เที่ยวง่ายๆ ไปกับ Osaka Amazing Pass

Story & Photo by Vacationist Team

โอซาก้า เมืองแห่งสีสันของญี่ปุ่นที่เที่ยวหลากหลายมากๆ ทั้ง ศาลเจ้าสวนสนุก แหล่งช้อปปิ้ง ของอร่อย สำหรับใครที่อยากเที่ยวโอซาก้าในราคาประหยัด ขอแนะนำให้รู้จักกับชุดตั๋วโดยสารสุดคุ้มเพื่อการเดินทางท่องเที่ยวทั่วเมืองโอซาก้า คือOsaka Amazing Pass

สำหรับความพิเศษของบัตรนอกจากจะใช้โดยสารรถไฟใต้ดิน/เอกชน รถรางและรถบัสภายในเมืองโอซาก้า (Osaka City)ได้โดยไม่จำกัดจำนวนครั้งภายในเวลา 1 วัน (หรือ 2 วันติดกัน) แล้ว ยังสามารถแสดงตั๋วนี้เพื่อรับสิทธิพิเศษกับห้างร้านต่างๆ ที่ร่วมกับบัตรใบนี้ และสามารถใช้เป็นตั๋วเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวกว่า 40 แห่งได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายส่วนสถานที่ไหนใช้ได้บ้างไปดูกันสถานที่แรกเลยคงหนีไม่พ้นจุดแลนด์มาร์คของโอซาก้า

นั่นก็คือ ปราสาทโอซาก้าและส่วนของสวนนิชิโนะมารุ (Osaka Castle Museum และ Osaka Castle Nishinomaru Garden) ปราสาทโอซาก้า เป็นหนึ่งในสามปราสาทที่มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่น เทียบเท่ากับปราสาทนาโกย่าและปราสาทคุมาโมโตะ มีถึง 8 ชั้น ห้อมล้อมด้วยกำแพงหิน คูน้ำ ไปจนถึงสวนนิชิโนะมารุ (Nishinomaru Garden) ที่ครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่แต่เดิมพื้นที่ที่สร้างปราสาทเคยเป็นที่ตั้งของวัดอิชิยาม่า ฮอนกันจิ (Ishiyama HonganjiTemple) แต่หลังจากที่ถูกโอดะ โนบุนากะ (Oda Nobunaga) ทำลายลง หลังจากนั้นประมาณ 30 ปี ในปี ค.ศ. 1583 ก็ได้มีการสร้างปราสาทโอซาก้าขึ้นทดแทน ปราสาทมีการปรับปรุงสร้างใหม่ในปี ค.ศ. 1620 และทำนุบำรุงรักษาบูรณะเรื่อยมาจน

ปัจจุบันภายในปราสาทจะมีพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาของปราสาทไว้อย่าง
ละเอียด เราสามารถขึ้นไปด้านบนของตัวปราสาทได้ เพราะที่นี่มีการสร้างลิฟต์เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชม ส่วนที่เป็นสวนรอบๆ ปราสาท เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การมาพักผ่อน วิ่งออกกำลังกาย หรือจะปั่นจักรยาน โดยเฉพาะต้นซากุระที่มีมากกว่า 600 ต้น พอถึงช่วงฤดูใบไม้ผลิจะสวยงามมาก เรียกได้ว่าเป็นจุดพักผ่อนที่อยู่ท่ามกลางความเจริญรุ่งเรืองของตึกอาคารที่ทันสมัยปกติค่าเข้าปราสาทอยู่ที่ 600 เยน และในส่วนของสวนนิชิโนะมารุ ซึ่งตอนการประชุมสุดยอด G20 ภาพหมู่ผู้นำที่เข้าร่วมประชุมก็ถ่ายที่นี่ โดยมีฉากหลังเป็นปราสาทโอซาก้า ส่วนของสวนปกติค่าเข้า 200 เยนถ้าใช้บัตร Osaka Amazing Pass ไม่เสียค่าใช้จ่าย

