10 ประเทศยอดนิยม ชมใบไม้เปลี่ยนสี

Story by Editorial Staff

10 ประเทศยอดนิยม ชมใบไม้เปลี่ยนสี 10 Countries You Should Visit in Fall

ฤดูใบไม้ร่วงเป็นฤดูที่คนทั่วโลกชื่นชอบ การสวมเสื้อสเวตเตอร์อุ่นๆ เดินทางและเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์ที่สวยงามของฤดูกาล สำหรับใครที่ชื่นชอบธรรมชาติ ความงามของต้นไม้ภาพของใบไม้ดอกไม้ที่เปลี่ยนสีจากเขียว เป็นเหลือง ส้ม แดง คงสร้างความประทับใจได้ไม่ใช่น้อย เปิดประสบการณ์และค้นหาสถานที่ใหม่ในขณะที่อยู่ในโหมดใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วงไปกับ 10 ประเทศยอดนิยมสำหรับชมใบไม้เปลี่ยนสีกัน

ญี่ปุ่น

ญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในประเทศอันดับต้นๆ ของปลายทางสำหรับคนที่ชื่นชอบการชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ไม่ไกลจากเมืองไทยมากนัก สำหรับใบไม้เปลี่ยนสีที่ญี่ปุ่นจะไล่เปลี่ยนสีตั้งแต่ตอนเหนือของประเทศอย่างฮอกไกโด (Hokkaido) ที่มีอุทยานแห่งชาติไดเซะสึซัง (Daisetsuzan National Park) เป็นหนึ่งในสถานที่ยอดนิยมในการไปชมใบไม้เปลี่ยนสี เนินเขาที่ปกคลุมด้วยสีสันของใบไม้และวิวภูเขาไฟสลับชั้น สวยงามราวกับหลุดออกมาจากภาพวาด ไล่ลงมาผ่านกลางประเทศอย่างเมืองหลวง โตเกียว (Tokyo) ต่อมายังเมืองท่องเที่ยวเกียวโต (Kyoto) เมืองหลวงเก่า ที่มีชื่อเสียงในภูมิภาคคันไซ ซึ่งมีบรรยากาศ และบ้านเก่าสไตล์ญี่ปุ่นอันน่าทึ่งสำหรับการพักผ่อนและหลีกหนีจากความตึงเครียดจากชีวิตที่แสนวุ่นวาย

ตามมาด้วยเมืองที่มีกวางเป็นตัวชูโรง อย่างเช่น นารา (Nara) หรือบริเวณรอบทะเลสาบทั้งห้าของภูเขาฟูจิ ตลอดเมืองโบราณอย่างนิกโก (Nikko) ก็เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดชมใบไม้เปลี่ยนสี อาหารที่ยอดนิยมในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่ไม่ควรพลาด เช่น ซุปเห็ดมัตสึทาเกะ ปลาซันมะย่างเกลือ และแม้แต่โคร็อกเกะฟักทอง ก็ทำให้คุณรู้สึกถึงความพิเศษในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีของญี่ปุ่นพิเศษยิ่งขึ้น

เกาหลีใต้

เกาหลีใต้เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่เรียกว่ามาแรงทีเดียวสำหรับการชมใบไม้เปลี่ยนสี ซึ่งจะเริ่มเปลี่ยนสีบริเวณคือ ชายฝั่งด้านตะวันออกเฉียงเหนือเช่นอุทยานแห่งชาติซอรัคซาน (Seoraksan National Park) ภูเขางามแห่งเมืองซกโซ จังหวัดคังวอนโด ที่เรียกกันว่าเป็นสวิตเซอร์แลนด์แห่งเกาหลี จะเริ่มเปลี่ยนตั้งแต่กันยายน โดยช่วงเดือนตุลาคมจะเป็นช่วงที่สวยที่สุด

ส่วนเมืองหลวงอย่างที่กรุงโซล (Seoul) หรือที่เกาะนามิ (Nami Island) สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอีกแห่งของจังหวัดคังวอนโด ที่เมืองชุนชอน (Chuncheon) จะเริ่มช่วงกลางเดือนตุลาคม และเปลี่ยนสีเต็มที่ภายในปลายเดือนตุลาคมก็มีจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีหลายจุด ทั้งแบบสวนหรือพระราชวังโบราณ สำหรับตอนกลางประเทศ จะเริ่มตั้งแต่กลางเดือนตุลาคมเป็นต้นไป รวมถึงแทจอน อุทยานแห่งชาติซงนิซัน และอุทยานแห่งชาติวอรัคซาน

