Chill Out in Dalat – ชิลเอาท์ที่ดาลัด

Story & Photo by Editorial Staff

Dalat 1079

แสนจะชิล (ให้เติม ล ลิง ไปยาวเลย) น่าจะเหมาะกับเมืองดาลัต ประเทศเวียดนามเป็นที่สุด ด้วยอากาศแสนจะสบาย บวกกับการเดินทางที่แสนสะดวกอย่างเช่น ครั้งนี้เราเลือกเดินทางมากับสายการบินไทยเวียตเจ็ท ซึ่งมีเส้นทางบินตรงจากกรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) – ดาลัต ให้บริการเที่ยวบินไป-กลับ จำนวน 5 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ จันทร์ พุธ ศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที เราก็มาถึงท่าอากาศยานนานาชาติ เลียน เคือง (Lien Khuong) เมืองแลมดอง ประเทศเวียดนาม

Taichung ThaiVietjet

สนามบินดาลัต ค่อนข้างกะทัดรัดไม่มีที่ให้แลกเงินและจำหน่าย ซิมการ์ดสำหรับเล่นอินเทอร์เน็ต หากใครติดโซเชียลเราแนะนำให้เตรียมซิมมาเลยเพราะซิมจะมีขายคือในตัวเมืองดาลัต แต่ไม่ต้องกลัวว่าจะเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไม่ได้เพราะที่ดาลัตสามารถใช้ฟรีไวไฟได้แทบทุกที่ภายในเมืองดาลัต

Dalat 1080

สำหรับเงิน แนะนำให้แลกเงินดองจากเมืองไทยมาเพราะที่สนามบินไม่มีที่ให้แลกเงิน เงินเวียดนามเรียกว่าเงินดอง (VND) 10,000 ดองประมาณ 15 บาท จากสนามบินมีวิธีเข้าเมืองหลายวิธี เช่น ขึ้นรถ Shuttle bus ราคาประมาณ 40,000 ดอง รถจะไปจอดหลังห้างบิ๊กซี ที่เราสามารถซื้อซิมสำหรับเล่นเน็ตได้ แต่ถ้ามา 3-4 ท่านนั่งแท็กซี่แบบเหมาก็สะดวกดี ราคาไม่เกิน 300,000 ดอง

Dalat 1493

ดาลัตอยู่ห่างจากเมืองโฮจิมินห์ราว 300 กิโลเมตร เป็นเมืองที่ไม่ใหญ่มาก กะทัดรัดและโอบล้อมไปด้วยขุนเขาทำให้อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี และธรรมชาติก็สวยงามเหมือนอยู่ยุโรป จนถูกเรียกว่า Le Petit Paris ตั้งโดยกลุ่มคนที่ย้ายเข้ามาอยู่ในพื้นที่ช่วงแรกๆ ภายในตัวเมืองดาลัตมีที่เที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่ง

Dalat 1487

สำหรับคนที่เป็นสายถ่ายรูปชิคๆ บอกเลยว่า ให้เตรียมเมมโมรี่การ์ด ไปเยอะๆ มีที่ให้โพสท่าเก๋ๆ มากมาย อย่างเช่นที่โบสถ์คอนแวนต์โดเมนเดอมารี (Domaine De Marie Convent) โบสถ์นิกายโรมันคาทอลิกสีแดงอมชมพูให้ความรู้สึกอบอุ่น

Dalat 1459

ตั้งอยู่บนเนินเขาในตัวเมืองดาลัต ใกล้กับถนนโงเกวี่ยน โบสถ์นี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1930 โดย Zuzanne Humbert ภริยาของผู้ว่าการอินโดไชน่า ชาวฝรั่งเศส ในยุคที่ฝรั่งเศสยังปกครองเวียดนามในฐานะอาณานิคม ลักษณะสถาปัตยกรรมของโบสถ์เป็นแบบฝรั่งเศสสมัยศตวรรษที่ 17