การมาปราสาทโอซาก้าสามารถเลือกลงได้หลายสถานี แล้วเดินเล่นต่อจนถึงตัวปราสาท จะใช้เวลาเดินประมาณ 10-20 นาทีถ้าใช้บริการ JR Loop Line ให้ลงสถานี Osakajokoen Station และถ้าใช้รถไฟใต้ดิน Tanimachi Subway Line, Chuo Subway Line ให้ลงที่ Tanimachi 4-chrome Station

เมื่อเที่ยวชมปราสาทกันแล้ว เราไปต่อกันด้วยวิวมุมสูงของโอซาก้ากันบ้าง ถ้าใครอยู่ใกล้กับสถานี JR Osaka ก็สามารถเดินมาได้ประมาร 9 นาที แต่ถ้านั่งรถไฟใต้ดิน สาย Osaka Metro Midosuji ให้ลงที่สถานีUmeda หรือถ้ารถไฟ Hankyu/HanshinRailway ให้ลงที่ Osaka Umeda ปลายทางคือที่นี่ ตึกระฟ้า Umeda Sky Building และจุดชมวิว Kuchu-Teien (Umeda Sky Building Kuchu-Teien Observatory)

หนึ่งในแลนด์มาร์คของย่านอุเมดะ ตั้งอยู่ใจกลางของ Shin-Umeda City ศูนย์กลางใหม่ของอุเมดะ โอซาก้า ตึกระฟ้าคู่แฝดนี้มีความสูง173 เมตร มีทั้งหมด 40 ชั้น แบ่งเป็น 2 อาคารมีร้านอาหารที่ชั้น 39 และทางเชื่อมอยู่บริเวณชั้น 40 ซึ่งที่ชั้นนี้ก็จะมีทางไปดาดฟ้าซึ่งเป็นที่ตั้งของจุดชมวิว “Kuchu-Teien Observatory” ที่สามารถสูดอากาศและชมทิวทัศน์ของโอซาก้าได้แบบพาโนราม่า ราวกับเดินอยู่ในอากาศ

โดยปกติค่าเข้าอยู่ที่ 1,500 เยน แต่ถ้าเรามีบัตร Osaka Amazing Pass ก็สามารถเข้าฟรีได้ถึง 18.00 น. บัตรนี้ยังสามารถใช้ในส่วนของ Koji Kinutani Tenku Art Museum ที่อยู่บริเวณ Tower West ชั้น 27F ก็เป็นอีกจุดที่สามารถใช้บัตรเข้าชมฟรีได้ประหยัดค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ใหญ่ไปอีก 1,000 เยน สำหรับพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ เป็นการจัดแสดงรูปแบบผสมผสานกันระหว่างความเป็นญี่ปุ่นและเทคโนโลยีผ่านการใช้ภาพ 3 มิติ ซึ่งเป็นผลงานของศิลปินชื่อดังอย่าง Koji Kinutani ที่นี่นอกจากจะได้มาสัมผัสงานศิลปะ ยังนั่งชิลชมวิวที่คาเฟ่ได้อีก แต่ถ้าไม่อยากกินกาแฟหรือขนม ภายในอาคารก็ยังมีร้านอาหาร Sky Lounge Stardust บริเวณชั้น 39 และบริเวณชั้น B1 – 1F ของ Umeda Sky Building ยัง มีร้าน Takimikoji เป็นร้านบรรยากาศเรโทรย้อนยุค และมีโซนที่ขายสินค้า ที่เรียกว่า Showa Retro Shopping Street อีกด้วย

อีกจุดที่สามารถชมวิวแบบมุมสูงของโอซาก้าได้ คือ การนั่งชิงช้าสวรรค์ HEP FIVE Ferris Wheel หรือ Tempozan Giant Ferris Wheel ก็ย่อมได้ สำหรับชิงช้าสวรรค์เฮฟไฟว์ HEP FIVE Ferris Wheel สามารถเดินมาได้จากตึกระฟ้า Umeda Sky Building ได้เลยเป็นชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่สีแดงเด่น ตั้งอยู่บนอาคารของศูนย์การค้า HEP FIVE ตรง
ย่านอุเมดะ (Umeda) ตัวชิงช้าสวรรค์มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 75 เมตรและมีสีแดงสดประกอบด้วย 52 กระเช้า ซึ่งนั่งได้สูงสุด 4 คนต่อกระเช้า ใช้เวลานั่งประมาณ 15 นาทีต่อรอบ เมื่อกระเช้าขึ้นไปสูงสุดที่ระดับ 106 เมตรจะสามารถมองเห็นตัวเมืองได้โดยรอบ เราสามารถซื้อตั๋วราคา 600 เยน และขึ้นชิงช้าได้ที่ชั้น 7 ของศูนย์การค้า HEP FIVE แต่ถ้ามีบัตร ก็ขึ้นฟรีอีกเช่นเคย

