ตามรอยเต่ายักษ์ไป “เซเชลส์”

Story & Photo by Kanjana Hongthong

เพราะการสัญจรไปหาทวีปแอฟริกายังคงเป็นโจทย์ที่ยากกว่ายุโรป เอเชีย หรือ อเมริกาเสมอ เป็นอันรู้กันว่านักเดินทางต้องทำการบ้านอย่างหนักไม่ว่าจะเป็นการเตรียมฉีดวัคซีนป้องกันไข้เหลือง ต้องเตรียมรับมือกับความไม่สะดวกสบายและความไม่ปลอดภัยที่อาจแวะเวียนมาทักทายได้ตลอดเวลา

แต่นี่แหละ รสชาติของการเดินทางที่ไม่ได้มีด้านที่หอมหวานเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีมุมที่ขมๆ มันๆ มาให้เราชิมเสมอ เที่ยวนี้ฉันเหาะเหินเดินอากาศข้ามทวีปไปหย่อนตัวลงที่ประเทศเซเชลส์ (Seychelles) เกาะที่พอพูดขึ้นมาแล้วหลายคนยังเกาหัวแกร่กว่ามันอยู่มุมไหนของโลก หรือตรงไหนของทวีปแอฟริกา

เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า เต่ายักษ์ที่เจอบนเกาะคุก ที่ประเทศแทนซาเนียนั่นแหละเป็นต้นเหตุให้ดั้นด้นไปหาประเทศเซเชลส์
ปลายปี 2011 ฉันพาตัวเองไปเดินป้วนเปี้ยนบนเกาะซานซิบาร์ ประเทศแทนซาเนีย เที่ยวเกาะซานซิบาร์จนปรุแล้ว เลยนั่งเรือแฉลบไปหาเกาะคุก เกาะที่เคยใช้ขังพวกทาสหัวแข็ง เกาะนี้ไม่ได้มีแค่อดีตที่น่าสนใจ และน้ำทะเลใสแจ๋วเท่านั้น แต่มีรีเซฟชั่นที่ทำให้ฉันอึ้งตะลึงงัน เพราะมีเต่ายักษ์คลานยั้วเยี้ยเต็มไปหมด นั่นเพราะทุกวันนี้ บนเกาะเป็นศูนย์อนุรักษ์เต่ายักษ์ ซึ่งก็ต้องบอกว่ามีไม่กี่แห่งในโลกหรอก ที่จะเจอเต่ายักษ์แบบนี้ เจ้าหน้าที่บอกว่าเต่าพวกนี้บางตัวอายุเกินร้อยปีก็มี แต่เขาว่าเต่าพันธ์ุนี้บางตัวอายุยืน 200 – 250 ปี เรียกว่าเป็นสัตว์บกอายุยืนที่สุดในโลกก็ว่าได้ ส่วนน้ำหนักไม่ต้องพูดถึง หนักสุดของเกาะนี้เกิน 200 กิโล แต่ไม่รู้ตัวไหน เพราะมองทางไหนก็ใหญ่ไปหมด

ที่นี่เขาปล่อยให้เต่ายักษ์เดินเพ่นพ่านได้ตามอัธยาศัย มันเลยเดินด้วยท่วงท่าอันเชื่องช้าแต่สง่างามขึ้นมาบนทางเดินอย่างคุ้นเคยกับผู้คน ใครจะป้อนอาหารมันก็ทำได้เลย ดูเหมือนเด็กๆ จะชอบพวกมันเป็นพิเศษ ดูเหมือนที่นี่เขาเตรียมผักเอาไว้ให้มันหลายชนิดเลยล่ะ ซึ่งมันก็บริโภคอาหารไม่ขาดปาก เป็นที่ถูกอกถูกใจนักท่องเที่ยวกันทั่วหน้า เห็นแล้วต้องบอกว่า ความจริงที่นี่น่าจะเรียกว่าเกาะเต่ามากกว่าเกาะคุกแล้วความจริงก็ปรากฏว่าเต่ายักษ์พวกนี้มันเดินทางมาจากประเทศเซเชลส์ ที่อยู่กลางมหาสมุทรอินเดีย ตอนนั้นแหละที่ฉันได้แต่นึกในใจว่าไม่ช้าก็เร็วต้องดั้นด้นไปดูเต่ายักษ์ที่บ้านเกิดของพวกมันให้ได้

