Beautiful Garden- Victoria Canada

หากว่าแวนคูเวอร์ (Vancouver) ได้ชื่อว่าเป็นเมืองน่าอยู่อันดับต้นๆของโลกแล้ว อีกหนึ่ง เมืองที่ตั้งอยู่ทางใต้สุดของเกาะแวนคูเวอร์เรียกได้ว่าเป็นเมืองน่าอยู่ไม่แพ้กัน เมืองนั้นก็คือ เมืองวิคตอเรีย(Victoria) แห่งนี้นั่นเอง วิคตอเรียเป็นเมืองหลวงของรัฐบริติชโคลัมเบีย (British Columbia) ตั้งอยู่ทางตะวันตกสุดของประเทศแคนาดา โดยมีเมืองใหญ่ที่สุดของรัฐนั่นก็คืแวนคูเวอร์ เนื่องจากเป็นเมืองที่ไม่ห่างไกลกันมากนัก ทำให้นักท่องเที่ยวมักจะเลือกให้ 2 เมืองนี้เป็นเมืองที่เดินทางคู่กันเสมอ ถ้าคุณมาแวนคูเวอร์คุณต้องแวะมาวิคตอเรียด้วย โดยจากแวนคูเวอร์คุณสามารถเลือกนั่งเรือเฟอร์รี่ นั่งรถแปซิฟิกโค้ทข้ามน้ำมาที่เกาะวิคตอเรียได้ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงกว่า ถ้ามีงบมากหน่อยก็ขึ้นเครื่องบินจากสนามบินแวนคูเวอร์มาได้แค่ 15 นาทีเท่านั้น

เมืองวิคตอเรีย เป็นเมืองที่ได้รับขนานนามว่าเป็นเมืองแห่งสวน (City of Gardens) ชื่อเมืองตั้งชื่อตามราชินีวิคตอเรียของอังกฤษ ดังนั้นเราจึงเห็นลักษณะสถาปัตยกรรมรวมทั้งวิถีดำรงชีวิตของคนในเมืองนี้ มีกลิ่นอายวัฒนธรรมของชาวอังกฤษผสมผสานอยู่ แม้จะเป็นเมืองเล็ก (ที่แถมพ่วงมากับแวนคูเวอร์) แต่ที่นี่ก็มีอะไรน่ารักๆ และมีเสน่ห์เฉพาะตัวที่น่าสนใจ เรือเฟอร์รีที่ข้ามฟากจากแวนคูเวอร์มาเกาะวิคตอเรียลำใหญ่มาก สามารถจุคนได้เป็นจำนวนหลายร้อยคน ข้างในเรือมีสิ่งอำนวยความสะดวกและความบันเทิงครบครันทีเดียว ทั้งร้านอาหาร, ร้านขายเสื้อผ้า,ร้านหนังสือ หรือบริเวณเกมตู้หยอดเหรียญ เวลาเป็นชั่วโมงที่ใช้ข้ามฟากผ่านไปอย่างรวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ

พอเรือจอดปุ๊บฉันก็รีบวิ่งรี่ไปจับรถบัสต่อไปยังสวนบูชาร์ดสวนดอกไม้ที่เขาว่ากันว่า เป็นสวนดอกไม้ที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลกทันทีในช่วงเดือนพฤษภาคมของทุกปี ที่แคนาดาถือได้ว่าเป็นช่วง High Season เพราะอากาศจะแจ่มใส่และดอกไม้จะบานสะพรั่งเต็มเมืองไปหมด มองไปทางไหนก็สดชื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่สวนบูชาร์ด(Butchart Gardens) ในวันนี้ ต้นไม้ดอกไม้สวยงามไปหมด เรียกได้ว่า สายตามอง สมองจำได้แทบไม่หมดจนต้องกดชัตเตอร์กันมือระวิง สำหรับค่าเข้าชมสวนในแต่ละเดือนนั้นไม่เท่ากัน ช่วงที่แพงที่สุดคือเดือนมิถุนายน –กันยายน โดยประมาณ สวนนี้มีอายุกว่า 100 ปีแล้ว แรกเริ่มเดิมทีนางเจนนี่ บุตชาร์ต อยากแก้ไขหลุมใหญ่ที่สามีของนางขูดเอาหินปูนไปขาย ทิ้งร่องรอยไว้ไม่สวยงาม เธอจึงตัดสินใจทำสวนสร้างสนามหญ้า ปลูกต้นไอวี่ เป็นไม้เลื้อยคลุมหลุมไว้ปัจจุบันที่บริเวณนั้นกลายเป็นสวนต่ำที่เรียกว่า Sunken Garden ซึ่งต้องจุดนี้ถือได้ว่าเป็นไฮไลท์ของสวนเลยก็ว่าได้แทบทุกคนต้องแวะ

