มงแซ็งมีแชล Mont Saint Michel

จะเรียกมงแซ็งมีแชลว่าเป็นปราสาทก็พูดได้ไม่เต็มปากนัก เพราะมงแซ็งมีแชลนั้นเป็นวิหาร ถ้าใครจำเจ้าหญิงราพันเซลจากเรื่อง Tangled ที่มีปราสาทอยู่เหนือเมืองที่ล้อมรอบไปด้วยน้ำก็จะคุ้นๆ เพราะปราสาทในนิทานเรื่องนั้นก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจากที่นี่นั่นเอง ความนิยมของมงแซ็งมีแชลนั้นวิ่งเข้ามาเป็นอันดับที่ 3 ของสถานที่ท่องเที่ยวต้องมาของฝรั่งเศสรองจากหอไอเฟล (Eiffel) และพระราชวังแวร์ซายส์ (Versailles Palace)

ในแต่ละปีมีคนแวะเวียนมาเยี่ยมมงแซ็งมีแชลมากถึงปีละ 3 ล้านคนกันทีเดียว ตัววิหารตั้งอยู่บนเกาะหินแกรนิตที่มีเส้นรอบวงเกาะประมาณ 960 เมตร และสูง 92 เมตร แล้วถ้าบวกกับความสูงของตัววิหารนั้นแล้วก็จะมีความสูงถึง 155 เมตร เกาะแห่งนี้อยู่ทางฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือ บริเวณปากแม่น้ำคูสน้อง (Couesnon) ใกล้กับเมืองอาวรองช์ (Avranches) จังหวัดม็องช์ (Manche) แคว้นนอร์มังดี (Normandy) ของประเทศฝรั่งเศส เกาะห่างจากตัวฝั่ง ประมาณ 600 เมตร

ตามตำนานเล่ากันว่าอัครทูตสวรรค์มิคาเอล (Michael) ได้มาเข้าฝันนักบุญโอแบรต์ (Saint Aubert) บิชอปของเมืองอาวรองช์ ให้สร้างวิหารนี้บนเกาะหิน แต่บิชอปเข้าใจว่าเป็นปิศาจมาเข้าฝัน จนครั้งที่ 3 เทวทูตได้ใช้นิ้วชี้เผาตรงหน้าผากบิชอป บิชอปตื่นมาเห็นมีร่องรอยจริงจึงรีบสร้างวิหารนี้ขึ้น ในช่วงปีค.ศ. 1251 ต่อมาในราวคริสต์ศตวรรษ ที่ 6 และ 7 ที่นี่ถูกใช้เป็นฐานที่มั่นของชาว Gallo-Roman ก่อนที่จะถูกตีแตกพ่ายไปและเข้ายึดครองโดยชาวแฟรงก์ส (Franks) และเรียกเกาะแห่งนี้ว่า มงตงบ์ (Mont Tombe) ในปี ค.ศ. 1966 เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการครบรอบ 1,000 ปี ของการก่อตั้งวิหาร คณะสงฆ์และเหล่าผู้แสวงบุญเริ่มกลับมาเยือนที่นี่อีกครั้ง ในช่วงการปฏิวัติฝรั่งเศสในฐานะเป็นสถานที่แห่งการคุมขังนักโทษทางการเมืองอีกด้วย แต่ต่อมาไม่นาน วิกเตอร์ อูโก ได้ยกเลิกการนำวิหารเป็นสถานที่คุมขังและบูรณะซ่อมแซม จนถึงปี 1979 องค์การยูเนสโก (UNESCO) ได้ ขึ้นทะเบียนให้ที่นี่เป็นมรดกโลกทั้งทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม และความสวยงามตามธรรมชาติ

ในอดีตเกาะนี้จะสามารถเข้าถึงได้เมื่อน้ำลดลงเท่านั้น ปัจจุบันมีการสร้างสะพานไปถึงวิหารโดยนักท่องเที่ยวสามารถจอดรถบนฝั่งแล้ว นั่งรถรับส่งที่ให้บริการฟรีไปจากจุดจอดรถที่ต่อไปยังเกาะได้ตรงนี้ใช้เวลาประมาณ 12 นาที อันดับแรกสำหรับการเตรียมตัวมาที่นี่คือรองเท้า เพราะมงแซ็งมีแชลเป็นเกาะที่มีเส้นทางเดินทางวนขึ้นไปเรื่อยๆ เป็นทางเดินหิน ดังนั้นควรเตรียมรองเท้าที่ใส่สบายมาเป็นดีที่สุด วิหารเปิดให้เข้าชมเดือนพฤษภาคม เวลา 09.00-18.00 น.เดือนกันยายน-เมษายน เวลา 09.30-17.00 น. โดยเสียค่าเข้าชมท่านละ 10 ยูโร ในบริเวณวิหารมีร้านอาหารท้องถิ่น ร้านขายของที่ระลึกหลายร้านทีเดียว สิ่งที่โดดเด่นนอกจากสถาปัตยกรรมที่มีการออกแบบผสมผสานระหว่างรูปแบบกอทิกและโรมาเนสก์แล้ว ประติมากรรมรูปปั้นทูตสวรรค์มิคาเอลที่สร้างโดยประติมากรรมเลื่องชื่ออย่าง เอมานูแอล เฟรมีเยต์ (Emmanuel Frémiet) บนยอดวิหาร

ความสวยงามและทรงคุณค่าทั้งหมดจึงทำให้วิหารมงแซ็ง มีแชล (Mont-Saint-Michel) ได้ถูกจัดเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และสถาปัตยกรรมโดยองค์การยูเนสโกด้วยเช่นกัน กิจกรรมที่ผมอยากแนะนำคือ การขี่ม้าตอนที่น้ำทะเลลดก็ได้บรรยากาศที่แปลกดี และอีกอย่างคือการเข้าพักโรงแรมภายในวิหารเลย มี 2 โรงแรม ชื่อ Les Terrasses Poulard คืนละประมาณ 9,000 บาท กับอีกโรงแรม ชื่อ Le Mouton Blanc คืนละประมาณ 6,000-7,000 บาท จองล่วงหน้าหน่อยก็ดี คุณจะได้สัมผัสบรรยากาศวิหารช่วงกลางคืนสวยมากขอบอก

การเดินทาง
นั่งรถไฟความเร็วสูง (TGV) มาลงที่สถานีแรนส์ (rennes) หรือ ดอลเดอ เบอตราญ (dol de bretagne) ประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆ แล้วต่อรถโดยสารประจำทางบริการที่ริมหาดแบบไม่เสียค่าใช้จ่าย

Share This Post:Share on Facebook0Share on Google+0Tweet about this on TwitterShare on LinkedIn0