Los Angeles City of Fallen Angels

ลอสแองเจลิส หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า แอลเอ (L.A.) ในภาษาสเปนแปลว่าเมืองแห่งทูตสวรรค์ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากนิวยอร์กซิตี้ ลอสแองเจลิสมีครบครันทั้งชายหาด ภูเขา มีความหลากหลายทางชาติพันธุ์และวัฒนธรรม อุตสาหกรรมภาพยนตร์ฮอลลีวูด รวมไปถึงย่านไฮโซสุดเริ่ดอย่างเบเวอร์ลี ฮิลล์ และสวนสนุกดิสนีย์แลนด์สาขาแรกของโลก ซึ่งทำให้หลายคนน่าจะตกหลุมรักได้ไม่ยาก

สถานที่ท่องเที่ยว ลอสแอนเจลิส ที่น่าสนใจมีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นย่านดาวน์ทาวน์ แอลเอ (Downtown LA) ครั้งหนึ่งเคยเป็นเขตอุตสาหกรรมหนัก ปัจจุบันดาวน์ทาวน์นี้เต็มไปด้วยพื้นที่สีเขียวอย่างใต้ร่มเงาเชิงเขา Angels Knoll ริมน้ำพุใน Maguire Gardens หรือบนดาดฟ้าของ Walt Disney Concert Hall ซึ่งมีสวนสาธารณะให้คุณเดินเล่นได้

มีอาคารที่มีรูปแบบทางสถาปัตยกรรมทั้งสวยงาม ล้ำสมัย การผสมผสานของอาร์ตเดโคกับสถาปัตยกรรมฟื้นฟูยุคอาณานิคมสเปนเช่น ที่ยูเนียนสแควร์ หรือจะเรียนรู้วัฒนธรรมพร้อมกินอาหารอร่อยๆ ที่ไชน่าทาวน์

ถ้าครอบครัวที่มีเด็ก ลอสแองเจลิสก็มีพิพิธภัณฑ์มากมายทีเดียว ถ้าชื่นชอบการช้อปปิ้ง แนะนำย่านเมลโรส อเวนิว (Melrose Avenue) ที่มีตึกกระทัดรัดเรียงรายที่เข้าถึงได้ง่าย สะดวกต่อการจับจ่าย เหนื่อยก็นั่งจิปกาแฟชื่นชมกับบรรยากาศก็ดีไม่น้อย ที่นี่มี 3 สถานศึกษาชื่อดังซึ่งติดอันดับโลกด้วย อย่าง University of Southern California / University of California Los Angeles และ California Institute of Technology สำหรับจุดท่องเที่ยว น่าสนใจอื่นๆ อย่างเช่น

ป้ายฮอลลีวูด (Hollywood Sign)

หนึ่งในไฮไลต์ที่ทุกคนนึกถึงหากพูดถึงลอสแอนเจลิส คงหนีไม่พ้นป้ายฮอลลีวูด ที่ตั้งอยู่บนตั้งอยู่บนภูเขาลี (Mount Lee) ในพื้นที่ Beachwood Canyon ของเทือกเขาซานตาโมนิกา (Santa Monica) ป้ายสะกดด้วยในตัวพิมพ์ใหญ่สีขาวสูง 45 ฟุต (13.7 ม.) และยาว 350 ฟุต (106.7 ม.)

เดิมทีสร้างเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์สำหรับขายอสังหาริมทรัพย์ชื่อว่า Hollywood Land ในปี 2466 แต่พอครบกำหนดจะรื้อถอนกลับกลายเป็นว่า เกิดเสียงคัดค้านและประท้วงจากผู้อยู่อาศัย เนื่องจากมองว่าได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองไปแล้ว ป้ายนี้จึงคงอยู่จนถึงปัจจุบันและสามารถมองเห็นได้จากแทบทุกมุมของลอสแองเจลิส

ฮอลลีวูดวอล์กออฟเฟม (Hollywood Walk of Fame)

