ยามากะ (Yamaga) สายน้ำ โคมไฟและที่สุดของออนเซนธรรมชาติ

Story & Photo by Orawan

คุณเคยได้ยินชื่อเมืองยามากะหรือไม่ หลายคนอาจจะได้ไม่คุ้นหูเท่ากับเมืองโตเกียว (Tokyo) เกียวโต (Kyoto) หรือ ฮอกไกโด (Hokkaido) แต่ถ้าจะให้เริ่มต้นจากเมืองคุมาโมโตะ (Kumamoto) คุณพอจะคุ้นๆบ้างแล้วใช่ไหม เมื่อช่่วงเดือนก่อนที่ผ่านมาฉันมีโอกาสได้เดินทางไปกับโครงการคืนรอยยิ้มให้เพื่อน หรือ Keep Smiling Kumomoto Project ซึ่งเป็นโครงการแลกเปลี่นวัฒนธรรมและโปรโมทการท่องเที่ยวภายหลังจากภูมิภาคคิวชุได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวโดยบริษัท เน็กซ์ เวิลด์ จำกัดซึ่งเป็นบริษัททัวร์บริษัทแรกที่เปิดให้คุณได้สัมผัสเส้นทางแห่งวัฒนธรรมและธรรมชาติของเมืองยามากะแห่งนี้

เมืองยามากะนั้นอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองคุมาโมโตะ ใช้เวลาเพียง 45 นาทีถึง 1 ชั่วโมงเท่านั้น มีประเพณีที่สำคัญอย่าง”เทศกาลโคมไฟยามากะ” (Yamaga Toro Festival) เป็นหนึ่งในประเพณีในฤดูร้อนที่ยิ่งใหญ่งานหนึ่ง จะจัดขึ้นเป็นประจำประมาณวันที่ 15-16 สิงหาคมของทุกปี โดยภายในงานจะมี “เซ็นนินโทโรโอโดริ” คือผู้หญิงที่ใส่ชุดยูกาตะประดับผมด้วยโคมไฟกระดาษสีทองอร่ามแล้วร่ายรำให้เข้ากับจังหวะเพลง “โยเฮโฮะฟุชิ” ด้วยโคมไฟที่ส่องสว่างจำนวนมากมายทำให้ค่ำคืนของเมืองดูสวยงามดังโลกแห่งจินตนาการ

โทโรหรือโคมไฟเมืองยามากะนี้ เปรียบเสมือนสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของเมือง ดังจะเห็นได้ว่า ในแต่ละจุดของเมืองจะมีการประดับโคมไฟดังกล่าวไว้ตามจุดต่างๆ

โคมไฟนี้เป็นศิลปะพื้นบ้านที่ถูกทำขึ้นจากกระดาษสาญี่ปุ่นโบราณและกาวเพียงเท่านั้น แต่ความละเอียดอ่อนของการทำเป็นสิ่งที่น่าทึ่งและน่าชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง

คุณสามารถศึกษาเรื่องราวของโคมไฟหล่านี้ตั้งแต่ประวัติศาสตร์ เรื่องราว วิธีการทำได้ที่ “พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านยามากะโทโรมินเกคัง (Yamaga Toro Mingeikan)”

นอกจากจะมีประวัติที่น่าสนใจ ยังมีกิจกรรมให้ลองทำโคมไฟ หรือลองเป็นสาวงามเมืองยามากะ ก็ทำได้

หรือที่บริเวณ “ศาลเจ้าโอมิยะ” (Omiya) ศาลเจ้าเก่าแก่ประจำเมืองยามากะ

ที่นี่ก็มีพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อมแสดงโคมไฟเช่นกัน โดยที่ศาลเจ้าแห่งนี้คือบริเวณจัดงานเทศกาลโคมไฟยามากะนั่นเอง

หากคุณได้มาเมืองยามากะแล้วสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าไปเยี่ยมชมได้แก่ “ถนนบุเซ็นไกโด (Buzenkaido Road)” เดิมถนนสายนี้เคยเป็นเส้นทางการคมนามขนส่งสินค้า อย่างเช่นข้าวที่มีคุณภาพสูงจากเมืองยากามะสู่ทางภาคเหนือและใต้ของเกาะคิวชู

ปัจจุบันแม้จะถูกปรับเปลี่ยนเป็นร้านค้าขายสินค้าของที่ระลึก สินค้าพื้นบ้าน โรงงานสาเก (สังเกตมีสาเกที่มีโลโก้หมีคุมะมง มาสคอตประจำพื้นที่ของคุมาโมโต้ด้วย)

ตลอดจนร้านขนม กาแฟหรือร้านอาหารไปแล้วก็ตาม

กระนั้นแล้วถนนสายวัฒนธรรมแห่งนี้ก็ยังคงกลิ่นอายของอดีตอยู่ สังเกตได้จากอาคารบ้านเรือนที่ยังถูกอนุรักษ์ไว้ให้อยู่สภาพเดิมตั้งแต่สมัยเอโดะ