Dalat 1473

ผสมผสานกับรูปแบบบ้านไม้ต่อขาของชนกลุ่มน้อยในเวียดนาม เวลามองไปคล้ายกับบ้านสองชั้น และที่ทาด้วยสีชมพูก็เพื่อแสดงให้รู้ว่าโบสถ์แห่งนี้มีแต่แม่ชีนั่นเอง ไปต่อกันอีกสักหนึ่งโบสถ์ โบสถ์ดาลัต (Cock Church or Evangelical Church) หรือโบสถ์ไก่ เริ่มสร้างตั้งแต่ปี ค.ศ. 1931 แล้วเสร็จปี ค.ศ. 1942

Dalat 1532

เป็นโบสถ์คริสต์นิกายโปรแตสแตนต์ ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาเช่นกัน บนถนน Tran Phu ลักษณะสถาปัตยกรรมเป็นสไตล์โรมัน ที่มียอดหอคอยแหลมสูงเด่น บนยอดหอคอยประดับด้วยรูปปั้นไก่ยืนอยู่บนยอดไม้กางเขน อันเป็นที่มาของชื่อโบสถ์ไก่ที่คนนิยมเรียกกัน

Dalat 1536

ซึ่งไก่นั้นเป็นสัญลักษณ์ของฝรั่งเศส เนื่องจากโบสถ์นี้ตั้งอยู่บนเนินและมีความสูงถึง 47 เมตรทำให้ไม่ว่าอยู่ตรงไหนของเมืองก็มักจะมองเห็นโบสถ์อยู่เสมอ

Dalat 1264

จุดหนึ่งที่ถือได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและคนเวียดนาม นิยมไปกันก็คือทะเลสาบซวนเฮือง (Xuan Huong lake) สำหรับผมแล้วทะเลสาบแห่งนี้ถือได้ว่าเป็นแหล่งรวมสรรพสิ่งอย่างแท้จริง เริ่มจากธรรมชาติสวยงามที่อยู่โดยรอบของทะเลสาบ สวนสวยๆ ดอกไม้งามๆ ไว้ให้ชื่นชมและพักผ่อน

Dalat 1496

สังเกตได้จากคนท้องถิ่นที่มักจะพาครอบครัวมานั่งเล่นทำกิจกรรมกัน ที่นี่มีร้านกาแฟสุดเก๋ชื่อ Doha Cafe อยู่ในสถาปัตยกรรมรูปดอกอาร์ติโชค (Atiso) ดอกตูมสีเขียวที่ชื่อ Quảng Trường Lâm Viên

Dalat 1514

ดอกอาร์ติโชคเป็นดอกไม้ที่ปลูกกันมากในเวียดนาม

Dalat 1519

Dalat 1520

Dalat 1505

ไม่ไกลกันนั้นมีอาคารโดมดอกทานตะวัน ซึ่งด้านใต้คือห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี คิดดูว่าเก๋แค่ไหน แค่สองจุดนี้ผมว่าคุณก็หมดเมมไปเยอะละ แต่สำหรับคนที่รักกิจกรรมบริเวณรอบๆ ก็มีกิจกรรมหลายอย่างให้ลองทำเช่น การขี่ม้า ใช่..มีม้าให้บริการแบบชายหาดหัวหินเลย หรือจะหวานหน่อยนั่งรถลากแบบในเทพนิยายซินเดอเรลลา ที่นี่ก็มีบริการ ตอบโจทย์ทุกคนในครอบครัวทีเดียว ผมแนะนำให้มาช่วงเย็นๆ บรรยากาศจะดีมาก

Dalat 1178

ก่อนหน้านั้นก็ให้ไปเที่ยวที่สถานีรถไฟดาลัต (Dalat Railway Station) ถือเป็นสถานีรถไฟที่เก่าแก่ที่สุดของเวียดนามและอินโดจีน สร้างขึ้นโดยชาวฝรั่งเศส ในช่วง ศ.ศ. 1932 – 1938 เส้นทางสายนี้มีความยาว 84 กม.