ถนนสายดวงดาวเกือบ 3.5 ไมล์บริเวณทางเท้าถนนฮอลลีวูด บูเลวาร์ด (Hollywood Boulevard) ในทิศตะวันออก-ตะวันตก และไวน์ สตรีท (White Street) ในทิศเหนือ-ใต้ ที่ที่หลายคนมุ่งหน้ามาเพื่อตามหาดวงดาวที่มีชื่อของดารานักร้อง นักแสดง ผู้กำกับ พร้อมเหล่าเซเลบที่มีชื่อเสียงในวงการฮอลลีวูดที่ตนเองชื่นชอบ

แผ่นหินตบแต่งเป็นรูปดาวห้าแฉก จำนวนเกือบ 5,000 ดวง จารึกชื่อของนักแสดง และบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงการมายาจาก 5 วงการ ซึ่งถือเป็นเกียรติสูงสุด สำหรับผู้ได้รับคัดเลือกให้จารึกชื่อ คือ วงการภาพยนตร์ วงการโทรทัศน์ วงการดนตรี วงการวิทยุ และวงการละครเวที

การได้มาเดินที่นี่ก็เหมือนกับว่าเราได้กระทบไหล่ดาราที่เราชื่นชอบ สร้างความสนุกสนานและตื่นเต้นยามที่กำลังมองหาป้ายของคนที่เราชื่นชอบ บนถนนเส้นนี้ยังเป็นที่ตั้งของสถานที่ประกาศรางวัลออสการ์ ที่โรงละครดอลบี้ (Dolby Theatre) และโรงละครจีน (Chinese Theatre) มีความจุผู้คนมากถึง 900 ที่นั่ง ซึ่งบริเวณหน้าโรงละครยังมีรอยประทับฝ่ามือพร้อมลายเซ็นต์ของเหล่าดาราดังของวงการอีกด้วย

หอดูดาวกริฟฟิท (Griffith Observatory)

ไม่ไกลจากป้ายฮอลลีวูด บนแนวเฉียงของภูเขาด้านทิศใต้ของภูเขาฮอลลีวูดคือ หอดูดาวกริฟฟิท ตั้งอยู่ในพื้นที่ของสวนสาธารณะกริฟฟิท สวนสาธารณะอันกว้างใหญ่

หอดูดาวแห่งนี้นาอกจากเป็นสถานที่สำคัญในเรื่องทางดาราศาสตร์แล้ว ยังเป็นสถานที่สำคัญที่เกี่ยวกับแวดวงภาพยนตร์มาตั้งแต่ปี 1935 ผู้ชื่นชอบภาพยนตร์อาจจำสถานที่แห่งนี้ได้จากภาพยนตร์ไซไฟมากมาย รวมถึงเรื่อง The Terminator และภาพยนตร์เจมส์ ดีน เรื่อง Rebel Without a Cause ในปี 1955

นอกจากตัวอาคารทรงโดมของหอดูดาวจะโดดเด่นเป็นจุดสำหรับถ่ายรูปแล้ว เรายังสามารถชมทิวทัศน์รอบเมืองลอสแอนเจลิสได้จากที่นี่ทั้งดาวน์ทาวน์ลอสแอนเจลิส ในทิศตะวันออกเฉียงใต้, ฮอลลีวูด ในทิศใต้ และมหาสมุทรแปซิฟิก ในทิศตะวันตกเฉียงใต้

โดยเฉพาะช่วงเช้าหลังพระอาทิตย์ขึ้น หรือช่วงเย็นพระอาทิตย์ใกล้ตก คุณจะได้เห็นภาพเมืองลอสแอนเจลิสที่สวยงามราวกับเมืองแห่งฑูตสวรรค์ เพราะแสงสีทองที่สะท้อนกับตึกและสถาปัตยกรรมปกคลุมไปทั้งเมือง

ย่านเบเวอร์ลีฮิลส์ (Beverly Hills)