ขึ้นเสร็จสามารถมาเดินเลือกซื้อของหรือกินอาหารในศูนย์การค้าก็ได้ มีร้านค้า ร้านอาหารรวมกว่า 170 แห่งเปิดทุกวัน 11.00 – 22.45 น. (รอบสุดท้าย) อีกหนึ่งในชิงช้าสวรรค์ที่ใหญ่ที่สุดอีกแห่งด้วยความสูง 112.5 เมตร และมีเส้นผ่านศูนย์กลางถึง 100 เมตรที่ที่คุณสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของสะพาน Akashi Kaikyo และสนามบินนานาชาติคันไซได้ในวันที่มีแดดบริเวณเท็มโปซาน ฮาร์เบอร์ วิลเลจ (Tempozan Harbor Village) ตรงบริเวณริมอ่าวในเมืองโอซาก้า (Osaka)

โดยอยู่ใกล้กับพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง (Osaka Aquarium KAIYUKAN) ตัวชิงช้าสวรรค์มี 60 กระเช้า ใช้เวลานั่งประมาณ 15 นาทีต่อรอบ และที่พิเศษคือมี 8 กระเช้าที่เป็นแบบใส (See-Through Gondola) พื้นโปร่ง สามารถมองทะลุได้ นอกจากนี้ใน ตอนกลางคืนยังมีการประดับไฟที่ชิงช้าสวรรค์ LED สวยงาม ค่าบริการอยู่ 800 เยน แต่มีบัตร ก็ไม่เสียค่าใช้จ่าย การเดินทางมาสามารถนั่งรถไฟใต้ดินสาย Midosuji Line มาลงที่สถานี Hommachi แล้วเปลี่ยนเป็นสาย Chuo Line มาลงที่สถานี Osakako

จากที่สูงลองสไลด์ตัวลงจากหอคอยซึเทนคาคุ (Tsutenkaku Tower Slider) กันบ้างไหม หอคอยซึเทนคาคุ ที่นักท่องเที่ยวเรียกชื่อเล่นๆ ว่า Naniwa Eiffel Tower เราสามารถขึ้นไปดูวิวด้านบนได้ ตัวสไลด์ยาว 60 เมตรทอดยาวจากชั้น 3 (สูงจากพื้นดิน 22 เมตร) ไปจนถึงชั้นใต้ดินแรก ที่อย่ใู ต้พื้นดินไป 4.5 เมตรโดยทางสไลด์นั้นพันรอบหอลิฟต์ของอาคารประมาณครึ่งรอบ ใช้เวลาสไลด์ลงมาประมาณ 10 วินาที เป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่เป็นประสบการณ์ที่แปลกดี ราคาสำหรับการเล่นสไลด์ปกติ 1,000 เยนต่อรอบ แต่ถ้ามีบัตรเราสามารถใช้บริการฟรีในวันธรรมดาเท่านั้น การเดินทางมานั่งรถไฟมาลงที่สถานี Ebisucho ออกทางออก 3