Dalat 1144

ปัจจุบันมีบริการให้นักท่องเที่ยวได้ลองนั่งรถไฟเครื่องจักรไอน้ำแบบดั้งเดิม ที่ยังต้องใช้ถ่านไม้ในการเผาไหม้ของเครื่องจักร ผ่านเส้นทางท่องเที่ยวชมธรรมชาติระยะทางประมาณ 5 กม.

Dalat 1141

ปลายทางเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่มีชื่อว่า Trai Mat โดยรถไฟเครื่องจักรไอน้ำนี้จะเปิดให้บริการเพียง 5 เที่ยวต่อวันเท่านั้น ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาทีแล่นไปและ 20 นาทีแล่นกลับ

Dalat 1154

สำหรับใครที่ไม่ขึ้นรถไฟก็สามารถชื่นชมกับสถาปัตยกรรมของหลังคาที่ไม่ซ้ำกัน สามหลังคามุกของสถานีนี้ได้

Dalat 1167

สถานีนี้ได้รับการยอมรับว่าเป็นวัฒนธรรมประจำชาติอันเก่าแก่ของเวียดนาม

Dalat 1153

ในชานชลายังนำโบกี้เก่ามาปรับเปลี่ยนเป็นคาเฟ่เก๋ๆ น่ารักๆ วัยรุ่นชาวเวียดนามจะแต่งตัวน่ารักมาถ่ายรูปเช็กอินกันไม่ขาดสาย มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะมากๆ

Dalat 1147

อย่างที่ผมบอกเสมอว่า ผมชื่นชอบการเดินตลาด เพราะตลาดจะเป็นที่ที่คุณสามารถเห็นวิถีชีวิตของคนเมืองนั้นๆ ได้ เช่นเดียวกับที่ตลาดนัดกลางคืน (Dalat Night Market)

Dalat 1198

สิ่งแรกที่เห็นได้คือ แม่ค้าพูดไทยได้เพราะคนไทยมาเที่ยวกันมาก สำหรับสินค้าที่นำมาจำหน่ายในตลาดกลางคืนแห่งนี้ มีหลากหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า เครื่องประดับ เครื่องนุ่งห่ม ของฝาก งานหัตถกรรม หรืออาหารการกินทั้งของสด ของแห้ง

Dalat 1195

Dalat 1225

Dalat 1231

Dalat 1186

แนะนำให้ลองกินพิซซ่าดู ขนาดเล็กๆ พออิ่ม แป้งกรอบ ไส้เยอะ รสชาติกลมกล่อมดี ราคาไม่แพงชิ้นหนึ่งก็ 20,000 ดองเท่านั้น ส่วนราคาสินค้าอื่นๆ ผมว่าค่อนข้างถูกมาก จับจ่ายใช้สอยได้อย่างสบายใจ

Dalat 1185

Dalat 1229

Dalat 1213

Dalat 1258

นอกจากตัวเมืองดาลัตที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายแล้ว นอกเมืองไปไม่ไกลประมาณครึ่งชั่วโมงถึงหนึ่งชั่วโมงก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่ตอบรับความต้องการทุกสายได้ครบถ้วน

Dalat 1111

Dalat 1113

ถ้าคุณเป็นสายธรรมชาติและแอดเวนเจอร์หน่อยๆ แนะนำไปที่น้ำตกดาตันลา (Datanla Waterfall) ได้เลย

Dalat 1118

ห่างจากเมืองดาลัตไปทางทิศใต้แค่ 5 กิโลเมตรเท่านั้นแม้น้ำตกจะไม่ใหญ่มากนักแต่กิจกรรมเยอะ ไม่ต้องเดินลงไปดูน้ำตก

Dalat 1100

แต่ให้ลองนั่งรถราง (Roller Coaster) ลงไปชมตัวน้ำตก จะนั่งคนเดียวหรือสองคนก็ไม่ว่ากัน

