โฮกูโซะ (Hokuso) – เส้นทางเอโดะใกล้โตเกียว
Story & Photo by Orawan
ถ้าให้พูดถึงเมืองในประเทศญี่ปุ่น รายชื่อเมืองหลักอย่างเช่น โตเกียว เกียวโต โอซาก้า ตลอดจนฮอกไกโด น่าจะเป็นเมืองที่วิ่งรี่เข้ามาในความคิดของหลายคน แต่ถ้าเป็นเมืองทางเลือกที่ใกล้กับเมืองหลักแล้วละก็ หลายคนอาจจะนึกไม่ออก ฉันขอแนะนำแถบโฮกูโซะ (Hokuso) พื้นที่ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือของจังหวัดชิบะ (Chiba) ในภูมิภาคคันโต (Kanto) ตามฉันไปรู้จักกับเมืองเล็กแต่มีเรื่องราวไม่เล็กกัน
ชมเมืองเก่า ซาวาระ (Sawara) เอะโดะน้อย
จากสนามบินนาริตะ เราสามารถเดินทางได้โดยรถไฟ JR Narita Line ใช้เวลาเพียงแค่ 40 นาที ก็ถึงเมืองซาวาระ ที่มีย่านการค้าเก่าประจำเขตคาโตริ (Katori) รู้จักดีว่าเป็น “เอโดะน้อยในเขตโฮกูโซะ”
ซึ่งเดิมแถบนี้เคยเป็นศูนย์กลางการขนส่งข้าวในสมัยเอโดะ และยังคงหลงเหลือร่องรอยความเป็นย่านการค้าที่เก่าแก่ให้เห็นอยู่จนถึงทุกวันนี้ กิจกรรมที่น่าสนใจอย่างเช่น
ล่องเรือ “คิโรชิ ชาบูเนะ” (Kioroshi Chabune) ไปตามแม่น้ำโทเนะกาวะ (Tonegawa River)
ชมพิพิธภัณฑ์และบ้านของ อิโนะ ทาดาทากะ (Ino Tadataka Museum) ผู้สร้างไดยนิฮอน เอ็นไกยโยชิ เซ็นซุ หรือแผนที่ญี่ปุ่น
ตื่นตาตื่นใจไปกับน้ำไหลออกมาจากสะพานคล้ายน้ำตก ในทุก 15 นาทีที่สะพานจาจา (Ja Ja Bridge) ซึ่งจะมีหรือไปชิมสาเกรสละมุนที่โรงสาเกโทคัน (Tokun Sake warehouse)
และอย่าลืมแวะไปไหว้พระที่วัดคันปูคูจิ (Kanpukuji temple) วัดที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น 1 ใน 3 แห่งของวัด “ไดชิ” ซึ่งต่อต้านความชั่วร้ายที่ยิ่งใหญ่ในเขตคันโต
สัมผัสเส้นทางเรือ ที่เมืองโจชิ (Choshi)
ความคึกคักกระฉับกระเฉงตรงหน้าคือ กิจวัตรประจำวันของผู้คนที่ท่าเรือโจชิ (Choshi Port Wholesale Fish Market)
ที่นี่เป็นหนึ่งในสามท่าเรือหลักของเมืองโจชิ
ปลาที่ถูกจับที่ท่าเรือนี้จะถูกส่งต่อไปยังตลาดปลาต่างๆ ทั่วประเทศรวมไปถึงที่ตลาดปลาของเมืองที่ Wosse 21 Fish Market
แต่ถ้าหากคุณต้องการชมวิถีชีวิตของชาวประมงล่ะก็ให้แวะไปที่โทกาวะ (Tokawa) จะเห็นบ้านเรือนเรียงรายไล่ระดับลงไปสู่ท้องทะเลกว้างแปลกตาทีเดียว
นอกจากอาหารทะเลแล้วโจชิเองยังมีแหล่งท่องเที่ยวริมชายฝั่งทะเล (Choshi Seaside) ที่น่าสนใจหลายจุด
ไม่ว่าจะเป็นโขดหินอินุยวะ (Inuiwa Rock) หินรูปร่างคล้ายสุนัข
หรือจะเป็นชายหาดและแนวโขดหินโบราณอายุกว่า 3 ล้านปี สูงกว่า 60 เมตรและยาวกว่า 10 กิโลเมตรอย่างบิโอบุเการะ (Byobugaura)
ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อตั้งแต่สมัยเอโดะมาจนถึงปัจจุบัน ไม่ต่างจากชายหาดหัวหินบ้านเราเลยทีเดียว
นอกจากนี้ฝั่งตะวันออกของคาบสมุทรโจชิยังเป็นที่ตั้งของอินูโบซากิ (Inubosaki) แนวหินทะเลน้ำตื้นที่ทับถมกันอยู่กว่าล้านปี
ด้านบนมีประภาคารอินูโบซากิ (Inubosaki Lighthouse) ประภาคารสีขาวที่ไม่ใหญ่โตมากนักแต่สวยงามรับกับฉากหลังของท้องทะเลเหมาะแก่การชมทั้งพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก
ร่องรอยซามุไรที่ซากุระ (Sakura)
