ชีวิตรื่นรมย์จาก Zurich – Basel

Story & Photo by Kanjana Hongthong

สวิตเซอร์แลนด์ช่วงสปริง ทำให้ฉันได้เห็นดอกไม้ใบหญ้าเบ่งบาน ได้เห็นอารมณ์อ่อนละมุนของสวิตเซอร์แลนด์ แต่จำได้ว่าเมื่อเดือนร้อนเดินทางมาถึง จากหญิงสาวผู้มีอารมณ์อ่อนหวานจะกลายเป็นหญิงสาวผู้เบิกบานให้ผู้คนจากทั่วโลกได้เดินทางมาสัมผัส

เป็นการไปสวิตเซอร์แลนด์อีกครั้ง แต่เที่ยวนี้ตั้งใจจะตั้งหลักที่ซูริคจริงๆ โดยปกติฉันมักจะบินเข้าทางเจนีวา หรือไม่ก็นั่งรถไฟจากเมืองอื่นเข้าซูริค และยังเป็นเที่ยวที่คิดจะอ้อยอิ่งอยู่กับซูริคอย่างจริงจัง เพราะที่ผ่านมาส่วนใหญ่จะเป็นประเภทโฉบๆ ใส่ซูริคซะมากกว่า

เที่ยวนี้ไม่ได้ใช้ตั๋วรถไฟแบบ Swiss Pass แต่ใช้ตั๋วรถไฟประเภท Eurail Global Pass เพราะยังมีโปรแกรมสัญจรในยุโรปอีกหลายประเทศ ถึงจะเป็นพาสคนละแบบ แต่ที่เหมือนกันคือใช้สัญจรเข้าตัวเมืองซูริคได้ แค่ 15 นาทีโดยประมาณ รถไฟก็พาเข้าซุกใจกลางซูริค เมืองใหญ่ของสวิตเซอร์แลนด์ที่ใครๆ ก็พากันเข้าใจผิดคิดว่าเป็นนครหลวงของสวิตเซอร์แลนด์

ลมเย็นของซูริคกรูกันเข้ามาต้อนรับอย่างเป็นกันเอง ซูริคไม่เคยทำให้นักเดินทางผิดหวัง ไม่เคยร้อนอย่างแสนสาหัสจนทำให้หงุดหงิด และมีลมเย็นๆ คอยลูบไล้ตลอดเวลา

ซูริคในสปริงจึงอยู่ด้วยแล้วสบายใจเสมอ แต่ถ้าเป็นวินเทอร์ละก็ หนาววายร้ายจนไม่ค่อยน่าเข้าใกล้เท่าไหร่

ริมแม่น้ำลิมมัตยังคงเป็นมุมที่น่าแขวนตัวเองไว้แถวนั้นเสมอ ไม่เคยมีคำว่าเร่งรีบของคนแถวริมแม่น้ำ ราวกับว่า พวกเขาตั้งใจมาอยู่ในมุมนี้เพื่อใช้ชีวิตอย่างเนิบช้า

บ้างเพิ่งเดินละจากโบสถ์กรอสมุนสเตอร์ที่อยู่เคียงสายน้ำ

บ้างกำลังหาที่จอดสองล้อเพื่อมานั่งทอดอารมณ์อยู่ริมแม่น้ำ หญิงสาวกับลูกรักของเธอกำลังหยอกล้อกับลมร้อนอย่างเพลินอารมณ์

ไม่ใช่ทุกมุมในซูริคหรอกนะ ที่บรรณาการด้วยฉากชีวิตที่ไหลเอื่อยเยี่ยงนี้ คงต้องพาตัวเองมาป้วนเปี้ยนแถวริมแม่น้ำลิมมัตนั่นแหละ ถึงจะได้เห็นอิริยาบถที่สงบงามของผู้คนริมสายน้ำ เสียงนักดนตรีกำลังลองเครื่องเสียงอยู่ริมจัตุรัสเล็กๆ ที่อยู่ริมแม่น้ำ พวกเขาคงเตรียมปฏิบัติภารกิจประจำวัน เพื่อแลกเสียงเพลงกับเศษเงินยูโรจากมนุษย์ผู้ผ่านทาง