นอกจากบริเวณนี้แล้วฉันก็เดินเตร็ดเตร่เที่ยวชมบริเวณสวนอื่นๆ ไปเรื่อยๆ เพราะมีสวนที่ถูกจัดแต่งในอีกหลากหลายรูปแบบหลากหลายสไตล์ เช่น สวนญี่ปุ่น,สวนอิตาเลียน, สวนอังกฤษ, สวนกุหลาบ, สระบัว, น้ำตก,ศาลาพักร้อน และมีศาลาแสดงดนตรีกลางสวนสำหรับผู้ที่ชื่นชอบดนตรี ในปีหนึ่งๆ จะมีคนเข้ามาชมสวนนี้มากกว่า1 ล้านคนเลยทีเดียว

ฉันประทับใจมากหน่อยก็คงเป็นสวนกุหลาบที่มีกุหลาบหลากหลายพันธุ์ทางสวนมีติดป้ายของแต่ละสายพันธุ์ให้นักท่องเที่ยวทราบด้วย แต่ละดอกก็ขนาดใหญ่เหลือเกิน ส่งกลิ่นหอมตลบไปทั่วทั้งบริเวณ แนะนำว่ามาที่นี่เตรียมเมมโมรี การ์ด กับแบตเตอรีของกล้องมาเยอะๆ เลย น่าถ่ายรูปไปเสียทุกจุด

หลังจากเราใช้เวลาครึ่งค่อนวันไปกับสวนบุตชาร์ต กว่าจะมาถึงที่ท่าเรือวิคตอเรีย (Victoria Inner Harbor) ก็บ่ายแก่เข้าไปแล้ว บริเวณรอบท่าเรือวิคตอเรียน่าจะเป็นจุดที่พลุกพล่านจุดหนึ่งของเมืองก็ว่าได้ เพราะเป็นจุดที่รวมตัวของสถานที่สำคัญๆ มากมาย เริ่มจากโรงแรมแฟร์มอนท์เอมเพรส(The Fairmont Empress Hotel) หรือรู้จักกันในชื่อ The Empress โรงแรมเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองและถือเป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมืองอีกด้วย

โรงแรมนี้ที่ขึ้นชื่อมากคงเป็นเรื่องของการดื่มชาตอนบ่าย (Afternoon tea or High tea) แต่ไม่ต้องรอถึงตอนบ่ายนะ เขาจะเสิร์ฟตั้งแต่ 11.00 – 18.00 น.สนนราคาประมาณ 40 – 60 เหรียญขึ้นอยู่กับช่วงเดือนที่ไป(ราคานี้เป็นราคาต่อคนนะ) ถึงแม้จะเปิดถึง 6 โมงเย็น แต่เขามีรอบในการเข้าไปจิบชา ซึ่งใครสนใจต้องจองเวลาล่วงหน้า ต้องมาก่อนเวลาจองอย่างน้อย 10 นาที ถ้ามาช้าเกิน 5 นาทีถือว่าสละสิทธิ์อีกทั้งทางโรงแรมยังจำกัดเวลาในการดื่มชาด้วยประมาณ 90 นาทีต่อโต๊ะ อันนี้ต้องเข้าใจเพราะคนอยากเข้ามามีประสบการณ์ที่นี่เยอะมาก นอกจากเรื่องของการดื่มชาที่นี่แล้วสปาของโรงแรมนี้ก็ขึ้นชื่อไม่แพ้กัน แนะนำหนุ่มๆ ให้พาคนรักของคุณมาใช้บริการที่นี่เลย หลังจากนั้นต่อด้วยการจิบชาเพื่อช่วยเติมความสดชื่น รับประกันเลยว่าประทับใจมากแน่นอน ส่วนค่าใช้จ่ายเตรียมไปเยอะๆ หน่อยล่ะกันนะ แต่ถ้าใครงบไม่มากนัก ร้านอาหารบางร้านของที่นี่เขาก็มีบริกาชาตอนบ่ายเหมือนกัน เป็นอีกหนึ่งทางเลือกหากใครสนใจ

ใกล้ๆ กันนั้นเป็นอาคารรัฐสภาในเมืองวิกตอเรีย (British Columbia Parliament Buildings) ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองวิกตอเรียเลย เป็นผลงานของสถาปนิกที่มีชื่อว่า ชื่อ Francis Rattenbury เนื่องในโอกาสการฉลองเพชรDiamond Jubilee ของพระนางเจ้าวิคตอเรีย สร้างประมาณปี ค.ศ.1893 แล้วเสร็จในปี ค.ศ. 1915 เป็นสถาปัตยกรรมสไตล์นีโอบาโร้กสามารถเข้าชมตัวตึกด้านในได้ช่วงเย็นๆ หลังเวลาเลิกงานของข้าราชการที่ทำงานที่นี่หรือเป็นช่วงวันเสาร์ – อาทิตย์ที่ไม่มีคนทำงาน โดยเขาจะมีไกด์พาเข้าไปชมรอบละประมาณ 30 นาที ที่สำคัญฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย

