Kabocha Sushi

คาโบฉะ ซูชิ (Kabocha Sushi) ร้านอาหารญี่ปุ่นที่การันตีเรื่องความสดใหม่ของวัตถุดิบพรีเมียมจากแหล่งที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น  ร้านคาโบฉะ ซูซิมีหลายสาขามาก สาขาที่เราไปคือ สาขา ปากซอยลาดพร้าว 19 ถนนลาดพร้าว บริเวณสี่แยกรัชดาลาดพร้าว ซึ่งการเดินทางง่ายมาก สามารถมาโดยรถไฟฟ้าใต้ดิน ลงที่สถานีลาดพร้าวได้เลย

ภายในร้านตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่นเรียบง่าย แบบโมเดิลเจแปนนิส เน้นโทนสีอบอุ่น เปิดโล่งด้วยการกรุกระจกบานใหญ่ บรรยากาศเหมือนกำลังนั่งกินอยู่ที่ญี่ปุ่น มีการจัดที่นั่งทั้งแบบที่เหมาะกับการมาเป็นกลุ่ม และถ้ามาคนเดียวก็สามารถเลือกนั่งใกล้กับเคาท์เตอร์ได้ เมนูของร้านมีมากกว่า 300 เมนู มีวัตถุดิบที่หมุนเวียนเปลี่ยนไปทุกฤดูกาลทำให้ไม่มีความจำเจ แม้คุณจะกลับมากินซ้ำ ๆ ก็สามารถทำได้

สำหรับในช่วงฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาวเช่นนี้ทาง คาโบฉะ ซูชิ ก็นำเข้าวัตถุดิบชั้นเยี่ยมประจำฤดูกาลเข้ามาพร้อมเสริ์ฟให้กับทุกคน  

คินเมะได (Kinmedai)

ลักษณะเด่นของปลาคิมเมะไดหรือปลากะพงแดงตาโต ก็คือดวงตาที่กลมโตที่เกิดจากการอาศัยอยู่ในระดับน้ำที่มีความลึกตั้งแต่ 200-800 เมตร ต้องใช้ต้องใช้ในการรับแสงที่มีอยู่น้อยมากที่ความลึกขนาดนั้น

ทางร้านคาโบฉะ ซูชิ นำเข้าปลาชนิดนี้มาจากแถบเมืองคานากาวะ ยิ่งในช่วงฤดูหนาว ตั้งแต่สิ้นเดือนธันวาคมจนถึงสิ้นเดือนมีนาคมถือได้ว่าเป็นฤดูกาลที่เหมาะสมสำหรับการกินปลาคิมเมะได เพราะเป็นช่วงที่เนื้อขาวสดของปลาจะอุดมไปด้วยไขมัน เนื้อจะแน่นหนึบ สามารถทำเมนูได้หลายอย่างไม่ว่าลวก ทอด นึ่ง สำหรับครั้งนี้ร้านคาโบฉะ ซูชิ ทำเป็นซาชิมิมาให้ เป็นการเริ่มต้นมื้อที่วิเศษอย่างยิ่ง

อิซากิ (Isaki)

ปลาเนื้อขาวที่สามารถพบได้จากทะเลแถบชิซึโอกะ และนางาซากิ ที่อยู่ริมฝั่งทิศใต้ของญี่ปุ่น แม้ว่าอิซากิจะเป็นตัวแทนของปลาในฤดูร้อน เพราะเป็นช่วงที่มีรสชาติอร่อยสุด แต่ช่วงนี้เราก็สามารถหากินปลาชนิดนี้ได้ที่ร้านคาโบฉะ ซูชิ ซึ่งทาร้านจะเสริ์ฟเป็นแบบซาชิมิมาให้ เนื้อปลาแน่นเต็มคำ หนังปลามีความกรุบกรอบ

ชิมะอะจิ (Shima Aji)

ปลาชิมะอะจิ หรือ ปลาทูญี่ปุ่นยักษ์ เป็นปลาเนื้อขาว สีออกเลื่อมโลหะแกมเขียว ครีบสีเหลืองมีจุดสีดำอยู่เหนือเหงือกปลาในส่วนของเนื้อเป็นสีชมพูใส ถือเป็นปลาที่แพงที่สุดในวงศ์ปลากะมง ปกติจะอยู่เป็นฝูงและพบได้มากทางตอนใต้ของญี่ปุ่น

