“กินรี กูร์เมต์ ไทย” ดื่มกิน ในป่าหิมพานต์
Story & Photo by หมูหวาน
เมื่อป่าหิมพานต์ในวรรณคดี ถูกจำลองมาเป็นร้านอาหารสไตล์โมเดิร์น บรรยากาศปลอดโปร่งสบายๆ ใจกลางถนนสุขุมวิท ใกล้กับ BTS สถานีนานา รู้จักกันในนาม ร้านกินรี กูร์เมต์ ไทย (Kinnaree Gourmet Thaiby Vanessa Wu) มา 14 ปี หลังจากปิดปรับปรุงและ เพิ่งเปิดบริการอีกครั้งเมื่อปลายปีที่ผ่านมาร้านนี้เสิร์ฟอาหารไทยเอาใจชาวไทยและต่างชาติ
จิบเครื่องดื่มซิกเนเจอร์ที่มีหลอดยาวเป็นเมตรชื่อ Light of Kinnaree มีส่วนผสมของ Light Rum,Vodkd.Malibu, Midori, Pineapple Juice และ Lemon Syrup ดื่มแล้วสดชื่น สบายใจ นอกจากนั้นยังมีเมนูเครื่องดื่มที่น่าสนใจเช่น Kinnaree Secret และ Red Kinnaree มีส่วนผสมของเบอร์รี่ต่างๆ รวมทั้งลิ้นจี่ พีช เลมอน
เชฟหน่อย-วนัสนันท์ กนกพัฒนางกูร เจ้าของร้านเล่าถึงความเป็นมาของร้านว่า หลังจากที่ทำหน้าที่เซ็ทอัพร้านอาหารไทยให้ผู้อื่นมานาน รวมทั้งเปิดร้านอาหารไทยร่วมกับเพื่อนที่ประเทศฝรั่งเศส ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาวฝรั่งเศส เพราะเธอเข้าใจในรสนิยมของพวกเขาดี
“ตั้งชื่อร้านว่ากินรีเพราะ มีคำว่า กิน และ นรี หมายถึงผู้หญิงช่างกิน ก็คือเรา อีกความหมายก็คือ มีเรื่องราวของพระสุธน มโนราห์ มีป่าหิมพานต์ฝรั่งมีโรมีโอกับจูเรียส เรามีสระอโนดาด เราก็ตั้งเรื่องของเราเอง จะต้องมีความเป็นธรรมชาติ มีต้นไม้ มีช้าง เพราะเป็นป่าหิมพานต์ต้องมี Story คนก็จะได้จดจำ เราเอาประสบการณ์ทั้งหมดเกี่ยวกับอาหารไทยมาไว้ที่นี่ ตอนนี้เราตกแต่งร้านใหม่เมื่อก่อนจะไทยจ๋ากว่านี้ ชั้นสองจะทำเป็น Cooking Studio สอนทำอาหารไทยในสไตล์ของ Vanessa Wu”
เสิร์ฟอาหารไทยที่เสนอในรูปแบบใหม่เช่น ปอเปี๊ยะผัดไทย นำก๋วยเตี๋ยวผัดไทยที่เราคุ้นเคยมาห่อแป้งปอเปี๊ยะ เสิร์ฟกับน้ำซอสผัดไทย เปิดร้านใหม่ครั้งนี้พร้อมกับนำเสนออาหารเมนูใหม่ๆ โดยพยายามนำพืชผักพื้นบ้านของไทยเข้ามาใช้เช่น เมนู เต้าหู้ทอดชะอม เธอคิดว่าคนจีนมี “เต้าหู้” เยอะมาก แต่เขาไม่มี “ชะอม” ถ้าเอาชะอมมากินกับเต้าหู้พวกเขาจะรู้สึกอย่างไร
