Busan Play Work Live ที่เที่ยวปูซาน เมืองแห่งความสุข

เรื่องโดยทีมงาน Vacationist

ภาพรถไฟคันเล็กสีสันสดใส ตัดกับวิวท้องทะเลสีคราม เคลื่อนตัวบนรางที่มีความสูง 10 เมตรไปตามเส้นทางเลียบชายทะเล ความน่ารักปุ๊กปิ๊กของรถไฟคันนี้ เป็นหนึ่งสิ่งที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวหลั่งไหลมาเยือนเมืองชายทะเลอย่างปูซานแห่งนี้

รถสกายแคปซูล (Sky Capsule) & รถไฟท่องเที่ยว Haeundae Beach Train

เส้นทางรถไฟขบวนนี้ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของหาดแฮอุนแด (Haeundae) โดยมีทางเข้าอยู่บริเวณ Haeundae Blueline Park ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานี Mipo Station จุดเริ่มต้นของรถไฟสาย Blueline Park ที่ให้บริการรถไฟปุ๊กปิ๊กน่ารักที่เรียกว่ารถสกายแคปซูล (Sky Capsule) และ รถไฟท่องเที่ยว Haeundae Beach Train

สำหรับรถสกายแคปซูลหรือที่หลายคนเรียกว่ารถปุ๊กปิ๊กนั้นเป็นรถแคปซูลขนาดเล็กนั่งได้ 4 ท่านแต่ละแคปซูลก็จะมีสีสันสดใสน้ำเงินแดง เหลือง เขียว แล่นสลับๆ กันไป รถรางคันจิ๋วนี้วิ่งด้วยความเร็ว 5 กม. / ชม. บนรางที่มีความสูง 10 เมตร วิ่งระหว่าง สถานี Mipoไปกลับสถานี Cheongsapo ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที เป็นรถท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แนะนำให้จองตั๋วล่วงหน้า ราคาต่อเที่ยวอยู่ที่ 2 คน 30,000 วอน 3 คน 39,000 วอน และ 4 คน 44,000 วอน โดยรถจะออกทุก 30 นาที

ส่วนรถไฟท่องเที่ยว Haeundae Beach Train เป็นรถไฟที่วิ่งเลียบชายฝั่งปูซานด้านตะวันออกที่มีความยาว 4.8 กิโลเมตร เริ่มวิ่งจากสถานี Mipo Station (ผ่านสถานี Cheongsapo) ไปสุดทางที่สถานี Songjeong Station ใช้เวลาเดินทางต่อเที่ยวประมาณ 30 นาทีเช่นกัน ตลอดเส้นทางคุณจะเห็นถึงทัศนียภาพชายฝั่งที่สวยงามของปูซานฝั่งตะวันออก ราคาต่อเที่ยวต่อคนอยู่ที่ 7,000 วอน

อาคารสถานี Busan Songjeong Station เป็นอาคารเก่าที่ได้รับเลือกให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรม หากเดินผ่านสถานีไป จะเห็นเส้นทางที่มุ่งตรงไปยังหาดซงจอง (Songjeong Beach) ชาดหาดแห่งนี้ค่อนข้างสงบและไม่พลุกพล่าน ประกอบกับที่นี่มีคลื่นที่พอเหมาะสำหรับผู้ชื่นชอบกีฬาทางน้ำไม่ว่าจะเป็นนักเล่นเซิร์ฟ นักเล่นบอดี้บอร์ด และนักวินด์เซิร์ฟเป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงไม่แปลกใจที่เราจะเห็นโรงเรียนตลอดจนร้านที่ให้บริการเช่าอุปกรณ์กีฬาทางน้ำในย่านนี้เป็นอย่างมาก

นอกจากรถสกายแคปซูลจะมีเป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมของปูซานแล้ว อีกหนึ่งสถานที่ที่เป็นจุดท่องเที่ยวที่กำลังได้รับความนิยม คงหนีไม่พ้นอาคาร L City Landmark Tower ที่มีจุดชมวิวปูซาน เอ็กซ์ เดอะสกายนั่นเอง

จุดชมวิวปูซาน เอ็กซ์ เดอะ สกาย (BUSAN X the SKY)

