Miracle Muscat
ในบรรดานครหลวงแถบตะวันออกกลางนั้น นาทีนี้ มัสกัต (Muscat) แห่งประเทศโอมานถือว่าเป็นเมืองที่ใครๆ ก็พากันจับตามองอย่างไม่วางตา
ถึงแม้ต้นทุนค่าทำความรู้จักประเทศในแถบนี้จะค่อนข้างแพง แต่มัสกัตกลับเป็นเมืองที่มีนักท่องโลกเดินกันแน่นทั่วเมือง มีมุมไหนของมัสกัตบ้างที่น่าไปทำความรู้จัก ตามมาดูกัน ช้อปปิ้งในมัทราซุค ตลาดมัทราซุค (Muttrah Souk) เป็นตลาดใหญ่ใจกลางกรุงมัสกัตที่หลายคนอาจไม่รู้มาก่อนว่ามีความคึกคักรออยู่ที่นั่น มัสกัตอาจจะมีตลาดหลายแห่ง แต่คงไม่มีที่ไหนน่าสนใจเท่ากับตลาดใต้ร่มแห่งนี้อีกแล้ว
มัทราซุคคือตลาดใหญ่ ที่แน่นขนัดไปด้วยข้าวของ และยังเป็นมุมหนึ่งของโอมานที่ฉายภาพให้เห็นวิถีชีวิตผู้คนและชุ่มฉ่ำไปด้วยสีสัน ใครที่ชอบตลาดใต้ร่มในประเทศต่างๆ อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นที่ไคโรประเทศอียิปต์ อิหร่าน ตุรกี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือที่โมร็อกโกรับรองว่าคุณจะชอบมัทราซุค มัทราซุคมีทั้ง ของกิน เสื้อผ้าอาภรณ์ รองเท้า เครื่องประดับจำพวกจิวเวลรี เครื่องเงิน เทอร์ควอยซ์ อำพันนี่ถือว่าเยอะมาก
แต่ถ้าเป็นคนชอบพวกของเก่า ภาพเขียน หรือนิยมสะสมของแปลก เครื่องทองเหลืองที่ทำเป็นของแต่งบ้าน
มาตลาดนี้จะขลุกอยู่ได้แบบลืมวันลืมคืน เพราะดีไซน์และรูปทรงแต่ละชิ้นทำออกมาไม่ธรรมดาเลย ของที่ดูเหมือนจะถูกถามหามากที่สุดก็เป็นกำยาน เพราะโอมานเขามีชื่อเรื่องนี้ เดินไปทั่วตลาดก็จะได้กลิ่นกำยานลอยละล่องคลุมไปทั่ว
กำยานจึงเป็นของฝากที่นักท่องเที่ยวหอบติดมือกลับไปไม่น้อย ของฝากอีกอย่างหนึ่งที่ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของโอมาน คือกริช คนที่นี่เขาเรียกคันจาร์ (Khanjar) ถ้าเป็นร้านขายเครื่องเงิน ก็จะมีกริช ทำจากเงินแท้ๆ แล้วแกะสลักลวดลายอย่างละเอียดและสวยงาม
ใครจะมาตลาดใต้ร่มแห่งนี้ เขาเปิดกันตั้งแต่ 9 โมงเช้าไปจนถึงบ่ายโมง จากนั้นจะปิดพักประมาณ 3 ชั่วโมง ไปเปิดอีกทีช่วง 4 โมงเย็น จากนั้นก็ขายเรื่อยไปจนถึง 3-4 ทุ่ม แต่เฉพาะวันศุกร์จะปิดช่วงเช้า
เดินเล่นเลียบทะเลอาระเบียนใกล้กับมัทราซุคเป็นถนนเลียบทะเลตีโค้งยาวเหยียดที่ผู้คนมีไว้เดินเล่นกันตอนเย็นๆ ถ้าเป็นตอนกลางวันอาจจะไม่เหมาะ แต่ถ้าเป็นช่วงแดดร่มลมตกไปจนถึงค่ำคืน ผู้คนจะออกมาเดินเล่นกันให้ว่อน
