สระบุรีเลี้ยวขวา

Story & Photo by Editorial Staff

หันไปทางไหน ใครๆ ก็พูดถึงแต่สภาวะอากาศที่ขุ่นมัวของเมืองกรุง เพื่อไม่ให้เสียเวลา วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ เก็บกระเป๋า เดินทางไปเที่ยวจังหวัดใกล้กรุงที่มีแหล่งท่องเที่ยว ตั้งแต่สวนดอกไม้ฟาร์มเกษตรอินทรีย์ คาเฟ่ ถ้ำ น้ำตก กันดีกว่าและจังหวัดที่ว่าก็ไม่ใช่ที่ไหนนอกจากสระบุรีขอบอกว่าไม่ได้มีดีแค่กะหรี่ปั๊บเท่านั้น

มีความเชื่อกันว่า “ถ้าใครได้เดินทางมาสักการะรอยพระพุทธบาทนี้ครบ 7 ครั้งอานิสงส์ผลบุญก็จะส่งให้ได้ไปสวรรค์ แม้ในชาติภพนี้ก็จะมีชีวิตที่ดี สมหวังทุกประการ” ได้ยินแบบนี้จึงไม่น่าแปลกใจถ้าแรงศรัทธาจะนำพาให้พุทธศาสนิกชนหลั่งไหลกันมาจากทั่วทุกสารทิศ เพื่อนมัสการรอยพระพุทธบาทที่วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร ที่จังหวัดสระบุรี รอยพระพุทธบาทแห่งนี้ขนาดความกว้าง 21 นิ้ว ยาว 60 นิ้ว ลึก 11 นิ้ว ที่ประทับบนแผ่นหินเหนือไหล่เขาสุวรรณบรรพต หรือเขาสัจจพันธคีรี ด้วยเป็นรอยพระบาทตามลักษณะ 108 ประการ พระเจ้าทรงธรรมผู้สร้างจึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างมณฑปชั่วคราวครอบไว้ และมีการต่อเติมกันอีกหลายสมัย จนเป็นมณฑปที่สวยงามตั้งตระหง่านบนเนินเขาเช่นทุกวันนี้ โดยมีบันไดขึ้น – ลงทางทิศเหนือและทิศตะวันตก บันไดทิศตะวันตกเป็นบันไดนาคสามสาย หมายถึง บันไดเงิน บันไดทอง และบันไดแก้ว ที่ทอดลงจากสวรรค์ แบ่งเป็น 3 ช่องทอดตัวยาวกว่า 50 ขั้น วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร นอกจากนักท่องเที่ยวจะได้กราบนมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อความเป็นสิริมงคลแล้ว ยังได้ชมโบราณสถาน และโบราณวัตถุอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์อีกด้วยนับว่าคุ้มค่าเป็นอย่างมากจากวัดพระพุทธบาทในตัวเมืองสระบุรีเราขึ้นรถมุ่งหน้าสู่ธรรมชาติ

เริ่มจากฟาร์มโคนม ไทย เดนมาร์ค หรือองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย ที่หลายคนรู้จักกันดีผ่านผลิตภัณฑ์นมยูเอชที “นมไทย-เดนมาร์ค” หรือ “นมวัวแดง” ซึ่งผลิตและจำหน่ายอยู่ที่ฟาร์มแห่งนี้ ภายในฟาร์มนอกจากจะมีกิจกรรมของฟาร์มแล้วยังเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรให้ผู้ที่สนใจและเปิดให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสวิถีชีวิตการทำฟาร์มโคนม

โดยผ่านการจัดแสดงและกิจกรรมที่ทางฟาร์มได้จัดขึ้นไม่ว่าจะเป็นการนั่งรถชมวิวทิวทัศน์และสูดอากาศบริสุทธิ์ภายในฟาร์ม การแสดงกระบวนการผลิตนม พร้อมทั้งให้ผู้ที่สนใจทดลองรีดนมวัวด้วยตัวเอง ซึ่งจะมีให้ทดลองทำที่ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติ เรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ หรือการให้นมลูกวัว ตลอดจนชมการแสดงคาวบอย และการแสดงน่ารักของเหล่าม้าแคระ

