Grow Green Together with Booking.com -เรเวอรี่ สยาม (Reverie Siam Resort)

เรื่องและรูปโดยทีมงาน Vacationist

จังหวัดแม่ฮ่องสอน ถือได้ว่าเป็นจังหวัดที่มีความสวยงามของธรรมชาติและเต็มไปด้วยวิถีชีวิต วัฒนธรรม ประเพณีที่น่าสนใจ สำหรับทริปการเดินทางอย่างยั่งยืนภายใต้คอนเซปต์ “Grow Green Together with Booking.com” ไปยังจังหวัดแม่ฮ่องสอน กับทาง Booking.com เมื่อเร็วๆ นี้ ทำให้ฉันได้มีโอกาสสัมผัสเสน่ห์ของเมืองรอง ในแง่มุมของการเดินทางแบบยั่งยืนที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและส่งผลเชิงบวกต่อชุมชนท้องถิ่น พร้อมได้สัมผัสกับประสบการณ์การท่องเที่ยวแบบไร้รอยต่อไปพร้อมกับ Booking.com

โดยที่พักในการเดินทางของเราในครั้งนี้มี 2 สถานที่เริ่มต้นจาก

เรเวอรี่ สยาม (Reverie Siam Resort)

เรเวอรี่ สยาม ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำปาย ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นรีสอร์ทที่ดำเนินธุรกิจรกิจตามแนวทางด้านความยั่งยืน และมีความตั้งใจที่จะสนับสนุนชุมชนท้องถิ่นในหลาย ๆ ด้านผ่านการนำเสนอและยกระดับวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของชนเผ่าต่างๆ ทางภาคเหนือของประเทศไทย ให้เป็นที่รู้จักและแพร่หลายในหมู่ผู้เดินทาง

รูปแบบอาคารและการตกแต่ง เป็นลักษณะสไตล์ตะวันออกผสมตะวันตก ที่มีกลิ่นไอของบรรยากาศเหล่านักสำรวจชาวตะวันตกที่เดินทางมาแสวงหาวัฒนธรรมที่น่าตื่นตาของชาวตะวันออก และรู้สึกหลงใหล ตื่นตาตื่นใจ กับสิ่งที่พบราวกับตกในภวังค์แห่งความฝัน เช่นเดียวกับชื่อของรีสอร์ท Reverie

ห้องพักมีทั้งหมด 20 ห้องแบ่งตามขนาดและวิวทิวทัศน์ชองห้อง ไม่ว่าจะเป็นห้องแบบวิลล่า ห้องดีลักซ์วิวภูเขา ห้องดีลักซ์ริมสระว่ายน้ำ ห้องดีลักซ์วิวสวน และห้องชุดสำหรับ 2 ห้องนอน โดยภายในแต่ละห้อง มีการตกแต่งที่อ้างอิงแฟชั่นในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ไม่ว่าจะเป็นงานเขียน เพลง สิ่งทอ เป็นต้น นอกจากนี้แล้วในส่วนของห้องน้ำยังมีกลิ่นหอมจากสบู่และโลชั่นที่ทำจากวัตถุดิบทางธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นส้มแมนดาริน กุหลาบ มะกรูด ทำให้ห้องน้ำมีชีวิตชีวาและมีกลิ่นหอมสดชื่นอีกด้วย

ห้องอาหารของโรงแรม มีชื่อว่าซิลูเอท (Silhouette) ให้บริการอาหารภาคเหนือและอาหารไทยพื้นถิ่นร่วมสมัย แนวทางด้านความยั่งยืนที่น่าสนใจ ที่เราสังเกตเห็นได้จากห้องอาหารแห่งนี้คือ ปรับใช้ QR Code ในห้องอาหารสำหรับนำเสนอเมนูอาหาร แทนการใช้เมนูแบบกระดาษ