เดินเล่นแถวนี้ก็จะเห็นความเก่าแก่ของเมือง นอกจากนี้ยังมีสุเหร่า ร้านอาหารราคาย่อมเยา และบ้านช่องห้องหับของผู้คนตั้งเรียงรายอยู่ นอกจากนี้ ยังมีท่าเรือมัทราที่มีเรือน้อยใหญ่จอดกระจัดกระจายกันแน่นอ่าว มีนักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยที่ใช้บริเวณนี้เป็นจุดลงเรือเพื่อไปชื่นชมความงามของท้องทะเลในอ่าวอาระเบียน แต่ถ้ามองจากถนนเลียบทะเล จะเห็นป้อมปราการที่เรียกว่ามัทรา ฟอร์ต ตั้งโดดเด่นอยู่บนภูเขาอันแห้งแล้ง
ตื่นไปดูตลาดปลา
อีกจุดหนึ่งที่ไม่ควรพลาด อยู่ที่ตลาดปลา ทุกเช้าตลาดปลาแห่งนี้ จะคึกคักและมีสีสัน บรรยากาศเจรจาต่อรองซื้อขายปลากันอย่างชุลมุนมีให้เห็นตลอด แถมปลาที่วางขายก็มีให้เลือกหลากหลายชนิด ถ้าจะมาที่นี่ต้องตื่นเช้าหน่อย เพราะแค่ 10 โมง ตลาดก็เริ่มวายแล้ว บรรยากาศด้านในของตลาดค่อนข้างชุลมุน เสียงต่อรองราคากันเซ็งแซ่ เวลาเดียวกันก็ต้องคอยหลบหลีกพ่อค้า ที่หอบปลาชะตาขาดขึ้นมาจากทะเลอาระเบียนมาวางขายกันแบบกองกับพื้นเหมือนตลาดปลาที่มัลดีฟส์ ไม่มีผิด
ชมความงดงามของพระราชวัง อัล อลาม
ในย่านโอลด์ มัสกัต เป็นย่านอาคารที่ทำการของรัฐบาล และมีพิพิธภัณฑ์ที่แสดงเกี่ยวกับการแต่งกายของชาวโอมานแบบดั้งเดิม ฉายภาพให้เห็นวิถีชีวิตของผู้คน แต่มุมที่นักท่องเที่ยวโฟกัสเป็นพิเศษคือพระราชวัง อัล อลาม (Al Alam Palace) ซึ่งเป็นที่ประทับของสุลต่าน คาบูส ตัว
สุเหร่าแสนอลังการ
สุเหร่าประจำเมือง (Grand Mosque) ที่ทั้งใหญ่และอลังการ เป็นอีกมุมหนึ่งของมัสกัตที่มีนักท่องเที่ยวไปเยี่ยมเยียนกันทุกวัน
ด้านในตกแต่งอย่างวิจิตรตระการตาด้วยกระจกสี
และพรมผืนโต รวมถึงแชนเดอเลียร์ ขนาดใหญ่ ที่ว่ากันว่าเป็นหนึ่งในโคมไฟใหญ่ที่สุดในโลก เมื่อรวมเอาของใหญ่มากองไว้ที่นี่ สุเหร่าแห่งนี้เป็นอีกสุเหร่าหนึ่งที่จุคนได้เกิน 2 หมื่น
ทั้งหมดนี้รอทุกคนอยู่ที่มัสกัต เมืองมหัศจรรย์ริมทะเลอาระเบียน
– จากกรุงเทพฯ สายการบินโอมานแอร์ บินตรงรวดเดียวประมาณ 6 ชั่วโมงก็ถึงแล้ว และมีเส้นทางบินเชื่อมกับประเทศในเอเชีย แอฟริกา และยุโรป หรือคลิกไปที่ www.omanair.com
– คลิกไปสำรวจโรงแรมทั่วมัสกัตได้ที่ www.booking.com โอมานสามารถทำวีซ่าแบบ on arrival ได้