Chiba ความสุขไม่ไกลกรุง ตอน 1

Story & Photo by Orawan

จังหวัดชิบะ (Chiba) จังหวัดที่มีมาสคอตเป็นรูปสุนัขสีแดงสดใสแห่งนี้อาจจะฟังชื่อแล้วไม่คุ้นหูมากเท่าไหร่นัก แต่ถ้าหากบอกว่า จังหวัดชิบะ คือจังหวัดที่เป็นที่ตั้งของท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ ประตูสู่ประเทศญี่ปุ่น และเป็นที่ตั้งของโตเกียวดิสนีย์แลนด์ โตเกียวดิสนีย์ซี สวนสนุกชื่อดังติดอันดับหนึ่งในใจของใครหลายคนแล้วล่ะก็ คุณคงอยากรู้จักเมืองนี้มากขึ้นแล้วใช่ไหม จะบอกให้ว่าจังหวัดชิบะนั้นไม่ได้มีสถานที่ท่องเที่ยวเพียงแค่นี้ ที่นี่ยังมีประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ธรรมชาติ และสถานที่จับจ่ายใช้สอยเงินเยนให้คุณได้ช้อปได้อย่างเต็มที่ ไปรู้จักจังหวัดชิบะกัน

ศึกษาประวัติศาสตร์และสัมผัสวัฒนธรรมล้ำค่า

สถานที่แรกที่อยากแนะนำ คือ วัดนาริตะซัง ชินโชจิ (Naritasan Shinsho-ji Temple) วัดพุทธในนิกายชินงอน (Shingon) ที่มีผู้คนนิยมมากราบไหว้สักการะมากที่สุด 1 ใน 3 ของเขตคันโต โดยเฉพาะในช่วงปีใหม่จะมีชาวญี่ปุ่นมาขอพรกันเป็นแสนคนทีเดียว ที่สำคัญไม่ไกลจากท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะมากนักแค่ 15 นาทีเท่านั้น

chiba

คุณจะเที่ยวชมในวันแรกหรือแวะเข้ามาในวันก่อนกลับก็ย่อมได้ ด้วยความเก่าแก่ว่า 1,000 ปี กับบริเวณที่กว้างขวางของวัด ซึ่งมีสิ่งก่อสร้างมากมายทั้งทั้ง หอพระธรรม  เจดีย์ และสวนสาธารณะ หนึ่งในกิจกรรมที่นิยมทำหากมาวัดนี้คือ การนำกระเป๋าใส่เงินหรือของสำคัญไปอังเปลวไฟศักดิ์สิทธ์ที่จะมีการทำพิธีกรรมกันทุกวัน เพื่อให้มีโชคลาภ เงินไหลมาเทมาเข้ากระเป๋า และสมความปรารถนา

chiba2

ต่อจากวัดนาริตะซัง ชินโชจิ หากต้องการศึกษาเรื่องประวัติศาสตร์และชมเมืองญี่ปุ่นในอดีตแล้วล่ะก็ แนะนำให้ไปที่เมืองซาวาระ (Sawara) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้นจากเมืองนาริตะ

Chiba22

เมืองซาวาระเป็นเมืองเก่าแก่ตั้งแต่สมัยเอโดะ มีแม่น้ำโทเนะกาวะไหลผ่าน ถือได้ว่าเป็นเมืองท่าที่สำคัญแห่งหนึ่งในอดีตเลยทีเดียว อาคารบ้านเรือนของที่นี่ยังคงอนุรักษ์ทั้งตัวสถาปัตยกรรมและบรรยากาศไว้เช่นเมื่อก่อน

Chiba23

แม้บ้านบางหลังที่ปรับเปลี่ยนเล็กน้อยมาเป็นร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร ที่พักแบบเรียวกัง ตลอดจนร้านกาแฟเก๋ๆ ให้กลมกลืนกับยุคปัจจุบัน กิจกรรมหลักถ้ามาที่นี่คงหนีไม่พ้น การนั่งเรือล่องแม่น้ำชมเมืองเก่า

