SHIO อาหารญี่ปุ่นสไตล์ เชฟแก้ว-ญาดา

SHIO อาหารญี่ปุ่นสไตล์ เชฟแก้ว-ญาดา

Story & Photo by หมูหวานชวนชิม

ผู้ที่ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นแบบมีสไตล์หมูหวานว่าต้องชอบ ร้านSHIO ซึ่งวันนี้ได้เวลาเปลี่ยนคอนเซ็ปต์ใหม่เป็น “SHIO 3.0”เชฟแก้ว-ญาดา เรืองสุขอุดม อธิบายว่าหลังจากที่เธอเรียนจบด้านอาหารจากโตเกียวประเทศญี่ปุ่นกลับเมืองไทยมาเปิดร้านสไตล์ Yoshoku ใช้ชื่อว่า ShioYoshoku Café and Restaurant เสิร์ฟอาหารสไตล์ ฝรั่ง-ญี่ปุ่น เช่นเมนู Hamburg Steak สปาเก็ตตีซอสมะเขือเทศ, ข้าวห่อไข่,วันนี้ได้เวลาเปลี่ยนเมนูใหม่เป็นครั้งที่ 3

“ตอนนั้นเรียนจบมาใหม่ๆประสบการณ์ก็ได้แค่นั้น เมนูที่เรารู้สึกโอเคก็ยังเอาไว้ พอมาเป็น 2.0 รู้สึกเราเริ่มโตขึ้นอาหารโยโชขุก็จะน้อยลง หน้าตาอาหารก็จะดูเยอะจานหนึ่งเราจะใส่อะไรลงไปเยอะๆเพราะกลัวที่จะน้อย กลัวไม่พอ พอ 3.0 เริ่มทำอาหารน้อยลง  ในหนึ่งจานทำน้อยลง รสชาติอาหารจะบริสุทธิ์มากขึ้น ไม่ค่อยได้ปรุงเหมือนตอนเราเด็กๆ จะนิ่งขึ้น คอนเซ็ปต์ของเราก็คือ ในหนึ่งจานเราจะไม่ใส่วัตถุดิบเกิน 5 อย่าง และสีไม่ควรเกิน 3 สี”

SHIOA

เมนู 3.0 วันนี้เชฟแก้วภูมิใจนำเสนอเมนู Kakuni Pocket เป็นแซนด์วิชไส้หมูตุ๋นคาคุนิ (145 บาท) เธอว่าแซนด์วิชเป็นอาหารที่หลายคนชอบและคุ้นเคย เข้าถึงได้ง่าย ทว่าเธอทำในแบบของเธอโดยนำหมูตุ๋นญี่ปุ่น มาคลุกเคล้ากับมอสซาเรลล่าชีส ประกบกันให้แน่นแล้วนำไปกริลล์กับเนยจนหอมกรุ่น เธอสนุกกับการเปลี่ยนซองของแซนด์วิชแล้วแต่จะไปเจอกระดาษที่มีสีสันสวยงาม

SHIOB

อีกเมนูแนะนำคือ กุ้งหวานเชฟนำพลาสติกแรปวางบนเขียง แล้วแกะเปลือกกุ้งหวานประมาณ 6-8 ตัว แล้วแต่ขนาดของกุ้งที่ได้มา แล้วแรปอีกที จากนั้นทุบเบาๆกุ้งหวานเชื่อมกันเป็นแผ่นมีลวดลายที่สวยงาม รับประทานกับพริกญี่ปุ่นย่าง เชฟแก้วแนะนำ Calamari Frittiเป็นปลาหมึกชุบแป้งทอด (250 บาท) ซึ่งตัวแป้งจะกรุบกรอบเป็นพิเศษ

