NEW MG HS – SUV รุ่นล่าสุด ภายใต้แนวคิด “ELEGANCE”

เรียกเสียงฮือฮาดังก้องห้องแถลงข่าวงานเปิดตัวรถยนต์ New MG HS ด้วยสเปกที่ทาง MG จัดเต็มมาให้ทั้งในเรื่องความปลอดภัย เทคโนโลยี รูปลักษณ์ทั้งภายนอก-ภายใน แนวสปอร์ต กับราคาที่ให้มาไม่ถึงล้านและตัวท็อปในราคา 1 ล้านต้น เท่านั้น

ออกอาการดีใจมาก ที่ทางบริษัท เอ็มจี เซลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ส่งหมายเชิญให้ร่วมทดสอบรถยต์ New MG HS เส้นทางกรุงเทพฯ – กาญจนบุรี

เพื่อทดสอบสมรรถนะเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบขนาด 1.5 ลิตร ระบบเกียร์ TST 7 สปีด

กำลังสูงสุดที่ 162 แรงม้า แรงบิดที่ 250 นิวตัน-เมตร ที่รอบต่ำเพียง 1,700 รอบต่อนาที รองรับน้ำมัน E85

เริ่มต้นที่จุดนัดพบกันที่ MG Driving Experience Centre แต่เช้า ทางทีมงาน MG ต้อนรับอย่างเป็นกันเอง พร้อมอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับตัวรถ New MG HS ฟังก์ชันการใช้งาน เพื่อความคล่องตัวในการทดสอบ

ก่อนออกเดินทางเราทดสอบกันสักรอบก่อนที่ MG Driving Experience Centre สนามทดสอบที่ทาง MG สร้างขึ้นเพื่อให้ผู้อยากทดสอบรถยนต์ของ MG ทุกรุ่น ได้ทดสอบจริงในสนามทดสอบโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพียงแต่โทรแจ้งเพื่อการนัดหมายเท่านั้น

มาดูหน้าตาของ New MG HS ก่อนที่เราจะไปทดสอบกัน ตัวรถโดดเด่นด้วยตัวถังแบบ British Shoulder Line

ไฟหน้า LED Projector พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน Daytime Running Light

ไฟท้ายแบบ Space Light Field พร้อมไฟเลี้ยวด้านหน้าและด้านหลังแบบไล่ระดับแบบ Sequential เพิ่มความหรูหรา

ล้ออัลลอยด์ 18 นิ้ว ในรุ่น D และ X และ 17 นิ้วในรุ่น C พร้อมระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART (ในรุ่น D และ X) และระบบความปลอดภัยที่ครบครัน

ภายในรถตกแต่งมีสไตล์ วัสดุภายในให้สัมผัสนุ่มแบบ Soft Touch ทั้งคอนโซลหน้า

แผงประตูหน้าและด้านหลัง เบาะนั่งคู่หน้าปรับด้วยไฟฟ้าแบบ Bucket Seat

ทรงสปอร์ตสีดำสลับแดง หุ้มด้วยวัสดุ Alcantara (เฉพาะรุ่น  X)

เบาะหลังนั่งสบายปรับพับได้แบบ 60:40 พร้อมพนักพิงปรับองศาได้และที่วางแขนขนาดใหญ่ พร้อมช่องแอร์ และช่องเสียบ USB เพื่อความสบายแก่ผู้โดยสารด้านหลัง

โดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยไฟในห้องโดยสารแบบ Interactive Ambient Light ที่มีแสงต้อนรับทันทีที่เปิดประตู

