Nagoya – Gate to Chubu นาโกย่า ประตูสู่ชูบุ

ท่าอากาศยานนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ (Chubu Centrair International Airport) เป็นอีกหนึ่งทางเลือก สำหรับคนที่ต้องการเดินทางไปประเทศญี่ปุน เพราะนอกจากสนามบินหลักที่ขึ้นชื่อแล้วอย่างท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะหรือท่าอากาศยานนานาชาติคันไซแล้ว ท่าอากาศยานนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ก็เป็นอีกหนึ่งท่าอากาศยานที่น่าสนใจ

ท่าอากาศยานนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ตั้งอยู่ที่เมืองนาโกย่า (Nagoya) เมืองใหญ่ที่สุดในภูมิภาคชูบุ (ภาคกลางของญี่ปุ่น) และเป็นเมืองหลักของจังหวัดไอจิ (Aichi) ถือเป็นศูนย์กลางระหว่างโตเกียวกับโอซาก้า เราสามารถนั่งรถไฟชินคันเซ็นไปยังโตเกียวหรือโอซาก้าได้อย่างง่ายดาย จะไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่ออย่างหมู่บ้านชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go) ก็สะดวก

สำหรับเมืองนาโกย่าประตูสู่ภูมิภาคชูบุแห่งนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ทั้งที่เที่ยวทางวัฒนธรรม ที่เที่ยวธรรมชาติ และแหล่งช้อปปิ้งที่ให้เราได้เพลิดเพลินไม่ว่าจะมาเดี่ยวมาคู่ หรือมาเป็นครอบครัว

สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ เริ่มตั้งแต่ท่าอากาศยานนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์กันเลย ที่นี่มีนิทรรศการการบินไฟลท์ออฟดรีมส์ (Flight of Dreams) เป็นธีมปาร์คเครื่องบิน (Airplane Theme Park) ที่ยกเครื่องบิน Boeing 787 ลำแรกมาไว้ที่สนามบินเป็นครั้งแรกไฟลท์ออฟดรีมประกอบด้วยพื้นที่ไฟลท์ปาร์ค (Flight Park) ที่ท่านสามารถชมการแสดงแสงสีเสียง โดยฉายภาพและแสงบนเครื่องบิน Boeing 787 และสามารถเข้าชมเครื่องบินใกล้ๆ ได้อย่างเต็มตา

การแสดงแสงสีเสียงจะมีทุกชั่วโมง และพื้นที่ซีแอทเทิลเทอร์เรซ (Seattle Terrace) ที่รวมร้านค้ามากมาย โดยชื่อ ซีแอทเทิล เทอร์เรซ มาจากชื่อเมืองซีแอทเทิล ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของเครื่องบินโบอิ้งนั่นเอง นอกจากนี้ยังมี “โบอิ้งสโตร์” แห่งแรกที่ตั้งอยู่นอกสหรัฐอเมริกาจำหน่ายสินค้าของแบรนด์ที่สามารถหาซื้อได้เฉพาะที่นี่เท่านั้น

ในตัวเมืองนาโกย่ามีความเจริญตามสไตล์ของเมืองใหญ่ ประกอบกับเมืองนาโกย่า เป็นเมืองอุตสาหกรรมมีโรงงาน และมีบริษัทมากมายตั้งสำนักงานที่นี่ อย่างเช่น บริษัทรถยนต์โตโยต้า ฯลฯ ผู้คนค่อนข้างจะคึกคักในย่านเมืองเราจะเห็นตึกใหญ่หลายตึกสวยสะดุดตา เช่น อาคารงาม Mode Gakuen Spiral Towers อาคารการศึกษา 36 ชั้น ที่เป็นลักษณะรูปเกลียว อาคารนี้เป็นที่ตั้งของโรงเรียนอาชีวศึกษาสามแห่ง ได้แก่ Nagoya ModeGakuen, HAL Nagoya และ Nagoya Isen เป็นอาคารที่สูงที่สุดแห่งหนึ่งในนาโกย่า

สำหรับย่านการท่องเที่ยวหลักของเมืองนาโกย่านั้นอยู่ที่บริเวณย่านซากาเอะ (Sakae) ประกอบไปด้วยแลนด์มาร์กที่สำคัญของเมือง ได้แก่หอคอยนาโกย่าทีวีทาวเวอร์ (Nagoya TV Tower) และ โอเอซิส 21 (Oasis 21) ถ้านั่งรถไฟสาย Higashiyama Line หรือMeijo Line มาลงสถานี Sakae (ทางออก 3 หรือ 4) หรือนั่งรถไฟสาย Meijo Line หรือ Sakuradori Line มาลงสถานี Hisayaodori (ทางออก 4B) ก็จะเห็นหอคอยนาโกย่าทีวี ทาวเวอร์ (Nagoya TV Tower) หอคอยส่งสัญญาณโทรทัศน์ที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่นสร้างเสร็จเมื่อปี 1954 มีอายุมากกว่าโตเกียวทาวเวอร์อีก ตั้งอยู่ในบริเวณสวน Hisaya Odori Park มีความสูงทั้งสิ้น 180 เมตร และมีจุดชมวิว Skydeck ที่ความสูง 90 เมตร และ Skybalcony ที่ความสูง 100 เมตร