จุดชมวิวปูซาน เอ็กซ์ เดอะ สกาย อยู่บนชั้น100 ของอาคาร L City Landmark Tower ด้วยความสูง 411.6 เมตร ในวันที่อากาศแจ่มใส คุณจะสามารถเพลิดเพลินกับวิวท้องฟ้าที่สีจัดตัดกับสีของท้องทะเลที่ส่องประกายระยิบระยับได้ในเวลาเดียวกัน ทิวทัศน์ของที่นี่น่าประทับใจไม่แพ้ความเร็วของลิฟท์ที่พาเราขึ้นจากชั้น 1 ไปที่ชั้น 100 โดยใช้เวลาเพียง 56 วินาทีเท่านั้น

บริเวณด้านบนนอกจากที่คุณได้เห็นมุมสูงของเมืองปูซานได้อย่างรอบทิศทาง ที่นี่ยังมีจุดให้คนรักการถ่ายรูปได้ถ่ายรูปหลายจุดมาก สำหรับคนที่ไม่กลัวความสูงก็มีทางเดินกระจกระยะสั้นท้าทายให้เดิน

หากหิวก็ไม่ต้องกังวล ที่นี่มีร้านอาหาร คาเฟ่ หลากหลาย อย่างเช่น X the Lounge พื้นที่ที่ให้บริการอาหารว่างและของหวานนานาชนิด หรือร้าน Sky 99 Grill & Pasta ร้านสเต็กสไตล์นิวยอร์กกับวิวสุดพิเศษบริเวณชั้น 99 หรือร้านกาแฟสตาร์บัคที่เรียกว่าสูงที่สุดของเมืองปูซานก็มีให้บริการ ที่สำคัญของที่ระลึกในโซนขายของน่ารักทุกชิ้น

ค่าตั๋วสำหรับจุดชมวิว สำหรับผู้ใหญ่อายุ 13 ปีขึ้นไป อยู่ที่ 27,000 วอนและเด็กอยู่ที่ 24,000 วอน

โคแลซาออมุก (Goraesa Eomuk)

ออมุก หรือ โอเด้งของเกาหลี เป็นเนื้อปลาบดผสมด้วยผักสับละเอียดและแป้ง ลักษณะจะคล้ายกับลูกชิ้นปลา หลายคนคงคุ้นภาพที่ออมุกมีลักษณะแผ่นบางๆ พับไปมาต้มกับน้ำซุปปลา แต่สำหรับที่โคแลซา ออมุก เมืองปูซานแห่งนี้มีออมุกหลากหลายแบบและหลากหลายรสชาติมาก ไม่ว่าจะเป็นแบบกลม แบน หรือผสมกุ้ง ผสมปลาหมึก ผสมงาดำ ผสมชีส หรือออมุกหอยเป๋าฮื้อ สนนราคาตั้งแต่ 1,000 วอนต่อชิ้นขึ้นไป และที่สำคัญ ออมุกที่นี่ไม่มีกูลเตน

ในร้านมี 2 ชั้น ชั้นแรกเป็นส่วนจำหน่ายสินค้า มีทั้งแบบให้ซื้อกลับ และนั่งกินในร้านได้ ซึ่งทางร้านมีตัวอย่างให้ลูกค้าได้ลองชิมตามแบบที่ต้องการได้

สำหรับชั้นบน เปิดเป็นชั้นเรียนสำหรับคนที่ต้องการมีประสบการณ์ในการทำออมุก มีบริเวณนั่งทาน พร้อมชมผู้คนที่เดินทางไปมา อีกทั้งคุณสามารถเรียนรู้ประวัติความเป็นมาที่มีตั้งแต่ปี ค.ศ. 1963 ของทางร้านได้

ตลาดดั้งเดิมแฮอุนแด (Haeundae Market)

ตลาดที่ตั้งอยู่ใกล้กับหาดแฮอุนแด ชายหาดที่ขึ้นชื่อของเมืองปูซาน หากนั่งรถไฟดินปูซานสาย 2 สีเขียว (Busan Metro Line 2) ลงสถานีแฮอุนแด (Haeundae) ทางออกที่ 3 จากนั้นเดินตรงไปตามถนน Gunam-ro (두남로) ประมาณ 350 เมตร ตลาดตั้งอยู่ด้านซ้ายมือก่อนถึงชายหาดแฮอุนแด