SHIOD

“เมนูเบสิคอย่างซุป สลัด พาสต้า เราก็ยังคงไว้ เมนูที่ควรแซบเราก็แซบ อย่าง แองเจิ้ลแฮร์ ผัดพริกกระเทียมลอบส์เตอร์ (1,600 บาท)มีข้าวรีซอตโต้ ข้าวของเราจะอบกับน้ำซุปปลาแห้งมีกลิ่นของดาชิ รีซอตโต้ของเราก็จะกินกับหมูตุ๋น กินกับปลาหมัก เมนูที่ชอบมากก็คือ Cod & Cabbage (950 บาท) เป็นปลาค็อดกับกะหล่ำปลี รู้สึกดีที่ทำอาหารธรรมดากะหล่ำปลีที่คนมองข้ามทำออกมาแล้วดูสวย ดูลักชัวรี่ขึ้นมา รู้สึกว่าเราได้แสดงความสามารถ สีสวย เป็นสีเดียวแต่ไล่เฉด ซอสก็ทำจากพาสลีย์ เป็นสีเขียวเข้ม กะหล่ำสีเขียวอ่อนเห็นเรเยอร์โดยการเผาเห็นขอบดำ ข้างล่างรองด้วยมิโสะเจลลดความเลี่ยนแล้วโรยด้วยน้ำมันต้นหอมก็มีสีเขียว สรุปแล้วจานนี้ชอบมากเพราะมันตรงกับสิ่งที่เราคิด”

ลอบสเตอร์อบกับเนยสมุนไพร (1,600 บาท) ล็อบสเตอร์สดมากเนื้อแน่นหวานอบกับเนยผสมกับมัสตาร์ด และทารากอน(สมุนไพรคล้ายโหระพาแต่กลิ่นอ่อนกว่า)เสิร์ฟกับซอสโชยุ ตัดเลี่ยนด้วยขิงกับกระเทียมพริกแห้งสับรวมกัน ราดด้วยน้ำมันเปลือกกุ้งเพิ่มความรู้สึกอร่อยมากขึ้น

เป็ดปักกิ่งแบบชิโอะ (550 บาท) ให้อารมณ์ดั๊กกงฟี่ของฝรั่งเศสเสิร์ฟกับแป้งเครปหอมกรุ่น มีฮอลแลนเดซซอส ครีมกระเทียมสีขาวเหยาะน้ำมันต้นหอมสีเขียว แจมหอมแดง(ตุ๋นกับไวน์แดง) และหอมทอด

SHIOE

“ของหวานเราก็เปลี่ยนเพราะอยากจะทำทันทีเลยไม่อยากขายเค้กเป็นชิ้นแล้ว ไม่อยากทำเก็บไว้ เค้กฝอยทอง (220บาท)รู้สึกว่าฝอยทอง(ร้านป้านงค์)มันอร่อยชอบกิน บางคนไม่ชอบ ก็เลยอยากเพิ่มมูลค่าให้มัน ฝอยทองหวานไปเราก็ทำครีมให้เค็มจะได้ตัดหวาน ฝอยทองมีความสวย เราวางให้มีรูปแบบที่เราต้องการและก็มีเค้กมองบลังค์ใส่เกาลัด (270 บาท)เราเอามาทำใหม่ในหน้าตาใหม่ เชอรี่เค้ก เป็นเชอร์รี่กับช็อกโกแลต (350 บาท) เพราะเราอยากให้จบสวยๆเค้กเราไม่ได้ใส่เนย ไม่อยากให้อิ่มแน่นเกินไป”

SHIOF

นอกจากเชี่ยวชาญด้านอาหารแล้ว เชฟแก้วยังคิดสูตรค๊อกเทล ม๊อกเทล เช่น Good Time (กู๊ดเบอร์รี่+ใบไทม์) Gryffindor (ส้ม+เกรปฟรุ๊ต) Sleeping Beauty (เชอร์รี่+ดอกซากุระ+วอดก้า+Cachaca)การเดินทางของเชฟแก้ว หากใครเคยได้ชิมฝีมือเหมือนได้รู้จักกันตั้งแต่แรกๆ ปีนี้อายุ 5 ขวบแล้ว ถือว่าเติบโตมีตัวตนที่ชัดเจนขึ้น

ร้าน SHIO อยู่ที่ชั้น 9 Helix Dining ศูนย์การค้า ดิเอ็มควอเทียร์ (BTSพร้อมพงษ์)เปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 11.00-22.00 น. โทร. 02-003-6287

Share This Post:Share on Facebook0Share on Google+0Tweet about this on TwitterShare on LinkedIn0