Melbourne -All things trendy เที่ยวเมลเบิร์น ออสเตรเลีย

ต้องรีบชิงบอกก่อนว่าในขณะที่ช่วงปลายปีเดือนกันยายน ถึงพฤศจิกายน ในซีกโลกตะวันตกโซนยุโรป ตลอดจนเอเซียอย่าง ญี่ปุ่น เกาหลี จีน จะเป็นช่วงของฤดูใบไม้ร่วง หรือ ใบไม้เปลี่ยนสี แต่ในโซนออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ในช่วงเดือนกันยายนเป็นช่วงเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งอากาศจะเริ่มอุ่นขึ้น แต่ยังคงมีการเปลี่ยนแปลงมากและอาจมีฝนตกบ่อย อุณหภูมิเฉลี่ยจะอยู่ในช่วงประมาณ 9°C ถึง 18°C โดยมีโอกาสที่จะมีลมแรงในบางวัน ปลายปีออสเตรเลียไม่มีใบไม้เปลี่ยนสีน่ะ

ดังนั้นหากใครที่ต้องการชมใบไม้เปลี่ยนสีในแถบออสเตรเลีย นิวซีแลนด์แล้วล่ะก็ให้ไปช่วงปลายเดือนมีนาคม ถึงเดือนพฤษภาคม จะเป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วงคือ จะมีผลัดเปลี่ยนจากฤดูร้อนไปสู่ฤดูหนาว ต้นไม้ทั้งหลายจะพากันเปลี่ยนสีใบของตัวเองให้กลายเป็นสีแดง สีส้ม สีเหลืองสลับกันสวยงามมาก ย้ำอีกครั้งหากต้องการใบไม้เปลี่ยนสีแถบออสเตรเลีย ต้องช่วงหน้าร้อนของไทย เอาง่ายๆว่า หนีร้อนไทยไปใบไม้เปลี่ยนที่ออสเตรเลีย จะถูกต้องสุด

ครั้งนี้ผมจึงเก็บภาพบรรยากาศแบบผสมผสานของสองฤดูกาลจากเมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลียมาฝาก โดยการเดินทางจากไทยเราสามารถบินไปลงที่สนามบินหลักคือ ท่าอากาศยานนานาชาติเมลเบิร์น (MEL) ใช้เวลาบินประมาณ 8-10 ชั่วโมง คุณสามารถจองตั๋วได้จากสายการบินต่างๆ เช่น การบินไทย, Jetstar, Cathay Pacific, Emirates, และสายการบินอื่นๆส่วนการเดินทางในเมลเบิร์นสะดวกด้วยบัตร Myki ที่ใช้ได้ทั้งรถไฟ รถราง และรถประจำทาง สามารถขึ้นรถราง City Circle ฟรีในใจกลางเมือง (Free Tram Zone) เพื่อเที่ยวชมสถานที่สำคัญ จากสนามบินมีรถด่วน SkyBus เข้าสู่เมือง โดยเฉพาะที่สถานี Southern Cross นอกจากนี้ ยังมีแท็กซี่และบริการรถเช่าสำหรับเดินทางออกนอกเมือง แนะนำให้นั่งรถราง ไม่เพียงแต่เป็นวิธีที่เร็วที่สุดในการเที่ยวชมเมืองเท่านั้น แต่ยังเป็นวิธีที่ประหยัดที่สุดอีกด้วย

สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ เริ่มจาก

สถานีกลางเมลเบิร์นหรือสถานีถนนฟินเดอร์ (Flinders Street Railway Station)

