Chongqing Craziest City in the World เที่ยวฉงชิ่ง จีน

ในบรรดาเมืองในประเทศจีนทั้งหมด เรายกให้ฉงชิ่ง (Chongqing) เป็นเมืองที่สุดอัศจรรย์ที่สุด ไม่ว่าเป็นรถไฟทะลุตึก อาคารชั้น 20 ที่เหมือนอยู่บนพื้นดินภาพความงดงามของอาคารต่างๆ ที่ตื่นจากหลับไหลในตอนกลางคืน แสงสีสุดตระการ เพียง 3 ชั่วโมงนิดๆ จากกรุงเทพฯ มุ่งตรงสู่สนามบินนานาชาติฉงชิ่งเจียงเป่ย (เวลาจีนเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง)

จากสนามบินมีหลากหลายวิธีเข้าเมือง วิธีหนึ่งคือ โดยรถไฟฟ้าใต้ดิน ที่เรียก CRT (Chongqing Rail Transit) สายรถไฟฟ้าสีน้ำเงิน สามารถขึ้นได้ที่สนามบินได้บริเวณประตู 3 และประตู 2 ใช้เวลา 45 นาที แล้วแต่ว่าปลายทางคุณอยู่สถานีไหน การเดินทางค่อนข้างสะดวกสบาย มีป้ายชัดทุกจุดไม่ต้องกลัวหลง ซึ่งแม้ว่าบ้านเรือนของฉงชิ่งจะสร้าง
บ้านเรือนบนเขา แต่การเดินทางโดยรถไฟฟ้าหรือเรียกรถโดยสารผ่านแอป Didi ก็ไม่ลำบากเลย ที่สำคัญหากไปกันหลายคนแท็กซี่ถูกมาก

ฉงชิ่งมีความผสมผสานของความเก่าแก่ของความทันสมัยเข้าได้กับอย่างลงตัว ของขึ้นชื่อ คงหนีไม่พ้นหมาล่า โดยซึ่งมีอยู่ทั่วทุกแห่งของเมือง โดยเฉพาะที่หงหยาต้ง

หงหยาต้ง (Hongyadong)

หงหยาต้ง เป็นคอมเพล็กซ์มอลล์ขนาดใหญ่ พื้นที่ประมาณ 46,000 ตารางเมตร สูง75 เมตร มีทั้งหมด 11 ชั้น สร้างติดกับหน้าผาตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจียหลิง เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายสินค้าที่ระลึกมากมายและมีโรงแรมให้บริการด้วย ตัวอาคารเป็นสถาปัตยกรรมที่ตกแต่งในรูปแบบจีนโบราณประกอบไปด้วย อาคารแบบจีน ถ้ำ ภูเขา น้ำตกเล็กๆ ที่ไหลลงมาจากหน้าผาที่ชั้น 2ที่นี่ยังเป็นบาร์นั่งดื่มที่นักท่องเที่ยวสามารถนั่งดื่มไปพร้อมกับชมวิวยามค่ำคืนของแม่น้ำได้ด้วย ถ้าใครอยากหาซื้อของฝากไปชั้น 5เลยมีทางเดินคล้ายถนนคนเดิน พร้อมร้านขายของฝากของที่ระลึกให้จับจ่าย ส่วนร้านหมาล่าอยู่ชั้น 4 มีให้เลือกหลายร้าน

เราสามารถนั่งรถไฟใต้ดินสาย 2 ลงสถานีLinjiangmen ทางออก A เดินต่ออีกประมาณ 700 เมตร หรือ รถไฟใต้ดินสาย 1 หรือสาย6 ลงสถานี Xiaoshizi ทางออก 6 เดินต่ออีกประมาณ 700 เมตรก็จะถึงแท็กซี่หรือแอปDidi ก็สะดวกเช่นกัน

มหาศาลาประชาคมฉงชิ่ง (Chongqing Great Hall of the People)

