เชียงใหม่ที่คิดถึง
เรื่องและรูปภาพโดยทีมงาน Vacationist
สายลมหนาวเริ่มพัดผ่านในช่วงปลายปีเช่นนี้หลายจังหวัดของภาคเหนือคงเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับคนที่ต้องการท่องเที่ยวเดินทางอย่างแน่นอน และหนึ่งในจังหวัดยอดนิยม คงหนีไม่พ้นจังหวัดเชียงใหม่จังหวัดที่เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่ครบถ้วนทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติศิลปวัฒนธรรม วัดวาอาราม ตลอดจนที่กิน เที่ยว ช้อป เยอะแยะเต็มไปหมด ไปกี่ทีก็ไม่มีซ้ำ ครั้งนี้เราจะพาไปเที่ยว 9 สถานที่กับ 3 วัด 3 สวนดอกไม้ และ 3 ตลาดที่ทำให้คุณได้ที่เช็กอินใหม่ไม่ซ้ำใครแน่นอน
ไหว้พระรับบุญ
มาจังหวัดเชียงใหม่วัดเด่นวัดดังคงหนีไม่พ้นวัด พระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหารแต่สำหรับคนที่เดินทางไปเที่ยวเชียงใหม่บ่อยแล้ว จะไปวัดไหนดีขอแนะนำ 3 วัดนี้เลย
เริ่มต้นจากวัดเกตการามตามความเชื่อของคนล้านนา หรือคนเหนือ ต้องไหว้พระธาตุประจำปีเกิดของตนเองเพื่อความเป็นสิริมงคล อย่างเช่น พระธาตุประจำปีเกิดของคนที่เกิดปีจอ (สุนัข) คือไปสักการะ พระธาตุอินทร์แขวนอำเภอสะเทิม เขตรัฐมอญ ประเทศพม่า แต่ด้วยการที่อยู่นอกประเทศจึงสามารถบูชา พระธาตุเจดีย์เกศแก้วจุฬามณี ที่วัดเกตการาม เชียงใหม่แทนได้
แม้คนที่ไม่ได้เกิดปีจอ ก็แนะนำให้ไปไหว้พระรับบุญกัน เพราะตัววัดเองมีความงดงามและมีศิลปวัตถุที่น่าสนใจมากมายวัดเกตการามเป็นวัดเก่าแก่ของเมืองเชียงใหม่ เดิมชื่อว่าวัดสระเกษ สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1971 ในรัชสมัยพระเจ้าสามฝั่งแกน พระองค์โปรดให้พระยาเมือง พระยาคำ และพระยาลือ สร้างวัดแห่งนี้ขึ้น ชื่อวัดเกตการาม มาจากคำว่า เกศ ซึ่งเป็นชื่อของพระธาตุเกศแก้วจุฬามณีบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นที่ประดิษฐานพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าย่านวัดเกตอยู่ริมฝั่งตะวันออกของแม่น้ำปิง ถือเป็นย่านเศรษฐกิจสำคัญของเชียงใหม่มาตั้งแต่อดีต ปัจจุบันย่านวัดเกตเป็นทั้งย่านที่อยู่อาศัย และย่านท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมของเมืองเชียงใหม่
จุดน่าสนใจ อันดับแรกคือ เจดีย์จุฬามณี หรือพระธาตุวัดเกต ซึ่งกล่าวกันว่าประดิษฐานอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ซึ่งเป็นสวรรค์ที่อยู่บนยอดเขาพระสุเมรุ เป็นเจดีย์ที่บรรจุเครื่องทรงและพระเมาฬีของเจ้าชายสิทธัตถะ ซึ่งทรงสละทิ้งเมื่อคราวออกผนวช และยังเป็นที่เก็บรักษาพระเขี้ยวแก้วของพระพุทธองค์ หลังการถวายพระเพลิงพระบรมศพอีกด้วย