นักเดินทางประเภทนิยมแฮงก์เอาท์ตามคาเฟ่พากันนั่งปักหลักจิบกาแฟอย่างไม่รู้เบื่อ เที่ยววันละสถานที่ก็คงเพียงพอ แต่บางทีพวกเขาอาจจะมีความสุขกว่านักท่องเที่ยวที่เดินสายเที่ยว 5 มุมสำคัญของซูริคจบภายในครึ่งวันก็ได้ ใครจะไปรู้ ใจอยากจะอ้อยอิ่งอย่างพวกเขาบ้าง

แต่บางทีชีวิตก็ไม่ได้เป็นใจให้เนิบนาบเสมอไป จึงเดินเลาะริมแม่น้ำลิมมัต ดื่มกินบรรยากาศละมุนละไมของซัมเมอร์อย่างค่อยเป็นค่อยไป ก่อนสองขาจะเหนี่ยวนำ พาเข้าซอกซอยของซูริคอย่างไม่รู้ตัว

ไม่ได้แค่ป้ายเซลล์ตัวแดงๆ เท่านั้น แต่ในซอกซอยยังยั่วยวนฉันด้วยร้านช็อกโกแลตที่เห็นแล้วไม่แวะก็คงจะดูใจจืด คนขายที่เดินทางไกลมาจากเปรูคะยั้นคะยอให้ชิมช็อกโกแลตในร้านของหล่อน

ฝั่งตรงข้ามเป็นร้านขายมีดสวิสที่คนมาที่นี่มักพากันไปยืนอออยู่หน้าตู้ จ้องกันตาไม่กระพริบ เพราะขึ้นชื่อว่ามีดสวิส ไม่รู้ว่าดีที่สุดหรือเปล่า แต่หากถอยมีดมาแล้วสามารถเอาไปคุยเป็นคุ้งเป็นแควกับมิ่งมิตรได้ว่ามีดพับนี้

เดินทางมาจากสวิส จะดูขลังและคมขึ้นเท่าตัว แต่ร้านที่เห็นสะกดจิตนักเดินทางได้มากที่สุด น่าจะเป็นร้านนาฬิกาสารพัดยี่ห้อ ใครไม่เชื่อไปเดินเร่บนถนนบาห์นฮอฟที่ทอดยาวจากสถานีรถไฟไปหาทะเลสาบซูริค ร้านนาฬิกาบนถนนสายนี้มีนับไม่ถ้วนจริงๆ แต่ที่แน่ๆ แต่ละร้านจะมีมนุษย์ไปยืนเกาะกระจกดูนาฬิกากันเหมือนถูกสะกดจิต นอกจากจะได้รับการยืนยันว่าเป็นนาฬิกาดีและเที่ยงตรงที่สุดในโลกแล้ว ก็เหมือนมีดพับนั่นแหละ ลองได้ถอยมาจากสวิสใส่แล้วมันดูโก้ขึ้นมาทันตาเห็น

ฉันวนเวียนอยู่กับสถานที่เดิมๆ ในซูริคเหมือนกับทุกครั้ง เข้าโบสถ์นั้นออกโบสถ์นี้ แล้วชีวิตก็ไปจบอยู่หน้าทะเลสาบ ตั้งใจว่าจะไปล่องเรือ แต่บังเอิญไปเจอตลาดนัดที่จัตุรัสเบิร์กคลิพลาซท์เข้า แผนการทุกอย่างจึงเป็นอันล้มเหลว ประกาศตัวปาวๆ ว่าเป็นนักท่องตลาด ไม่ใช่นักท่องทะเลสาบ ระหว่างทะเลสาบกับตลาดฉันจึงเลือกอย่างหลังอย่างไม่ลังเล