ตัวอาคารมองทีแรกคล้ายๆ กับพระที่นั่งอนันตสมาคมของบ้านเราเลย พอหลังจากเดินชมเสร็จออกมาด้านนอกก็พอดี ตึกประดับไฟสวยทีเดียวส่วนบริเวณด้านหน้าของอาคารรัฐสภาก็จะมีลานกิจกรรมกลางแจ้งริมน้ำมีคนมานั่งอาบแดดบ้าง มาทำกิจกรรมต่างๆ บ้าง หันไปมาเห็นศิลปินมาแสดงงานศิลปะ หรือรับวาดรูปเหมือน ตลอดจนเล่นแสดงมายากล,เล่นดนตรีเปิดหมวก หรือแต่งตัวเป็นหุ่นก็มี

มีขายทัวร์ลงเรือชมปลาวาฬพิฆาต (Killer Whale) หรือเรียกกันอีกชื่อว่า Orca และโลมาด้วย ผู้คนมากมายดูสดใสและมีชีวิตชีวิต คึกคักและมีสีสันจริงๆ นอกจากนี้บริเวณนี้ยังมี พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งทหารลอนดอน (Royal London Wax Museum), พิพิธภัณฑ์บริติทโคลัมเบีย (Royal British Columbia Museum), สวนใต้น้ำ (Pacific Undersea Garden) และถัดจากลานกิจกรรมสนามหญ้าออกมาก็มีท่าจอดเรือยอร์ช มีเรือหลายลำจอดอยู่ นึกอยู่ในใจว่ามีโอกาสได้นั่งสักครั้งไหม เป็นความฝันตอนเย็นก่อนแสงจะลาลับขอบฟ้าไปของฉัน

วิคตอเรียเป็นเมืองแห่งสวนดอกไม้ขนานแท้ หันมองไปทางไหนก็มีดอกไม้ไปทั่วทุกหัวมุมถนน แค่เดินก็ออกมาจากโรงแรมก็เห็นดอกไม้มารอรับอยู่ตรงหน้าเลย และบ้านเมืองโดยรวมก็ค่อนข้างสะอาดเป็นระเบียบดี ยิ่งช่วงเช้าแบบนี้ไม่ค่อยมีคนเพราะโดยมากจะมาแบบเช้าไปเย็นกลับ ดังนั้นกลุ่มก็จะมาสายหน่อยหลังเรือเที่ยวแรก (แบบที่ฉันมาเมื่อวาน) เช้านี้ฉันก็เลยเหมือนได้ครอบครองสวนบีคอนฮิลล์(Beacon Hill Park) แต่เพียงผู้เดียว สวนนี้อยู่ใจกลางเมืองไม่ไกลจากท่าเรือวิคตอเรียมากนัก แต่เมื่อวานเย็นไป ฉันเลยยกยอดสวนบีคอนฮิลล์ มาวันนี้แทน แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าทีเดียว ยามเช้ากับสวนเขียว อากาศบริสุทธิ์แบบนี้รู้สึกสดชื่นเป็นอย่างมาก พื้นที่สวนกว้างมากถึง 75 ไร่(185 เอเคอร์) อยู่ติดกับชายฝ่งั ทางตอนใต้ของเมืองวิกตอเรีย นอกจากจะมีเส้นทางเดินป่าที่เลาะริมชายฝั่ง, สนามเด็กเล่นที่เห็นครอบครัวหลายครอบครัวพาลูกหลานมาเล่นสนุกสนาน, สวนน้ำ, สระน้ำ, สนามเทนนิส และอื่นๆ อีกมากมายแล้ว