Dalat 1083

Dalat 1090

รถจะไล่ไปตามรางเรื่อยๆ ไม่อันตรายอย่างที่คิด เพราะเราสามารถควบคุมความเร็วได้ตามใจชอบ สนุกสนานเป็นที่สุด

Dalat 1101

หรือถ้าออกกำลังกายเดินลงไปได้ ทางเดินเป็นบันไดคอนกรีตทำไว้อย่างดี ตลอดเส้นทางก็เป็นร่มเงาธรรมชาติสวยงาม

Dalat 1370

แต่ถ้าคุณเป็นสายบุญที่นี่เลย วัดลึงเฟือกหรือวัดเจดีย์มังกร (Linh Phuoc) วัดพุทธนิกายเซนที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของเวียดนาม ห่างจากตัวเมืองประมาณ 8 กิโลเมตร

Dalat 1449

ในวิหารตกแต่งสวยงามด้วยเซรามิกหลากสี โดดเด่นด้วยหอระฆังสูง 7 ชั้น มีความสูงถึง 37 เมตร สูงที่สุดในเวียดนาม

Dalat 1346

ผนังด้านบนภายในวิหารยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนังสีสันสดใส บอกเล่าเรื่องราวพุทธประวัติตั้งแต่ประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน

Dalat 1404

ไม่ไกลกันนั้นมีองค์เจ้าแม่กวนอิมปางยืนยกพระหัตถ์ประทานพร ทำจากกระดาษดอกบานไม่รู้โรย วิธีสักการะขอพรที่วัดนี้ ทำโดยจุดธูปเพียงดอกเดียวสำหรับไหว้พระ บอกชื่อตัวเอง วันเดือนปีเกิด ขออะไร อธิษฐานในใจไม่ต้องบนบานศาลกล่าวอะไรทั้งนั้น

Dalat 1426

Dalat 1421

สำหรับสายดอกไม้ พุ่งตรงมาที่นี่เลย สวนดอกไฮเดรนเยีย (Hydrangeas Garden) ออกมาทางตะวันออกของเมืองดาลัต ประมาณ 10 กิโลเมตร เท่านั้น

Dalat 1290

คุณก็จะได้สัมผัสกับทุ่งดอกไฮเดรนเยียกว่า 10 ไร่ (ดอกใหญ่กว่าหน้าคนอีก) เดิมที่นี่เป็นเพียงสวนดอกไม้ธรรมดา แต่เมื่อมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมากขึ้นจึงเปิดให้เข้าชมสวนในสนนราคาแสนถูกเพียง 30,000 ดองเท่านั้น

Dalat 1300

ก็ได้เข้าไปเดินเล่นท่ามกลางดอกไม้แสนสวย จากอากาศที่ค่อนข้างเย็นของดาลัตทำให้มีดอกไฮเดรนเยียตลอดทั้งปี ถ้าอยากได้แบบดอกเยอะๆ บานมากสุด แนะนำให้มาช่วงปลายปีจะเหมาะสุด

Dalat 1273

สิ่งหนึ่งที่ผมเห็นได้จากการมาเที่ยวเมืองดาลัตคือผู้คนที่สดใส อารมณ์ดี อาจจะเพราะอากาศที่ดีของเขาก็เป็นได้

Dalat 1297

ด้วยการเดินทางที่ไม่ไกลมากเพียงชั่วโมงนิดๆ คุณก็สามารถเดินทางมาพักผ่อนในวันหยุดสุดสัปดาห์ได้ ดังนั้นวันหยุดนี้ รีบจองตั๋วแล้วมาชิลที่ดาลัตกัน

 

VietJet_Air_logo

การเดินทางไปดาลัต สามารถเดินทางไปได้ง่ายดาย ด้วยสายการบินไทยเวียตเจ็ท บินตรงจากกรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) – ดาลัต ไป-กลับ จำนวน 5 เที่ยวต่อสัปดาห์ ทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ สนใจจองตั๋วได้ที่ https://www.vietjetair.com

Share This Post:Share on Facebook0Share on Google+0Tweet about this on TwitterShare on LinkedIn0