ผู้โดยสารชั้นประหยัดพรีเมียม (Premium Economy class) และชั้นประหยัด ( Economy class) ของสายการบิน EVA สามารถเลือกบริการอาหารเมนูพิเศษจากเหล่ามาสเตอร์เชฟชื่อดัง

เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2565 – สายการบินอีวีเอ ขอนำเสนอตัวเลือกบริการอาหารสุดพิเศษ ที่สร้างสรรค์เมนูมาเฉพาะสำหรับผู้โดยสารชั้นประหยัดพรีเมียม (Premium Economy class) และชั้นประหยัด (Economy class) บนเที่ยวบินจากไทเป ไปยัง สหรัฐอเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย และเที่ยวบินตรงจากไทเปสู่ยุโรป ซึ่งจะเริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมถึง 31 ธันวาคม 2565

ผู้โดยสารทื่ได้ทำการสำรองบัตรโดยสารเข้ามาเรียบร้อยแล้ว สามารถเลือกซื้ออาหารพิเศษล่วงหน้าได้แล้วตอนนี้ ผ่านหัวข้อ Manage Your Trip บนเว็บไซต์ทางการของ EVA Air หรือ EVA Mobile APP ตั้งแต่ 21 วัน จนถึง 24 ชั่วโมงล่วงหน้าก่อนออกเดินทาง ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเส้นทางการบินและบริการของ EVA รวมถึงตัวเลือกการสั่งจองบริการอาหารสุดพิเศษจากเหล่ามาสเตอร์เชฟ สามารถดูได้ที่ http://www.evaair.com

การเพิ่มเมนูพิเศษบนชั้นประหยัดพรีเมียม (Premium Economy class) และชั้นประหยัด (Economy class)  ถือเป็นหนึ่งในบริการอำนวยความสะดวกสำหรับผู้โดยสารของ EVA ที่รอคอยสำหรับการเดินทาง หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ผ่านมา ผู้โดยสารสามารถเลือกดูเมนูต่างๆในแต่ละคลาสทั้งหมดบนเที่ยวบินได้ล่วงหน้าก่อนการเดินทาง และสำหรับผู้โดยสารที่เดินทางด้วยชั้นโดยสารประหยัดพรีเมียม (Premium Economy class) นอกเหนือไปจากชั้นธุรกิจรอยัลลอเรล (Royal Laurel class)/ ชั้นพรีเมียมลอเรล (Premium Laurel class) และชั้นธุรกิจ (Business class) โดย 1 ในเมนูที่ให้บริการบนเที่ยวบินของ EVA Air นั้น เราได้เชฟระดับมาสเตอร์ คุณ Huang Ching Biao มาสร้างสรรเมนูอาหารพิเศษที่ผสมผสานเข้ากับซิกเนเจอร์ของเขาในหลากหลายคอร์สเมนูบนเที่ยวบินของ EVA อย่างเช่น ปลาฮาลิบัตนึ่งอันเป็นเอกลักษณ์ เสิร์ฟคู่ซอสชิลลี่ที่มีส่วนผสมของกุ้งและน้ำสลัดไลม์ สลัดซาโยเต้กับถั่วไพน์ และของหวานเป็น เค้กเกาลัดโรยหน้าด้วย Osmanthus หรือชื่อภาษาไทยคือ ดอกหอมหมื่นลี้ ทั้งหมดจะเสิร์ฟใน Tan-banquet style

เชฟชื่อดังของ Evergreen Sky Catering อย่างเชฟ Joe Huang ได้จัดเมนูอาหารจานหลักที่ปราศจากเนื้อสัตว์สำหรับผู้โดยสารที่รับประทานมังสวิรัตได้อย่างน่าสนใจ ด้วยลาซานญ่าจากที่ทำจากส่วนผสมของพืช (Plant-based) และอาร์ทิโชก (Artichoke) ตามมาด้วยเครื่องเคียงอย่างเครป สอดไส้ด้วยทรัฟเฟิลเป็นชั้นๆ ตามด้วยทาร์ตแอปริคอตกับชาเยลลี่แบบตะวันตกเป็นของหวาน โดยอาหารทั้งหมดจะถูกเสิร์ฟบนภาชนะจาก Luzerne แบรนด์ชื่อดังของสิงคโปร์ และมีการจำกัดการบริการอาหารสุดพิเศษเหล่านี้บนชั้นโดยสารประหยัดพรีเมียม (Premium Economy class) เพียง 8 ที่นั่ง และ 12 ที่นั่ง สำหรับชั้นประหยัด (Economy class) ทั้งนี้ผู้โดยสารสามารถอัพเกรด 1 ในเมนูหลักจากชั้นโดยสาร Royal Laurel หรือ Business Class ได้ โดยมีค่าธรรมเนียมเพียง NTD800 (ประมาณ US$25.75) ก่อนการเดินทาง