ในขณะที่ทางใต้ของประเทศอย่าง ปูซาน (Busan) หรืออุทยานแห่งชาติจีรีซาน (Jirisan National Park) ตลอดจนเกาะเชจู (Jeju Island) ไปช่วงปลายเดือนตุลาคมกำลังสวย ส่วนท่องเที่ยวสุดท้ายที่ไม่ควรพลาด คือ รอบๆ (Naejangsan National Park) เป็นหนึ่งในสถานที่สุดท้ายที่สามารถชมใบไม้เปลี่ยนสีในเกาหลี

สหราชอาณาจักร

เช่นเดียวกับสถานที่อื่นๆ อังกฤษจะกลายเป็นดินแดนมหัศจรรย์สีแดงเข้มทันทีที่เข้าสู่ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี เมืองหลวงอย่างลอนดอน (London) เดิมเป็นเมืองสีเขียวก็จะถูกเปลี่ยนรูปลักษณ์เป็นเมืองที่มีทิวทัศน์ใบไม้เปลี่ยนสี หลากสีสันที่สวยงาม และความสนุกสนานในการเที่ยวชมจะทวีคูณยิ่งขึ้นเมื่อได้ไปเยือนป้อมและพระราชวังของอังกฤษในช่วงฤดูใบไม้ร่วง เช่นเดียวกับการเดินชมธรรมชาติและการเดินป่า อย่างสวนรุกขชาติเวสตันเบิร์ท (Westonbirt Gardens) สวนสวยอีกแห่งที่ถือเป็นหนึ่งในสวนที่มีชื่อเสียงโด่งดังของอังกฤษ

เทศกาลเก็บเกี่ยวแบบดั้งเดิมและตลาดเกษตรกรทำให้บรรยากาศรื่นเริง สำหรับนักช้อป ช่วงฤดูใบไม้ร่วงในอังกฤษไม่เพียงช่วยประหยัดเงินในกระเป๋า แต่ยังเต็มไปด้วยของที่น่าทึ่งอีกด้วย Westonbirt, Hampshire และ West Sussex เป็นสถานที่ที่งดงามที่สุดในอังกฤษในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี

สวิตเซอร์แลนด์

สวิตเซอร์แลนด์มีชื่อเสียงมากในด้านภูมิประเทศที่น่าทึ่งและเส้นทางเดินป่าที่ยิ่งใหญ่ จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ประเทศนี้เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การไปเยี่ยมเยือนในฤดูใบไม้ร่วง ทิวทัศน์บนเทือกเขาแอลป์ (Alps) ของสวิตเซอร์แลนด์จะเฉดสีเหลือง ส้ม แดง สวยงามตระกาตามาก เมืองเลาเทอร์บรุนเนิน (Lauterbrunnen) หมู่บ้านเล็กๆ ตั้งอยู่ระหว่างทางขึ้นยอดเขาจุงเฟรา ล้อมรอบด้วยธรรมชาติ ที่สวยงาม และวิวสุดอลังการของเทือกเขาแอลป์ ตลอดจนภาพสะท้อนของใบไม้ในทะเลสาบเจนีวา (Lake Geneva) และทะเลสาบลูเซิร์น (Lucerne Lake) ดึงดูดผู้ชมไม่แพ้กัน

เช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ สวิตเซอร์แลนด์เฉลิมฉลองการเก็บเกี่ยวที่ดีในเวลานี้ ขอบเขตการเก็บเกี่ยวค่อนข้างกว้าง ตั้งแต่เห็ดทรัฟเฟิล วอลนัท เกาลัด ฟักทอง และอื่นๆ อีกมากมาย ตั้งแต่กลางเดือนกันยายนเป็นต้นไป จะมีงานแสดงสินค้ามากมายที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ ช่างฝีมือและอาหารท้องถิ่น หากคุณกำลังมองหาการเดินหรือเดินป่าที่ดี Engadine คือจุดที่คุณต้องไป เนื่องจากเป็นที่รู้จักว่าเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ดีที่สุดในยุโรปในการชมสีสันของฤดูใบไม้ร่วงอันตระการตา

