ชีวิตที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับการทำงานของ คุณเจนจิต ลัดพลี

Story & Photo by เรืองรวี บรรณพิภพ

ในเรื่องของการทำงานนั้น การที่ใครสักคนจะก้าวขึ้นมาสู่ตำแหน่งหน้าที่ที่มีความรับผิดชอบสูง และดูแลธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง บุคคลผู้นั้นก็คงจะต้องทุ่มเทเวลาให้กับการทำงานอย่างมากแน่นอน แต่กับคุณเจนจิต ลัดพลี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดเพื่อการท่องเที่ยวและสันทนาการ “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) บอกว่า สำหรับเธอนั้น การทำงานก็คือชีวิต และชีวิตก็คือการทำงาน ทั้งสองเรื่องนี้สามารถหลอมรวมให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้ ขอเพียง มีแพสชั่นในการทำงาน รักและสนุกกับสิ่งที่ทำ แล้วทุกวันของการทำงานก็จะไม่เหมือนการทำงานอีกต่อไป

Janechit KTC 0190

ซึ่งแนวคิดเช่นนี้ ก็สอดคล้องกับแนวทางของบัตรเครดิต KTC ที่คุณเจนจิตทำงานอยู่ได้เป็นอย่างดี เพราะบัตรเครดิต KTC นั้น ได้ชื่อว่าเป็นบัตรเครดิตเพื่อการท่องเที่ยว ที่สนับสนุนให้ผู้คนออกไปใช้ชีวิต ออกไปเห็นโลกกว้าง โดย KTC จะเป็นทั้งผู้ช่วยที่คอยอำนวยความสะดวกให้ และทำให้ความฝันของคนทำงานที่อยากออกไปท่องเที่ยว กลายเป็นความจริงขึ้นมา

จับจุดผู้บริโภคได้ และลงมือทำงานเอง ทำให้โดดเด่นกว่าคู่แข่งมาอย่างยาวนาน
“บัตรเครดิต KTC เป็นบัตรเดียวที่มีบริการในด้านการท่องเที่ยว หรือมีกลยุทธ์ในการทำการตลาดด้านท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนมาตลอดสิบกว่าปี เพราะมีการแยกทีมมาร์เก็ตติ้งในการดูแลรับผิดชอบอุตสาหกรรมใดอุตสาหกรรมหนึ่งไปเลย อย่างในทีมของดิฉันก็จะเป็นทีม Travel & Leisure Marketing ดูแลในหมวดท่องเที่ยว ซึ่งนอกจากเราจะเป็นหัวหอกในการเสาะหาสิทธิประโยชน์ต่างๆ เข้ามาให้กับสมาชิกของบัตรแล้ว เรายังมี KTC World Travel Service ซึ่งเป็นบริการท่องเที่ยวเพื่อสมาชิกบัตรเราโดยเฉพาะ ดังนั้นเราจึงมีความเข้าใจในการดูแลลูกค้าได้ตรงจุดกว่า เข้าถึงกว่า และนำเสนอสิ่งที่เขาต้องการได้อย่างยั่งยืนกว่า เพราะการที่เราเข้ามาทำในส่วนนี้เอง จะมีความต่อเนื่องในการทำงานมากกว่า เลยเป็นสิ่งที่ทำให้ KTC ทำการตลาดเกี่ยวกับการท่องเที่ยวได้นานที่สุด และมีความโดดเด่นที่สุด”

Janechit KTC 0189

ดีลตรงกับเจ้าของประเทศ ถือเป็นการได้เปรียบอย่างหนึ่ง
“เรามีการทำการตลาดกับกลุ่มพันธมิตรที่มีความลึกกว่ารูปแบบพันธมิตรของบัตรเครดิตอื่นๆ ในตลาด เพราะพันธมิตรที่เราเข้าถึงได้ ไม่ได้มีแค่ในระดับของผู้ประกอบการที่เป็น Commercial Travel Operator เช่น สายการบิน บริษัททัวร์ แหล่งท่องเที่ยว บริษัทรถเช่า หรือ ออนไลน์ทราเวิล เอเจนซี่ เท่านั้น แต่เราเข้าถึงองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศต่างๆ ซึ่งเป็นเจ้าของคอนเทนต์โดยตรงเลย และเราเป็นพันธมิตรที่ค่อนข้างจะแน่นแฟ้นกับองค์กรเหล่านี้มาอย่างยาวนานด้วย และทางนั้นเขาก็จะมีโจทย์ที่อยากให้คนไทยไปเที่ยวประเทศเขาเยอะๆ จึงมีการนำผู้ให้บริการของประเทศเขามาจัดงานแฟร์ในประเทศเรา และเขาก็เลยมาหาเรา เพราะเรามีฐานสมาชิกจำนวนมาก มีการโฆษณาประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง

