ล่องแม่น้ำไนล์…สายน้ำแห่งอารยธรรม (ตอน2)
Story & Photo by Kanjana Hongtong
สามารถอ่านตอน 1 ได้ที่ http://www.vacationistmag.com/nile1/
ตามรอยศรัทธาที่ “คาร์นัค”
เมื่อเรือล่องไนล์มาจนถึงเมืองลักซอร์ โบราณสถานแห่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดาอย่างยื่งคือมหาวิหารคาร์นัค ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพอะมอนรา ซึ่งเป็นเทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่แห่งเมืองธีบส์ ที่นี่เป็นวิหารใหญ่ที่สุดในอียิปต์ มีทั้งห้องบูชาเทพ ห้องบูชาเรือศักดิ์สิทธิของเทพ วิหารของเทพต่างๆ รูปสลักของฟาโรห์รามเสสที่ 2 หอคอยและเสาสลัก และเสาหินโอเบลิสก์ ทั้งหมดถูกสร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพแห่งธีบัน เรียกว่า ถ้ามองกันในเรื่องของความยิ่งใหญ่ คาร์นัคถือเป็นวิหารที่มีความสมบูรณ์แบบมากที่สุดแห่งหนึ่งของอียิปต์
วิหารคาร์นัคใหญ่มาก ขนาดที่ว่าต้องฝ่ากำแพงเข้าไปครบทั้ง 9 ชั้นแล้ว ระหว่างทางยังมีรายละเอียดให้ตื่นตาตื่นใจตลอดทาง แต่อะไรไม่น่ามองเท่าเสา 134 ต้น ที่ทุกตารางนิ้วของเสาถูกแกะสลักเป็นรูปภาพร่องลึกลงสี และอักษรเฮียโรกลีฟิก มีทั้งภาพสงคราม วิถีชีวิตผู้คน และเรื่องราวของฟาโรห์
แต่ที่เป็นเสานางเอกประจำคาร์นัค คือเสาโอเบลิสก์ สำหรับชาวอียิปต์โบราณ ถ้าได้สร้างโอเบลิสก์ ก็เหมือนชีวิตรุ่งเรืองรุ่งโรจน์ และได้พบกับแสงสว่าง
อีกมุมหนึ่งที่ไม่เคยว่างเว้นจากผู้คน คงเป็นรูปสลักของฟาโรห์รามเสสที่ 2 ในท่ายืนมือประสานไว้ที่อกใส่หมวกทรงสูง อย่างที่รู้กันว่าฟาโรห์รามเสสที่ 2 เป็น “นักรบ” ที่เก่งกล้า เป็น “นักปกครอง” ที่มีความสามารถ และเป็น “นักสร้าง” ตัวยง จึงมีวิหารและสิ่งก่อสร้างถูกสร้างขึ้นในสมัยนี้มากมาย
สำหรับชาวอียิปต์โบราณ ฟาโรห์รามเสสที่ 2 จึงเป็นคล้ายยอดมนุษย์เลยทีเดียว ไม่ว่าจะไปอยู่ตรงไหนของอียิตป์ รามเสสที่ 2 จะไปยืนทักทายเราแทบทุกที่
แต่ถ้าเจอฟาโรห์รามเสสที่ 2 ในท่ายืน ลองสังเกตุให้ดี จะเห็นว่าเท้าซ้ายจะอยู่ข้างหน้าเท้าขวา นั่นเพราะชาวอียิปต์โบราณถือว่า ซ้ายหมายถึงชีวิต ขวาหมายถึงความตาย
ในความใหญ่โตมโหราฬของวิหารแห่งนี้ ยังเต็มไปด้วยซากปรักหักพัง หากแต่เป็นซากหินเก่าที่สวยงาม และทำให้ทุกคนได้สัมผัสได้ถึงร่องรอยอารยธรรมของอียิปต์โบราณ
แสงสีที่ “วิหารลักซอร์”
แดดจางไปแล้ว ทว่าในความสลัวลางวิหารลักซอร์ยังคงงดงามตราตรึง แม้ยิ่งใหญ่ไม่เท่าวิหารคาร์นัค แต่งดงามและสมบูรณ์จนไม่อาจมองข้ามไปได้
วิหารลักซอร์เล็กกว่าวิหารคาร์นัค แต่ทั้ง 2 แห่งถูกสร้างขึ้นเพื่อพิธีบูชาเทพอามอนรา ซึ่งเป็น 1 ใน 3 เทพเจ้าของชาวเมืองธีบส์ รวมถึงเทพมัตและเทพคอน ซึ่งเป็นเมียและลูกของเทพอามอนรา
แต่ที่น่าทึ่งคือ ซากของทั้ง 2 วิหารได้บอกเล่าถึงความเก่งกาจและฉลาดหลักแหลมของชาวอียิปต์โบราณ ที่สร้างวิหารขนาดใหญ่โดยที่นำหินก้อนใหญ่มาก่อซ้อนกันจนสูงลิ่วโดยไม่มีลิ่มสลัก แบบเดียวกับที่ใช้สร้างปิระมิด
มากกว่าความลึกลับเข้มขลัง มันคือความงดงามของวิหาร ตั้งแต่ย่างสามขุมเข้าประตูสู่วิหาร ก็เจอรูปสลักฟาโรห์รามเสสที่ 2 นั่งเฝ้าอยู่ทั้งสองข้าง แฉลบไปฝั่งที่ชิดกำแพงวิหาร ก็เจอรูปสลักฟาโรห์รามเสสที่ 2 ยืนอยู่อย่างสง่างาม
และที่ขาดไม่ได้อีกเช่นกันคือ เสาโอเบลิสก์ที่ตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยว แท้จริงแล้วในสมัยโบราณเคยมีเสาโอเบลิสก์ตั้งอยู่ 2 ต้นเคียงกัน
ถึงจะเล็กกว่าคาร์นัค แต่วิหารนี้ก็มีห้องหับเยอะเช่นกัน มีทั้งห้องบูชาเทพอะมอนรา และห้องบูชาซึ่งอยู่ด้านในสุด รายรอบบริเวณวิหารถูกประดับด้วยเสาคู่เรียงรายรอบ และใกล้ๆ กันเป็นมัสยิด ที่ตั้งโดดเด่นเกยอยู่กับวิหารแบบชนิดหายใจรดต้นคอ
ล่องแม่น้ำไนล์ด้วยเรือสำราญคือความเพลิดเพลินเจริญใจ หากแต่แก่นแท้ของการเดินทางครั้งนี้คือการได้สัมผัสอู่อารยธรรมอันเก่าแก่ของโลกอย่างอียิปต์
สายการบินอียิปต์แอร์ บินตรงจากกรุงเทพไปไคโรทุกวัน คลิกไปดูที่ www.egyptair.com
0
0
0