การบริการอาหารสุดพิเศษที่มีจำนวนจำกัดนี้ ถูกรังสรรค์ขึ้นโดยเฉพาะสำหรับ EVA AIR โดยเหล่ามาสเตอร์เชฟชื่อดังระดับสากลอย่าง เชฟ Huang Ching Biao ซึ่งเป็นที่รู้จักกันจากเมนู “Tan House Banquet” สไตล์อาหารจีนอันเป็นเมนูยอดนิยมของเขา และเชฟมืออาชีพของ Evergreen Sky Catering นำโดยเชฟ Joe Huang ผู้สร้างสรรค์อาหารตะวันตกด้วยโปรตีนจากพืช (plant-based  meal) หรือโปรตีนทดแทนที่ดีต่อสุขภาพ – ส่วนผสมหลักที่ใช้ในในเมนูโปรตีนจากพืชจะมาจากพืชท้องถิ่นในไต้หวัน ซึ่งช่วยให้ EVA เป็นส่วนหนึ่งในการลดการปล่อยคาร์บอนให้กับโลกได้อีกด้วย

ในขณะเดียวกัน EVA ยังได้นำเสนอรสชาดอาหารสุดแสนอร่อยของไต้หวันไว้เฉพาะเที่ยวบินที่กำหนดขาออกจาก ไทเปไปยังบางเส้นทางในสหรัฐอเมริกา แคนาดา จีน และเที่ยวบินขาเข้าจากญี่ปุ่นไปยังไทเป โดยได้เชิญ Shin Yeh Restaurant Group ให้มาพัฒนาอาหารจานใหม่ที่ไม่เหมือนใครซึ่งมีชื่อว่า Shin Yeh Special เป็นขาหมูผัดกับกระเทียม โหระพา และซอสสามถ้วย ซึ่งมีให้บริการสำหรับผู้โดยสารชั้นประหยัดพรีเมียม (Premium Economy class) และชั้นประหยัด (Economy class) ในเที่ยวบิน

สายการบิน EVA ตระหนักถึงความสำคัญของการวางแผนและเดินทางด้วยตัวเองในอนาคต ในช่วงหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่มีการล็อกดาวน์ ทางสายการบินจึงเร่งพัฒนาระบบในช่องทางดิจิทัลให้ผู้โดยสารสามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบายมากที่สุด

ซึ่งสามารถทำได้ตั้งแต่ขั้นตอนการจองและซื้อบัตรโดยสารไปจนถึงการเช็คอินผ่านการใช้โทรศัพท์มือถือได้เลย รวมทั้งการเลือกประเภทบัตรโดยสารที่ตรงตามความต้องการ หรือ Fare Family ซึ่งออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้เดินทางที่แตกต่างกัน รวมถึงการสะสมไมล์และรายละเอียดน้ำหนักสัมภาระ และล่าสุดกับฟีเจอร์ของการบริการเลือกอาหารสุดพิเศษ ซึ่งทำให้ผู้โดยสารที่เดินทางในชั้นโดยสารชั้นประหยัดพรีเมียม (Premium Economy class) และชั้นประหยัด (Economy class) มีตัวเลือกการเดินทางที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น ในทุกเส้นทางที่พวกเขาวางแผนไว้หลังจากสถานการณ์การระบาดของ Covid-19 ได้คลี่คลายลง

Share This Post:Share on Facebook0Share on Google+0Tweet about this on TwitterShare on LinkedIn0