Vancouver a Livable City

Story & Photo by Kanjana Hongthong

บางเมืองแค่น่าดู บางเมืองแค่น่าเดิน บางเมืองแค่น่าเที่ยว แต่เป็นอันรู้กันแวนคูเวอร์ (Vancouver) แห่งแคนาดา (Canada) นั้น ถูกโหวตให้อยู่ในลิสต์ของ “เมืองน่าอยู่” มาต่อเนื่องแทบทุกปี แทบจะเรียกได้ว่า ไม่มีปีไหนที่แวนคูเวอร์ หลุดโผเลยด้วยซ้ำ

สำหรับฉัน เคยทำความรู้จักกับแวนคูเวอร์เมื่อหลายปีก่อน ถึงแม้จะเพียงแค่ผิวเผิน แต่พูดเลยว่า สัมผัสได้ถึงความน่าอยู่ของแวนคูเวอร์ ทั้งอากาศ ผู้คน ภูมิทัศน์ สมรู้ร่วมคิด ให้แวนคูเวอร์น่าอยู่เสมอ

หลังจากแวะเปลี่ยนเครื่องที่ฮ่องกง ก็บินต่ออีกราว 12 ชั่วโมงก็ถึงแวนคูเวอร์ จากสนามบิน เข้าตัวเมืองโดยแท็กซี่ ใครไม่ได้แลกเงินเป็นสกุลเงินของแคนาดา สามารถจ่ายเป็นยูเอสดอลลาร์ ได้เลย หรือจะจ่ายเป็นบัตรเครดิต แท็กซี่ทุกคันก็มีเครื่องรูดบัตรคอยให้บริการอยู่แล้ว

จากประสบการณ์การนั่งแท็กซี่ทุกคันในแวนคูเวอร์ฉันพบว่า 100% เป็นชาวอินเดียที่เข้ามาตั้งรกรากทำงานในแวนคูเวอร์ เที่ยวนี้ ฉันเลือกที่พักใจกลางเมืองเลย เพราะจำได้ว่าแวนคูเวอร์เป็นเมืองเดินเที่ยวสบายๆ เลยคลิกเข้าไปเลือกที่พักผ่านเว็บไซต์ของแอร์บีเอ็นบี ที่มีที่พักให้เลือกเยอะมาก ข้อดีคือมีบริเวณมากกว่าโรงแรม มีห้องครัวและอุปกรณ์ให้ทำอาหารได้ สะดวกสบายกว่าอยู่โรงแรม

จากที่พักเดินแค่นิดเดียวก็ถึงย่านแกสทาวน์ (Gastown) นาฬิกาไอน้ำเรือนแรกของโลกพ่นไอน้ำฟุ้งปลิวออกมาต้อนรับขับสู้ ที่จริงมันทำตามหน้าที่ พ่นไอน้ำออกมาอย่างนี้ทุก 15 นาทีอย่างไม่เคยอิดออดใส่นักท่องเที่ยว ย่านนี้จัดว่าคึกคักและมีนักท่องเที่ยวเดินกันให้ว่อนไปหมด แน่นอนว่ามีทั้งคาเฟ่ ร้านอาหารและร้านรวงให้ช้อปปิ้งเยอะ แน่นอน

จากที่นี่ ฉันนั่งรถเมล์ไปลงที่ สแตนลีย์ปาร์ก (Stanley park) นี่คือปอดของเมือง ที่ให้ชาวเมืองได้มายืดเส้นยืดสายและสูดอากาศดีๆ ก็เหมือนนิวยอร์ก บางคนบ่นว่า ชาวนิวยอร์กอยู่กันเข้าไปได้ยังไง ตึกแน่นขนัดอัดเมืองขนาดนั้น คนพูดคงยังไม่ได้เห็นปอดของนิวยอร์กอย่างเซ็นทรัลปาร์กที่ซ่อนอยู่ในดงคอนกรีตว่ามหึมาและเป็นปอดที่มีคุณภาพแค่ไหน

สแตนลีย์ไม่ใช่แค่ใหญ่กว่าสวนหลวง ร. 9 รวมกับสวนลุมฯ แต่ใหญ่กว่าเซ็นทรัลปาร์กซะอีก แต่ก่อนที่นี่เคยเป็นสวนสัตว์ แต่คนชาวแคนาดาคิดว่า สัตว์ไม่ควรถูกกักขังอยู่ในกรง จึงยกเลิกและทำเป็นสวนให้คนได้เข้ามาพักผ่อนหย่อนจิตกัน

ชาวแวนคูเวอร์หาวิธีแก้เครียดจากหน้าที่การงานด้วยการขับรถมาจอด มาวิ่งจ็อกกิ้งในสวนแห่งนี้ หนุ่มสาวลื่นไถลไปบนถนนด้วยสเกตบอร์ด สาวๆ ใส่บิกินีมานอนผึ่งแดดบนชายหาด บ้างก็พาลูกเด็กเล็กแดงมาเล่นน้ำ ตรงสวนน้ำ