มหาศาลาประชาคมฉงชิ่ง หรือ ต้าลี่ถังอาคารขนาดใหญ่ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากวิหารเทียนถาน (Temple of Heaven) ในปักกิ่ง สร้างผสมผสานแบบสไตล์จีนดั้งเดิมผสานกลิ่นอายตะวันตก สร้างขึ้นในสมัยยุคคอมมิวนิสต์ ใช้สำหรับเป็นที่ประชุมผู้แทนราษฎรและเป็นโรงละครสำหรับประชาชนด้านหน้าอาคารจะเป็นจัตุรัส มีผู้คนเดินกันขวักไขว่ ทั้งเดินเล่นชมแสงสีในยามค่ำคืนและออกกำลังกาย

หากขึ้นรถไฟสาย 10 ออกทางออก 1 เดินไกลนิด ดูดีๆ ถ้าเป็นรถไฟ Rapid หรือรถไฟด่วน จะไม่จอดสถานีนี้หรือสาย 2 ลงสถานี Zengjiayan เดินต่อประมาณ 10 นาที

Chongqing Art Museum

พิพิธภัณฑ์ศิลปะฉงชิ่ง หรือหอศิลป์ฉงชิ่ง หรือศูนย์ศิลปะฉงชิ่งกั๋วไถ เป็นสถานที่ที่คนรักศิลปะไม่ควรพลาดด้วยโครงสร้างภายนอกที่โดดเด่นประกอบด้วยคานที่สานกันเป็นลวดลาย การออกแบบนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากตะเกียบสีแดงทอดยาวจากเหนือจรดใต้ (ประทับตรา คำว่ากั๋ว 国 = ชาติหรือประเทศ) ตะเกียบสีดำทอดยาวจากตะวันออกจรดตะวันตก (ประทับตรา คำว่า ไท่ 泰 = ความสงบสุข)

ว่ากันว่าการออกแบบได้รับแรงบันดาลใจจากตะเกียบและอาหารหม้อไฟ แบบ จีน ดั้งเดิม ภายในมีการจัดแสดงผลงานศิลปะอันน่าประทับใจกว่า 10,000 ชิ้น ซึ่งรวมถึงภาพวาดจีนโบราณ ภาพพิมพ์ และประติมากรรมขนาดเล็ก

การเดินทางใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีแดง ลงที่สถานีXiaoshenzi ออกทางออก 9 หรือมาสายสีเขียว ลงที่สถานี Linjiangmen ออกทางออก C

รถไฟวิ่งทะลุตึก ที่สถานีหลีจื่อป้า (Liziba Station)

ไฮไลต์หลักที่หลายคนเดินทางมาฉงชิ่งคือ มาชมรถไฟสาย 2 วิ่งทะลุตึก 19 ชั้นซึ่งเป็นอาคารที่อยู่อาศัย ที่สถานีหลีจื่อป้า (Liziba Station) โดยสถานีนี้ตั้งอยู่ระหว่างชั้น 6-8 ของอาคาร หลายคนคิดว่ามีการเวนคืน สร้างสถานีหลังตึก แต่ในความเป็นจริงสถานีและอาคารที่พักอาศัยถูกสร้างเป็นโครงสร้างเดียวกันและสร้างขึ้นมาพร้อมกันทั้งหมดและมีการติดตั้งอุปกรณ์ลดเสียงชนิดพิเศษ โดยจะถูกเปิดเมื่อมีรถไฟฟ้าจะเข้าเทียบสถานี ซึ่งช่วยลดความดังจากเสียงรถไฟลงจนเท่าเสียงเครื่องล้างจานเท่านั้นเอง

การเดินทางสามารถเดินทางมายังสถานีได้โดยรถไฟใต้ดินสายสีเขียว (สาย 2) ลงที่สถานีหลีจื่อป้า (Liziba Station)

หมู่บ้านโบราณฉือชี่โข่ว (Ancient Town of Ciqikou)