ตลาดเริ่มเปิดตั้งแต่ 9 โมงเช้า เรื่อยไปจนถึง 4 ทุ่ม สองข้างทางตลอดแนวถนน เรียงรายไปด้วยร้านค้าที่จำหน่ายอาหารทะเลสดๆ หรือของแห้งจากทะเล ผัก ผลไม้ เสื้อผ้า ของใช้ต่างๆ รวมไปถึงร้านอาหารที่จำหน่ายของว่าง ของทอด อาหารทะเลหลากชนิด อาหารขนมท้องถิ่นสไตล์ปูซาน หาได้จากที่นี่

เกาะทงแบ็ก (Dongbaek Island)

เกาะทงแบ็ก เดิมเคยเป็นเกาะอยู่บริเวณปลายของชายหาดแฮอุนแด แต่ด้วยคลื่นลม กระแสน้ำทำให้เกิดตะกอนสะสมเชื่อมต่อเกาะเข้ากับแผ่นดินใหญ่ กลายเป็นเหมือนแหลมที่ยื่นออกไปในทะเลทางฝั่งตะวันออกของหาด คำว่าทงแบ็กในภาษาเกาหลีหมายถึงดอกคามิเลีย ส่วนคำว่าซอมแปลว่าเกาะ ดังนั้นที่นี่คุณจะเห็นดอกคามิเลียเป็นจำนวนมาก

ภายในเกาะแห่งนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยว เพื่อการพักผ่อนและเพลิดเพลินใจหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นส่วนของอุทยาน ที่มีเส้นทางเดินเท้าชมธรรมชาติ และชมทิวทัศน์ของชายหาด แต่ที่ได้ความสนใจเป็นอย่างมาก น่าจะเป็นอาคารหอประชุมเอเปค นูรีมารู (Nurimaru APEC House) เป็นการผสมผสานระหว่าง คำภาษาเกาหลีนูรี (Nuri) ซึ่งหมายถึงโลก, คำว่ามารู (Maru) หมายถึงปกติและคำว่าเอเปค เฮาส์ (APEC House) ซึ่งมีความหมายโดยรวมคือบ้านที่ผู้นำโลกมาพบกัน อาคารนี้ใช้สำหรับเป็นที่ประชุมของสุดยอดผู้นำ APEC ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน ค.ศ. 2005

หาดแฮอุนแด (Haeundae Beach)

หลังจากกินอาหารที่ตลาดดั้งเดิมแฮอุนแดแล้วแนะนำให้เดินทอดน่องชมบรรยากาศของท้องทะเลเมืองปูซานไปตามแนวชายหาดแฮอุนแด ชายหาดทรายละเอียด ที่มีความยาว 1.5 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่กว่า 58,400 ตารางเมตร เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงติดอันดับต้นของปูซานก็ว่าได้

ผู้คนทั้งนักท่องเที่ยวและคนเกาหลีใต้เอง ก็นิยมมาผ่อนคลายและสนุกกับการเล่นน้ำ และรวมกิจกรรม เทศกาลต่างๆ ที่จัดตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นฤดูไหนที่นี่ก็เป็นที่นิยม แนะนำให้ไปช่วงเย็น คุณจะได้ชมตอนพระอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้าที่สวยงามไม่แพ้จุดไหนของเมืองปูซานเลยทีเดียว

The Bay 101

ถ้าคุณเดินเลียบชายหาดแฮอุนแด ไปเรื่อยสุดปลายทาง ตรงบริเวณด้านข้างของโรงแรม The Westin Josun จะเห็นถนนที่พาไปสู่หมู่อาคารต่างๆ คุณจะพบกับ The Bay 101 ซึ่งเป็นสถานที่ที่คุณจะได้ดื่มด่ำไปกับมื้อค่ำแสนอร่อย หรือพบปะสังสรรค์ในยามค่ำคืน สำหรับคนที่ชื่นชอบการถ่ายรูปคงจะเห็นภาพของ The Bay มาแล้วบ้าง ในช่วงค่ำคืนที่เหล่าอาคารต่างๆ เปิดไฟส่องแสงสวยงาม ภาพของอาคารที่สะท้อนบนผิวน้ำกลายเป็นจุดถ่ายรูปที่เหล่าช่างภาพ นิยมมาถ่ายรูปกัน