เมื่อเจดีย์จุฬามณีเป็นเจดีย์ที่อยู่ไกลถึงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ จึงมีการสมมติให้เจดีย์องค์หนึ่งในประเทศพม่า เป็นที่กราบไหว้แทน นั่นคือที่ “พระธาตุอินทร์แขวน” ส่วนพระธาตุเจดีย์เกศแก้วจุฬามณี แห่งวัดเกตการามได้ถูกกำหนดให้เป็นองค์แทนเจดีย์จุฬามณีอีกองค์หนึ่ง ซึ่งนอกจากจะเป็นการสะดวกในการเดินทางมากราบไหว้แล้ว อีกเหตุผลหนึ่งก็คือ ชื่อของวัดเสียงเหมือนคำว่า “เกศ” แก้วจุฬามณี
จากฝั่งตะวันออกของแม่น้ำปิง เราเข้าตัวเมืองเชียงใหม่เพื่อไปสักการะ วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร บริเวณที่ตั้งวัดเดิมถือว่าเป็นศูนย์กลางทางการปกครองของอาณาจักรล้านนา มีพระอัฏฐารส เป็นพระพุทธปฏิมาประธานในพระวิหารหลวง หล่อด้วยทองสำริด ปางห้ามญาติสูง 8.23 เมตร พร้อมทั้งพระอัครสาวก คือ พระโมคคัลลานะ และพระสารีบุตร
เป็นสถานที่ประดิษฐานเจดีย์ใหญ่ที่สุดในจังหวัดเชียงใหม่เป็นพระอารามหลวงเก่าแก่ของชียงใหม่ และเป็นที่ตั้งศาลหลักเมืองของเชียงใหม่ หรือเรียกกันว่า หออินทขิล
ถือได้ว่าเป็นวัดที่ความสำคัญมากของเมืองเชียงใหม่ก็ว่าได้ แต่เดิมวัดเจดีย์หลวง ชื่อ “โชติการามวิหาร” แปลว่า พระอารามที่มีแต่ความรุ่งเรืองสว่างไสวเนื่องจากเป็นสถานที่บรรจุพระเกศาธาตุ และพระธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
นอกจากพระเจดีย์หลวงรูปลักษณ์ทรงเจดีย์แบบพุกาม ดัดแปลงซุ้ม ตรงสี่มุมของมหาเจดีย์มีรูปปั้นช้างค้ำรายล้อมรอบองค์เจดีย์หลวงนั้นมี 28 เชือกแล้ว
หน้าประตูทางเข้าวิหาร มีบันไดนาคเลื้อยงดงามยิ่ง ใช้หางเกี่ยวกระหวัดขึ้นไปเป็นซุ้มประตูวิหาร นาคคู่นี้เป็นฝีมือเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่เดิมได้ชื่อว่าเป็นนาคที่สวยที่สุดของภาคเหนืออีกด้วย
และสำหรับคนที่ชื่นชอบความสงบท่ามกลางต้นไม้สีเขียวชุ่มชื่นแล้วละก็ แนะนำให้ไปที่วัดอุโมงค์ (สวนพุทธธรรม) ซึ่งเป็นโบราณสถานเก่าแก่ที่มีความสำคัญแลอยู่คู่เมืองเชียงใหม่มากว่า 700 ปี
วัดอุโมงค์ตั้งอยู่บริเวณดอยสุเทพ หรือที่ใครรู้จักกันในย่านหลังมอ (หรือด้านหลังหาวิทยาลัยเชียงใหม่) ความโดดเด่นของวัดอุโมงค์ อยู่ที่อุโมงค์ที่สร้างขึ้นในสมัยพญามังรายราวๆ ปี พ.ศ. 1839 ซึ่งเป็นอุโมงค์เพื่อให้พระมหาเถระจันทร์ใช้เป็นที่วิปัสสนากรรมฐาน
อุโมงค์นี้ตั้งอยู่ใต้ฐานพระเจดีย์ด้านเหนือ เป็นอุโมงค์ขนาดใหญ่และสวยงาม มีทางเข้าออก 4 ช่องแต่ละช่องเดินติดต่อกันได้ทั่วถึง ข้างฝาผนังด้านในอุโมงค์เจาะช่องสำหรับจุดประทีปให้เกิดความสว่างเป็นระยะ สะดวกแก่พระเดินจงกรมและภาวนาอยู่ด้านใน
และในเพดานอุโมงค์ยังมีภาพเขียนสีน้ำมันอีกด้วยบริเวณโดยรอบวัดร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ใหญ่และค่อนข้างเงียบสงบ ตรงบริเวณอุโมงค์เป็นอาคารก่ออิฐรูปสี่เหลี่ยมที่ภายนอกมีมอสปกคลุมเป็นพรมสีเขียวด้วยความชื้นยิ่งเพิ่มความสงบงามให้แก่สถานที่มากขึ้น
