การบินไทยและไทยสมายล์ออกมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคปอดอักเสบจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

วันที่ 28 มกราคม 2563 – บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ จัดบรรยายสรุปการออกมาตรการเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคปอดอักเสบจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ทั้งทางด้านอากาศยาน การบริการบนเครื่องบิน รวมถึงฝ่ายบริการลูกค้าภาคพื้น พร้อมทั้งติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้แก่ผู้โดยสารและผู้ใช้บริการ

พร้อมทั้งนำสื่อมวลชนเข้าชมการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อ และการเช็ดทำความสะอาดภายในเครื่องบิน โดยมี นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในการนำชม พร้อมด้วยนายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ นายเชิดพันธ์ โชติคุณ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายช่าง เรืออากาศเอก ปรารถนา พัฒนศิริ ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายความปลอดภัย ความมั่นคงและมาตรฐานการบิน และนายภีมะ เนยปฏิมานนท์ กรรมการผู้จัดการฝ่ายบริการอุปกรณ์ภาคพื้น บริษัท การบินไทยฯ ร่วมบรรยายสรุป ณ โรงซ่อมเครื่องบิน (Hangar) ฝ่ายช่างการบินไทย สุวรรณภูมิ

นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การบินไทย และไทยสมายล์ ได้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการภาวะวิกฤติ เป็นผู้รับผิดชอบในการออกมาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ รวมทั้งประสานงานหน่วยงานทั้งภายในและภายนอก โดยในส่วนของหน่วยงานภายใน ประสานให้แต่ละฝ่ายดำเนินการตามมาตรการอย่างเคร่งครัด และประสานกับหน่วยงานภายนอก ได้แก่ กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ในการติดตามการออกมาตรการต่างๆ เพื่อนำมาตรการมาดำเนินการปฏิบัติ รวมทั้งสรุปรายงานผลการดำเนินการให้ฝ่ายบริหารรับทราบอย่างต่อเนื่อง

สำหรับมาตรการหลักของการบินไทยจะคำนึงถึงมาตรการที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการผู้โดยสารและการดำเนินการด้านสุขลักษณะ เพื่อให้มีการรักษาความสะอาดสูงสุด ในการให้บริการทั้งบนเครื่องบิน และการบริการภาคพื้น ได้แก่ มาตรการในการคัดกรองผู้โดยสารทั้งขาเข้าและขาออก และมาตรการการรักษาความสะอาดในห้องผู้โดยสารบนเครื่องบิน ทั้งด้านอุปกรณ์ เครื่องใช้ในการบริการและพนักงานที่ปฏิบัติงาน ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ดำเนินมาตรการต่างๆ สรุปสาระสำคัญ ดังนี้

มาตรการคัดกรองในการตรวจรับผู้โดยสารและการบริการภาคพื้น
–  สังเกตอาการผู้โดยสาร ณ จุดบริการ หากพบว่ามีอาการบ่งชี้ ให้รายงานต่อแพทย์ประจำสนามบินเพื่อตรวจดูอาการ และยืนยันความปลอดภัยก่อนเดินทาง

มาตรการในการให้บริการบนเครื่องบิน
– พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินสวมใส่หน้ากากอนามัยและถุงมือในการบริการบนเที่ยวบินที่มีความเสี่ยง
– ให้บริการโดยไม่ให้ผู้โดยสารจับต้องเครื่องมืออุปกรณ์บริการอาหาร
– เพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดภายในห้องน้ำระหว่างเที่ยวบิน
– จัดเตรียมหน้ากากอนามัยสำหรับผู้โดยสารที่มีอาการสวมใส่บนเครื่อง
– สังเกตอาการผู้โดยสารระหว่างเดินทาง หากมีอาการต้องสงสัยให้แยกผู้โดยสาร และแจ้งด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศก่อนเครื่องลง

มาตรการจัดเตรียมอากาศยาน และฆ่าเชื้อโรค
– การอบพ่นสเปรย์ Calla 1452 ฆ่าเชื้อโรคในอากาศยาน ทั้งในบริเวณห้องผู้โดยสาร และห้องนักบิน ในทุกเที่ยวบินที่ทำการบินกลับมาจากประเทศจีนทั้งหมด และพื้นที่ที่มีความเสี่ยง
– ระยะเวลาในการพ่นยาฆ่าเชื้อบนเครื่องบิน โดยเริ่มจากลูกเรือคนสุดท้ายลงจากเครื่อง ใช้เวลาทั้งหมด 45 นาที โดยเป็นการพ่นยา 15 นาที และอีก 30 นาที เป็นการปิดเครื่องบินเพื่อทำการอบฆ่าเชื้อ
– การกรองอากาศด้วย HEPA FILTER

มาตรการทำความสะอาดภายในอากาศยานมามาตรการป้องกันและเฝ้าระวังสุขอนามัยพนักงาน 
– ทำความสะอาด Deep Cleaning และทำความสะอาด 36 จุดสัมผัสร่วม แบ่งตามพื้นที่เป็น 5 ส่วน ได้แก่ กระเป๋าหน้าที่นั่งผู้โดยสาร (Passenger Seat Pocket) บริเวณภายในเครื่องบินทั่วไป (Aircraft Interior Cabin) ที่นั่งผู้โดยสาร (Passenger Seat) ครัว (Galley) และห้องน้ำ (Toilet) โดยมีวิธีดำเนินการ ดังนี้

  1. พนักงานต้องใช้อุปกรณ์ป้องกัน (หน้ากาก/ถุงมือ) อย่างเคร่งครัด  
  2. มัดปากถุงให้แน่นหนา ก่อนนำขยะลงจากเครื่องและทิ้งในจุดที่กำหนด
  3. หลังจากปฏิบัติงานต้องล้างมือด้วยสบู่/เจลล้างมือ ทุกครั้ง
  4. มาตรการป้องกันและเฝ้าระวังสุขอนามัยพนักงาน

-เผยแพร่ความรู้ให้พนักงานเรื่องลักษณะของโรค และการป้องกันตัวเอง ไม่ให้เกิดความตื่นตระหนก
– จัดหาอุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล (Personal Protective Equipment : PPE) และวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ให้พนักงาน
– ให้ทำการตรวจสุขภาพหากพบพนักงานมีอาการต้องสงสัย ตามความเห็นแพทย์ และให้หยุดพักจนกว่าจะหายเป็นปกติ

มาตรการการรับขนส่งสินค้าและไปรษณียภัณฑ์
– ตรวจสอบหีบห่อสินค้าให้เป็นไปตามมาตรฐาน
– หลีกเลี่ยงการส่งสินค้าที่มีความเสี่ยง
– จัดการคลังสินค้าให้ถูกสุขลักษณะปลอดจากการเป็นแหล่งเชื้อโรค

มาตรการด้านโภชนาการ
– จัดซื้อวัตถุดิบที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน GAP
– ดำเนินการผลิตภายใต้ระบบประกันคุณภาพและความปลอดภัยอาหาร HACCP, GMP, HALAL
– เครื่องมือและอุปกรณ์การผลิตและบริการทุกชิ้นผ่านการทำความสะอาดและพาสเจอไรซ์
– ผ้าที่ให้บริการในเที่ยวบินผ่านการซักอบรีด อย่างถูกสุขลักษณะ

ทั้งนี้ การบินไทยและไทยสมายล์ ได้ติดตามประสานงานกับกระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย อย่างต่อเนื่อง เพื่อติดตามสถานการณ์และมาตรการต่างๆ อย่างใกล้ชิดต่อไป

Share This Post:Share on Facebook0Share on Google+0Tweet about this on TwitterShare on LinkedIn0