นอกจากนี้ภายในฟาร์มยังมีสัตว์อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ขนาดเล็ก สัตว์ใหญ่อย่างเช่นนกกระจอกเทศ อูฐ กวาง เป็นต้น ที่นี่เหมาะกับการมาเป็นครอบครัวอย่างยิ่ง ที่ห้ามพลาดคือการอุดหนุนผลิตภัณฑ์จากฟาร์มที่จุดจำหน่ายด้านหน้า ขอบอกว่า ไอศกรีมและโยเกิร์ตของที่นี่อร่อยมาก ราคาไม่แพงเลย

รับประทานกันอิ่มหนำสำราญแล้วเดินทางต่อไปยังน้ำตกเจ็ดสาวน้อยกันต่อเลย น้ำตกแห่งนี้ ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าโปร่ง เป็นน้ำตกขนาดเล็ก ได้ชื่อมาจากหมู่บ้านเล็กๆ ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของนํ้าตก ชื่อว่า “บ้านเสาน้อย” และเรียกชื่อต่อเป็นหมู่บ้าน“สาวน้อย” ประกอบกับได้สำรวจพบนํ้าตกเล็กๆ สูงประมาณ 2 – 5 เมตรมีทั้งหมด 7 ชั้น เลยเรียกเป็นน้ำตกเจ็ดสาวน้อย

ต้นกำเนิดมาจากลำห้วยมวกเหล็ก ซึ่งเป็นลำห้วยที่มีน้ำไหลตลอดทั้งปี ในแต่ละชั้นของน้ำตกเจ็ดสาวน้อยไม่ค่อยสูงมากนัก ลดหลั่นกันไปและมีแอ่งน้ำตื้นหลายจุดเหมาะแกก่ ารลงเล่นน้ำ ดังนั้นจึงไม่แปลที่จะมีนักท่องเที่ยวและชาวบ้านออกมาพักผ่อน สังสรรค์กับครอบครัวและเพื่อนๆ กันที่นี่มากมาย บ้างก็มาเล่นน้ำ บ้างก็มาพักผ่อน ปูเสื่อกินข้าว นักท่องเที่ยวบางคนก็มาเพื่อถ่ายภาพแนะนำให้มาวันธรรมดาเพราะคนจะไม่คึกคักและพลุกพล่านเท่ากับวันหยุด

นอกจากกะหรี่ปั๊บจะเป็นของขึ้นชื่อสำหรับจังหวัดสระบุรีแล้วเราคิดว่าองุ่นและผลิตภัณฑ์จากองุ่นก็เป็นหนึ่งสิ่งที่คุณมาสระบุรีแล้วควรซื้อ ยิ่งถ้าได้ไปเที่ยวชมไร่องุ่นแล้วยิ่งได้ฟีล ที่สระบุรีเองก็มีไร่องุ่นหลายที่ ยกตัวอย่างเช่น ไร่องุ่นคุณมาลีตั้งอยู่ที่อำเภอมวกเหล็ก บนเนินสูง ริมถนนสายมวกเหล็ก-วังม่วง

ก่อนถึงอุโมงค์ต้นไม้แสลงพัน ไร่องุ่นนี้มีพื้นที่กว่า 60 ไร่ นอกจากจะมีองุ่นรสชาติหวานกรอบ ปลอดสารพิษสดๆ จากต้นแล้ว ยังมีผลิตภัณฑ์จากองุ่นสดๆ หลากชนิด ให้นักท่องเที่ยวซื้อเป็นของฝาก ทั้งน้ำองุ่น ไวน์องุ่น แยมองุ่น ทอฟฟี่

สำหรับใครที่ติดใจบรรยากาศ ต้องการจะพักในบรรยากาศแสนสบายท่ามกลางไร่องุ่นแล้วละก็ที่นี่ก็มีบริการให้กางเต็นท์อีกด้วย