และสามารถปรับโทนแสงภายในห้องโดยสารได้มากถึง 64 เฉดสี

สามารถปรับเปลี่ยนแบบอัตโนมัติตามโหมดการขับขี่

พร้อมหลังคาซันรูฟแบบพาโนรามา (Panoramic Sunroof) ขนาดใหญ่ 1.1 ตารางเมตร

รุ่นที่เราใช้ทดสอบครั้งนี้เป็นรุ่น MG HS รุ่น X เป็นรุ่นท็อป มีหลังคาซันรูฟเป็นเอกลักษณ์ของทาง MG แค่เห็นหน้าตาภายนอกก็ร้องว้าว ด้านในร้องใช่เลย ภายในสีทูโทนถูกใจวัยรุ่น

ระยะทางเริ่มต้นกับเส้นทางในเมืองกรุงฯ แน่นอนว่ารถติดสิครับ แต่เราก็มีเวลาในทำความเข้าใจระบบของรถ

ได้ทดลองระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART ระบบสั่งงานด้วยเสียงภาษาไทย (Smart Command) ที่ต้องเริ่มต้นด้วยคำว่า Hello MG ระบบจะตอบรับเรากับมาด้วยเสียงพูดของหญิงสาว

เราก็สั่งต่อไปว่าจะเปิดปิดกระจกข้าง เปิดปิดซันรูฟ เปิดปิดวิทยุ เปิดปิดปรับลดอุณหภูมิ เรียกได้ว่าสนุกจนลืมรถติดกันเลย ทั้งยังมีโหมด Adaptive Cruise Control แค่ดันก้านหลังพวงมาลัยเข้าหาตัว แล้วกดที่ปุ่ม set สีฟ้า ความเร็วของรถเราจะกำหนดตามรถคันหน้า

ไม่ว่าจะเร่งหรือจะเบรก เราไม่ต้องแตะคันเร่งหรือเบรก (แต่เพื่อความปลอดภัยเรายังต้องระมัดระวังอยู่เสมอ เนื่องจากเป็นระบบช่วยขับไม่ใช่แบบ 100%) ช่วยลดความเมื่อยล้าในการขับขี่ได้ดีทีเดียว

หลังจากหลุดตัวเมืองมาทางเส้นทางด่วน ทางโล่ง เราได้ลองอัตราเร่งว่าด้วยตัวรถขนาดใหญ่ แต่เครื่อง 1.5 เทอร์โบ จะมีกำลังและอัตราเร่งเป็นอย่างไร ต้องบอกว่าอัตราเร่งดีงาม ทั้งที่เรานั่งกันมา 4 คนในรถพร้อมสัมภาระหลังรถ

(ฝากระโปรงท้ายระบบไฟฟ้า ปิดง่ายๆ แค่กดปุ่มที่ฝากระโปรงรถ) ถือว่าสบายๆ ในโหมดขับขี่มีให้เลือกถึง 4 โหมดได้แก่ Eco, Normal, Sport หรือจะใช้โหมด Custom ที่ปรับสไตล์การขับขี่ได้ตามใจ

และยังมีปุ่ม Super Sport ที่ตอบสนองแบบเต็มที่

หลังจากแวะพักรับประทานอาหารกล่งวันแล้วเราไปที่ซาฟารี ปาร์ค จังหวัดกาญจนบุรี

เราขับรถ New MG HS เข้าไปเป็นขบวน ได้ทดลองใช้การสั่งงานด้วยเสียงในการเปิดกระจกข้างคนขับ และฝั่งคนขับเพื่อให้อาหารน้องกวงที่ทั้งขาว ทั้งสวย

ที่ว่าขาวก็คือขน ที่ว่าสวยก็คือเขา

และยังสั่งเปิดหลังคาซันรูฟเพื่อให้อาหารน้องยีราฟที่หัวสูง (555)

ยื่นคอลงมากินแครอทที่เราป้อนให้ผ่านหลังคาซันรูฟของ New MG HS

ต้องบอกว่าได้อารมณ์ความสนุกแบบมาซาฟารี จริงๆ ห้ามเปิดกระจก และประตูรถในส่วนของโซนหมีควาย เสือ และสิงโต