สวนดอกไม้
ทุกสิ้นปีตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นไป บริเวณอำเภอแม่ริมจังหวัดเชียงใหม่จะเต็มไปด้วยบรรยากาศของทุ่งดอกไม้ โดยเฉพาะดอกมากาเร็ต ทั้งสีม่วงเข้ม อ่อน สีชมพูเข้ม บรรยากาศชวนฝัน รวมทั้งดอกคัตเตอร์สีขาว และแปลงดอกไม้อื่นๆ อีกมากมาย ในบริเวณนี้มีสวนดอกไม้เยอะมาก หลายสวนให้ได้เข้าชมกัน
ยกตัวอย่างเช่น I Love Flower Farm สวนดอกไม้ชื่อดังที่หลายคนมุ่งพุ่งตัวไปเช็กอินก่อนเป็นที่แรก ที่สวนมีการจัดการพื้นที่และการตกแต่งสวยงาม ราคาค่าเข้าชมคนละ 90 บาทรวมค่าเข้าชม ค่ารถพาไปกลับจากจุดจอดรถ ค่าน้ำ 1 แก้วและขนมให้ชิม
การเข้าชมสวนต้องมีการจองล่วงหน้าเพราะคนเยอะมาก ที่สวนดอกไม้หมุนเวียนผลัดเปลี่ยนไปในแต่ละปีจะไม่เหมือนกัน ทั้งทุ่งดอกมากาเร็ตสีม่วงแล้ว งมีทุ่งดอกซีโลเซียทั้งสีแดง ชมพู่ ส้ม มาช่วยเพิ่มสีสันให้น่าสนใจมากยิ่งขึ้นแต่สำหรับใครที่ไม่ได้จองล่วงหน้าตลอดจนไม่อยากจะไปชุลมุนวุ่นวายกับผู้คนยังมีสวนอื่นๆ ในพื้นที่ชุมชนเดียวกันอีกมากมาย
ค่าเข้าชมสวนจะอยู่ที่ประมาณ คนละ 50 บาท บางสวนสามารถเอารถเข้าไปจอดแล้วเดินเข้าสวนสวยๆ ได้เลย เช่นที่สุรชัยฟาร์ม นอกจากดอกมากาเร็ตสีม่วงแล้วที่นี่ยังมีทุ่งดอกเรนโบว์สีรุ้ง ซึ่งเป็นทุ่งดอกไม้ที่ใช้สีพ่น ซึ่งได้รับแนวคิดมาจากทุ่งดอกไม้ในต่างประเทศ เป็นทุ่งดอกไม้หลากสีสัน
ที่สำคัญที่สวนมีพรอพเยอะมากและให้หยิบไปใช้ถ่ายฟรี ทั้งช่อดอกไม้แบบต่างๆ ตะกร้าดอกไม้ หมวก ร่ม สวนอยู่ติดกับถนนสายหลักหรือ สวนลุงจารณ์ แม้จะเลี้ยวจากทางหลักเข้าไปสักหน่อย แต่รับประกันถึงความสวยงาม ของทุ่งดอกไม้ที่ไม่ค่อยมีคนแย่งซีน โดดเด่นด้วยทุ่งดอกมากาเร็ตสีม่วง ไล่เข้ม อ่อน แบบดอกเต็ม สวนดอกคอสมอสหลากสี ดอกคัตเตอร์สีขาวใกล้ๆ กันนั้นมีบริการขี่ม้าตัวเล็กสำหรับเด็ก ราคาเพียง 20 บาทเท่านั้น เอาเป็นว่า ไม่ว่าคุณจะไปสวนไหน หนาวนี้อย่าลืมจัดสวนดอกไม้สักสวนที่เชียงใหม่กันได้
จับจ่ายก่อนกลับ
ใกล้ถึงเวลากลับจากพักร้อนยาว สิ่งหนึ่งที่นึกถึงคงเป็นของฝาก ของที่ระลึก ของฝากของเชียงใหม่ที่นึกได้อย่างเช่นแคบหมู น้ำพริกหนุ่ม และเหล่าบรรดาอาหารเหนือทั้งหลายตลาดแรกที่คนนึกถึงคือ ตลาดวโรรส หรือกาดหลวง
แต่ถ้าคุณอยู่ในแถวย่านหลังมอ หรือวัดอุโมงค์แล้วละก็เดินทางต่อมาจับจ่ายที่ตลาดต้นพยอม หรือกาดต้นพยอมได้เลย เพราะที่นี่เต็มไปด้วยอาหารเหนือ ของกินพื้นเมืองหลากหลายอย่างให้เลือก
ไล่ไปตั้งแต่ ผลไม้ดองทั้งท้อดอง กระเทียมดอง หรือผลไม้อบแห้งอย่างสตรอว์เบอร์รี ผลไม้แช่อิ่ม อาหารต้องซื้ออย่างแคบหมู น้ำพริกหนุ่ม ไส้อั่ว โดยเฉพาะแคบหมูนั้นเขาทอดกันใหม่ๆ วันต่อวัน มีทั้งแบบติดมัน และไร้มัน ทำกันใหม่ๆ ย่างกันร้อนๆ และถ้าต้องการของป่าพื้นบ้านอย่างผักหวานป่า
