อ.คฑา ชินบัญชร ไต้หวัน ใครไปก็ชอบ
Story by Sarttra Feangkasem / Photo by อาจารย์ คฑา ชินบัญชร
จะสังเกตได้ว่าเขามักจะนำเที่ยวไปในเมืองพุทธทั้งหมด ซึ่งคงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะเขาก็เป็นคนหนึ่งที่นับถือพระพุทธศาสนา และมีสถานะคล้าย Influencer ที่หลายคนติดตาม แต่สิ่งที่แปลกคือ เราคงคิดภาพอาจารย์กันไว้ว่าเขาจะต้องเป็นคนที่ใช้ชีวิตสบาย การท่องเที่ยวก็น่าจะต้องเน้นความสบายเช่นกัน แต่ในความเป็นจริง เมื่อเราคุยกับอาจารย์แล้วทำให้เราได้รู้ว่าเขาเป็นคนง่ายๆ ทำตัวสบายๆ และมีการท่องเที่ยวเป็นแพสชั่นหนึ่งในการขับเคลื่อนชีวิต
แค่คิดจะไปเที่ยวชีวิตก็เปลี่ยน
คำพูดที่บอกว่าการเดินทางสามารถเปลี่ยนชีวิตคนได้ คงไม่ได้เป็นคำพูดที่ดูเกินเลยไปนัก อย่างน้อยหนึ่งในคนที่เปลี่ยนนั้นคือ อาจารย์คฑา ชินบัญชร
“สมัยก่อนเรื่องเยอะ ไปเที่ยวจะเรื่องมาก จัดของนี่เนี้ยบเลยนะ ต้องมีหมอนกี่ใบ หนุนหมอนนิ่มไม่ได้ผมเสียทรง เลยต้องมีหมอนยางพาราติดตัวไปด้วย เช้ามาจะได้ไม่ต้องเสียเวลาทำผม กางเกงในกี่ตัว แชมพูขจัดรังแค ครีมนวดแก้รังแคกลิ่นที่ตัวเองชอบ สบู่ต้องเป็นของตัวเอง
ดัดจริตมากๆ แว่นสามอัน กันแดดอัน สำรองอัน เอาไว้เผื่ออีกอัน แล้วก็ที่ใส่อยู่อีกอัน เอาทุกอย่างทุกสิ่งไป แล้วกระเป๋าไม่เคยพอ วันนี้กระเป๋าใหญ่เท่าเดิมก็จริง แต่มีไว้ขนของกลับ นอกนั้นกางเกงในไปเจ็ดวันสามตัวใส่ซ้ำๆ ได้ (หัวเราะ) ถุงเท้าสามคู่ ก็พอ เพราะไต้หวันไม่ต้องถอดถุงเท้าเดินในวัด หรือถ้าจะลืมของก็ไม่เป็นไร ต่อให้อยู่ที่ไทย ก็เดินเข้าเซเว่นพอแล้ว
“การเดินทางสอนให้คุณอยู่กับธรรมชาติและชีวิต ทำอะไรง่ายๆ เป็นไปตามโลก สอนให้ปลง นี่คือความโชคดีของการได้เที่ยว แค่คิดจะเที่ยวชีวิตก็เปลี่ยนแล้ว เปลี่ยนสถานที่กินนอนก็วุ่นวายแล้ว แต่เป็นการวุ่นวายแบบเต็มใจ จะเอาแฟน ไปเที่ยว ไปรู้จักตัวเอง ผู้คน ธรรมชาติ ดีขนาดนี้วันนี้คุณยังไม่ไปเที่ยวอีกเหรอ การท่องเที่ยวมันแก้ไขปัญหาชีวิตได้นะ”
แหล่งรวมของพลังธรรมชาติที่แท้จริง
ความสวยงามของธรรมชาติในไต้หวันเป็นสิ่งที่นักเดินทางทุกคนมักจะกลับมาเล่าอย่างออกรสเสมอ ผู้นำเที่ยวชื่อดังอย่างอาจารย์คฑาก็เช่นกัน “ซันมูนเลก เป็นแหล่งรวมของพลังธรรมชาติ คนชอบมาถามว่าอาจารย์ดูสดใสรื่นเริง มีพลัง ทั้งๆ ที่ทำงานทุกวัน ก็เพราะว่าการไปเที่ยวในที่ที่มีพลังธรรมชาติดีๆ เป็นสิ่งสำคัญ ที่นี่เป็นจุดหนึ่งในโลกที่มารับพลังงานธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ แม้แต่เจียง ไคเชกเองยังสร้างบ้านตากอากาศไว้ที่นั่นเลย ภรรยาเขามาอยู่ที่นี่ก็หายป่วยเลย นี่เรื่องจริง
น้ำในทะเลใสมาก เรือเขาใช้ไฟฟ้าไง ไม่มีน้ำมันลงไป แค่ชื่อก็สมดุลแล้ว พระอาทิตย์กับพระจันทร์ หยินหยาง แหล่งกำเนิด ชนเผ่าก็มาตั้งอยู่ที่นี่ เพราะกวางทองตัวหนึ่งมาที่เกาะกลางน้ำ แล้วหายไป ชนเผ่าที่ตามกวางมาด้วยความสนใจแต่พอกวางหายไปทำอะไรไม่ถูก ก็เห็นว่าที่นี่สวย น้ำอุดมสมบูรณ์ ภูเขา อากาศ