สถานที่โดดเด่นด้วยตัวอาคารสีเหลือง หลังคาทรงโดม และซุ้มประตูโค้งเป็น สถานีรถไฟศูนย์กลางที่มุมถนนฟินเดอร์ และถนนสแวนตันในเมืองเมลเบิร์น เรียกได้ว่าเป็นสถานีรถไฟที่คึกคักที่สุดในรัฐวิคตอเรียแห่งนี้  เป็นจุดนัดพบของชาวเมลเบิร์น เพราะมีนาฬิกาเหนือประตูทางเข้าออกหลักเป็นจุดสังเกต ในอดีตมีคำที่ชาวออสซี่นิยมพูดกันติดปากว่า “I’ll meet you under the clocks” ซึ่งหมายถึงการนัดพบที่สถานี Flinders Street นี่เอง สำหรับนักท่องเที่ยวใครมาถึงก็ต้องมาเช็คอินถ่ายรูปสักรูปที่นี่

อาสนวิหารเซนต์พอล (St Paul’s Cathedral)

เป็นมหาวิหารนิกายแองกลิกันที่มีความงดงามและโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมในรูปแบบนีโอ โกธิค (Neo – Gothic) นั่นก็คือ หลังคายอดแหลมคู่สูงเสียดฟ้าและประตูกระจกสีสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1891 ออกแบบโดย วิลเลียม บัตเตอร์ฟิลด์ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเมลเบิร์น ตรงข้ามสถานีถนนฟินเดอร์ (Flinders Street Station๗ด้านหน้ามีลักษณะเป็นอาคารหินทรายขนาดใหญ่ มียอดหลังคาแหลมสูง ภายในตกแต่งอย่างตระการตา และมีผลงานศิลปะประวัติศาสตร์ให้ผู้มาเยือนได้ศึกษาและชื่นชม

การเดินทาง รถรางฟรี : Stop 13 Federation Square จากนั้นเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม อยู่ห่างจากสถานีถนนฟินเดอร์ เพียง 120 เมตร นักท่องเที่ยวสามารถใช้เวลาเพียง 1- 2 นาทีเดินข้ามถนนจากสถานีเพื่อไปอาสนวิหารเซนต์พอลได้เลย

จัตุรัสเฟเดอเรชั่น (Federation Square)

จัตุรัสเฟเดอเรชั่น หรือที่รู้จักกันทั่วไปในชื่อเฟดสแควร์ (Fed Square) สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปี การรวมสหพันธ์ออสเตรเลียในปี ค.ศ. 2001 เป็นพื้นที่จัดแสดงศิลปะ วัฒนธรรมกิจกรรมสาธารณะต่างๆ เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมทันสมัยดีไซน์เปี่ยมเอกลักษณ์ ริมย่าน ธุรกิจใจกลางเมืองเมลเบิร์น ล้อมรอบโดยสถานีฟลินเดอร์สตรีท วิหารเซนต์พอล และแม่น้ำยาร์รา มีร้านอาหาร คาเฟ่ บาร์ ให้อิ่มอร่อยพร้อมอิ่มใจไปกับวิวสวยๆ

การเดินทาง อยู่ฝั่งตรงข้ามถนนจากสถานีถนนฟินเดอร์

มหาวิหารเซนต์แพทริค (St. Patrick’s Cathedral)

ตั้งอยู่ตะวันออกของกรุงเมลเบิร์นเป็นมหาวิหารนิกายโรมันคาทอลิคที่โดดเด่นทางสถาปัตยกรรมสไตล์ฟื้นฟูโกธิค (Gothic-revival Architecture)หลังคายอดแหลมสูงเทียมเมฆ เพดานสูงทรงโค้งแหลมงดงามสะกดสายตา กระจกสีที่บอกเล่าเรื่องราวทางศาสนา และกระจกบานยักษ์ที่แสงอาทิตย์ลอดผ่านจนย้อมภายในของตัวโบสถ์ให้สว่างไสวไปด้วยแสงสีทองอร่าม สร้างด้วยหินบลูสโตนหรือหินสีเทาอมน้ำเงินและหินทราย ใช้เวลาในการก่อสร้างยาวนานถึง 81 ปี จนเสร็จสมบูรณ์ในต้นศตวรรษที่ 20 ในปัจจุบัน มหาวิหารเซนต์แพทริคยังคงเป็นโบสถ์ที่สูงที่สุดและมีพื้นที่กว้างขวางที่สุดในประเทศออสเตรเลีย ถือเป็นศาสนสถานสำคัญของชาวคาทอลิกในออสเตรเลีย