สหรัฐอเมริกา

คงตัดสินใจยากมาก ถ้าจะเลือกสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีเพียงสักแห่งในอเมริกา เพราะมีให้เลือกเยอะมาก เมืองที่สวยงามหลายแห่งในสหรัฐอเมริกา รวมถึงนิวยอร์ก แนชวิลล์ และบอสตัน ซึ่งมีอุณหภูมิที่อุ่นขึ้นและมีโอกาสได้ชมใบไม้เปลี่ยนสีมากมาย ฤดูนี้มีกิจกรรมกลางแจ้งอันสนุกสนานมากมาย เช่น การเก็บแอปเปิ้ล เทศกาลวัฒนธรรม การขับรถชมความงาม และการนั่งรถไฟชมใบไม้เปลี่ยนสีไปตามชนบท ตั้งแต่นิวอิงแลนด์และแกรนด์แคนยอนไปจนถึงโยเซมิตีและเทือกเขาเกรทสโมคกี้

ทั้งหมดนี้กลายเป็นดินแดนมหัศจรรย์อันยิ่งใหญ่ หากไม่รู้จะเลือกที่ไหน สถานที่หลักๆ อย่างที่เซนทรัลพาร์ค (Central Park) ใจกลางเมืองก็ไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน

แคนาดา

ไม่ว่าจะเป็นภูมิประเทศทางฝั่งไหนของแคนาดาหรือภาพทิวทัศน์ธรรมชาติ บ้านเรือน หรือความสวยงามของอุทยานแห่งชาติ แคนาดาก็มีภาพบรรยากาศใบไม้เปลี่ยนสีพร้อมเสิร์ฟในกับนักเดินทาง สถานที่อย่างเช่น เมืองโตรอนโต (Toronto)หากคุณอยู่ที่นั่นในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ขับรถไปตามเส้นทาง The Cabot Trail (เกาะ Cape Breton, Nova Scotia) และใช้เส้นทาง Fundy Coastal Drive (New Brunswick) หรือที่อุทยานแห่งชาติ คาบสมุทรบรูซและอุทยานประจำจังหวัดอัลกอนควิน (Algonquin Provincial Park) ก็น่าสนใจ

นอกจากนี้ เทศกาลนานาชาติ ยังทำให้ฤดูใบไม้ร่วงมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอีกด้วย เทศกาลเซลติกที่มีชื่อเสียงระดับโลกและเทศกาลฤดูใบไม้ร่วง Okanagan เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าตื่นเต้นที่ควรต้องไป แคนาดา ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับขนบธรรมเนียมและชื่นชมวัฒนธรรมของแคนาดาอย่างแท้จริง

สกอตแลนด์

ถ้าคุณมีโอกาสและวันว่างที่จะเดินทางไปสกอตแลนด์ได้ในเดือนตุลาคมแล้วละก็ให้จองตั๋ว จองที่พักแล้วเตรียมเดินทางไปได้เลย เพราะที่นี่ช่วงเดือนตุลาคมเป็นช่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสีจะสวยงามที่สุด ที่สำคัญคุณยังจะได้เห็นสัตว์ต่างๆ เช่น กวางแดง ห่านเพรียง หงส์ และอื่นๆ อีกมากมายที่ออกมาในช่วงเวลานี้ สถานที่ยอดนิยม เช่น ทะเลสาบโลมอนด์ (Loch Lomond) เกาะสกาย (The Isle of Skye) เกาะที่ใหญ่เป็นอันดับสองของสกอตแลนด์ เป็นที่เที่ยวยอดนิยมของสกอตแลนด์ และเกาะที่สวยงามอยู่ในลิสต์สถานที่ที่ต้องไปของนักท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติแคร์นกอร์มส์ (Cairngorms National Park) และเอดินบะระ (Edinburgh) เมืองหลวงของสกอตแลนด์ที่มีอายุเป็นพันปี นอกจากนี้การเก็บเกี่ยว ในฤดูใบไม้ร่วงถือเป็นเรื่องใหญ่ในสกอตแลนด์ โดยมีแยมและของหวานรสชาติดีที่สุด รวมถึงหอยนางรมและหอยที่อร่อยที่สุดในเดือนตุลาคม