ประกอบกับที่เป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวยังไม่รู้จักมากนัก ทำให้เดินไปทางไหนก็ดูปลอดโปร่งไปเสียหมด

ยิ่งได้มาเดินทางเดินเท้าที่ปูด้วยหินเข้าให้แล้ว ยิ่งรู้สึกเหมือนตัวเองย้อนไปสู่อดีตเลยทีเดียว

ในบริเวณของถนนบุเซ็นไกโดนั้นจะมีโรงละครขนาดย่อมอยู่แห่งหนึ่งนั่นก็คือ

โรงละคร “ยาจิโยซะ (Yachiyoza)” โรงละครแห่งนี้อายุกว่า 100 ปี เป็นโรงละครย้อนยุคที่เหล่าพ่อค้าจากเมืองยามากะ ช่วยกันเก็บเงินเก็บทองสร้างงขึ้นมาตั้งแต่สมัยปี ค.ศ. 1910 หลังจากช่วง ปลายปี 70 เป็นช่วงที่กระแสของเครื่องรับโทรทัศน์เข้ามา ทำให้การดูละครในโรงละครเสื่อมความนิยมลงไป และโรงละครต้องปิดตัวลง แต่ต่อมาชาวบ้านในเมืองยามากะจึงร่วมใจกันบูรณะโรงละครแห่งนี้ขึ้นมาใหม่อีกครั้ง และเสร็จสิ้นในปี ค.ศ.1987 และในอีกสามปีต่อมาโรงละครแห่งนี้ก็เริ่มกลับมาโลดแแล่นมีชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง ในโรงละครจะมีการจัดแสดงการชมระบำโทโร (Tourou)  การร่ายรำที่ขึ้นชื่อจากเทศกาลระบําโคมไฟโทโรนั่นเอง

ภายในแบ่งที่นั่งเป็นส่วนๆ ด้านล่างบริเวณเสื่อตาตามิเป็นล็อคล็อคหนึ่งนั่งได้ 4 คน จัดวางหันหน้าเข้าหน้าเวทีใหญ่แล้ว รอบข้างก็จัดเป็นที่นั่งเหลื่อมกันขึ้นไป เป็นการจัดที่นั่งไม่ให้มีการบดบังทัศนียภาพในการชมของกันและกัน

เงยหน้าดูด้านบนเพดานเป็นภาพวาดสปอนเซอร์ทั้งของสภาหอการค้าและนักธุรกิจชาวเมืองยามากะที่ให้สนับสนุนสร้างโรงละครแห่งนี้  ดูยิ่งใหญ่สมกับเป็นโรงละครเก่าแก่ของเมือง

อีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจสำหรับเมืองยามากะ คือ แหล่งน้ำแร่ออนเซ็น ที่มีสายน้ำแร่ไหลผ่านทั่วเมือง ดังนั้นบ้านแทบทุกหลังมีน้ำแร่อาบกันให้ผิวพรรณสวยผ่องใสกันถ้วนหน้า สำหรับนักท่องเที่ยวหากต้องการอาบน้ำแร่คุณภาพเยี่ยมล่ะก็ ขอแนะนำที่โรงอาบน้ำแร่โบราณซากุระยู (Sakura-yu) ที่มีอายุเก่าแก่กว่า 370 ปี ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวย่านท่องเที่ยวหลักของเมืองเท่าไหร่นักในสมัยโบราณใช้เป็นสถานที่อาบน้ำรวมของชาวเมืองยามากะ ปัจจุบันถือเป็นโรงอาบน้ำขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งที่สร้างมาจากไม้ทั้งหมดของญี่ปุ่น ค่าบริการไม่แพงมากนักผู้ใหญ่คนละ 300 เยนเท่านั้น

นอกจากนี้บางจุดของเมืองก็จะมีบริการให้แช่น้ำแร่กันฟรี อย่างเช่นบริเวณใกล้ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวมีจุดบริการน้ำแช่ให้แช่เท้าเพื่อผ่อนคลาย

หลายคนอาจคิดว่าเมืองยามากะ ไม่น่าสนใจ เป็นแค่เมืองผ่านแต่ฉันอยากจะแนะนำว่า หากคุณได้ไปสัมผัสเมืองยามากะสักครั้งคุณจะติดใจ

สามารถสอบถามเส้นทางท่องเที่ยวเมืองยามากะได้ผ่านบริษัททัวร์คุณภาพอย่างเช่น

บริษัท เน็กซ์ เวิลด์ จำกัด  โทรศัพท์ 02 592 4475 -7  หรือสนใจเส้นทางท่องเที่ยวอื่นๆ คลิกไปดูรายละเอียดได้ที่ http://www.nexworldclub.com/

Share This Post:Share on Facebook0Share on Google+0Tweet about this on TwitterShare on LinkedIn0