เมืองทางด้านตะวันตกของลอสแอนเจลิสที่เต็มไปด้วยบ้านเรือนสวยๆ เก๋ๆ เป็นย่านที่อยู่อาศัยของบรรดามหาเศรษฐีและเหล่าเซเลบคนดังระดับโลก

ภาพของต้นปาล์มที่เรียงรายเป็นทิวแถว และบรรยากาศของเมืองที่เรียบร้อย สะอาดสะอ้าน ตกแต่งอย่างหรูหราและมีระดับ เรียกได้ว่าที่นี่กลายเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจของเมืองก็ว่าได้

หากใครมาเบเวอร์ลีฮิลส์แล้ว มักจะมาช้อปปิ้งที่ Rodeo Drive ซึ่งเป็นย่านช้อปปิ้งชื่อดังสุดหรูหรา ที่บรรดาคนดังฮอลลีวูดและเหล่าไฮโซมักแวะเวียนมาเยี่ยมเยือน ที่นี่มีร้านแบนด์เนมดังๆ ระดับโลกเกือบทุกแบรนด์ตั้งเรียงรายมากมาย โชคดีคุณอาจได้พบกับดาราที่ชื่นชอบที่นี่ก็ได้

ซานตา โมนิก้า หรือ แซนตามอนิกา (Santa Monica) และ เวนิส บีช (Venice Beach)

ซานตา โมนิก้า อยู่ไม่ไกลจากย่านเบเวอลี่ ฮิลล์ ภาพหาดทรายสีทองที่มีสัญลักษณ์เป็น ชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่ เป็นจุดสังเกตของที่นี่ หลายคนอาจจะคุ้นตากับเคยเป็นสถานที่ถ่ายทำของภาพยนตร์หลายเรื่อง

ความยาวชายหาดกว่า 3.5 ไมล์ ที่ประกอบไปด้วย สวนสาธารณะที่มีสนามเด็กเล่น ทางเดินและทางจักรยาน บ้านพักฤดูร้อนเก่าแก่ที่ได้รับการบูรณะ การออกแบบภูมิทัศน์ที่เป็นเอกลักษณ์ และต้นปาล์ม เต็มไปด้วยผู้คนและกิจกรรม ไม่ว่าจะเป็นกีฬาทางน้ำทั้งโต้คลื่น ว่ายน้ำ หรือกิจกรรมริมชายหาด แม้ว่าในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่อากาศหนาวๆ ผู้คนยังมาที่นี่ แม้จะไม่ได้เล่นน้ำก็ตาม เป็นจุดนัดพบที่คึกคักเสมอของเมือง

ชายหาดแบ่งออกเป็นสองส่วนคือ ทางเหนือของท่าเรือและทางใต้ของท่าเรือ ส่วนของตอนเหนือเช่น Annenberg Community Beach House ที่อยู่ทางตอนเหนือสุดของชายหาด มีบ้านและที่จอดรถ สนามเด็กเล่น North Beach ตอนกลางของหาดคือ Santa Monica Pier ท่าเรือเก่า มีทั้งสวนสนุก พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ แหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหาร นั่งเล่น คาเฟ่ต่างๆ ช่วงเย็นยามพระอาทิตย์ตกดิน บรรยากาศ จะยิ่งสวยงามและโรแมนติกสุดๆ

ทางใต้ของท่าเรือ มีที่จอดรถ สวนสาธารณะ บ้าน และโรงแรมติดชายหาด หาด Original Muscle (มีอุปกรณ์ยิมนาสติก) และ Carousel Park

อีกหนึ่งหาดที่คึกคักไม่แพ้กันคือ เวนิส บีช ตั้งอยู่ทางชายฝั่งตะวันตกของลอสแอนเจลิส ทางตอนใต้ของหาดซานตา โมนิก้าเดิมเรียกว่า “เวนิสแห่งอเมริกา” เพราะมีรีสอร์ต ริมทะเล ที่มีการขุดคลองคล้ายเวนิซริมหาดทรายสีขาวที่เหมาะแก่การเดินเล่นชมวิว ปั่นจักรยาน หรือเล่นกีฬาอย่างสเกตบอร์