นอกจากที่นี่จะเป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมแล้ว ที่นี่ยังมีกิจกรรมสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจหลากหลาย ทั้งเป็นสโมสรเรือยอชท์เดอะเบย์ 101, ร้านแกลลอรี่ 101 ที่เต็มไปด้วยสินค้าทันสมัยมากมายของโลก และร้านอาหารหลากหลายให้เพลิดเพลินกับบรรยากาศของวิวกลางคืนที่นี่ได้อย่างเต็มที่

วัดแฮดงยงกุงซา (Haedong Yonggungsa Temple)

วัดแฮดงยงกุงซา วัดที่ทุกคนที่มาปูซานต้องมา เป็นวัดพุทธที่เก่าแก่อายุเกือบพันปี และมีชื่อเสียง เรื่องวิวริมทะเลที่สวยที่สุดของเมืองปูซาน ด้วยเพราะทำเลที่ตั้งที่แตกต่างไปจากวัดส่วนใหญ่ โดยวัดนี้เป็นวัดเดียวที่ตั้งอยู่บนเนินโขดหินริมชายฝั่งทะเลและหันหน้าออกสู่ทะเล

วัดประกอบไปด้วยวิหาร ศาลาและสิ่งก่อสร้างมากมาย บริเวณกำแพงวัดมีรูปปั้นหิน12 ราศีให้ไหว้สักการะ เราสามารถเดินลอดซุ้มมังกรเพื่อขึ้นบันได 108 ขั้นไปยังจุดชมวิว องค์เจ้าแม่กวนอิมหันหน้าออกสู่ทะเล, พระสังกัจจายน์องค์สีทองอร่ามให้เราได้กราบไหว้ขอพร, ศาลเจ้า และพุทธสถานอื่นๆ อีกหลายแห่ง

คนเกาหลีนิยมมาไหว้พระขอพรที่วัดนี้ในช่วงเวลาวันสำคัญ เช่น วันปีใหม่ หรือวันวิสาขบูชา เป็นต้น

ซานทาวเวอร์ (Busan Tower)

ปูซานทาวเวอร์ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1973 เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คสำคัญของเมืองปูซาน นอกจากจุดชมวิวบนหอคอยสูง 120 เมตรที่สามารถเห็นความสวยงาของเมืองปูซานได้อย่างชัดเจนถึง 360 องศา ทั้งกลางวันกลางคืนแล้ว

บริเวณชั้นสองของอาคาร ยังเป็นส่วนจัดแสดงนิทรรศการและกิจกรรมที่น่าสนใจ เช่น่ การถ่ายรูปกับพื้นหลังต่างๆ การจัดแสดงแสงสี เป็นต้น

ปูซานทาวเวอร์ ตั้งอยู่บนเนินล้อมรอบด้วยสวนสาธารณะที่เรียกว่า สวนยงดูซาน (Yongdusan Park) มาจากลักษณของภูเขาที่คล้ายกับหัวของมังกร และเชื่อว่ามีเทพสิงสถิตอยู่ที่ช่วยปราบศัตรูที่มารุกรานทางทะเล ซึ่งด้านล่างของเนินก็เชื่อมต่อกับตลาดวอล์คกิ้งสตรีทนัมโพดง (Nampodong)

ปูซานแอร์ครูซ (Busan Air Cruise) หรือ ซงโดเคเบิลคาร์มารีน (Songdo Marine Cable Car)

สำหรับคนที่ต้องการชื่นชมและดื่มด่ำวิวชายหาดซองโด (Songdo Beach) จากมุมสูงต้องไม่พลาดที่จะขึ้นกระเช้าชมวิวริมทะเลชื่อดังของปูซาน ที่ชื่อว่า Busan Air Cruise หรือชื่อเดิมคือ ซงโดเคเบิลคาร์มารีน (Songdo Marine Cable Car) เป็นกระเช้าที่ข้ามจากสวนซงลิม (Songlim Park) ทางตะวันออกของหาดซงโดไปยังสวนอัมนัม (Amnam Park) ทางตะวันตกของหาดซงโด ระยะทางประมาณ 1.62 กิโลเมตร ความสูงจากพื้นถึง 86 เมตร