ดูปราสาท ดูวิวมุมสูง ลองสไลด์จากอาคารกันแล้วไปนั่งเรือชมวิวกันบ้าง ย่านนัมบะ (Namba) เป็นย่านการค้าเก่าแก่มาตั้งแต่ยุคนะนิวะ มีซอยหนึ่งที่เรียกว่า Dotonbori บริเวณนั้นจะมีร้านค้าและผู้คนเยอะมาก ซึ่งบริเวณนี้จะมีบริการล่องเรือแม่น้ำทมโบริ เรียกว่า Tombori River Cruise หรือ Tombori River JAZZ Boat เป็นการล่องเรือชมวิว จากโดทงโบริไปทางฝั่งใต้ (มินามิ) ของโอซาก้าให้บริการตามตารางเวลา อย่าง Tombori River Cruiseล่องเรือประมาณ 20 นาทีพร้อมไกด์ สามารถมองเห็นบรรยากาศที่มีชีวิตชีวาของถนนในมินามิได้จากบนเรือ ปกติค่าบริการอยู่ที่1,000 เยน ส่วน Tombori River JAZZ Boat ล่องเรือประมาณ 40 นาที ต่างกันตรงจะมีดนตรีแจ๊สเล่นสดขณะล่องเรือให้บริการในวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ปกติค่าบริการอยู่ที่ 1,800 เยน

สำหรับใครที่มีบัตร Osaka Amazing Pass ก็ไม่เสียค่าใช้จ่ายส่วนใครที่ไม่ชมล่องเรือในแม่น้ำอยากล่องเรือในอ่าวโอซาก้า แนะนำให้ใช้บริการของ Cruise Ship Santa Maria Day Cruise หรือ Cruise Ship Santa Maria Twilight Cruise เป็นการล่องเรือแบบนั่งเรือโจรสลัดขนาดใหญ่ที่เลียนแบบมาจากเรือ Santa Maria ของโคลัมบัส ที่ใช้ในช่วงการค้นพบทวีปอเมริกาแต่ขนาดใหญ่กว่าเป็น 2 เท่า จุดที่เรือคือที่ ท่าเรือโอซาก้า (Osaka Port) จากสถานี Osakako/Chuo Line ทางออกหมายเลข 1 เดินประมาณ 5 นาที ก็ถึงท่าเรืออยู่ด้านหลังพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ Kaiyukan ทุกๆ หนึ่งชั่วโมง สำหรับค่าบริการถ้าไม่มีบัตร จะต้องเสียสำหรับ Day Cruise ราคาผู้ใหญ่ 1,600 เยน / เด็ก 800 เยนส่วนTwilight Cruise : ผู้ใหญ่ 2,100 เยน /เด็ก 1,050 เยน มีบัตรก็ไม่มีค่าใช้จ่ายเช่นเดิม

เรือจะล่องระหว่าง Tempozan Harbor Village, Kaiyukan และผ่านสถานที่สำคัญต่างๆ ในย่านนี้ไม่ว่าจะเป็นสะพานแดง (Red Bridge), Universal Studios ฯลฯ ใน 1 รอบจะใช้เวลาในการล่องประมาณ 45 นาที ความพิเศษคือในรอบเย็นจะมีบริการอาหาร Full Course และ Casual Set ระหว่างระยะเวลาการเดินเรือ 105 นาที แต่จะต้องจองล่วงหน้าประมาณ 1 สัปดาห์ หรือสอบถามก่อนได้

สำหรับบัตร Osaka Amazing Pass มี 2 ราคาคือ ตั๋ว 1 วัน (1 Day Pass) ราคา 2,800 เยน และ ตั๋ว 2 วัน (2 Days Pass) ราคา 3,600 เยน ประกอบด้วยตั๋วโดยสารและหนังสือไกด์บุคที่มาพร้อมกับคูปอง TOKUx2 ซึ่งสามารถใช้รับสิทธิพิเศษและส่วนลดต่างๆ มากมาย โดยด้านหลังตั๋วจะมีบาร์โค้ดสำหรับเข้าใช้บริการสถานที่ท่องเที่ยวที่เข้าร่วมแคมเปญได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเยอะมาก นอกเหนือจากที่ทางเราแนะนำไป โดยสามารถซื้อออนไลน์ได้ที่ไทยหรือซื้อที่สำนักงานนายสถานีที่สถานีรถไฟใต้ดินโอซาก้าแทบทุกสถานี รายละเอียดเพิ่มเติมคลิก https://www.osp.osaka-info.jp/en/facility/free

Share This Post:Share on Facebook0Share on Google+0Tweet about this on TwitterShare on LinkedIn0