ใกล้ๆ กันนั้นมีไร่องุ่นอีกแห่งคือ ไร่องุ่นแวงเดอเรย์ (Vin De Ray) ที่นี่เป็นไร่องุ่นที่คัดสรรพันธุ์องุ่นสำหรับการผลิตไวน์โดยเฉพาะ ได้แก่ สายพันธ์ุ CabernetFranc และ Shiraz สำหรับนำไปทำไวน์ภายในแบรนด์ Vin De Ray เราจะเห็นแปลงองุ่นตั้งแต่ทางเข้าไปจนถึงเกือบสุดเนินเขา นอกจากนี้ยังมีนิทรรศการเกี่ยวกับการทำไวน์จากองุ่น มีโรงบ่มไวน์ ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถชมการสาธิตการผลิตไวน์ตลอดจนจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปจากองุ่นนอกจากนี้ ทางสวนยังมีพื้นที่สำหรับกางเต็นท์สำหรับพักค้างคืนอีกด้วย

อุโมงค์ต้นไม้แสลงพัน เป็นอีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวของสระบุรีที่เหล่านักเดินทางแวะเวียนมาทั้งกลุ่ม สายปั่นจักรยาน กลุ่ม ถ่ายรูป กลุ่มบิ๊กไบก์

ด้วยความร่มรื่นเขียวชอุ่มของต้นกระถินขนาดใหญ่สองข้างถนน ที่โน้มกิ่งก้านเข้าหากันเหนือท้องถนน เป็นกิ่งเล็ก กิ่งน้อยจากต้นแผ่ใบปกคลุมเป็นซุ้มโค้งอุโมงค์ต้นไม้สวยงามยาวกว่า 200 เมตร บนเส้นทางมวกเหล็ก-วังม่วง เส้นทางสาย 2089 แห่งนี้ ถัดไปเล็กน้อยยังมีเนินพิศวง ซึ่งหากจอดรถเข้าเกียร์ว่าง จะเกิดภาพลวงตามองเห็นรถเคลื่อนตัวจากที่ตำไปยังที่สูงเนื่องจากทางสายนี้เป็นทางคดเคี้ยวและโค้ง

การจะจอดถ่ายรูปควรจอดในที่กำหนด และชะลอจอดอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้เป็นการกีดขวางทางสัญจรของผู้อื่นและอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้

สำหรับคนที่ชื่นชอบต้นไม้ดอกไม้ อีกจุดหนึ่งที่ควรแวะเลย คือสวนบิ๊กเต้ (BigTae Garden) ด้วยพื้นที่กว่า 130 ไร่

ที่นี่เป็นแหล่งผลิตดอกเบญจมาศมากกว่า 30 สายพันธุ์ ทั้ง อัปปาเหลือง, ฮาวาย, มัมชมพู, ฮาล์ฟสไปเดอร์, ปิงปอง และอีกมากมายหลายสีสัน ขาวม่วง เหลือง ชมพู กว่าล้านดอก

จัดว่าเป็นแหล่งปลูกดอกเบญจมาศที่ใหญ่ที่สุดของอ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี เลยทีเดียว เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาถ่ายรูปสวยๆ กับสวนดอกเบญจมาศทุกวัน โดยมีค่าเข้าชม 20 บาทเท่านั้น ภายในพื้นที่ที่ทางสวนจัดให้

ที่สำคัญควรทำตามกฎของสวนอย่าเข้าไปเด็ดดอกไม้หรือเหยียบย่ำแปลงดอก แต่ถ้าคุณสนใจอยากซื้อดอกไม้กลับไป ก็สามารถซื้อได้ที่ร้านค้าด้านหน้าของสวนที่มีดอกไม้จัดจำหน่าย

ทั้งมีร้านค้าบริการอาหารเครื่องดื่มให้ได้พักผ่อนรื่นรมย์ไปกับธรรมชาติ ในวันหยุดสุดสัปดาห์ของคุณอีกด้วย