การเดินทาง จากสถานีถนนฟินเดอร์ นั่งรถไฟสาย Craigieburn, Lilydale, Sunbury หรือ Upfield ไปลงที่สถานี Parliament Station ใช้เวลาประมาณ 12 นาที แล้วเดินต่ออีกประมาณ 400 เมตร มหาวิหารเซนต์แพทริค อยู่ด้านหลัง Parliament House

โฮซิเออร์ เลน (Hosier Lane)

ถนนสายเล็กๆ ที่ติดโผจุดเช็กอินสุดฮิตเรื่องของสตรีทอาร์ต ถนนสายนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ City Lights เมื่อปี ค.ศ. 1998 ซึ่งริเริ่มโดย Andrew Mac ซึ่งต้องการสร้างนิยามใหม่ของคำว่า “หอศิลป์” และปรับเปลี่ยนเส้นทางเดินเท้าบางส่วนของเมลเบิร์นให้กลายเป็นแกลเลอรีศิลปะที่เปิดให้ศิลปินท้องถิ่นและศิลปินจากนานาชาติได้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะบนถนนทอดยาวระหว่างถนน Flinders Street และ Flinders Lane ทั้งเส้นนั้นเต็มไปด้วยผลงานศิลปะสีสันโฉบเฉี่ยวบนผนังอาคาร นอกจากนี้บริเวณรอบๆยังเต็มไปด้วยร้านอาหาร คาเฟ่ รวมถึงบาร์ซึ่งเป็นจุดนัดพบยอดนิยมอีกจุดหนึ่งของชาวเมลเบิร์นและนักท่องเที่ยว

การเดินทาง จากสถานีถนนฟินเดอร์ วิธีที่สะดวกและใช้เวลาสั้นที่สุดคือการเดิน ประมาณ 270 เมตร โดยใช้เวลาประมาณ 4 นาที ส่วนวิธีการเดินทางอื่นๆ จะมีเส้นทางที่อ้อมออกไปและใช้เวลานาน

อนุสรณ์สถานแห่งความทรงจำ (Shrine of Remembrance)

เป็นอนุสรณ์สถานที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงเหล่าทหารออสเตรเลียที่ปฏิบัติหน้าที่รับใช้ชาติในสงครามต่างๆ เช่น สงครามโลกครั้งที่ 1, ครั้งที่ 2, สงครามลายู เป็นต้น อนุสรณ์สร้างตามแบบมอโซเลียมแห่งฮาลิคาร์นาซุส ตั้งอยู่อย่างโดดเด่นบนพื้นที่ของสวนสวยขนาด 32 เอเคอร์ ภายในอนุสรณ์สถานทรงอารามอันงามสง่าแห่งนี้ได้รับการตกแต่งแบบคลาสสิก มีแกลเลอรีรวบรวมผลงานศิลปะที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ต่างๆ ไว้มากกว่า 800 ชิ้น บริเวณตรงกลางอนุสรณ์สถานมีแผ่นหินจารึกที่สลักข้อความ “Greater love hath no man” จากคัมภีร์ไบเบิลอยู่ ท่ามกลางบรรยากาศอันร่มรื่น เนื่องจากอนุสรณ์สถาน ตั้งอยู่บนพื้นที่สูง ทำให้สามารถมองเห็นวิวเมืองเมลเบิร์นแบบพาโนรามาได้อย่างชัดเจน ในแต่ละวัน ทุกๆ ครึ่งชั่วโมงจะมีการจำลองพิธี Ray of Light อันศักดิ์สิทธิ์ให้นักท่องเที่ยวได้ชมด้วย