ฤดูอร่อยจะอยู่ช่วงปลายใบไม้ผลิเป็นต้นไป จนไปถึงฤดูร้อน เนื้อปลาจะกรอบใส อร่อย แต่สาหรับช่วงต้นฤดูหนาวอย่างนี้ จะยิ่งอร่อยมากเป็นพิเศษ เพราะปลาจะสะสมไขมันใต้ผิวหนังเอาไว้ ทางร้านเสิร์ฟเป็นแบบซาชิมิ จึงได้สัมผัสถึงความมันแน่นของเนื้อปลา

ชิราโกะ (Shirako)

ชิราโกะหรือท่อเก็บน้ำอสุจิของปลา ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของฤดูหนาวประเทศญี่ปุ่น ด้วยรสชาติที่เป็นครีม กลมกล่อม อีกทั้งในฤดูหนาวก็จะมีความมันกว่าปกติมากๆ  โดยมากที่ญี่ปุ่นชิราโกะมักจะเสริ์ฟในตามร้านโอมากาเสะ  และปกติท่อเก็บอสุจิปลาที่คนญี่ปุ่นนิยมนำมาปรุงอาหารมีอยู่ 3 ชนิด ได้แก่ ปลาฟูกุ หรือปลาปักเป้า, ปลาอังโค หรือปลาแองเกลอร์ และปลาทาระ หรือที่คนไทยรู้จักกันในชื่อว่าปลาคอต ชิราโกะที่ร้านคาโบฉะ ซูชิเป็นของปลาทาระนั่นเอง สามารถกินได้ทั้งปรุงสุกย่างบนเตาถ่าน หรือกินเป็นซาซิมิแบบสดๆ ก็ย่อมได้

ครั้งนี้ทางร้านทำแบบซาชิมิมาให้ เวลากินจะสัมผัสได้ถึงผิวด้านนอกที่กรุบกรอบนิด เนื้อในจะนุ่มชุ่มฉ่ำ นิ่มคล้ายครีมคัสตาร์ด รสชาติละมุนลิ้น จนสามารถละลายในปากได้  แนะนำให้กินคู่สาเกจุนไมที่หอมนุ่มของทางร้าน คุณได้สัมผัสได้ถึงรสชาติที่กลมกล่อมมายิ่งขึ้นเป็นทวีคูณ

Miyagi Kaki (มิยางิ คะกิ)

คะคิหรือหอยนางรมของร้าน คาโบฉะ ซูชิ  เป็นหอยนางรมยักษ์ที่ตัวหนึ่งหนักกว่า 200 กรัม นำเข้ามาจากจังหวัดมิยางิ  (Miyagi) จากบริเวณอ่าวที่เป็นทางน้ำไหลผ่าน ทำให้น้ำทะเลใส หอยนางรมมีคุณภาพดี ซึ่งสายพันธุ์นี้เป็นพันธุ์ของหอยนางรมญี่ปุ่นที่ส่งออกไปทั่วโลกมากที่สุด นิยมทานกันในช่วงฤดูหนาวระหว่างปลายเดือนตุลาคม ถึงประมาณกุมภาพันธ์ มีเนื้อเยอะ รสชาติมีความเนียนนุ่ม ครีมมี่ หลังจากกินแล้วให้ความรู้สึกหอมหวาน และมีกลิ่นทะเลอ่อนๆติดอยู่ในปาก ทางร้านเสริ์ฟมาพร้อมกับซอสพอนซึ (Ponzu Sauce) ที่ให้รสชาติเปรี้ยวกลมกล่อม

อังกิโมะ (Ankimo)

อังกิโมะ หรือตับของปลาอังโกะ ซึ่งเป็นปลาทะเลน้ำลึกของประเทศญี่ปุ่น หน้าตาของเจ้าปลาอังโกะ อาจจะดูน่าเกลียดน่ากลัวแต่ว่า ส่วนต่างๆของปลา ล้วนแล้วแต่นำมาประกอบอาหารแล้วอร่อยทั้งสิ้น สำหรับตับของปลา ถือเป็นหนึ่งวัตถุดิบแสนอร่อยของญี่ปุ่นเรียกได้ว่า เป็นฟัวกราส์แห่งท้องทะเล ทุกต้นฤดูหนาวทางร้านคาโบฉะ ซูชิ นำเข้ามาเสริ์ฟให้กับลูกค้าเสมอ โดยจะนำตับปลาที่ปรุงแล้วมาฝานบางๆ วางท้อปปิ้งด้านบนด้วยเยลลี่พอนซึ  รสเข้มข้นหอมมันของตับปลาเข้ากับได้ดีกับรสเปรี้ยวหวานของเยลลี่พอนซึเป็นอย่างดี