เคเบิ้ลคาร์มีทั้งหมด 39 คัน แต่ละคันการรองรับ 8 คนต่อคัน และมีให้เลือก 2 แบบ คือ แบบธรรมดาที่เรียกว่า แอร์ครูซ (Air Cruise) และคริสตัลครูซ (Crystal Cruise) เป็นแบบที่มีพื้นโปร่งใส ซึ่งจะทำให้คุณได้รับประสบการณ์ ที่น่าตื่นตาตื่นใจไปกับ ทัศนียภาพแบบพาโนรามา 360 องศา ที่ความสูง 86 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล โดยใช้เวลาเดินทาง 8 นาทีและ 30 วินาที ตามลำดับ ราคาสำหรับเริ่มต้นที่ 13,000 วอนสำหรับแบบธรรมดาเที่ยวเดียว และ 17,000 วอนสำหรับแบบคริสตัลครูซ เที่ยวเดียว

บริเวณ Songdo Sky Park ปลายทางของเคเบิ้ลคาร์มีจุดน่าสนใจหลายจุด ชั้น 3 เรียกว่า Sky Habor Observatory Platform เป็นเหมือนดาดฟ้าเปิดโล่งมีประติมากรรมหลายชิ้น ให้ถ่ายรูปหลายจุดมาก

ส่วนที่เห็นเด่นชัดคือ ประติมากรรมคล้ายกำแพงทรงโค้งที่บรรจุขวดแก้ว เรียกว่า Moment Capsule เป็นช่องที่เก็บแคปซูลที่เราสามารถเขียนเรื่องราวความประทับใจและความในใจของตัวเองลงในจดหมายและเก็บไว้ในขวด โดยขวดนี้จะเก็บไว้ 2 ปี ก่อนถูกทำลาย เราสามารถซื้อขวดได้ที่ Songdo Sky Park ชั้น 1 ticket office ราคา 15,000 วอนแต่ถ้าเรามีตั๋วเคเบิ้ลจะลดเหลือ 8,800 วอน

อีกจุดที่น่าสนใจ คือ Slow Mailbox โดยตู้ไปรษณีย์นี้จะรับโปสการ์ดที่คุณสามารถเขียนถึงคุณหรือคุณที่คุณรักในอีก 1 ปีข้างหน้า แล้วหย่อนลงไปในตู้ใบนี้ พนักงานจะเก็บโปสการ์ดไว้ จากนั้นอีก 1 ปีทางพนักงานถึงจะส่งโปสการ์ดไปหาคุณ คุณจะได้รับโปสการ์ดในอีก 1 ปีนับจากวันที่ส่ง น่าสนใจมาก เราสามารถซื้อโปสการ์ดได้ที่ Songdo Sky Park ชั้น 1 ticket office ราคา 4,000 วอน

และถ้าคุณอยู่ที่ชั้น 1 คุณจะเห็น  Bucket Dragon Scale ประติกรรมมังกรสนองความปรารถนาและอธิษฐานเพื่อความมั่งคั่ง เมื่อคุณเขียนความปรารถนาของคุณลงบนเกล็ดมังกรแวววาวแล้วแขวนไว้ มังกรขึ้นทำให้ความปรารถนาของคุณเป็นจริง ประติมากรรมชิ้นนี้เคยได้รับรางวัล 2017 Good Design  

สะพานแขวนซองโด ยงกุง (Songdo Yonggung Suspension Bridge)

สะพานชมวิวแห่งนี้ เป็นสะพานที่เชื่อมระหว่างสวนสาธารณะอัมนัม (Amnam Park) กับเกาะทงซอม ตัวสะพานมีความยาว 127.1 เมตร กว้าง 1 เมตร มีค่าเข้า: 2,000 วอน ถ้าเรามองจากด้านบนลงมา จะเห็นว่าสะพานแห่งนี้มีรูปร่างคล้ายกุญแจแห่งความโชคดี (Lucky Key) ที่จะนำพาโชคดีแก่ผู้ที่เดินทางมาที่นี่ จากตรงทางเดินเราสามารถมองเห็นเคเบิ้ลคาร์และท้องทะเลได้อย่างเต็มตา

หมู่บ้านวัฒนธรรมคัมชอน (Gamcheon Culture Village)

ที่นี่เรียกได้ว่าเป็นหมู่บ้านสุดฮอตของเมืองปูซาน ก็ว่าได้ กับหมู่บ้านวัฒนธรรมคัมชอน ที่ทุกคนต้องมา ไม่มาเหมือนมาไม่ถึงเมืองปูซานก็ว่าได้ สำหรับหมู่บ้านบนเนินเขาแห่งนี้ อดีตเป็นหมู่บ้านที่เป็นที่อาศัยของชาวเกาหลีซึ่งหนีภัยจากสงครามเกาหลีในระหว่างปี ค.ศ. 1950 – 1953