การเดินทาง จากสถานีถนนฟินเดอร์ ขึ้นรถรางสาย 3/3a, 5, 6, 1, 6, 6, 4, 6, 7, 7, 2 ที่ป้าย Federation Square/Swanston St ไปลงป้าย Shrine of Remembrance – Stop 19 ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 9 นาที

สวนพฤกษศาสตร์หลวงเมลเบิร์น (Royal Botanic Gardens Melbourne)

สวนพฤกษศาสตร์หลวง (Royal Botanic Gardens) เป็นสวนสาธารณะขนาด 38 เฮกตาร์ ตั้งอยู่ทางใต้ของย่านธุรกิจกลางเมืองเมลเบิร์น มีสนามหญ้ากว้าง ทะเลสาบประดับตกแต่ง และสวนธีมหลากหลาย เช่น สวนสำหรับเด็กช่วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายให้เด็กๆ ได้เล่นและใกล้ชิดกับธรรมชาติ สวนเมลเบิร์นมีบทบาทสำคัญในการศึกษาทางวิทยาศาสตร์และการศึกษาแก่ประชาชน รวมถึงการก่อตั้งพิพิธภัณฑ์พรรณไม้แห่งแรกของออสเตรเลียในปี 1853 และการเปิดพิพิธภัณฑ์พรรณไม้แห่งชาติของวิกตอเรียในปี 1934 ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ภายในดอกไม้และพืชพรรณ นับหมื่นชนิดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเติบโตที่นี่ และเส้นทางเดินป่ามากมาย มุมสงบเงียบ เหมาะสำหรับการหลีกหนีจากชีวิตอันวุ่นวายในเมลเบิร์น

การเดินทาง หากอยู่ในเขต Free Tram Zone คุณสามารถนั่งรถรางฟรีไปยังสวนได้หรือจากสถานีถนนฟินเดอร์ก็สามารถเดินไปที่สวนได้เช่นกัน ไกลนิดประมาณ 1 กิโลเมตร

สวนฟิตซ์รอย (Fitzroy Gardens)

สวนสาธารณะเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองเมลเบิร์นเป็นสวนภูมิทัศน์ยุควิกตอเรียที่สำคัญแห่งหนึ่ง เต็มไปด้วยต้นไม้และดอกไม้นานาพันธุ์ หลากหลายสีสัน ผลัดเปลี่ยนตามฤดูกาล มีจุดน่าสนใจที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเช็กอินใน สวนฟิตซ์รอยได้แก่ กระท่อมของกัปตันเจมส์ คุก (Cook’s Cottage) นักสำรวจ นักเดินเรือ นักทำแผนที่ ผู้ค้นพบทวีปออสเตรเลียบ้านหลังนี้อายุเก่าแก่เกือบ 300 ปี และถูกนำมาจากประเทศอังกฤษ, The Conservatory เรือนกระจกสุดงดงามสไตล์สถาปัตยกรรมสเปน สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1930, ต้นไม้นางฟ้า (Fairy Tree) และหมู่บ้านทิวดอร์จำลอง (Model Tudor Village) สวนแห่งนี้เหมาะแก่การพักผ่อน เดินเล่น ปิกนิก

การเดินทาง นั่งรถรางฟรีจากหน้าสถานีถนนฟินเดอร์มาอีก 2 ป้าย และเดินต่อไปอีกประมาณ 5 นาที

หาดไบรตัน (Brighton Beach)

ถ้าต้องการพักผ่อนหย่อนใจริมทะเลแนะนำ หาดไบรตันซึ่งห่างจากใจกลางเมืองเมลเบิร์นไปทางตะวันออกเฉียงใต้เพียง 11 กิโลเมตรตั้ งอยู่ในชานเมืองส่วนที่มั่งคั่งที่สุดของเมลเบิร์น โดยหาดแห่งนี้จะทอดยาวไปตามอ่าวพอร์ตฟิลลิป แบ่งเป็น 3 ส่วน คือ หาดอัปเปอร์ไบรตัน, หาดมิดเดิลไบรตัน และหาดเดนดีสตรีท