ไม่ไกลจากหอคอยนาโกย่าทีวีทาวเวอร์มีอาคารรูปทรงแปลกตาชื่อโอเอซิส 21 (Oasis 21) ความน่าสนใจอยู่ที่ลักษณะหลังคากระจกขนาดใหญ่รูปวงรีที่คล้ายกับยานอวกาศซึ่งเรียกว่า Spaceship-Aqua หลังคานี้ออกแบบให้สามารถใส่น้ำลงไปได้เพื่อลดอุณหภูมิของอากาศในช่วงหน้าร้อน ด้านในมีจุดชมวิว มีศูนย์การค้า ร้านค้า ร้านอาหาร พื้นที่จัดกิจกรรม โดยนักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นไปชมวิวด้านบนได้ ส่วนด้านล่างยังประกอบไปด้วย และท่ารถบัสไปยังสนามบินและเมืองอื่นๆ

อีกศูนย์กลางที่เป็นที่นิยมคือ ศูนย์การค้าซันไชน์ซาคาเอะ (Sunshine Sakae) เราสามารถนั่งรถไฟสาย Higashiyama Line หรือ Meijo Line มาลงสถานี Sakae (ทางออก 8) ศูนย์การค้าแห่งนี้มี 7 ชั้น จุดเด่นคือ Sky Boat ชิงช้าสวรรค์ขนาด 52 เมตรซึ่งอยู่ด้านนอกของอาคารนั่นเอง ทางเข้าอยู่บนชั้น 3 เป็นจุดหนึ่งที่เราจะเห็นวิวทิวทัศน์อันสวยงามนาโกย่าในมุมสูงได้อีกแห่ง แนะนำให้ไปช่วงกลางคืนจะสวยยิ่งขึ้น ชิงช้าสวรรค์นี้เปิดตั้งแต่ 11.00-23.00 น. ราคาค่าบริการ 500 เยนต่อรอบจากเที่ยวศูนย์การค้าไปชมวัดและไหว้ศาลเจ้ากัน นั่งรถไฟสาย Tsurumai Line มาลงที่สถานี Osu Kannon (ทางออก 2) จะถึงย่านโอสึ (Osu)

ซึ่งมีวัดพุทธชื่อเสียงโด่งดังของเมืองชื่อว่าวัดโอสุคันนอน (Osu Kannon Temple) วัดพระพุทธศาสนา นิกายชินงอนวัดเดิมสร้างขึ้นเมื่อปี ในปี ค.ศ. 1333 ที่จังหวัดโอวาริ (Owari) ซึ่งปัจจุบันคือจังหวัดกิฟุ (Gifu) และเนื่องจากวัดเดิมถูกน้ำท่วมบ่อยครั้ง โทกุงาวะ อิเอยาสุ จึงได้ย้ายที่ตั้งของวัดมาที่เมืองนาโกย่าตั้งแต่ปี ค.ศ. 1612 จนถึงปัจจุบัน

ภายในวัดเป็นที่ประดิษฐานเจ้าแม่กวนอิมของญี่ปุ่น และเป็นที่ตั้งของห้องสมุดชินปุกุจิ (Shinpukuji Library) ห้องสมุดที่รวบรวมหนังสือญี่ปุ่นโบราณกว่า 15,000 เล่มไว้ที่นี่ ใกล้กันนั้นมีย่านช้อปปิ้งโอซุ (Osu Shopping Street) ที่มีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขนม มากมายกว่า 1,200 ร้านอีกหนึ่งสถานที่สำคัญ สำหรับยึดเหนี่ยวจิตใจคือศาลเจ้าอะสึตะ (Atsuta Shrine) ที่นอกจากจะเป็นศาลเจ้าชินโตเก่าแก่ของเมืองนาโกย่าแล้วยังเป็นศาลเจ้าที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของญี่ปุ่น

บริเวณศาลเจ้ายังเป็นที่ตั้งของ Bunka-Den (Treasure Exhibition Hall) ซึ่งเป็นที่เก็บรักษาโบราณวัตถุของญี่ปุ่นนับ 1,000 ชิ้น หากต้องการเข้าชมมีค่าเข้าชม 300 เยน การมาที่นี่ให้นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Jingunishi (Meijo Line), สถานี Jingumae (Meitetsu Line), สถานี Atsuta (JR)

ปิดท้ายอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวแลนด์มาร์คหลักของเมืองนาโกย่า นั่นก็คือ ปราสาทนาโกย่า (Nagoya Castle) ปราสาทสีขาวหลังคาสีเขียวสวยงาม โดดเด่นกลางเมือง สร้างขึ้นสมัยเอโดะ เมื่อปี ค.ศ. 1610-1612 โดยโชกุนโทกุงาวะ อิเอยาสุ (Tokugawa Ieyasu) แม้จะถูกเพลิงไหม้จนเสียหายในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ได้รับการบูรณะใหม่ในปี ค.ศ. 1959 ทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในปราสาทที่ใหญ่สวยมากที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น และเป็นปราสาทแห่งแรกที่ของญี่ปุ่นที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นสมบัติของชาติ

นอกจากตัวปราสาทแล้วจุดเด่นอยู่ที่ส่วนยอดของหลังคาปราสาท (Kinshachi) เป็นรูปสลักปลาหัวเสือทองคำ นับได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของเมืองนาโกย่า สำหรับเมืองนาโกย่าแล้วเรียกได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นในการเดินทางท่องเที่ยวภูมิภาคชูบุที่สำคัญเมืองหนึ่ง และเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ต้องการท่องเที่ยวในเส้นทางใหม่ของญี่ปุ่น

Share This Post:Share on Facebook0Share on Google+0Tweet about this on TwitterShare on LinkedIn0