อาหารส่วนใหญ่ที่ให้บริการในที่พักมีแหล่งวัตถุดิบมาจากชุมชนท้องถิ่น และเป็นวัตถุดิบออร์แกนิค ไม่ว่าจะเป็น อาหารของชาวล้านนา อาข่า และ ไทยใหญ่โดยใช้สูตรอาหารดั้งเดิมของชาติพันธ์ต่างๆนำมาประยุกต์และนำเสนอในแบบของห้องอาหาร แต่ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ทางรสชาติของวัตถุดิบหลักในแต่ละเมนู ไม่ว่าจะเป็นเมนู

ข่างปอง อาหารว่างพื้นบ้านของชาวไทใหญ่ ทำมาจากมะละกอและฟักทองชุปแป้งทอด เสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มถั่วที่ทำมาจากวัตถุดิบในท้องถิ่น

จิ้นลุง เมนูอาหารของชาวไทใหญ่ ทำมาจากเนื้อหมูปั้นก้อนทอด ทานคู่กับน้ำพริกมะเขือเทศแบบเมืองเหนือ และเพิ่มกลิ่นด้วยใบมะกรูด

ซุปอาข่า เป็นเมนูที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเอกลักษณ์ของวัตถุดิบในท้องถิ่นของชาวอาข่า โดยประยุกต์ให้กลิ่นและรสชาติของวัตถุดิบท้องถิ่นนั้นเข้าถึงง่ายมากขึ้นแต่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ไว้ โดยซุปครีมนี้ มีส่วนประกอบเป็นมันฝรั่ง แครอททอดกรอบ และน้ำมันรากซู (พืชท้องถิ่นของชาวอาข่า)

พร้อมกันนั้นยังมีอาหารตะวันตกประเภททาปาสสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน คอกเทลสูตรพิเศษเฉพาะของซิลูเอท ไวน์ที่คัดสรรโดยผู้เชี่ยวชาญ กาแฟจากชุมชนในพื้นที่และน้ำผลไม้

กิจกรรมของรีสอร์ท ที่ส่งเสริมแนวทางด้านความยั่งยืน อย่างมีบริการทัวร์และกิจกรรมที่จัดโดยไกด์และธุรกิจในท้องถิ่น ที่ถูกจัดขึ้นตามเทศกาล หรือโอกาสพิเศษ อาทิ กิจกรรม Chef Table ประจำฤดู มีช่องทางให้ศิลปินท้องถิ่นได้แสดงความสามารถ รวมไปถึงการลงทุนรายได้จำนวนหนึ่งกลับไปให้โครงการชุมชนหรือโครงการเพื่อความยั่งยืน

สถานที่ท่องเที่ยวใกล้ที่พัก

จุดชมวิวทะเลหมอกหยุนไหล

คำว่าหยุนไหลแปลว่าเมฆไหลมารวมกัน มีความหมายเปรียบเทียบคนจีนจากยูนนานที่ย้ายมาจากประเทศจีน และมาหลอมรวมกันอยู่ที่นี่ หยุนไหลนั้นอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 440 เมตร ดังนั้นในช่วงฤดฝน หรือฤดูหนาว จึงทำให้เราสามารถเห็นไอหมอกที่ลอยละล่องจากขุนเขาเข้าปกคลุมหมู่บ้าน

กลายเป็นภาพบรรยากาศที่สวยงาม ทำให้จุดชมวิวแห่งนี้กลายเป็นหนึ่งจุดท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับคนที่เดินทางมาอำเภอปาย แม่ฮ่องสอน

ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การมาคือก่อนพระอาทิตย์ขึ้นประมาณ 6 โมงเช้า สำหรับจุดชมวิวหยุนไหล จะมีค่าบริการเข้าคนละ 20 บาท และค่าเหมารถท้องถิ่นขึ้นสู่ม่อนหยุนไหล คันละ 300 บาท โดยรถที่ขึ้นจะให้บริการก่อน 09.00 น. หากหลัง 09.00 น.เราสามารถนำรถขึ้นไปเองได้