มีจุดเช็กอินยอดนิยม เป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก ห้องอาบน้ำที่ หาดเดนดีสตรีท หรือที่เรียกกันว่า Brighton Bathing Boxes ซึ่งเป็นบ้านลักษณะทรงกระท่อมเรียงกันเป็นทิวแถวกว่า 80 หลัง แต่ละหลังมีขนาดและโครงสร้างที่เหมือนกัน แต่มีสีสันและการตกแต่งต่างกัน

การเดินทาง นั่งรถไฟสาย Sandringham มาลงที่ Brighton Beach Railway Station และเดินต่อไปอีกประมาณ 500 เมตร

การเตรียมตัวไปออสเตรเลีย

อ้างอิงข้อมูลจากสถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์
https://www.facebook.com/share/p/1bJyuaxsXe/

ประเทศออสเตรเลีย เป็นประเทศที่มีภูมิประเทศเป็นหมู่เกาะ มีสภาพแวดล้อมที่มีลักษณะเฉพาะ และหลากหลาย ทำให้ออสเตรเลียต้องมีมาตราการในการนำสิ่งของเข้าประเทศอย่างเข้มงวด สัตว์และพืชที่ยังมีชีวิต และอาหารบางชนิดจากต่างประเทศอาจนำวัชพืช และโรคร้ายที่อาจเป็นอันตรายเข้ามาในออสเตรเลียได้ และอาจส่งผลทำลายอุตสาหกรรมการเกษตร และการท่องเที่ยวอันมีค่า รวมถึงสิ่งแวดล้อมที่เป็นเอกลักษณ์ของออสเตรเลียด้วย ดังนั้น การมีมาตราการความปลอดภัยทางชีวภาพอย่างเข้มงวดของออสเตรเลียนี้ จะช่วยปกป้องสุขภาพของมนุษย์ สัตว์ และพืช ด้วยการลดความเสี่ยงจากวัชพืชที่ไม่เป็นที่ต้องการ และโรคภัยต่างๆ ที่นำเข้ามาในประเทศ

รายการสิ่งของห้ามนำเข้า และสิ่งของที่ต้องสำแดงต่อเจ้าหน้าที่

1. อาหาร พืช และเนื้อสัตว์ ตัวอย่างสิ่งของห้ามนำเข้า

– ผักและผลไม้สดทุกชนิด

– เนื้อสัตว์ เช่น เนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อไก่ เนื้อสัตว์ปีก แฮม ไส้กรอก รวมถึง ไข่ ชีส นม และเนย

– เมล็ดข้าว เมล็ดพืช หัวพืช ฟาง ถั่ว สมุนไพร ปะการัง กล้วยไม้ ไข่ปลา ผลิตภัณฑ์จากงวงช้าง ของจากการล่าสัตว์ และผลิตภัณฑ์จากไม้

– ส่วนต่างๆ ของสัตว์ ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากสัตว์ อาหารสัตว์ ชิ้นส่วนตัวอย่างจากสัตว์ และมูลสัตว์

สำหรับอาหารแห้ง อาหารทะเลแห้ง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ผักและผลไม้แห้ง หรืออาหารแปรรูปอื่นๆ หากนำเข้ามาจะต้องสำแดงต่อเจ้าหน้าที่ด้วย