ดังนั้น KTC เลยเป็นพันธมิตร หรือสปอนเซอร์หลักที่เข้าไปสนับสนุนงานแฟร์ที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวเหล่านี้ เช่น งานเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก, งาน Taiwan One More Time หรือแคมเปญที่ไม่ได้เป็นงานแฟร์ก็มี อย่าง Hong Kong Best Experienced ที่นำเสนอฮ่องกงในมุมที่แตกต่าง ให้คนที่ไปฮ่องกงบ่อยๆ ได้ลองโปรดักต์ใหม่ๆ เช่น เอาต์ดอร์ แอดเวนเจอร์ หรือร้านอาหารกึ่ง Retro และมีร้านค้าในฮ่องกงให้สิทธิประโยชน์กับบัตร KTC กว่า 40 ราย และยังสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากฮ่องกงที่เว็บ KTC World ได้ด้วย โดยทุกการใช้จ่ายสามารถนำมาชิงรางวัลท่องเที่ยวฟรีอีกสามแพ็กเกจ ซึ่งเป็นแพ็กเกจที่ represent ไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันออกไป เช่น เรื่องเอาต์ดอร์, เรื่องกิน หรือเรื่องลักชัวรี่ มีการขึ้นเฮลิคอปเตอร์หรืออย่างสิงคโปร์ก็จะมีแคมเปญที่รีแบรนด์มาเป็น Passion Make Possible ซึ่งเป็นแคมเปญที่ Kick off ไปเมื่อตอนต้นเดือนกันยายน นำเสนอสิงคโปร์ในรูปแบบที่หลากหลาย ซึ่งเราก็จะมีการออกบูทกับองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศต่างๆ แบบนี้อยู่ตลอด

Janechit KTC 0188

ช่องทางออนไลน์ และการท่องเที่ยวแบบ FIT คือ เทรนด์ของการใช้บัตรเครดิตเพื่อการท่องเที่ยวในปัจจุบัน
“ในปัจจุบันช่องทางออนไลน์เป็นช่องทางที่มีความนิยมในหมู่ผู้บริโภคอย่างเห็นได้ชัด มีความถี่ในการใช้งาน แล้วก็มีปริมาณการใช้งานที่สูงขึ้น จึงเป็นช่องทางเข้าถึงผู้บริโภคที่เราจะลืมไปไม่ได้เลย เพราะเป็นช่องทางที่ทั้งเราและผู้บริโภคต่างก็เข้าถึงกันได้ง่าย เป็นช่องทางที่นำเสนออะไรต่างๆ ได้อย่างเต็มอิ่ม และตอบสนองผู้บริโภคได้อย่างทันท่วงที ส่วนในเรื่องของไลฟ์สไตล์ที่กำลังเป็นที่นิยม ก็จะเป็นการท่องเที่ยวด้วยตัวเอง หรือ FIT (Fully Independent Traveler) ที่ผู้บริโภคจะหาข้อมูลและทำการบ้านมาเอง ไม่ได้พึ่งพาคนกลางให้ช่วยจัดทริปให้เสมอไป แล้วก็มีความกล้าที่จะออกไป Explore ในเส้นทางแปลกๆ ใหม่ๆ มากขึ้น กล้าที่จะไปในที่ที่คนยังไม่ค่อยไปกันเยอะขึ้น ระยะเวลาที่อยู่ก็จะยาวขึ้น เพื่อให้เข้าถึงวัฒนธรรมท้องถิ่นในที่ที่ไปเที่ยวได้มากขึ้น”

ขอเป็นคนกลางระหว่างผู้บริโภคและผู้ประกอบการ ที่มาพร้อมโปรแรงๆ และเป็นผู้ช่วยที่ครบครัน
“เรามีการร่วมกลุ่มกับสายการบินพันธมิตรชั้นนำ ทั้งแบบ Full Service และ Low Cost ทำแคมเปญที่เรียกว่า “Fly Faster Forever” ซึ่งเป็นแคมเปญที่สายการบินพันธมิตรจะให้สิทธิประโยชน์ที่แรง เร้าใจ เชิญชวนให้ตัดสินใจไปเที่ยวได้ง่ายขึ้น และ KTC ก็จะ Top Up ให้เป็นเครดิตเงินคืน 15% ถ้าใช้คะแนนเท่ายอดซื้อ เมื่อจองแบบออนไลน์ สามารถเข้าไปดูโปรโมชั่นอื่นๆ ได้ที่ www.ktcworld.co.th ค่ะ