ส่วนใหญ่จะมากันเป็นครอบครัว ปูเสื่อนั่งปิกนิกกันใต้ร่มไม้ แต่พวกนักปั่นจะเยอะหน่อย ที่จริงแล้ว สวนแห่งนี้เคยเป็นฐานที่ตั้งของกองทัพเรือ แต่มีการส่งมอบที่ดินโดยรัฐบาลอังกฤษในปี 1888 และตั้งชื่อขึ้นมาจากชื่อของลอร์ดสแตนลีย์ ออฟ เพรสตัน นายพลผู้ปกครองของแคนาดา สมัยที่ปาร์กแห่งนี้เริ่มเปิดให้บริการ เขามีปณิธานที่มุ่งมั่นในการปกป้องและรักษาทรัพยากรธรรมชาติในบริเวณนี้ให้คงสืบไป

ที่ฉันชอบที่สุดน่าจะเป็นทางเดิน 22 กิโลเมตร ที่เลียบทะเล เวลาแดดหวานๆ

นี่เป็นช่วงที่ดีที่สุด ที่จะมายืดเส้นยืดสายแถวนี้ แล้วรอดูซันเซตสวยๆ ในช่วงซัมเมอร์

อีกที่หนึ่งที่จะทำให้ทุกคนหลงรักแวนคูเวอร์คือสะพานแขวนคาปิลาโน (Capilano Suspension Bridge) สถานที่ท่องเที่ยวที่จัดว่าเป็นที่ยอดนิยมแห่งเมืองแวนคูเวอร์ สะพานมีความยาวประมาณ 140 เมตร สูง 70 เมตร จากแม่น้ำคาปิลาโน ซึ่งเป็นที่มาของชื่อสะพานนี้เอง สะพานถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ.1889 โดยวิศวกรชาวสกอตแลนด์ ทุกวันนี้สะพานแห่งนี้เป็นสถานที่คล้ายๆ สวนสาธารณะ มีลักษณะเป็นป่าฝนและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์

ที่นี่ยังมีศูนย์ให้ศึกษาเรื่องราวของชนเผ่าพื้นเมืองที่เคยอาศัยอยู่ และมีคอลเลกชันเสาโทเทมของคนพื้นเมืองให้ได้ชม ฉันมีโอกาสไปเดินเล่นแถว Cliffwalk และ Treetops Adventure พูดเลยว่าเหมาะกับคนที่ชอบธรรมชาติและความหวาดเสียว แต่ที่เป็นโปรแกรมบังคับสำหรับทุกคน คงจะเป็นการเดินทอดน่องไปบนสะพานแขวนคาปิลาโน

ที่เวลาโคลงเคลงนิดๆ แกว่งหน่อยๆ ยิ่งชวนให้สนุกและตื่นเต้น เมื่อเริ่มแรกสะพาน เขาทำมาจากแผ่นกระดานไม้สนและเชือกปอ ต่อจากนั้น เชือกปอที่ใช้ก็ถูกเปลี่ยนมาใช้สายเคเบิลเหล็กแทนมีความแข็งแรงพอที่จะรับน้ำหนักของคนมากกว่า 1,300 คนได้

จากนั้น ยังพอมีเวลาเลยนั่งรถไปที่เกาะแกรนวิลล์ (Granville Island) กันต่อ ที่นี่เป็นมุมสุนทรีย์ของแวนคูเวอร์ พวกสุขนิยมอย่างฉันไม่เคยมีประวัติเชิดใส่ความสุนทรีย์

คล้ายว่านักท่องเที่ยวที่มาแวนคูเวอร์ จะแวะเวียนมากองรวมกันอยู่ที่นี่ เกาะแกรนวิลล์เลยคึกคักผิดวิสัยแม้เป็นวันธรรมดา ตลาดนัดขายอาหารการกิน ตลาดต้นไม้ดอกไม้ ตลาดนัดศิลปะ ตลาดขายของเด็กเล่น

ตลาดของแต่งบ้าน ลานกลางแจ้งสำหรับศิลปะทุกแขนง บอกแล้วว่าสุนทรีย์ล้นเอ่อจริงๆ

อยู่กับแวนคูเวอร์สัก 3-4 วันก็จะเข้าใจเลยว่า ทำไมตำแหน่งเมืองน่าอยู่ถึงตกเป็นของแวนคูเวอร์ปีแล้วปีเล่า ของแบบนี้ต้องมาสัมผัสด้วยตัวเอง

– คนไทยไปเที่ยวแคนาดาควรวางแผนทำวีซ่าล่วงหน้าอย่างน้อย 2 เดือน
– ค้นหาที่พักในแวนคูเวอร์ได้ที่ www.airbnb.com มีให้เลือกหลายแบบและหลายราคา
– สายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิกมีเที่ยวบินไปแวนคูเวอร์วันละ 2-3 ไฟลต์ ทุกวัน โดยแวะเปลี่ยนเครื่อง ที่ฮ่องกง และในแถบอเมริกาและแคนาดา
– ยังมีเที่ยวบินบินไปโตรอนโต ซานฟรานซิสโก ซีแอตเทิล ลอสแอนเจลิส วอชิงตันดีซี และนิวยอร์กด้วย

Share This Post:Share on Facebook0Share on Google+0Tweet about this on TwitterShare on LinkedIn0