Chiba25

แต่ถ้าใครไม่ชอบนั่งเรือ ที่นี่ยังมีอาคารประวัติศาสตร์หลายหลังให้เยี่ยมชม ทั้งบ้านเก่าของอิโนะ ทาดาทากะ (Ino Tadataka) ผู้สร้างแผนที่ญี่ปุ่น หรือบ้านเรือนที่มีห้องเก็บของแบบโบราณให้ได้เยี่ยมชมกัน

Chiba26

และหากใครยังชื่นชอบบ้านโบราณอยู่ที่เมืองซากุระ (Sakura) เมืองซามุไรสมัยเอโดะ ที่ไม่ไกลกันก็มีบ้านฮอตตะ (Kyu-Hotta-Tei) ให้ได้ชมกัน บ้านหลังนี้เป็นบ้านของไดเมียว หรือเจ้าเมืองคนสุดท้ายของญี่ปุ่น ก่อนเปลี่ยนแปลงระบบการปกครองในสมัยเมจิ ที่ชื่อมาซะโทโมะ ออตตะ ไดเมียว ภายในบ้านของคนญี่ปุ่น สิ่งที่มักจะเห็นเสมอคือ ความเรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยเทคนิคและการออกแบบที่น่าสนใจ

chiba27

อย่างเช่น ด้านบนชั้นสองของบาน เราจะมองเห็นบานประตูที่เปิดออกไปด้านนอกมีช่องกระจกที่สูงประมาณกลางประตู เจ้าหน้าที่บอกกับเราว่า ช่องกระจกนี้จะมีความสูงพอดีกับระดับสายตาเวลาเรานั่ง หากเราปิดประตู เราก็ยังสามารถเห็นสวนสวยภายนอกได้

chiba28

บ้านหลังนี้มีความโอ่โถงและภูมิฐานมากในสายตาฉัน และเชื่อว่าหลายคนคงคิดเห็นเช่นนั้นไม่อย่างนั้นคงไม่มีละครทั้งของญี่ปุ่นและของไทยเอง เข้ามาขอถ่ายทำเป็นแน่

ชมบ้านโบราณไปแล้ว ไปล่องเรือ ชมวิวทางน้ำไปแล้ว ไปขึ้นเขา ชมวิวมุมสูงกันบ้างที่ ภูเขาโนโกะงิริยามะ (Nokogiriyama) ภูเขาแห่งนี้เดิมสมัยเอโดะเคยเป็นเหมืองหินมาก่อน หินจากภูเขาแห่งนี้ถูกนำไปสร้างกำแพง สร้างปราสาท ในหลายจุดทั่วเมืองแถบคันโตแห่งนี้ การขึ้นไปบนยอดเขาสามารถขึ้นไปโดยทางรถหรือขึ้นที่สถานีรถกระเช้าไฟฟ้า (Nokogiriyama ropeay sanroku station) ก็ย่อมได้ ด้านบนบริเวณจุดชมวิว คุณจะเห็นอ่าวโตเกียวที่กว้างไกลสุดสายตา

chiba32

หากมาในวันที่ท้องฟ้าปลอดโปร่ง ภาพของภูเขาฟูจิก็จะเผยมาให้เห็น แต่วันที่ฉันไปอากาศไม่เป็นใจมากนัก แต่วิวที่ได้เห็นก็สวยงามพอสมควร นอกจากจุดชมวิวแล้วด้านบนยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมาย

chiba31

เช่น วัดนิฮงจิ (Nihon-ji) ที่ประดิษฐานรูปสลักพระไดบุตสึนิฮงจิ (Daibutsu of Nihon-ji) องค์ไดบุตสึที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นสูงถึง 31.05 เมตรจากพื้นถึงยอดใช้เวลากว่า 3 ปีกว่าจะสร้างเสร็จ

chiba29

ขอขอบคุณ
การท่องเที่ยวจังหวัดชิบะ(Chiba Prefectural Tourism & Local Products Association)
http://japan-chiba-guide.com/th/index.html

Share This Post:Share on Facebook0Share on Google+0Tweet about this on TwitterShare on LinkedIn0