ฝรั่งเศส

ฤดูใบไม้ร่วงเป็นฤดูที่ดีที่สุดสำหรับการท่องเที่ยวในฝรั่งเศส! เนื่องจากเป็นช่วงนอกฤดูกาล นักท่องเที่ยวจึงสามารถใช้ประโยชน์จากส่วนลดและเพลิดเพลินกับสถานที่และกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างเต็มที่ สถานที่ที่ดีที่สุดในการเดินทางในฝรั่งเศสในช่วงวันหยุดฤดูใบไม้ร่วง คือเมืองที่มีชื่อเสียงอย่างปารีส (Paris) และบอร์โดซ์ (Bordeaux) และไม่ควรพลาดหุบเขาลัวร์ (Loire Valley)

รวมไปถึงการทำกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น การขี่จักรยาน การเดินป่า และการเที่ยวชมสถานที่เทศกาลเก็บเกี่ยวก็เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเพลิดเพลินกับบรรยากาศช่วงนี้ นอกจากนี้ หุบเขาลัวร์ยังเป็นแหล่งมรดกโลกที่ขึ้นชื่อในเรื่องโรงบ่มไวน์ ที่ดึงดูดผู้มาเยี่ยมชมและทำให้เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการดื่มด่ำกับความงดงามของฤดูใบไม้ร่วง

กรีซ

กรีซ หนึ่งในประเทศที่สวยที่สุดในโลก เป็นจุดหมายปลายทางในฝันสำหรับคู่ฮันนีมูนที่มองหาความสงบ ความสวยงาม และการผจญภัย ด้วยสีสันของฤดูใบไม้ร่วงที่สวยงาม ชายหาดที่สวยงาม และสภาพอากาศที่น่ารื่นรมย์ ฤดูใบไม้ร่วงจึงเป็นเวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชมกรีซ แม้ว่าอารามโบราณ ของเมทิโอรา (Meteora) ยามฤดูกาลนี้เพิ่มความน่าดึงดูดใจขึ้นอีกหลายเท่าตัว ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในการไปเยือนกรีซในฤดูใบไม้ร่วง

นอกจากนี้ การเก็บเกี่ยวองุ่นยังทำให้นักท่องเที่ยวได้ลิ้มลองรสชาติไวน์ที่หลากหลาย ในขณะที่สภาพอากาศที่น่ารื่นรมย์และเส้นทางเดินป่าที่สวยงามหลายไมล์ก็มีตัวเลือกการเดินป่ามากมาย สิ่งที่สำคัญที่สุดคือสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมปลอดจากฝูงชนในช่วงฤดูร้อน ช่วยให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินอย่างเต็มที่

เยอรมัน

เยอรมนีตอนใต้เต็มไปด้วยป่าอัลไพน์ที่เต็มไปด้วยสีสันตัดกับภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ เมืองหลักอย่างเมืองมิวนิก (Munich) ช่วงนี้อากาศจะเย็นสบาย หรือจะเลือกเดินทางไปตามถนนสายโรแมนติกระยะทาง 360 กม. โดยเริ่มจากภูมิภาคไวน์ฟรานโกเนีย ซึ่งเป็นที่ที่เทศกาลไวน์ท้องถิ่นจัดขึ้นตามปฏิทินฤดูใบไม้ร่วง และมุ่งหน้าไปทางใต้ผ่านเมืองเก่าแก่หลายศตวรรษ เช่น โรเธนเบิร์ก ออบ เดียร์ เทาเบอร์ (Rothenburg ob der Tauber) และดิงเคลสบุห์ล (Dinkelsbuehl) ในยุคกลาง

ปราสาท นอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein Castle) ปราสาทเทพนิยายบนเทือกเขาแอลป์ ซึ่งเป็นต้นแบบของปราสาทของเจ้าหญิงในโลโก้ค่ายดิสนีย์ ช่วงนี้ตัวปราสาทจะล้อมรอบด้วยใบไม้เปลี่ยนสี สวยงามมากไม่ควรพลาด หรือจะไปเที่ยวชมวิวที่ สวนสปรีวาล์ด (Spreewald) พื้นที่กรีนโซน ตั้งอยู่ในเมืองเบอร์ลิน จากนั้นไปสัมผัสธรรมชาติในอุทยานธรรมชาติ Lüneburg Heath Nature Park ตั้งอยู่ทางภาคเหนือของเยอรมนี ตามด้วยเมืองเดรสเดิน (Dresden) ทางตะวันออกของเยอรมนี

Share This Post:Share on Facebook0Share on Google+0Tweet about this on TwitterShare on LinkedIn0