“เป็นเมนูใหม่ๆที่นำผักพื้นบ้านมาใช้เยอะ อย่างเช่น “ผักกูด” ปรากฎว่าทำออกมาแล้วเขาก็กินได้ ลองเอา “ทุเรียน”มาทำ ข้าวผัดทุเรียน ตอนแรกคิดว่าเมนูนี้คนจีนน่าจะชอบ ปรากฏว่าวันก่อนมีคนสวีเดนมาสั่ง สามีกับภรรยาสั่งคนละจานเลย ข้าวยำบูดู คนจีนไม่กิน เราก็เลยเอาน้ำบูดูมาทำเป็น ข้าวผัดบูดู พอผ่านความร้อนก็จะไม่เหม็นคาว มีกลิ่นปลาป่น มะพร้าวคั่ว ก็เลยจะหอม ข้าวผัดปลาร้า ก็ได้รับความนิยม หมกมะเขือเผา เราก็จะเอามาปรุงกับเครื่องแกงใต้ใส่ไก่สับเนื้อกุ้งสับทำให้ลดความเข้มข้นของพริกแกงลงคนจีนกินได้ คิดเมนูต่างๆเพื่อเอามาล้อกับงานวิจัย(งานวิจัยของเธอก็คือ ทำน้ำหอมอาหารเช่นกลิ่นพริก, กระเทียม , พริกไทยดำ, ใบโหรพาฯลฯ ฉีดลงบนอาหารเพิ่มความหอม) ที่เราจะเอามาใช้ เรียกที่นี่ว่าเป็น Food Lab ก็ว่าได้”
เมนูยอดนิยมของร้านนี้ที่ชาวต่างชาติลงเครื่องมาแล้วต้องสั่ง ยำส้มโอ ก่อนกลับมาทานอีกครั้ง เชฟหน่อยเล่าว่า ยำส้มโอของเธอหอมกรุ่นกลิ่นมะพร้าวคั่ว หอมแดงเจียว ยำรวมกันแล้วเกิดเสน่ห์ในรสชาติ ต้องเลือกส้มโอที่มีรสหวานอมเปรี้ยว เนื่องจากต่างชาติรู้สึกตื่นเต้นกับการนำผลไม้มาทำเป็นอาหารคาว “ส้มโอ”เป็นหนึ่งในผลไม้ยอดนิยม เมื่อนำมาทำเป็นอาหารคาวรสชาติถูกปากก็ยิ่งชวนให้หลงใหล
ข้าวผัดทุเรียน รับประทานกับพริกน้ำปลา อร่อยมากมาย ถ้าจะทดลองฉีดน้ำหอมอาหารกลิ่นกระเทียมลงไป ก็จะเพิ่มความหอมอร่อย ปลาสามรส จัดจ้านอยู่แล้วไม่ต้องฉีดน้ำหอมก็ได้ ส่วนผัดสามเหม็น ฉีดน้ำหอมกลิ่นกระเทียมลงไปก็จะช่วยเพิ่มความเหม็น(ความจริงแล้วก็คือหอมกลิ่นกระเทียม) เชฟหน่อยถนัดเรื่องข้าวผัดเป็นที่สุด ดังนั้นถ้าใครชอบ เมนูข้าวผัด มาร้านนี้ไม่มีผิดหวัง ถ้าใครสั่ง คอหมูย่าง ฉีดน้ำหอมกลิ่นพริกไทยดำ หรือกลิ่นใบโหรพาลงไปก็จะมีกลิ่นหอมยิ่งขึ้น
ร้านกินรี กูร์เมต์ ไทย (Kinnaree Gourmet Thai) เลขที่ 43 สุขุมวิทซอย 8 เปิดบริการ ทุกวันตั้งแต่เวลา 11.30-24.00 น. มีโซนนั่งชิลจิบ Cocktail ที่มีให้เลือกหลากหลาย ฟังเพลงแจ๊ส อีกด้านมีวงดนตรีไทยบรรเลงสด เริ่มตั้งแต่เวลา 19.00-21.00 น. รองรับได้ 120 ที่นั่ง ส่วนชั้นบนรองรับได้ 30 ที่นั่ง โทร. 02-256-0328
0
0
0