โมงยามขยับไปปีเศษ สองขาของฉันก็ย่ำลงบนแผ่นดินเซเชลส์ถิ่นกำเนิดของเต่ายักษ์ เป็นอันรู้กันในหมู่นักทัศนศึกษาโลกว่าถ้าจะดูเต่าธรรมดาคงไม่ต้องข้ามน้ำข้ามมหาสมุทรอินเดียมาถึงเซเชลส์ แต่ถ้าจะดูเต่ายักษ์ต้องมาที่เซเชลส์เท่านั้น กินเนสบุ๊ค บันทึกว่าเต่ายักษ์ที่นี่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ช่วงศตวรรษที่ 19 เต่ายักษ์แห่งเซเชลส์ถูกมนุษย์รุกรานอย่างหนัก จนเกือบจะสูญพันธ์ุไปจนหมด แต่มาค้นพบเต่ากว่า 200 ตัวบนเกาะอัลดาบราซึ่งเป็นเกาะร้างแห่งหนึ่งของเซเชลส์ จากนั้นจึงอพยพไปเลี้ยงบนเกาะคูริยูส ซึ่งเป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเล

ทุกวันนี้ไม่ว่าไม่ใช่เกาะคูริยูสเท่านั้น แต่ไม่ว่าจะเร่ไปทางไหนของเซเชลส์ เจ้าถิ่นบอกว่าเจอกองทัพเต่ายักษ์ได้ไม่ยากนัก เพราะทุกวันนี้ตัวเลขประชากรเต่ายักษ์ไต่ขึ้นไปใกล้ 2 แสนตัวแล้ว แต่ประชากรชาวเซเชลส์ยังมีไม่ถึง 9 หมื่นคน แทบจะเรียกได้ว่า มาไม่ถึงเซเชลส์ ถ้าไม่ได้สบตากับเต่ายักษ์เลยแม้แต่ตัวเดียว ออกตัวสำรวจเต่ากันที่เกาะมาเฮ (Mahe Island) เกาะที่เป็นที่ตั้งของวิคตอเรียซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศเซเชลส์ ความจริงใครไปใครมา เป็นต้องมาเที่ยวกันที่เกาะมาเฮนี่แหละ เกาะนี้มีขนาดใหญ่สุด รายรอบเกาะมีชายหาดและโรงแรมให้เลือกพักเต็มไปหมด

การจะสัญจรไปมาตามมุมต่างๆ บนเกาะมาเฮถึงแม้ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องใช้เวลาพอสมควร เพราะถนนหนทางค่อนข้างแคบ และส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูง จะไปเที่ยวแต่ละหาดต้องข้ามภูเขาหลายลูกเชียวล่ะ ฉันถามหาแหล่งดูเต่ายักษ์บนเกาะมาเฮจากเจ้าหน้าที่เรือนพัก หล่อนบอกว่าไม่ต้องไปไหนไกลก็เจอเต่าเป็นโขลงได้ เพราะแค่ในเรือนพักก็มีประชากรเต่าเป็นเพื่อนร่วมชายคาแล้ว ไม่พูดพร่ำทำเพลง เลยปั่นสองล้อมุ่งหน้าไปหาจุดที่ได้รับเบาะแสมา แล้วก็เป็นแบบนั้นจริงๆ กำลังผึ่งแดดเล็มผักหญ้ากันอย่างเพลินอารมณ์ คนดูก็พลอยเพลินไปด้วย

เต่าพวกนี้เดินช้า บางตัวแทบไม่ขยับตัวเลย ไม่รู้เป็นเพราะอายุเยอะเกิน 100 ปี หรือแบกน้ำหนักตัวเยอะเกิน 100 กิโลกันแน่ เจ้าหน้าที่ดูแลบอกว่าเรื่องน้ำหนักเกิน 200 กิโล นี่เป็นเรื่องธรรมดามากทุกวันนี้ ชาวเซเชลส์ส์พยายามอนุรักษ์เต่ายักษ์พวกนี้เอาไว้ แต่เขาบอกแทบไม่ต้องเป็นห่วง เพราะพวกมันผสมพันธุ์กันเรื่อยๆ แถมเวลาผสมพันธุ์จะไม่เชื่องช้าเหมือนตอนเดินนะ คิดดูเถอะ จากใกล้จะสูญพันธุ์ แต่ตอนนี้ทั้งประเทศใกล้จะ 2 แสนตัวแล้ว ยิ่งไม่มีนโยบายคุมประชากรเต่าด้วยแล้ว ตอนนี้ชาวเกาะเขาลุ้นกันว่าจะทะลุ 2 แสนเมื่อไหร่