ตลาดนัดกลางแจ้งแห่งนี้มีทุกวันอังคาร ตั้งแต่ 7 โมงเช้าไปยันเที่ยงๆ ที่นี่จะมีแผงผักสด ผลไม้ ต้นไม้ ดอกไม้ ร้านชีส มะกอก ไปยันอาหารการกินมากหน้าหลายตา คุณป้าร้านขายเห็ดโรยยิ้มสวิสมาเชื้อเชิญให้ชมเห็ด มีเห็ดมากกว่าสิบชนิด ส่วนสามีของแกขายปลาแซลมอนรมควันที่เดินทางมาจากอลาสก้าและแถวสแกนดิเนเวีย ทั้งเห็ดและแซลมอนไม่ได้น่าสนใจเท่าบทสนทนาของแกทั้งคู่ รสชาติของบทสนทนาคงอร่อย จึงจบลงด้วยการซื้อเห็ด ทั้งที่ยังไม่รู้ว่าจะเอาไปทำอะไร ฝ่ายลุงป้าแถมแยมโฮมเมดที่ป้าทำเองกับมือมาให้หนึ่งขวด

เป็นอีกครั้งที่ทำให้ฉันเชื่อว่า ตลาดเป็นมากกว่าตลาดเสมอ ไม่ได้เป็นแค่สถานที่ขายข้าวปลาอาหาร แต่เป็นมุมที่มีมิตรไมตรี รอทุกคนอยู่ ชมและชิมไปทั่วตลาด จึงนั่งรถรางไปหาบาห์นฮอฟ สถานีรถไฟประจำเมืองที่มีรางเหล็กทอดยาวไปหาเมืองบาเซล อีกเมืองหนึ่งที่คนมาซูริคแล้วมีเวลาเหลือเฟือ มักจะจัดเวลาเผื่อให้กับบาเซลด้วย มันไม่ใช่บาเซลเที่ยวแรกของฉันหรอก เพราะเมื่อ 3 ปีก่อน ฉันก็เคยนั่งรถไฟมาหาบาเซลแล้วครั้งหนึ่ง มาเที่ยวนี้เมื่อยืนอยู่หน้าสถานีรถไฟ จึงไม่ได้ดูเด๋อด๋าเหมือนครั้งก่อน รถรางจากหน้าสถานีรถไฟค่อยเคลื่อนตัวโคลงเคลงบนรางเข้าประชิดเมืองเก่า ภาพเดิมๆ ของบาเซลเข้ามาช่วยปะติดปะต่อความทรงจำอีกรอบ

ยังจำได้ มันเป็นเช้าวันอาทิตย์ที่ฉันอดประหลาดใจไม่หาย เมื่อพบว่าชาวบาเซลมายืนต่อคิวเข้าอาร์ทแกลเลอรีกันยาวเหยียด ส่วนพิพิธภัณฑ์เองก็มีผู้คนหอบลูกจูงหลานมาเข้ากันเต็มไปหมด นั่นทำให้ฉันรีบสืบเสาะตัวตนของบาเซล จึงพบว่า บาเซลเป็นเมืองสุนทรีย์ที่คนรักศิลปะชอบไปฝังตัวกัน คนที่นี่เขาจึงเข้าพิพิธภัณฑ์ อาร์ทแกลเลอรีและโรงละครกันไม่เว้นแต่ละวัน

ใครที่เคยผ่านบาเซลมาแล้ว จึงมักมีคำแนะนำบอกนักเดินทางรุ่นน้องเสมอว่าถ้ามาถึงบาเซลแล้วลองมองหาโรงละคร แล้วชมการแสดงดีๆ สักคืน ไม่ว่าจะเป็นโอเปรา บัลเลต์ และการแสดงละครเวที และไม่ต้องกลัวว่าจะหาไม่เจอเพราะบาเซลมีโรงละครให้เลือกเข้าหลายแห่ง จนได้รับการยกย่องว่าเป็นโรงละครที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรปเลยทีเดียว

ถึงบาเซลจะเป็นเมืองใหญ่ ก็แอบรื่นรมย์พอตัว อาจจะเป็นเพราะเป็นเมืองที่ทอดตัวอยู่ริมแม่น้ำไรน์ แถมเป็นเมืองศิลปะอีกต่างหาก บาเซลเลยกลายเป็นเมืองที่รุ่มรวยอารมณ์สุนทรีย์ประจำสวิตเซอร์แลนด์ นอกจากบาเซลจะมีโรงละครเอาไว้ให้ผู้คนได้ตักตวงความสุนทรีย์ ยังเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องพิพิธภัณฑ์ โดยเฉพาะพวกพิพิธภัณฑ์ศิลปะจะมีมากเป็นพิเศษ

สำหรับคนที่พกพาสวิส พาสอยู่ในกระเป๋า ใช้เข้าพิพิธภัณฑ์ทั่วสวิสกว่า 400 แห่งได้ฟรี เฉพาะในตัวเมืองบาเซลก็มีมากกว่า 20 แห่ง เรียกว่าดูกันอิ่มไปข้าง รถรางพาหยุดตรงจัตุรัสมาร์คพลาซ์ ที่อยู่กลางเมืองพอดี ดูเหมือนด้านหน้าของทาวน์ฮอลล์จะมีตลาดนัด แผงผักผลไม้และดอกไม้ยังประดับจัตุรัสอยู่ นี่มันหนังคนละม้วนกับเมื่อตอนเจอกันครั้งแรกชัดๆ จากจัตุรัสที่เคยว่างโล่งในวันอาทิตย์ วันนี้มีแต่พ่อค้าแม่ขายนำข้าวของออกมาวางเรียกลูกค้า

ปกติถ้าเป็นวันจันทร์ถึงเสาร์จะมีตลาดนัดย่อมๆ มาเปิด แผงขายดอกไม้ ต้นไม้ ผักผลไม้ ขนมปังและอาหารการกิน แต่ที่เหมือนเดิม เห็นจะเป็นสีแดงของอาคารทาวน์ฮอลล์ที่วันนี้ยิ่งโดนแดดซัมเมอร์เข้าไป ยิ่งเปล่งประกายสีแดงขับให้จัตุรัสดูสดใสมากขึ้นอีก เที่ยวก่อนรู้จักบาเซลแบบไม่สมประกอบเท่าไหร่ เพราะแม้แต่ด้านในของทาวน์ฮอลล์ฉันก็แทบไม่ได้ผลักประตูเข้าไป แต่เที่ยวนี้มีเวลาอ้อยอิ่ง จึงพบว่าสถานที่หนึ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาถึงบาเซลคือด้านในของทาวน์ฮอลล์นั่นเอง

ภาพเขียนบนฝานัง รูปปั้น เติมแต่งให้อาคารแห่งนี้ไม่ธรรมดา และที่แน่ๆ มีนักเดินทางแวะเวียนเข้ามาไม่ขาดสาย อาคารแห่งนี้สร้างช่วงต้นศตวรรษที่ 16 ตั้งอยู่อย่างโดดเด่น เดิมทีอาคารหลังนี้เคยเป็นวังเก่ามาก่อน แต่ได้รับการบูรณะปรับปรุงใหม่ให้สวยสด บาเซลเป็นเมืองเก่าในยุคกลางที่มีสถาปัตยกรรมแบบคลาสสิก มีรถรางเก่าแก่วิ่งผ่านใจกลางเมือง ซึ่งการจะทำความรู้จักกับเมืองเก่าของบาเซลนั้น ใช้บริการสองเท้านี่แหละเวิร์กสุด เพราะความที่เป็นเมืองเก่าที่ไม่ได้ใหญ่มาก 2 เท้าลุยเข้าไปในเขตเมืองเก่า ยังมีสถานที่อีกแห่งหนึ่งของบาเซลสินะที่ฉันควรเดินทางไปทำความเคารพ ที่นั่นคือ วิหารมึนสเตอร์ส ที่อยู่บริเวณจัตุรัสมึนเสตอร์ส