กลุ่มบ้านซามุไรของเมืองซากุระ อยู่ในบริเวณพื้นที่ของเมืองปราสาทดั้งเดิม ปัจจุบันเหลืออยู่ด้วยกัน 3 หลังได้แก่ บ้านคาวาฮาระ (Kawahara) เป็นบ้านซามุไรหลังที่เก่าแก่ที่สุดในชิบะ
ส่วนอีกสองหลังคือ บ้านทาจิมะ (Tajima) และบ้านทาเคอิ (Takei) ซึ่งได้รับยกย่องให้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรม บ้านบางหลังเปิดให้เข้าชมภายในตัวบ้านได้ แต่บางหลังจะให้ชมแต่เพียงภายนอกเท่านั้น ไม่ไกลกันนั้นเป็นเนินฮิโยโดริ (Hiyodori Slope) ทางเดินของซามุไรโบราณผ่านแนวป่าไผ่ที่สวยงาม
แต่ถ้าต้องการรู้เรื่องประวัติศาสตร์ของเอโดะให้มากขึ้นที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น (National Museum of Japanese History)
เป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดใหญ่ที่ภายในจัดแสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน
ครอบคลุมทุกแง่ทุกมุมของวัฒนธรรมญี่ปุ่น และวิถีชีวิต ที่สำคัญด้านหน้าของพิพิธภัณฑ์ หากมาในช่วงฤดูใบไม้ผลิ คุณจะได้ชมสวนซากุระที่สวยงามสมชื่อเมืองซากุระทีเดียว
ไหว้พระขอพรที่นาริตะ (Narita)
นาริตะนอกจากจะได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่เป็นที่ตั้งของสนามบินนานาชาติอย่างสนามบินนาริตะแล้วที่นี่ยังมีวัดมากมาย และหนึ่งในสามวัด ที่ใหญ่ที่สุดของภูมิภาคคันโตแห่งนี้ คือ วัดนาริตะซัง ชินโชจิ (Naritasan Shinshoji Temple)
ผู้คนจากทั่วโลกนับล้านคนต่อปีที่เข้ามาที่วัดแห่งนี้ โดยมากนิยมมาขอพรจากหลวงพ่อ “ฟุโดเมียว” (เทพเจ้าแห่งไฟ) อันศักดิ์สิทธิ์ โดยในทุกวันเวลาประมาณ 11.00 น.
ทางเจ้าอาวาสและพระจะมีการทำพิธีขอพร เราจะเห็นนักท่องเที่ยวและชาวญี่ปุ่นร่วมพิธี และส่งสิ่งของไปรับเปลวไฟ เพื่อให้สมปรารถนา บริเวณวัดนั้นกว้างขวางเป็นอย่างมากประกอบด้วยอาคารต่างๆ มากมาย
ไม่ว่าจะเป็นวิหารที่ประดิษฐานเทพเจ้าแห่งความรัก เทพเจ้าแห่งความโชคดี เทพเจ้าแห่งสุขภาพ
และอื่นๆ นอกจากภายในวัดจะสวยงามไปด้วยสวนทั้งแบบยุโรปและญี่ปุ่นแล้ว
ด้านนอกวัดยังมีถนนสายช้อปปิ้งให้คุณจับจ่ายซื้อของฝากสไตล์เอโดะให้กับคนที่รักได้อีก
และอีกอย่างที่ลืมไม่ได้ คือ ต้องลองรับประทานข้าวหน้าปลาไหลของนาริตะที่ขึ้นชื่อ บางร้านจะมีกรรมวิธีการแล่และย่างปลาไหลให้ได้ชมกัน นักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาตินิยมกันเป็นอย่างมาก
จะเห็นได้ว่าเมืองทั้ง 4 เมืองบนเส้นทางเอโดะในอดีตมีความน่าสนใจและน่าค้นหาเป็นอย่างมากที่สำคัญเป็นเมืองที่ไม่ไกลจากโตเกียวมากนัก
คุณสามารถแวะเที่ยวและเดินทางไปกลับใน 1 วันได้ แต่จะให้ดี แนะนำว่าควรอยู่ให้นานกว่านั้นแล้วคุณจะรู้ว่า 4 เมืองนี้มีอะไรมากกว่าที่คุณคิดอีกมาก
ของอร่อยจาก 4 เมืองโฮกูโซะ ได้แก่ สาเกรสนุ่มจากเมืองซาวาระ เซมเบ้กรอบอร่อยจากเมืองโจชิ ชาจากเมืองซาวาระ และข้าวหน้าปลาไหลจากเมืองนาริตะ
ข้อมูลเพิ่มเติม
เมืองโฮกูโซะ hokuso-4cities.com เมืองคาโตริ และเมืองซาวาระ www.city.katori.lg.jp
เมืองนาริตะ www.nrtk.jp เมืองซากุระ sakuraseeing.city.sakura.lg.jp/en/