ต้องมาในช่วงเช้าที่มีตลาดเช้านอกจากจะได้ของฝากแปลกใหม่ อาหารยามเช้าภายในตลาดก็มีให้เลือกชิมกันเพียบ ถ้ามาเที่ยวในฤดูหนาว มีรถด่วน หรือหนอนไม้ไผ่ทอดเกลือให้ลิ้มลองกันอีกด้วย ที่สำคัญการจราจรไม่ได้แออัดเท่ากับที่ตลาดวโรรสหรือกาดหลวงเท่านั้น
แต่ถ้าคุณต้องการสินค้าของที่ระลึกที่เป็นเอกลักษณ์สวยงามไม่เหมือนใคร แนะนำให้เดินทางไปบริเวณถนนวัวลาย ซึ่งเป็นถนนที่สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านค้าที่ทำของประดับจากเงินแท้สวยงามมาก
ทุกวันเสาร์ จะมีการจัดถนนคนเดินระยะทางประมาณ 1.1 กม. โดยร้านค้าของถนนคนเดินวัวลายจะเริ่มเปิดตอนประมาณ 17.00 – 22.00 น. มีทั้งของฝาก ของกินของใช้ ของที่ระลึกเครื่องเงินและอื่นๆ อีกมากมาย
ด้วยระยะทางเดินที่ไม่ไกลมากนักทำให้สามารถเดินได้อย่างสบายๆ และที่สุดถนนจะมีวัดอีกหนึ่งวัดให้สักการะกัน คือ “วัดศรีสุพรรณ” วัดนี้มีความโดดเด่นอยู่ที่โบสถ์ของวัด ซึ่งสร้างจากเงินนำมาสลักลายเป็นลวดลายของโบสถ์ที่สวยงามวิจิตรตระการตามาก แนะนำให้ได้ไปสักการะสักครั้ง
อีกหนึ่งตลาดสำหรับคนที่ตื่นเช้า คือ ตลาดจริงใจ ตลาดตั้งอยู่บน ถนนอัษฎาธร ตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่เป็นตลาดเช้าที่ขายเฉพาะวันเสาร์ และอาทิตย์ ตั้งแต่ 06.30 น. ไปจนถึงบ่ายโมงเท่านั้น ถือได้ว่าเป็นตลาดเกษตรอินทรีย์แห่งแรกของจังหวัดเชียงใหม่
ภายในตลาดจะเน้นขายของคุณภาพ ผัก ผลไม้ ก็จะปลอดสารพิษ, ผักออร์แกนิก เกษตรกรมาขายเอง และยังมีผักพื้นเมืองที่หาซื้อได้ยากเช่น ผักขี้เหล็กผักแค กระเจี๊ยบ กระชาย หรือดอกอาว เป็นต้นภายในตลาดจริงใจ มี 3 โซน
โซนแรกเรียกว่า จริงใจ Farmers Market โซนนี้เน้นสินค้าประเภทพืชผักจากเกษตรกรโดยมากเป็นผักที่มีคุณภาพ ผ่านการตรวจสอบสารเคมีตกค้างในพืชผัก ผลไม้ เป็นสินค้า Organic คือไม่มีการใช้สารเคมีในการปลูก และไม่มียาฆ่าแมลง ราคาอาจจะแพงกว่าตลาดทั่วไป แต่ถูกกว่าผักในซูเปอร์มาร์เก็ตแน่นอน
โซนที่สอง คือ Pure Organic Hall หรือ หออินทรีย์ โซนนี้นอกจากจะมีสินค้ารูปแบบของสดแล้วยังมีอาหารสุกพร้อมรับประทานและโซนสุดท้ายคือ Hobby market โซนนี้เป็นสินค้าแฮนด์เมดสินค้าพื้นเมือง ที่ทำกันขึ้นมาเอง ซึ่งเป็นสินค้าที่เฉพาะกลุ่ม
มีของน่าดูหลายอย่าง ช่วงเย็นค่ำจะมีการแสดงดนตรีจากศิลปินเปิดหมวก ให้บรรยากาศที่สนุกสนานผ่อนคลายในวันหยุดก่อนเดินทางกลับได้เป็นอย่างดี
จะเห็นได้ว่าไม่ว่าผ่านไปกี่เดือนกี่ปี และกี่ฤดูกาลเชียงใหม่ก็ยังเป็นสถานที่น่าคิดถึงและน่าท่องเที่ยว สำหรับคนที่รักการพักร้อนและเดินทางเสมอ