ที่จริงเดินเท้าจากจัตุรัสมาร์คพลาซ์ส ลัดเลาะไปตามตรอกแคบๆ ไปตามป้ายก็ถือว่าอยู่ไม่ไกลกันนัก ศาสนสถานที่สร้างด้วยหินสีแดงยังคงทอดตัวอยู่ริมแม่น้ำไรน์อยู่ที่เดิม ฉันอยากเห็นภาพของวิหารแห่งนี้เมื่อแรกสร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 เหลือเกิน เขาว่าสวยสมบูรณ์แบบ แต่พอเกิดแผ่นดินไหว สร้างความเสียหายให้โบสถ์แห่งนี้อย่างหนัก จนต้องมาบูรณะฟื้นฟูกันชุดใหญ่เมื่อช่วงกลางศตวรรษที่ 14 โดยมากก่อนจะเข้า หลายคนก็พากันแหงนหน้าดูรูปสลักหินแบบโรมันที่อยู่หน้าประตู แต่พอเข้าสู่ด้านในวิหาร นอกจากความเข้มขลังของโบสถ์

ยังมีมุมที่น่าสนใจอย่างอนุสรณ์สถานของนักปรัชญาชื่อดังอย่างอีรัสมัส นอกจากนี้ ยังมีแท่นอ่านพระคัมภีร์สลักเอาไว้อย่างดงาม รวมถึงสุสานใต้ดินด้วย ด้านข้างวิหารมีอาคารที่ใช้จัดแสดงงานศิลปะร่วมสมัย พวกศิลปินจะพากันหมุนเวียนสับเปลี่ยนมาแสดงงานของตัวเองอยู่เรื่อยๆ เดินทะลุออกไปด้านหลัง คราวนี้ล่ะ จึงได้เจอมุมสงบงามของบาเซล ริมแม่น้ำไรน์เบิกบานอย่างเห็นได้ชัด ผู้คนพากันออกมานั่งๆ นอนๆ ผึ่งแดดกันริมสายน้ำ พอพาตัวเองมาสูดอากาศริมไรน์ถึงได้รู้ว่า ชีวิตริมไรน์เคลื่อนไปอย่างรื่นรมย์ จากซูริคจนถึงบาเซลหอมหวานน่าเข้าใกล้ คงแบบนี้กระมัง สวิตฯ จึงน่าหลงใหลเสมอในสายตาของนักเดินทาง

– สายการบินยูเครน อินเตอร์เนชั่นแนล แอร์ไลน์ มีเที่ยวบินไปซูริค ใครที่กำลังมองหาตั๋วเรือบินเข้ายุโรปราคาไม่แพงจนเกินไป ที่นั่งสะดวกสบายลองมองยูไอเอเป็นตัวเลือกได้ เพราะเขามีบินเข้าหัวเมืองใหญ่ในยุโรปไม่ใช่น้อยเหมือนกัน นอกจากซูริคก็มีปารีส เบอร์ลิน ลอนดอน บรัสเซลส์ โรม และอัมสเตอร์ดัม สอบถามที่ 0 2652 6089 หรือคลิก www.flyuia.com
– หากสัญจรมาจากหัวเมืองใหญ่อื่นๆ ในยุโรปเช่นอัมสเตอร์ดัม บรัสเซลหรือลอนดอน แล้วนั่งรถไฟมาซูริคหรือบาเซลใช้บริการรถไฟยุโรปได้ คลิกไปดูรายละเอียดของพาสประเภทต่างๆ ของรถไฟยุโรไปได้ที่ www.raileurope.co.th
– ซูริคและบาเซลมีที่พักให้เลือกหลายโซน คลิกไปสำรวจก่อนได้ที่เว็บไซต์อโกดา www.agoda.com
– เข้าไปดูข้อมูลของซูริคได้จากเว็บไซต์ของการท่องเที่ยวซูริค www.zuerich.com มีข้อมูลการท่องเที่ยวแนะนำหรือที่เว็บไซต์ของการท่องเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ www.myswitzerland.com