ตอนนี้ผู้บริโภคกับผู้ให้บริการเชื่อมโยงกันได้ง่ายขึ้น เราจะทำยังไงให้เราเข้าไปอยู่ตรงกลางระหว่างพวกเขา ให้คนเลือกบัตรเครดิต KTC เป็นตัวช่วยของเขาในทุกด้าน เช่น สามารถแบ่งชำระได้ ช่วยประวิงเวลาในการจ่ายเงิน และยังมีบริการเสริมอื่นๆ เช่น มีการทำประกันการเดินทางพ่วงมากับบัตร ไม่ต้องไปซื้อเพิ่มกับสายการบิน, มีคะแนนสะสม มีการชิงโชค แล้วการใช้บัตร KTC เวลาคอนเวิร์ตกลับมาเป็นเงินไทย ก็มีอัตราการแลกเปลี่ยนที่ดีที่สุด และเรายังคัดกรองพันธมิตรมาให้ลูกค้าเป็นอย่างดี ต้องเป็นผู้ประกอบการที่มีใบอนุญาตถูกต้องเท่านั้น เราจึงเป็นจุดศูนย์กลางในการให้ข้อมูล และคำแนะนำด้านการท่องเที่ยว ให้เคล็ดลับในการเดินทาง วางใจได้เมื่อเลือกใช้บัตรเครดิต KTC ในการเดินทางค่ะ”

Janechit KTC 0186

เคล็ดลับในการทำงานของคุณเจนจิต
ถ้าเราไม่ได้ทำในสิ่งที่เรารัก เราก็ต้องรักในสิ่งที่เราทำ เป็นคนที่โชคดีที่ได้ทำงานในเนื้อหาที่เป็นแรงบันดาลใจของเราอยู่แล้ว เพราะเป็นคนที่ชอบท่องเที่ยว ชอบออกไปเปิดโลกทัศน์ในที่ต่างๆ ชอบเรื่องอาหาร ชอบเรื่องวัฒนธรรมด้วย ชอบเรื่องวิถีชีวิต ชอบเรื่องของคน ก็เลยไม่ได้รู้สึกว่าทุกวันที่มาออฟฟิศเป็นการทำงาน เวลาเราเจอพันธมิตรในหมวดที่เราดูแล ก็รู้สึกเหมือนเจอเพื่อน เพราะวันนี้ก็พัฒนาจากการเป็นพันธมิตรหรือคู่ค้าไปเป็นเพื่อนกันแล้ว เพราะเรามีความสนใจแบบเดียวกัน และนั่นคือสิ่งที่ทำให้เราทำงานอย่างมีความสุข แล้วผลงานก็จะออกมาดี เพราะเราไม่ได้รู้สึกว่านี่คือการทำงาน เวลาไปเที่ยวเราก็จะเก็บเกี่ยวเอามาใช้กับเรื่องงานได้ด้วย เราจะดูว่านักท่องเที่ยวหรือผู้บริโภคที่เราไปเจอ เขามีทัศนะ มีมุมมอง หรือความคาดหวังต่อการเดินทางเป็นอย่างไรเทรนด์ของการท่องเที่ยว หรือการพัฒนาโปรดักต์ในเมืองต่างๆ หรือในแต่ละประเทศไปถึงไหนแล้ว

การทำงานที่รัก ทำให้ไม่ต้องแบ่งเวลา เพราะชีวิตกับการทำงานรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน
“การได้ทำในสิ่งที่เราชอบ มันเป็นตัวขับเคลื่อนให้เราไม่หยุดที่จะพัฒนาตัวเอง ดังนั้นเราก็จะพยายามเรียนรู้ในหลายๆ Area ให้มากขึ้น อย่างในเรื่องการท่องเที่ยวก็สามารถแตกเป็นเรื่องของสันทนาการ เรื่องของงานอดิเรก เป็นเรื่องของกิจกรรมพิเศษ ดังนั้นสิ่งเหล่านี้ พอมารวมกันแล้ว มันทำให้เราสามารถทำงานได้โดยที่เราไม่รู้สึกว่าต้อง force ตัวเองมากเกินไป

ทุกวันนี้ด้วยความที่เนื้อหาของงานก็เกี่ยวกับเรื่องเที่ยวอยู่แล้ว เลยผสมปนเปกันไป อาจจะมีคนบอกว่า Work – Life Balance เป็นเรื่องสำคัญ แต่ถ้าเราสามารถทำให้ Work เป็น Life ได้ ก็จะไม่ยากในการรักษาสมดุลของทั้งสองฝั่ง เพราะมันก็จะไปด้วยกันได้ โดยไม่ต้องมีอะไรไปแย่งเวลาของกันและกัน”

เนื่องจากทีมงานของดิฉันและตัวดิฉันเองมีแรงบันดาลใจในการทำงาน มีแพสชั่น มีความชอบในเรื่องของการท่องเที่ยวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เราจึงสามารถสวมหมวกของผู้บริโภคได้อย่างเต็มที่ ทำให้รู้ว่าผู้บริโภคต้องการอะไรได้เป็นอย่างดี ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เราแตกต่างจากบัตรเครดิตเจ้าอื่น และทำให้เรามีแพสชั่นในการทำงานอยู่ตลอดเวลา

Share This Post:Share on Facebook0Share on Google+0Tweet about this on TwitterShare on LinkedIn0