ไร่ชิวอวี๋ (ไร่ชาท้องถิ่น)

ไร่ชาชิวอวี๋ ตั้งอยู่ใกล้กับจุดชมวิวทะเลหมอกหยนไหล นอกจากภายในไร่จะตกแต่งภูมิทัศน์ด้วยต้นไม้ ดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์ ที่นี่ยังให้บริการอาหารและเครื่องดื่มอีกด้วย หากใครได้มา แนะนำให้ลองชิมชากุหลาบธรรมชาติ ที่ทำจากดอกกุหลาบจากไร่สดๆ หอมกลิ่นกุหลาบเป็นอย่างมาก

หมู่บ้านศูนย์วัฒนธรรมจีนยูนนาน (บ้านสันติชล)

เป็นแหล่งชุมชนท่องเที่ยวหมู่บ้านจีนยูนนาน อยู่ไม่ห่างจากตัวเมืองปายมากนัก

จุดเด่นของที่นี่คือ การนำเสนอเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมชาวจีนยูนนาน ผ่านสิ่งก่อสร้างเช่น บ้านดินที่เรียกว่า ถูฝั่ง ลักษณะเป็นบ้านชั้นเดียว มีหน้าต่างระบายอากาส ใช้วัสดุธรรมชาติ ให้ความอบอุ่นในหน้าหนาว และความเย็นสบายในหน้าร้อน

นอกจากนั้น ยังมีบริการขี่ม้าแคระชมบรรยากาศรอบๆ หรือถ้าอยากแต่งกายเป็นชาวจีนยูนนานที่นี่ก็มีให้เช่าชุดแต่งกายเช่นกัน

ส่วนใครที่ต้องการซื้อของฝากของที่ระลึกที่นี่มีจำหน่าย ราคาย่อมเยา ทั้งไวน์ผลไม้ บ๊วย เกาลัด และสินค้าชุมชนอีกมากมาย

ถนนคนเดินปาย

ถนนคนเดินปาย เป็นสถานที่ยอดนิยม สำหรับทุกคนที่เดินทางมาที่ปาย ถนนคนเดินปายได้เริ่มต้นจากชาวเขาและชาวบ้านในอำเภอปายนำสินค้าพื้นเมือง ของที่ระลึกมาขายให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ จากแผงสินค้าเล็กๆ ต่อมาเริ่มมีพ่อค้าแม่ค้าเข้ามาจับจองพื้นที่การขายกันมากขึ้น จนทำให้เกิดเป็นถนนคนเดินปาย เริ่มตั้งแต่ที่ว่าการอำเภอปายจนถึงลำน้ำปาย

สองข้างทางนอกจากจะเป็นบ้านเรือนแบบเก่าที่ปรับเปลี่ยนมาเป็นร้านค้า ร้านอาหาร ร้านนั่งดื่ม ตลอดจนร้านขายเสื้อผ้าของที่ระลึกแล้ว

ตั้งแต่เวลา 5 โมงเย็นไปถึงเที่ยงคืน เราจะเห็นร้านค้าแผงลอยเล็กๆ มากมายเริ่มมาตั้งร้านบนถนน สินค้าก็มีทั้งของฝากของที่ระลึก ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า รูปภาพ โปสการ์ด ตลอดจนถึงอาหารทานเล่นทั้งอาหารท้องถิ่นและอาหารประยุกต์

ระหว่างทางถนนคนเดิน คุณจะเห็นวัดแบบไทใหญ่ 2 วัดนั่นก็คือ วัดกลางซึ่งสร้างมาหลาย 100 ปี มีมณฑปที่ยอดมงกุฎสีทองสวยงามรายรอบด้วยเจดีย์ทรงมอญ ส่วนบริเวณใต้เจดีย์เป็นซุ้มที่ประดิษฐานพระพุทธรูปประจำวัดเหนือฐาน

