ำกว่า 12 จะอยู่ที่เพียง 6 ดอลลาร์เท่านั้น แต่ถ้าใครไม่มีรองเท้า ค่าเช่าอยู่ที่ 10 ดอลลาร์ ค่าเช่าล็อกเกอร์อยู่ที่ 5 ดอลลาร์ (มีค่าประกัน 6 ดอลลาร์) เป็นต้น

สำหรับคนต้องการสัมผัสประสบการณ์เล่นสเกตกลางสวนกลางเมือง ไม่ถือว่าแพงมากนัก เพราะอย่างที่ลานร็อกกี้เฟลเลอร์ เซ็นเตอร์ (Rockefeller Center) ผู้ใหญ่ 6 ปีขึ้นไปก็เริ่มตั้งแต่ 20-54 ดอลลาร์ และต่ำกว่า 6 ปีเริ่มที่ 8-22 ดอลลาร์เลยทีเดียว

ปิดท้ายด้วยงานเทศกาลสุดยิ่งใหญ่ในช่วงหน้าหนาวของนิวยอร์ก นั่นก็คือ Countdown ที่ไทม์สแควร์ (Times Square) ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา ปลายปี 2020 จัตุรัส Times Square แม้จะจัดงานฉลองคืนวันสิ้นปี 2020 เริ่มต้นปี 2021 เหมือนเดิมมีลูกบอลลอย มีการแสดงร้องเพลง แต่ไม่อนุญาตให้คนทั่วไปเข้ามาร่วมเคานต์ดาวน์ ทำให้บรรยากาศไม่ค่อยคึกคัก เช่นเดียวกันกับปีนี้ ปี 2021 ทางไทม์สแควร์ก็ยังงดไม่เปิดให้คนทั่วไปเข้าชมเช่นเคย แต่เชื่อมั่นว่าปีต่อๆ ไป เมื่อสถานการณ์ดีขึ้น ทุกอย่างคงกลับมาเป็นปกติ เหมือนฤดูหนาวที่กลายเป็นฤดูใบไม้ผลิที่สดชื่น Happy New Year ล่วงหน้าจากนิวยอร์ก

Share This Post:Share on Facebook0Share on Google+0Tweet about this on TwitterShare on LinkedIn0