2. ปืน และอาวุธต่างๆ ตัวอย่างสิ่งของห้ามนำเข้า- ปืนจริง และปืนปลอม และส่วนประกอบทุกชนิดที่ใช้สำหรับปืนและอาวุธ- ปืนอัดลม (BB gun) ปืนเพ้นบอล (Paintball marker) มีดพับ กระบองโซ่ (Nunchunka) หนังสติ๊ก (Slingshot) ธนู (Crossbow) เครื่องช๊อตไฟฟ้า (Electronic shock devices) เสื้อกันกระสุน (Body armour) ไฟฉายเลเซอร์ (Laser pointer) ดิ้วเหล็ก (Baton) สเปร์ยพริกไทย (Pepper sprays) สนับมือ (Knuckle dusters) ท่อเป่าลูกดอก (Blowpipe)

ตัวอย่างสิ่งของมีคมที่สามารถนำเข้ามาได้ เช่น ดาบซามุไร ดาบตกแต่งบ้าน มีดทำอาหาร มีดพับ

3. แผ่นซีดี ดีวีดี หรือภาพถ่าย ซีดีภาพ และวีดีโอที่เกี่ยวกับการทารุณกรรม ลามกอนาจารเด็ก การมีเพศสัมพันธ์ การก่ออาชญากรรม การกระทำของผู้ก่อการร้าย รวมถึงภาพความรุนแรงต่างๆ ไม่ว่าจะมาในรูปแบบสื่อสิ่งพิมพ์ ภาพในโทรศัพท์ ภาพในคอมพิวเตอร์ หรือในหน่วยความจำต่างๆ เช่น External hard disk หรือ USB เป็นสิ่งของห้ามนำเข้าออสเตรเลีย

4. ยา และฮอร์โมนต่างๆ- ยาเสพติดที่ผิดกฎหมาย เช่น กัญชา เฮโรอีน โคเคน แอมเฟตามีน เป็นสิ่งของห้ามนำเข้าและออกออสเตรเลีย- ยาสเตอรอยด์ ฮอร์โมนต้านทานความชรา โกรท์ฮอร์โมน สารพวกนี้ห้ามนำเข้าออสเตรเลีย นอกจากจะมีใบอนุญาตการนำเข้ามาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะขึ้นอยู่กับดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ว่าจะสามารถนำเข้าได้หรือไม่

5. เงินสดออสเตรเลีย หรือเงินต่างประเทศการนำเงินเข้าออสเตรเลียไม่มีการกำหนดมูลค่าในการนำเงินเข้าและออก แต่ถ้ามีมูลค่าเท่ากับ 10,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือมากกว่า จะต้องแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ด้วย

6. ยารักษาโรคยารักษาโรคที่มีส่วนประกอบของสเตอรอยด์ กัญชา ยาระงับปวดที่มีสารผสมของอนุพันธ์ฝิ่น (Opioid analgesics) ยากลุ่มที่มีฤทธิ์เสพติด ยาสมุนไพรที่มีพืช หรือสัตว์เป็นองค์ประกอบ ยาพวกนี้ต้องสำแดงต่อเจ้าหน้าที่ เนื่องจากอาจจะถูกควบคุมหรือต้องมีใบอนุญาตในการนำเข้ายาจำพวก แอสไพริน พาราเซตามอน หรือยาสามัญประจำบ้านที่ซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไปของออสเตรเลีย สามารถนำเข้าได้ โดยไม่จำเป็นต้องสำแดงต่อเจ้าหน้าที่

7. ดิน โคลน ทราย ดิน โคลน ทราย ทุกชนิดห้ามนำเข้ามายังออสเตรเลีย รวมถึงสิ่งของ หรืออุปกรณ์ที่มีดิน โคลน ทรายติดมาด้วย เช่น รองเท้า หรืออุปกรณ์กีฬา อุปกรณ์เครื่องมือที่เคยใช้กับสัตว์ ดิน หิน และทราย เป็นต้น

8. ของที่ระลึกของที่ระลึกที่เป็นไม้ ถ้ามีส่วนประกอบของเปลือกไม้ แมลง และเชื้อรา ถือเป็นสิ่งของห้ามนำเข้า แต่ถ้าหากมีส่วนประกอบของใบไม้ เมล็ด และกิ่งไม้ ต้องสำแดงต่อเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะขึ้นอยู่กับดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ว่าจะสามารถนำเข้าได้หรือไม่