และวัดป่าขาม  เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย

และถ้าเดินไปจนสุดถนนคนเดินปาย ก็จะเห็นสะพานข้ามแม่น้ำปาย ทอดข้ามลำน้ำปายถ้าเดินไปตรงกลางสะพานก็จะเห็นความสวยงามและเงียบสงบของเมืองปายแห่งนี้

อีกหนึ่งที่พักที่น่าสนใจสำหรับทริปแม่ฮ่องสอนของเราในครั้งนี้คือ แสงปอยคอทเทจ

ป้ายสัญลักษณ์ ‘ที่พักสำหรับเดินทางอย่างยั่งยืน’

ป้ายสัญลักษณ์ที่พักสำหรับเดินทางอย่างยั่งยืน มีขึ้นเพื่อใช้เป็นมาตรฐานในการรับรองความน่าเชื่อถือของที่พักรักษ์โลกที่มีเพิ่มมากขึ้นทั่วโลก ซึ่งดำเนินธุรกิจตามแนวทางด้านความยั่งยืนที่ส่งผลเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม เพื่อให้ผู้เดินทางสามารถเข้าถึงข้อมูลที่น่าเชื่อถือ มีมาตรฐาน และเข้าใจง่าย สำหรับบ่งชี้ความเป็นที่พักรักษ์โลก ไม่ว่าผู้เดินทางจะเดินทางไปที่ไหนก็สามารถจองเพื่อเข้าพักในที่พักรักษ์โลกได้

  • เพื่อส่งเสริมให้ที่พักคู่ค้า และผู้ให้บริการที่พักต่างๆ ปรับใช้แนวทางเพื่อความยั่งยืน และสื่อสารถึงการดำเนินการด้านความยั่งยืนภายในที่พัก โดย Booking.com ได้รวบรวมและช่วยนำเสนอแนวทางดังกล่าวผ่านป้ายสัญลักษณ์ ‘ที่พักสำหรับเดินทางอย่างยั่งยืน’ ที่ครอบคลุมทั้งหมด 32 แนวทางที่มีประสิทธิภาพใน 5 หลักเกณฑ์สำคัญ ได้แก่ การจัดการขยะ พลังงานและก๊าซเรือนกระจก การจัดการน้ำ นโยบายการช่วยเหลือชุมชน และการปกป้องธรรมชาติ
  • ในปัจจุบันมีที่พักมากกว่า 400,000 แห่งทั่วโลกได้รับป้ายสัญลักษณ์ ‘ที่พักสำหรับเดินทางอย่างยั่งยืน’ บน Booking.com เพื่อยืนยันและยกย่องแนวทางการดำเนินธุรกิจที่ยึดหลักความยั่งยืนของแต่ละที่พัก 
  • เรายังได้พัฒนามาตรฐานการรับรองการเป็น ‘ที่พักสำหรับเดินทางอย่างยั่งยืน’ เพิ่มเติมด้วยการเพิ่มจำนวนใบรับรองและป้ายกำกับพิเศษจากหน่วยงานด้านความยั่งยืนต่างๆ โดยที่พักที่เข้าเกณฑ์ของใบรับรองดังกล่าวจะได้รับป้ายสัญลักษณ์ ‘ที่พักสำหรับเดินทางอย่างยั่งยืน’ ไปโดยอัตโนมัติ
    • นอกเหนือจากใบรับรองและป้ายกำกับพิเศษที่ได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการโดย Global Sustainable Tourism Council (GSTC), Green Tourism และ EU Ecolabel แล้ว ขณะนี้ Booking.com ได้เพิ่มการรับรองครอบคลุมไปจนถึง ใบรับรองและป้ายกำกับพิเศษที่ได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการโดย Green Seal, Nordic Swan Ecolabel, Green Hospitality Ecolabel, Ibex Fairstay, Fair Trade Tourism, LEED และ Edge
Share This Post:Share on Facebook0Share on Google+0Tweet about this on TwitterShare on LinkedIn0