อะซาริ ยูซึซุป (Asari Yuzu Soup)

แม้ว่าอะซาริหรือหอยลายญี่ปุ่น จะสามารถกินได้ตลอดทั้งปี แต่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ แบบนี้ หอยอะซาริจะหวานและเนื้อแน่นเป็นพิเศษเป็นที่นิยมของคนญี่ปุ่น โดยทางร้านนำเข้าหอยลายมาจากเมืองคิซาราสึ จังหวัดชิบะ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำทะเลที่ใสสะอาด ทำให้ได้หอยอาซาริที่มีคุณภาพดี สามารถทำได้ทั้งแบบผัดสาเก กับเห็ดชิเมจิ หรือต้มซุปใสผสมส้มยูซึ (Yuzu)แบบที่เราลองได้ ให้รสชาติที่สดชื่นมาก

โคได (Kodai)

โคได หรือลูกปลากะพงแดงลายจุด เป็นปลาเนื้อขาวเนื้อหวานนุ่ม สามารถนำมาทำเมนูได้หลากหลาย นำไปแล่บางๆกินเป็นซาซิมิคู่กับซอสพอนซึ กินเป็นซูซิก็ได้ ส่วนคนที่ไม่กินปลาดิบ สามารถนำไปย่างทั้งตัว จะนึ่ง หรือต้มซีอิ้วก็อร่อย

สำหรับปลาโคไดนี้ เนื้อปลาจะมัน และ หอม ความสดทำให้เนื้อปลามีรสหวาน รสชาติคล้ายกับปลามาได แต่ได้สัมผัสที่นุ่มกว่า แต่มีไขมันไม่เยอะเท่ากับปลามาได ครั้งนี้ที่ร้านจัดเสิร์ฟแบบซูชิ โดยความพิเศษนอกจากเนื้อปลาแสนอร่อยแล้วคงเป็นข้าวพันธุ์โคชิฮิคาริ จากจังหวัดนีกาตะ โดยข้าวพันธุ์นี้รสชาติอร่อยที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับข้าวญี่ปุ่นพันธุ์อื่น และสายพันธุ์นี้ถูกยกให้เป็นข้าวสายพันธุ์อันดับ 1 ของญี่ปุ่นอีกด้วย

โฮโบ ( Hou bou )

โฮโบ เป็นปลาบินสายพันธุ์หนึ่ง มีลักษณะมีผิวสีแดง และ ส่วนของครีบจะเป็นสีน้ำเงินฟ้า สามารถว่ายน้ำได้คล่องแคล่วในทะเล มีเนื้อสีใสขาวใส อมชมพู ให้รสสัมผัสที่กรอบแน่น และรสชาติหวานและอีกหนึ่งความพิเศษ คือ กลิ่นที่หอมของปลาโฮโบะ ที่หอมเป็นเอกลักษณ์แบบเฉพาะตัว แนะนำให้ลองดมกลิ่นก่อนกินจะให้เพิ่มอรรถรสในการกินมากยิ่งขึ้น

คาวาฮากิ (Kawahagi)

คาวาฮากิ หรือปลาหน้าวัวที่เรารู้จักกัน เป็นปลาตระกูลปลาเนื้อขาว เป็นปลาอีกชนิดที่หน้าตาดูแปลก ผิวหนังมีลักษณะสากคล้ายตะไบเล็บ แต่เนื้อและรสชาติอร่อยมาก เนื้อเหนียวหนึบนุ่ม ในช่วงฤดูหนาวเช่นนี้ จะยิ่งมีรสชาติอร่อยกว่าช่วงอื่นๆ และมีตับขนาดใหญ่ แถมยังถูกยกให้เป็นหนึ่งเมนูในครอสโอมากาเสะประจำฤดูหนาวที่ต้องมี  ครั้งนี้ทางร้านเสิร์ฟแบบซูชิพร้อมกับตับของปลาที่มีความหอมมัน ช่วยเพิ่มความมันอร่อยเป็นอย่างมาก

ปลาอิโตโยริ (Itoyori)