ทั้งยังเป็นย่านการค้าและพักอาศัยสุดหรู ที่นี่มีทางเดินริมหาดที่แสดงถึงความเป็นอิสระอย่าง Venice Boardwalk ซึ่งเป็นแหล่งรวมร้านค้าสุดแปลก ละครใบ้ นักเล่นกล นักดนตรี นักแสดงเปิดหมวกทุกประเภท และศิลปะบนกำแพงหลากสีสัน มี Muscle Beach Gym ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นบ้านของนักเพาะกายและนักแสดง Arnold Schwarzenegger ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย

พิพิธภัณฑ์ศิลปะลอสแอนเจลิสเคาน์ตี้ (Los Angeles County Museum of Art -LACMA)

เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะตั้งอยู่บนวิลเชอร์บูเลอวาร์ด (Wilshire Boulevard) ในมิราเคลไมล์ (Miracle Mile) ก่อตั้งขึ้นในปี 1961 ออกแบบโดย William Pereira เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกาตะวันตก ดึงดูดผู้เยี่ยมชมเกือบ 1 ล้านคนต่อปี มีผลงานมากกว่า 150,000 ชิ้น ซึ่งครอบคลุมประวัติศาสตร์ศิลปะตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน

นอกจากการจัดแสดงงานศิลปะแล้วพิพิธภัณฑ์ยังมีภาพยนตร์และคอนเสิร์ตอีกด้วย ไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาดเลยคือ Urban Light ผลงานของศิลปิน Chris Burden ที่รวบรวมโคมไฟสไตล์วินเทจกว่า 202 ต้น มาจัดแสดงเป็นผลงานศิลปะอยู่ที่บริเวณด้านหน้าของทางเข้าพิพิธภัณฑ์ LACMA

The Getty Villa

ตั้งอยู่ที่ปลายด้านตะวันออกของชายฝั่งมาลิบูในย่านแปซิฟิก พาราไดซ์ (Pacific Palisades) เป็น 1 ใน 2 ของพิพิธภัณฑ์ของเจพอลเก็ตตี้ (J. Paul Getty) ภายในประกอบไปด้วยงานศิลปะรวมถึงภาพวาดยุโรปประติมากรรมและศิลปะการตกแต่งรวมทั้งการถ่ายภาพในศตวรรษที่ 19 และ 20 มากมายกว่า 44,000 ชิ้น เช่น รูปภาพสไตล์ยุโรป รูปวาดต่างๆ ศิลปะงานปูนปั้น, ภาพถ่าย และศิลปะอื่นๆ

ปัจจุบัน The Getty Villa ยังเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เป็นศูนย์กลางการให้ความรู้เกี่ยวกับด้านศิลปะ วัฒนธรรม ที่มีอิทธิพลมาจาก โรม และกรีซโบราณ อีกด้วย

ลอสแองเจลิสถือได้ว่าเป็นเมืองที่อากาศดีเกือบทั้งปี อุณหภูมิสูงสุดในฤดูร้อนประมาณ 22 – 30 องศาเซลเซียส และต่ำสุดในช่วงฤดูหนาวประมาณ 9 องศา แต่ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและใบไม้ผลิอุณหภูมิก็จะประมาณ 12-23 องศาฯ เรียกได้ว่าไปช่วงไหนก็ได้ เพียงแต่อาจจะเลี่ยงในช่วงเดือน พฤจิกายน – มีนาคม ที่มีโอกาสเจอฝน และเนื่องจากเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีค่าครองชีพค่อนข้างสูง แนะนำให้เตรียมงบไปเยอะๆ เที่ยวให้สนุกกับเมืองแห่งทูตสวรรค์แห่งนี้

Share This Post:Share on Facebook0Share on Google+0Tweet about this on TwitterShare on LinkedIn0