สิ่งที่โดดเด่นของที่สุดที่ทุกคนต้องถ่ายรูปคงเป็น “โทเทม” (Totem) หรือ “เสาโทเทม” (Totem pole)นั่นเอง เสานี้สูงประมาณ 38.8 เมตร (127 ฟุต) เรียกว่าสูงจนต้องแหงนมองคอตั้งบ่ากันเลย เป็นสวนที่เยอะแยะมากมายกิจกรรมแบบนี้ทำให้ที่นี่เป็นที่นิยมทั้งคนที่นี่และนักท่องเที่ยวอย่างเช่นเราเที่ยวสวนกันหน่ำใจ ขอปลีกตัวไปเดินปราสาท ชมพิพิธภัณฑ์กันบ้าง แรกสุดที่ฉันมุ่งหน้าไปก็ด้วยได้ยินมาว่าเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนต์เรื่อง X-Men ฉากโรงเรียนของศาสตราจารย์ชาลล์ เซเวียนั่นไง ที่นี่คือปราสาทฮัทเลย์ (Hatley Castle) ปราสาทหลังนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่ของมหาวิทยาลัยรอยัลโร้ด (Royal Road University)ปัจจุบันอยู่ภายใต้การบริหารงานของมหาวิยาลัยรอยัลโร้ดนั่นแหละตัวปราสาทสร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1908 เจ้าของปราสาทหลังนี้เป็นลูกชายของปราสาทแครกดารอค (Craigdarroch Castle) ที่ฉันกำลังจะไปเป็นที่ต่อไป ดูด้านนอกเห็นมีความเป็นปราสาทที่ดูขลังน่าดู ประกอบกับต้นไม้ที่ปกคลุมอยู่ทั่วทั้งปราสาทด้วย เมื่อเดินดูด้านในไม่เหลือเค้าของปราสาทแล้ว เพราะได้มีการดัดแปลงให้เป็นห้องเรียนบ้าง ห้องประชุมบ้าง ห้องพักครูบ้าง ตลอดจนห้องรับประทานอาหารขนาดใหญ่ไปเสียหมด ไม่ได้อารมณ์ปราสาทเหมือนด้านนอกเท่าไหร่

ผิดกับที่ปราสาทเครคดารอค (Craigdarroch Castle) หรือ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ปราสาทเครคดารอค (Craigdarroch Castle Historical Museum) ที่กำหนดให้เป็นโบราณสถานแห่งชาติของแคนาดา ภายใต้การดูแลของวิทยาลัยวิคตอเรีย จึงได้รับการอนุรักษ์ทำให้ยังคงสภาพเดิมกว่า 100 ปีอยู่ มีการจัดแสดงข้าวของและเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ยุควิคตอเรียน ปราสาทนี้ก่อสร้างเมื่อประมาณปี ค.ศ. 1887 ตัวตึกด้านนอกทำด้วยหิน คำว่า Craigdarroch ที่เป็นชื่อของปราสาท แปลว่าหิน ส่วนด้านในปราสาททำด้วยไม้ มีด้วยกันทั้งหมด 4 ชั้น มีห้องจำนวน39 ห้อง หลังจากที่เจ้าของปราสาทตาย ผู้ที่ได้รับมรดกก็ได้ขายปราสาทนี้ให้ทำเป็นพิพิธภัณฑ์ เลยทำให้ที่นี่เป็นปราสาทที่สมบูรณ์แบบมากที่สุดของเมืองเลยทีเดียวหรือหากใครนิยมการกินลมชมวิวริมทะเล ฉันว่าที่ฟอร์ต รอดด์ ฮิลล์(Fort Rodd Hill National historic park) ก็น่าสนใจเป็นคล้ายพิพิธภัณฑ์สถาน ออกจากห่างไกลไปเสียหน่อยแต่ใครอยากไปชมก็น่าสนใจอย่างที่บอก คนที่นี่มักพาครอบครัวไปปิกนิค หรือเที่ยวชมสักครึ่งค่อนวันหมดไปอีกวัน 2 วัน 1 คืนกับเมืองวิคตอเรียสำหรับหลายคนอาจคิดว่าใช้เวลามากไป แต่สำหรับฉันยังมีอีกหลายส่วนของเมืองที่น่าสนใจและน่าประทับใจ เช่น ความสะอาด, ความสดชื่นของเหล่าต้นไม้ดอกไม้ทั่วเมือง ทิวทัศน์ที่งดงามของภูมิทัศน์ชายฝั่งทะเล ตลอดจนบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นกันเองของคนที่นี่ ไม่แปลกใจเลยที่วิคตอเรียจะได้รับเลือกให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเป็นอันดับต้นๆ ของโลก

สวนบูชาร์ดเปิดให้เข้าชมตั้งแต่ 9.00 – 17.00 น. ในช่วงเดือนพฤษภาคมแต่หากเปิดช่วงฤดูอื่นจะมีเวลาปิดไม่ตรงกันสามารถเช็กได้ที่www.butchartgardens.com ช่วงหน้าหนาวจะถูกสุดที่นี่สามารถใช้บัตรนักเรียนเป็นส่วนลดได้

Share This Post:Share on Facebook0Share on Google+0Tweet about this on TwitterShare on LinkedIn0