เมื่อเวลาผ่านไป ผู้นำหมู่บ้านที่เห็นควรว่าควรปรับปรุงทัศนียภาพ และบ้านเรือนที่ทรุดโทรมนั้นให้ดูสวยงาม เลยเชิญศิลปินและผู้มีฝีมือมาช่วยการตกแต่งหมู่บ้าน กลายเป็นหมู่บ้านที่มีสีสันสวยงาม เต็มไปด้วยงานศิลปะที่หลากหลาย

ที่ไม่ควรพลาดคือ รูปปั้นปลาบนระเบียงไม้ตรงทางเข้าหน้าหมู่บ้าน จุดนัดพบของหลายคน นอกจากนี้ถ้าเดินไปตามถนนที่เรียงรายไปตามแนวภูเขา ก็จะเห็น งานศิลปะที่แทรกตัวอยู่กับร้านค้า ร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหารตลอดแนวสองข้างทางเลยทีเดียว ที่ฮิตไม่แพ้รูปปลาคงเป็นรูปปั้นเจ้าชายน้อยอยู่บนเนินสูง ของหมู่บ้าน

ตลาดกีจาง (Gijang Market)

ตลาดกีจางคล้ายกับที่ตลาดปลาจากัลชิ (Jagalchi Fish Market) ที่มีอาหารทะเลจำหน่าย แม้ตลาดเล็กจะกว่าที่จากัลชิ แต่อารมณ์แบบพื้นบ้าน คนท้องถิ่นมากกว่า และเป็นสถานที่กินปูโดยเฉพาะ

ราคาปูหิมะ (Snow Crab) อยู่ที่ประมาณ 50,000 วอนต่อกิโลกรัม แบบปูยักษ์ (King Crab) อยู่ที่ 70,000 วอน ที่ร้านจะคิดค่านั่ง อยู่ที่ประมาณ 4,000 วอนต่อคน สำหรับข้าวผัดมันปู อยู่ที่ 2,000 วอน ถ้าปูหิมะ 4-5 กิโลกรัมสำหรับ 5-6 คน ก็จะราวๆ 200,000 วอน

ตลาดจะเริ่มเปิดตั้งแต่ 08.00 – 20.00 น. ส่วนของร้านอาหารโดยมากจะเปิดถึง 22.00 น. เราสามารถนั่งรถไฟฟ้าจาก Busan Station นั่งมาลงที่สถานี Busan National University of Education station แล้วต่อสายสีน้ำเงินไปลงสถานี GiJang เดิน 5 นาทีจากทางออกที่ 1

ตลาดบูพยอง (Bupyeong Market) หรือตลาดกังทง (Kangtong Market)

ตลาดบูพยอง ชื่อของตลาดตั้งตามย่านที่อยู่ที่ย่านบูพยองนั่นเอง แต่พอช่วงสงครามเกาหลี (ค.ศ. 1950 –1953) ข้าวของเครื่องใช้ เสบียง อย่างเครื่องดื่มและอาหารกระป๋องของทหารสหรัฐอเมริกา จากแหล่งขายต่างๆ ถูกนำเข้ามาขายที่นี่  ดังนั้นจึงถูกเรียกอีกชื่อหนี่งว่า กังทง ซีจัง (Kkangtong  Sijang) หรือตลาดกระป๋องดีบุก

แม้ปัจจุบันจะมีสินค้านำเข้ามาขายทั่วไปแต่ที่นี่ก็ยังคงมีชื่อเสียงในเรื่องนี้อยู่ นอกจากนั้น ในช่วงเวลากลางคืนตั้งแต่ 6 โมงเย็นเป็นต้นไป ที่นี่จะเป็นถนนสายอาหารสไตล์ Street food เต็มไปด้วยร้านเข็นจำหน่ายอาหารหลากหลายประเภท ที่นำออกมาจำหน่าย เป็นจุดที่นิยมสำหรับคนที่ชื่นชอบอาหารสตรีทฟู้ดแห่งหนี่ง

Share This Post:Share on Facebook0Share on Google+0Tweet about this on TwitterShare on LinkedIn0