9. สินค้าปลอดภาษี สินค้าหรือของขวัญที่นำมาจากต่างประเทศ หรือซื้อโดยไม่เสียอากรและภาษี สำหรับผู้ใหญ่ต้องมีมูลค่าไม่เกิน 900 ดอลลาร์ออสเตรเลีย และเด็ก 450 ดอลลาร์ออสเตรเลีย แอลกอฮอล์ในปริมาณไม่เกิน 2.25 ลิตร และบุหรี่ไม่เกิน 25 มวน หรือยาเส้นในปริมาณไม่เกิน 25 กรัม ซึ่งอนุญาตให้นำเข้าเฉพาะผู้ที่มีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป

10. สินค้าปลอมหรือลอกเลียนแบบ สินค้าปลอม หรือลอกเลียนแบบ เช่น เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องสำอางค์ น้ำหอม และที่หนีบผมไฟฟ้า เป็นสินค้าต้องห้ามนำเข้าเมื่อเดินทางมาออสเตรเลีย เราจะได้รับบัตรผู้โดยสารขาเข้า

ฉะนั้นเราต้องปฏิบัติตามข้อบังคับกำหนดให้กรอกข้อมูลเหล่านี้ หากมีสินค้าที่อาจมีความเสี่ยงทางด้านความปลอดภัยทางชีวภาพมาด้วย จะต้องตอบว่า ใช่ ลงบนบัตร โดยเจ้าหน้าที่อาจจะตรวจสอบสินค้าที่ถูกสำแดง รวมถึงตรวจสอบกระเป๋าเดินทาง ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีสินค้าที่จะต้องสำแดงใดๆ ก็ตาม โดยเจ้าหน้าที่อาจใช้วิธีเอกซเรย์ หรือใช้สุนัขตำรวจก็ได้ การให้ข้อมูลเท็จหรือไม่ถูกต้องถือเป็นความผิดร้ายแรง หากไม่สำแดง หรือสำแดงเท็จในบัตรผู้โดยสารขาเข้า อาจจะถูกจับ ถูกลงโทษทางแพ่ง หรืออาจถูกดำเนินคดี ปรับ จำคุก และถูกบันทึกประวัติอาชญากรรม ทั้งนี้ เราจะไม่ถูกลงโทษภายใต้กฎหมาย ว่าด้วยความปลอดภัยทางชีวภาพ ค.ศ. 2015 หากเราได้สำแดงสินค้าทั้งหมด แม้ว่าสินค้านั้น จะไม่ได้รับอนุญาตให้นำเข้าประเทศออสเตรเลียก็ตาม หากไม่แน่ใจว่าสินค้าที่จะนำมาเป็นสินค้าต้องห้ามหรือไม่ หรือต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกฎหมายการนำสินค้าเข้าประเทศและกฎหมายด้านการตรวจสอบอาหารของออสเตรเลีย สามารถติดต่อได้ที่ เบอร์โทรศัพท์ 1800 803 006 หรืออีเมล์ enforcement@agriculture@gov.au และเบอร์โทรศัพท์ 1800 500 147

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมการนำยาเข้าประเทศแหล่งที่มาAustralian Government: Department of Agriculture and Water ResourcesAustralian Government: Department of Home Affairs

  • สกุลเงินออสเตรเลีย คือ เงินดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD)
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงิน 1 ดอลลาร์ออสเตรเลีย เท่ากับ เงินไทยประมาณ 21.35 บาท ณ วันที่ 4 ต.ค.65 ท่านสามารถเช็คอัตราแลกเปลี่ยนเงินได้ทุกธนาคาร
  • แลกเปลี่ยนเงินตราได้ตามสนามบินหรือธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ในเมือง หรือบูธแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