คนที่ชื่นชอบกลิ่นอายย้อนยุคโบราณในสมัยราชวงศ์ซ่ง หมิง ชิง หรือวัฒนธรรมดั้งเดิม ต้องชอบที่นี่เป็นแน่ ตัวหมู่บ้านอยู่บนเนินเขาและทอดยาวไปสู่แม่น้ำเจียหลิง พร้อมกับอาคารบ้านเรือนยังคงรูปแบบสถาปัตยกรรมดั่งเดิมที่มีร้านหัตถกรรมท้องถิ่นและร้านอาหารพื้นเมืองให้ได้เลือกชม สามารถชื่นชอบสถานปัตยกรรมพร้อมกับดื่มด่ำไปกับเรื่องราวประวัติศาสตร์ได้

การเดินทางสามารถขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินสาย 1 สายสีแดงไปลงสถานี Ciqikou (ฉือชี่โข่ว) เดินเรื่อยๆ มาก็จะเจอ

วัดฮังหยาน (Hong’ensi Forest Park)

สวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดอันดับสองในฉงชิ่ง มีพื้นที่มากกว่า 1,000 เอเคอร์ ด้านบนจะมีศาลาหงเอิน (Hong’en Pavilion) เป็นสถาปัตยกรรมแบบกึ่งคลาสสิก สูงประมาณ468 เมตร จากระดับน้ำทะเล มีทั้งหมด 7 ชั้นช่วง 1 ทุ่มจะมีการเปิดไฟสวยมาก นักท่องเที่ยวสามารถชมทิวทัศน์ของเมืองในมุมสูงได้จากที่นี่ ถ้าใครมาช่วงใบไม้เปลี่ยนสี คุณจะเหมือนอยู่ท่ามกลางเขาสีเหลือง เพราะเนินเขานี้มีต้นแปะก๊วยอยู่ล้อมรอบวัด

การเดินทาง : นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีฟ้ามาลงที่สถานี Dashiba เดินตาม map มาเรื่อยๆ จะเจอทางเข้า หรือ นั่ง Taxi มาเลยจะสะดวกสุด

อุทยานแห่งชาติหลุมฟ้า 3 สะพานสวรรค์ (Three Natural Bridges)

มรดกโลกทางธรรมชาติระดับ 5A ที่มีความสวยงามมากที่สุดแห่งนี้ตั้งอยู่ที่เมืองหวู่หลง (Wulong) ทางทิศตะวันออกของเมืองฉงชิ่ง ถ้าใครเคยดูหนังเรื่อง Transformers ก็จะคุ้นกับที่นี่ เพราะเป็นหนึ่งในโลเคชั่นหนังตรงจุดทางลงเขาจะเห็นหุ่นเหล็กคล้ายไดโนเสาร์ยืนต้อนรับอยู่ ที่อุทยานแห่งนี้เกิดจากการยุบตัวของเปลือกโลก และแรงกัดเซาะของสายน้ำกระแสลมที่พัดผ่านอย่างต่อเนื่องนับพันปี บ่อหลุมขนาดใหญ่ที่ลึกประมาณ 300-500 เมตรและมีบางส่วนเป็นโพรงทะลุเหมือนกับสะพานทอดข้ามระหว่างภูเขาถึงสามแห่ง ระหว่างทางเดินจะมีจุดน่าสนใจ คือโรงเตี๊ยมเก่าแก่ซึ่งเดิมเป็นจุดแวะพักของคนเดินทางในสมัยก่อน ตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถัง (ค.ศ. 618-907) เนื่องจากหุบเขานี้เป็นเส้นทางลัดจากเสฉวนไปยังเหอหนาน เป็นภาพจำที่ใครเห็นต้องรู้จัก

การเดินทางจากฉงชิ่ง (Chongqing) ให้ไปขึ้นที่สถานีรถบัส Sigongli นั่งรถบัสไปลง Wulong ประมาณ 2 ชั่วโมง คนละ 60 หยวนเสร็จแล้วหารถบัสต่อไป 仙女镇 (เซียน หนี่ เจิ้น) ประมาณ 40 นาที (10 หยวน) ถึงที่ตึกพิระมิด

ฉงชิ่งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมาก หลายคนมาเที่ยวแต่ด้วยเวลาที่จำกัด คงต้องมีโอกาสกลับมาเที่ยวอีกครั้งอย่างแน่นอน

เรื่องที่เกี่ยวข้อง :