ซึงทางซาฟารีจะมีป้ายเตือนตลอดเพื่อความปลอดภัย

หากไม่สะดวกนำรถเข้ามาเองจะใช้บริการรถของทางซาฟารี เข้ามาก็มีให้บริการ

ตอนเย็นมีกจกรรม DIY และกิจกรรมสนุกระหว่างกินอาหารเย็น

ส่วนขากลับจากกาญจนบุรีเข้ากรุงเทพฯ ช่วงนอกเมืองเราก็ได้ลองทั้งอัตราเร่ง การเข้าโค้ง (ด้านหลังอาจมีการเหวี่ยง ในการเข้าโค้งที่ความเร็วมากหน่อย) การเก็บเสียงที่ทำได้ดี พวงมาลัยตอบสนองได้ดีและมั่นคงแม้ความเร็วสูง

ความปลอดภัยที่จัดเต็มมาให้ถึง 25 ระบบ ประกอบด้วยระบบ Synchronized Protection System ซึ่งเป็นระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันก่อนเกิดอุบัติเหตุที่ช่วยทั้งเรื่องระบบเบรกและช่วยรักษาเสถียรภาพในการขับขี่ 14 ระบบ

อาทิ ระบบควบคุมการเบรกขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control) ระบบลดความเสี่ยงที่จะทำให้รถพลิกคว่ำ ARP (Anti Rolling Program) ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System)  และมีอีก 4 ระบบที่ช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดจากมุมอับสายตา ประกอบด้วย

  • ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู DOW (Door Open Warning)
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist)
  • ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection)
  • ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)

รวมไปถึงระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ Advanced Driver Assistance Systems (ADAS) มากถึง 7 ระบบประกอบด้วย

  • ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-Beam Control)
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าในขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning)
  • ระบบช่วยควบคุมรถเมื่อรถจะออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention) 
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane Keep Assist) 
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist) 

นอกจากนี้ ยังเสริมความปลอดภัยให้อีกขั้นด้วยถุงลมนิรภัย 6 จุด และเพิ่มมุมมองที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้นด้วย กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ  (3D Around View Monitor)

ผ่านมอนิเตอร์ขนาด 10 นิ้วแบบทัชสกรีนหรือผ่าน MG Mobile Application บนสมาร์ตโฟนก็ได้

และยังมีระบบนำทางระบบเอนเตอร์เทรนแบบ online ทั้ง online music ค้นหาร้านอาหาร โรงแรม ผลจราจร แจ้งเตือนสิ่งผิดปกติ เรียกว่าครบครัน

ก่อนกลับเมืองกรุง ที่ MG Driving Experience Centre เรายังแวะไปที่วัดถ้ำเสือเพื่อกราบไหว้พระขอพรเพื่อเป็นมงคล

ต้องบอกว่ารถ New MG HS เป็นรถที่คุ้มค่า เกินราคา กับออพชั่นที่จัดมาเต็ม ทั้งเรื่องสรรถนะของเครื่องยนต์ รูปลักษณ์ภายนอก ภายใน ความบันเทิงที่ตอบโจทย์ชีวิตคนทุกรุ่น และเหนืออื่นใดความใส่ใจในเรื่องความปลอดภัยจัดให้เต็มที่ แต่ถึงอย่างไรคนขับยังเป็นสิ่งสำคัญเสมอ ต้องขับรถด้วยความระมัดระวัง และปฏิบัติตามกฎจราจรเสมอ

ข้อมูลเกี่ยวกับตัวรถเพิ่มเติมได้ที่ https://www.mgcars.com/th/Home

New MG HS มีสีรถให้เลือก 4 สี Scarlet Red, Arctic White, Black Knight, Silver Metallic ราคาเริ่มต้น รุ่น C ที่ 919,000 บาท , รุ่น D 1,019,000 บาท และรุ่น X 1,119,000 บาท

Share This Post:Share on Facebook0Share on Google+0Tweet about this on TwitterShare on LinkedIn0