แค่เกาะมาเฮชาวเกาะที่นี่เขาก็บอกว่ามีหลายมุมให้ดูเต่ายักษ์ อยู่ที่เราต่างหากว่มีเวลาแค่ไหน จากเกาะมาเฮพอขยับตัวไปเกาะยอดนิยมอีกเกาะหนึ่งอย่างลาดิค (La Digue) คราวนี้เขาบอกเป็นแหล่งดูเต่ายักษ์อีกเหมือนกัน นั่งเรือโต้คลื่นไปราวชั่วโมงกว่า เกาะลาดิคก็ทอดตัวอยู่ตรงหน้า เกาะนี้ไซส์เอสเอส เล็กขนาดเที่ยวครึ่งวันก็ทั่วแล้ว แค่แรกที่เหยียบเกาะลาดิค ก็เผลออมยิ้มซะแล้ว เมื่อภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า คือสองล้อที่เคลื่อนผ่านไปมาเพ่นพ่านไปหมด ใช่แล้ว คนที่นี่เขาใช้จักรยานเป็นพาหนะหลักประจำเกาะ จะไปไหนมาไหนใช้สองล้อปั่นไปทั่วเกาะ นักท่องเที่ยวมาที่นี่ก็เลยปั่นสองล้อตามชาวเกาะ ธุรกิจให้เช่าจักรยานจึงดูเหมือนฮิตกว่าอะไรทั้งหมด

ลาดิคเป็นเกาะเล็กที่สงบมาก ยิ่งถ้าเดินไปตามบ้านชาวบ้าน จะได้ยินเสียงนก เสียงกา และเสียงวัว เพราะเกาะนี้ผู้คนยังนิยมเลี้ยงวัวเอาไว้ใช้งานอยู่ แทบทุกบ้านและทุกโรงแรม จึงมีวัวไว้เป็นแรงงาน มุมยอดนิยมของเกาะอยู่ที่หาดซอร์ส ดิอาร์เจนท์ (Anse Source D’Argent) ชายหาดที่ติดอันดับสวย 1 ใน 10 ของโลก หาดมีสายสะพายแบบนี้นักท่องโลกอยากมานอนเกลือกกลิ้งปิ้งตัวกันทั้งนั้น ฉันเองก็เป็นหนึ่งในนั้น ทั้งแช่น้ำทะเลทั้งเลื้อยไหลไปบนหาด จากนั้นค่อยตามลายแทงที่ชาวเกาะเขาบอกว่าเป็นมุมดูเต่ายักษ์ของเกาะลาดิค แล้วก็ไม่ผิดหวัง เต่ายักษ์แห่งเกาะลาดิค คลานไปชูคอรอรับผักหญ้าจากนักท่องเที่ยวกันให้สลอนไปหมด

ออกตัวเอี๊ยดเลยว่า ฉันไม่ใช่คนรักสัตว์ ประเภทเห็นหมาแมวแล้วพุ่งไปหอม แต่วันนั้นนั่งดูเต่ายักษ์อย่างเพลินอารมณ์ วันนั้นเต่ายักษ์สอนว่า บางครั้งช้าบ้างอะไรบ้างก็มีความสุขไปอีกแบบ ชีวิตที่เซเชลส์ก็เป็นแบบนั้นแหละ

ข้อมูลเพิ่มเติม
– มีเที่ยวบินจากกรุงเทพฯ ไปกลับเซเชลส์ทุกวัน (ไม่ใช่บินตรง)
– ที่พักของเกาะต่างๆ ของเซเชลส์นั้นมีให้เลือกเยอะมาก แต่ราคาค่อนข้างแพง
– ที่เกาะมาเฮมีโรงแรมน่าพักอย่าง Constance Ephelia Resort Seychelles เป็นโรงแรมห้าดาวที่รักษ์ธรรมชาติ หรือ จะเรียกว่ากรีน โฮเท็ลก็ไม่ผิด คลิกไปดูรายละเอียดที่ (www.epheliaresort.constancehotels.com)
– ส่วนที่เกาะลาดิคแนะนำให้พักที่โรงแรม Chateau St Cloud บูทีค โฮเท็ลเก๋ๆ ที่อยู่ใจกลางเกาะ มีห้องพักไม่เยอะมาก แต่อบอุ่นและอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอย่างแท้จริงคลิกไปดูรายละเอียดที่ (www.chateaustcloud.com)
– ยังมีเกาะพราแลงที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยวกัน แนะนำให้พักที่โรงแรม Raffles Praslin Seychelles คลิกไปดูรายละเอียดที่ (www.seychellesraffles.com)
– ประเทศเซเชลส์ใช้เงินสกุลรูปี
– นักท่องเที่ยชาวไทยไปเที่ยวประเทศเซเชลส์ไม่ต้องทำวีซ่า
– ที่นี่เดินทางไปท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ช่วง มิ.ย. – ก.ย. เป็นไฮซีซั่น รวมถึงช่วงปีใหม่ แต่เช็คสภาพอากาศก่อนเดินทางที่ www.wunderground.com

Share This Post:000