อิโตโยริหรือปลาทรายแดงญี่ปุ่น ปลาชนิดนี้จะหาได้จากแหล่งทะเลฟุกุโอกะ และนางาซากิ เนื้อของปลามีความนุ่ม หอม อร่อย เนื้อเน้นๆเป็นปลาที่มีรสชาติในเนื้อเลย วันนี้เชฟจัดเสิร์ฟเป็นซูชิ ให้สัมผัสความหอม นุ่มผสมกับข้าวญี่ปุ่นที่ละมุนสุดๆ

อูนิบาฟุน (Uni Bafun)

อูนิ หรือไข่หอยเม่นสด ถือได้ว่าเป็นสิ่งล้ำค่าและของหายากจากท้องทะเล อูนิมี 2 สองสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด นั่นก็คือมุราซากิ (Murasaki) และสายพันธุ์บาฟุน (Bafun) โดยมากคนจะนิยมทานสายพันธุ์บาฟุนมากกว่า เพราะรสชาติที่หวานกว่ามาก สีสันที่ค่อนข้างจัดกว่าสายพันธุ์มุราซากิ

ซึ่งที่ร้านคาโบฉะ ซูชิ ก็นำเข้าอูนิสายพันธุ์บาฟุนจากแบรนด์ โอกาว่า แบรนด์อูนิที่ได้รับความนิยมในกลุ่มของตลาดอูนิเลย เป็นแบรนด์ที่ได้รับรางวัลในเรื่องของคุณภาพอูนิ ตัวอูนิจะมีสีเหลืองทอง ให้รสสัมผัสที่หวานฉ่า เกรดที่เราเลือกใช้เป็นเกรดที่ร้านอาหารชั้นนำในญี่ปุ่นใช้กัน เสริ์ฟมาพร้อมข้าวญี่ปุ่นหอมกรุ่นและสาหร่ายแผ่น สามารถกินเฉพาะอูนิหรือกินห่อพร้อมข้าวกับสาหร่ายก็อร่อยไม่แพ้กัน

คานิมิโซะ ท้อป ซูไว (Kani Miso Yaki Top Zuwai)

คานิมิโซะหรือมันปูย่าง หน้าปูซูไว ถือได้ว่าเป็นมันปูย่างสูตรเฉพาะของร้านคาโบฉะ ซูซิ โดยทางร้านเลือกใช้มันปูจากปูทาระบะผสมกับปูหิมะหรือปูซูไว เติมรสชาติด้วย จินโจชู สาเก เป็นสาเกพรีเมี่ยมที่บ่มจากข้าวญี่ปุ่น ที่ช่วยให้มันปูมีรสชาติหวานกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น ตัวนี้เชฟจะท็อปปิ้งมาด้วยเนื้อของปูซูไว

คาโบฉะ พุดดิ้งมิลค์ (Kabocha Pudding Milk)

พุดดิ้งครีมนมสด สูตรพิเศษที่ทำจากนมสดแท้แบบวันต่อวัน เพียงวันละ 30 ถ้วยเท่านั้น มีรสชาติที่ไม่หวานมากเกินไป ได้คความอร่อยลงตัว ท็อปปิ้งด้วยสตอร์วเบอร์รี่สด และเพิ่มความหอมหวานด้วยคาราเมล เป็นอีกหนึ่งเมนูควรลองหากได้มาที่ร้านคาโบฉะ ซูชิ

นอกจากอาหารที่ใหม่สด และอร่อยแล้ว อีกหนึ่งความพิเศษของร้านนี้ การตกแต่งอาหารของทางร้าน ตกแต่งด้วยดอกไม้ญี่ปุ่นออแกนิค จากโครงการ อิโรโดริ จากเมืองคามิคัตซึ ของจังหวัดโทคุชิมะมาเพิ่มให้อาหารน่ากินยิ่งขึ้น

พบกับความอร่อยของร้านคาโบฉะ ซูชิ ได้ถึง 9 สาขา ทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ได้แก่- ลาดพร้าว 19- โฮมโปร พระราม9- โฮมโปร พระราม3- The nine พระราม9- The bright พระราม2- เซ็นทรัลบางนา- โฮมโปรราชพฤกษ์- The Street รัชดา- โฮมโปรจรัญ

Kobocha sushi

เบอร์โทรศัพท์ 095 691 6586

เว็บไซด์ :  https://kabochasushi.com/

เฟสบุ๊ค : https://www.facebook.com/Kabochasushi/

Share This Post:Share on Facebook0Share on Google+0Tweet about this on TwitterShare on LinkedIn0