ไหว้พระ เดินเล่นริมน้ำ เมืองตราด

เรื่องและภาพโดยทีมงาน Vacationist

ตราด เมืองสุดเขตแดนฝั่งตะวันออก จากกรุงเทพฯ ขับรถระยะทางประมาณ 300 กว่ากิโลเมตรเป็นอีกจังหวัดที่ผู้คนอยากเดินทางไปท่องเที่ยวเพราะเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติทะเลที่สวยงาม อาหารทะเล ผลไม้หลากหลายมากมายครั้งนี้เราจะพาไปเดินเล่นริมน้ำที่ชุมชนบางพระและไหว้พระ ในตัวเมืองตราดกัน

เคยไปเที่ยวจังหวัดตราดมาหลายครั้ง แต่หลักๆ คือข้ามไปเที่ยวตามเกาะต่างๆ เลย ไม่เคยแวะเที่ยวที่ตัวเมืองตราด ครั้งนี้ขอแวะเที่ยวตัวเมืองสักหน่อย ก่อนจะข้ามไปเที่ยวเกาะต่างๆ กันอย่างเคย

เดินเล่นริมน้ำที่ชุมชนรักษ์คลองบางพระหรือชุมชนคลองบางพระ

ที่นักท่องเที่ยวขนานนามว่าเป็นเชียงคานแห่งดินแดนตะวันออก เคยได้รับรางวัลชุมชนดีเด่นด้านการท่องเที่ยวปี 2550 เป็นชุมชนเก่าแก่ในอดีต ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองตราด

ในสมัยรัชกาลที่ 1 (พ.ศ. 2345) มีผู้คนทั้งคนไทยและจีนเข้ามาตั้งถิ่นฐาน ที่ชุมชนคลองบางพระแห่งนี้ อดีตเป็นแหล่งพบปะแลกเปลี่ยนเพื่อซื้อขายสินค้า เป็นเส้นทางคมนาคมหลักของชาวบ้านล่องเรือมาทางปากแม่น้ำเพื่อนำมะพร้าวจากสวนมาส่งที่บ้านบางพระ พ่อค้าชาวจีนจะล่องเรือสำเภานำสินค้าอย่างเสื้อผ้า เครื่องถ้วยกระเบื้องมา ปัจจุบันริมคลองบางพระยังมีเรือนแถวไม้เก่าแก่เหลืออยู่ ทำให้ยังคงเห็นร่องรอยความรุ่งเรืองของเมืองตราดในอดีต

ศาลาท่าหลวง ท่าเสด็จ

ร.5 ยามที่รัชกาล ที่ 5 เสด็จฯ มาเมืองตราดพระองค์จะเสด็จฯมาขึ้นที่ท่าแห่งนี้ อดีตท่าน้ำแห่งนี้เป็นย่านการค้าที่สำคัญ ปัจจุบันมีทางเดินเล็กๆ ให้เดินเล่น และเป็นสถานที่พักผ่อนของชาวบ้านแถบนี้

เราจะเห็นสภาพบ้านเรือนเก่าแก่ทั้งที่ยังมีผู้คนอาศัยอยู่และบางหลังทรุดโทรมไปตามกาลเวลา ริมคลองมีเก้าอี้ให้นั่งเล่นชมวิวบริเวณชุมชนยังมีสตรีตอาร์ตเก๋ๆ ให้ถ่ายรูปเพลินๆ เดินไม่มีเบื่อกับอาคารบ้านเรือนเก่า

บางส่วนปรับเปลี่ยนเป็นร้านอาหาร ที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาพักในเมืองก่อนไปเที่ยวทะเลตามเกาะต่างๆ ในราคาที่ไม่แพง หรือจะเดินเลยไปตลาดหาของกิน บรรยากาศแบบชาวบ้านๆ

สามารถเดินทะลุเชื่อมถึงกันได้ไม่ไกล ปั่นจักรยานก็ยิ่งชิล บรรยากาศของเมืองตราดยังคงมีเสน่ห์ให้มาสัมผัสที่ชุมชนรักษ์คลองบางพระ

วัดบุปผาราม (วัดปลายคลอง) วัดบุปผาราม เป็นวัดเก่าแก่ที่สุดของ จ.ตราด สร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ในยุคของพระเจ้าปราสาททอง เป็นวัดที่สวยงามเป็นระเบียบ ร่มรื่น ภายในวัดจะมีกลุ่มโบราณสถานที่น่าสนใจมากมาย

เช่นพระอุโบสถ สร้างแบบก่ออิฐถือปูน ด้านในมีจิตรกรรมฝาผนังศิลปะสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ลายพระพุทธเจ้า ปางแสดงธรรม ลายดอกพุดตาน เพดานเป็นรูปดาว มีลายกลีบบัวซ้อนอยู่ภายใน มีพระประธานคือ “หลวงพ่อโต” เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย

สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยอยุธยาวิหารพระพุทธไสยาสน์ ภายในประดิษฐานพระปางไสยาสน์ ผนังมีจิตรกรรมฝาผนังเน้นลายดอกไม้ และสัตว์ต่างๆ ผสมศิลปะแบบจีน ปัจจุบันหลุดลอกไปตามกาลเวลา

ในวัดยังมีพิพิธภัณฑ์รวบรวมโบราณวัตถุอันทรงคุณค่าไว้มากมายพระบรมสารีริกธาตุ รวมทั้งเครื่องถ้วยจีน เครื่องถ้วยยุโรป กลองมโหรทึก (ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูป)

ความหมายของชื่อวัดบุปผาราม หมายถึงสวนดอกไม้ หรืออารามแห่งดอกไม้ หากมีโอกาสมาเมืองตราดแนะนำมาไหว้พระเสริมบุญ และยังได้ชมภาพจิตรกรรมฝาผนังโบราณหาดูยากอีกด้วย วัดตั้งอยู่ที่ ตำบลวังกระแจะ อำเภอเมือง

วัดโยธานิมิต (วัดโบสถ์) เป็นวัดสำคัญและเป็นวัดหลวงเพียงแห่งเดียวในจังหวัดตราด สร้างขึ้นเมื่อครั้งสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงรวบรวมไพร่พลที่เมืองตราด เพื่อกอบกู้อิสรภาพของกรุงศรีอยุธยา แต่สร้างแล้วเสร็จในสมัยรัชกาลที่ 3

เคยเป็นสถานที่ถือน้ำพิพัฒน์สัตยามาจนถึงในสมัยรัชกาลที่ 3 สิ่งสำคัญภายในวัด คือ วิหารโยธานิมิตหรือพระอุโบสถเก่าที่มีจิตรกรรมฝาผนังเล่าเรื่องพระเวสสันดรชาดก

ปัจจุบันเป็นสถานที่เก็บโบราณวัตถุ นอกจากนี้ยังมีพระเจดีย์ สวนไทร และอุทยานการศึกษา ภายในวัดโยธานิมิตแห่งนี้ ยังมีอนุสาวรีย์ที่เป็นพระบรมรูปพระเจ้าตากทรงม้า วัดตั้งอยู่ที่ถนนเทศบาล 4 อำเภอเมือง ตรงสามแยกใกล้กับศาลหลักเมืองตราด

ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง

ตั้งอยู่บนถนนหลักเมือง ใกล้วัดโยธานิมิต (วัดโบสถ์) ศูนย์รวมจิตใจและเป็นสิ่งสำคัญคู่บ้านเมืองของชาวตราด ศาลหลักเมืองนี้มีลักษณะต่างจากศาลหลักเมืองอื่นๆ คือ ตัวอาคารก่อสร้างในลักษณะเป็นเก๋งจีน ประวัติความเป็นมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าตากสินเมื่อเสด็จฯ มาทรงรวบรวมไพร่พล ทรงให้ตั้งศาลหลักเมืองแห่งนี้ขึ้นตามความเชื่อแบบจีน เพื่อเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยปกป้องคุ้มครองเมืองให้ปลอดภัย และประชาชนอยู่เย็นเป็นสุข เป็นศาลหลักเมืองอยู่คู่เมืองตราดตั้งแต่นั้นมา

ภายในศาลสิ่งสำคัญที่เห็นชัดเจนก็คือ เสาหลักเมือง และเสาศิวลึงค์ ตำนานมีเล่าขานกันมาคือ เมื่อครั้งฝรั่งเศสเข้ามายึดเมืองตราด ต้องการที่จะทำลายเสาหลักเมืองเพื่อทำลายขวัญของชาวบ้าน โดยสั่งให้ถอนเสา ห้คนไปขุดแต่ก็ถอนเสาหลักเมืองไม่ขึ้น หลังจากนั้นจึงให้ช้างมาดึงเสา แต่กลายเป็นว่าช้างตกหล่มตาย ส่วนควาญช้างคอหักตาย สั่งให้เผาศาลทิ้งปรากฏมีฟ้าฝนตกลงมาอย่างหนัก ด้วยปาฏิหาริย์ของเจ้าพ่อหลักเมืองจึงไม่สามารถถอนเสาหลักเมืองขึ้นมาได้ นายทหารฝรั่งเศสที่ควบคุมจึงสร้างเสาหลักเมืองเพิ่มขึ้นอีก 1 ต้น จึงทำให้ศาลแห่งนี้มีเสาหลักเมือง 2 ต้น

ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ได้รับการบูรณะดูแลอย่างดี มีความเป็นระเบียบสะอาดสวยงาม น่าเลื่อมใส ถึงเมืองตราดแล้วอย่าพลาดมากราบไหว้ขอพรที่ศาลหลักเมืองเอาฤกษ์เอาชัยกัน

Share This Post:Share on Facebook0Share on Google+0Tweet about this on TwitterShare on LinkedIn0