“มีความเชื่อกันว่าข้างใต้ที่นี่เป็นแหล่งของบ่อน้ำร้อนใต้ดิน เราไปแช่น้ำร้อน ข้างล่างมันอยู่ในวงแหวนของภูเขาไฟ เขาเรียกว่าลมหายใจมังกร พลังของความผสมผสาน ไอนี่ก็คือไอร้อนจากพื้นโลก น้ำไม้ไฟดินทองมันสมดุลแล้วก่อเกิดเป็นพลังสุริยันจันทรา มากลางวันก็สวยกลางคืนก็สวย อยากให้ลองล่องเรือสักครั้ง ขี่จักรยาน มีวัดชื่อเหวินหวู่ เป็นบุ๋นบู๊ บุ๋นคือสงบนิ่ง บู๊คือหยาง ไท่เอียง พระอาทิตย์ มันลงตัวมากเลยนะ
เป็นวันเดียวที่มีกวนอูกับขงจื๊ออยู่ด้วยกัน บริเวณนั้นเป็นวัดเดียวที่เขาให้ความสำคัญกับขงจื๊อและกวนอู รวมกันก็คือหยินหยางอะ ใครขอพรเรื่องธุรกิจการงาน อำนาจบารมี ยศศักดิ์ ไปขอกวนอู ใครขอการศึกษา ขอความสุข ไปขอขงจื๊อมันก็โอเคนะ ถ้ามีโอกาสนอกจากไปเที่ยว อยากให้ไปนอนค้างสักคืนสองคืน ไปสวดขันธปริตร บทที่พระพุทธเจ้าประทานให้พระอรหันต์สวดมนต์ให้กับสัตว์ที่ไม่มีขาทั้งหลาย คือปลา พญานาคทั้งปวง แล้วก็เหล่ามัจฉา อยากให้ไปสัมผัส แล้วก็มีโรงแรมหนึ่งมีน้ำแร่ออกมาเราสามารถแช่ได้เลย อีกที่โรงแรมชื่อเมเปิล ห่างจากซันมูนเลกหน่อย”
ทุกอย่างที่อาจารย์พูดมาฟังเพลินคล้ายนั่งเรียนวิชาประวัติศาสตร์ ก่อนจะตัดมาแนะนำสถานที่ศักสิทธิ์ที่เขาชอบอีกครั้ง “วัดหม่าโจ้วอีกวัด ตรงตลาดที่มีซาลาเปาถังอะ วัดหม่าโจ้วนี้ศักดิ์สิทธิ์ มีประเพณียืมเงิน มีเทพเจ้าโชคลาภ งดงามเกินบรรยายเลย อีกอันที่อยากแนะนำคือศาลหลักเมืองของไทเป ต้องเดินเข้าไปนะ รถทัวร์เข้าไม่ได้ สองข้างทางเป็นตลาด เที่ยวได้อย่างสนุกเลย”
อาหารอร่อย เที่ยวได้ทุกฤดู
อาหารน่าจะเป็นสิ่งที่คนทุกเพศทุกวัยอยากจะได้สัมผัสเป็นลำดับแรกๆ เมื่อเดินทางไปต่างถิ่น อาจารย์คฑาจึงเลือกที่จะเล่าถึงเรื่องความประทับใจส่วนตัวในด้านอาหารให้เราฟังก่อน “อาหารไต้หวันนี่ ถือว่าถ้าใครไม่ไปพลาดมาก จะเรียกว่าอาหารจีนก็ได้ แต่ไม่ใช่จีนที่เราคุ้นเคย ไม่มัน ไม่เลี่ยน นี่เป็นอาหารจีนที่รสชาติกลมกล่อม จัดจ้าน เช่น เต้าหู้เหม็นทอด ราดน้ำจิ้มแซ่บๆ หน่อย อร่อยมาก ซาลาเปาคลุกไส้ ซาลาเปาถัง เสี่ยวหลงเปา แล้วก็มีอีกอันหนึ่งคล้ายๆ กระเพาะปลาก็อร่อย รวมไปถึงพระกระโดดกำแพงอาจารย์ก็ได้กินมาเหมือนกัน” อาจารย์คฑาพูดด้วยแววตาเปล่งประกาย พร้อมแนะนำพวกเราไปลอง
“ไปเถอะ ไต้หวันเที่ยวได้ทุกหน้า หน้าฝนก็ไปวัด หน้าหนาวก็ไปเที่ยวธรรมชาติได้ทุกที่ จะหน้าร้อนก็มีทะเล มีภูเขา อ่อ มีกิจกรรมหนึ่งที่อาจารย์แนะนำว่าต้องทำให้ได้ครั้งหนึ่งในชีวิตคือขี่จักรยานที่ซันมูนเลก(ทะเลสาบสุริยันจันทรา) ไปแล้วคุณจะรู้เลยว่าผู้บริหารเขาใส่ใจในการทำเส้นทางจักรยานมาก ต้องพูดคำว่าปลอดภัย ใส่ใจในการดูแลมันประทับใจสุดๆ” อาจารย์บรรยายความรู้สึกก่อนจะอธิบายต่อให้เราเข้าใจง่ายๆ ว่า “คุณเป็นนักกีฬาคุณก็ชอบไต้หวัน คุณเป็นนักเดินทางคุณก็จะชอบไต้หวัน คุณชอบไหว้พระสวดมนต์คุณก็จะชอบไต้หวัน คุณชอบทะเล ภูเขา ดอกไม้ คุณก็จะชอบไต้หวัน และถ้าคุณชอบผู้คนคุณก็จะชอบไต้หวัน”
จีนโลกใหม่กับผู้คนที่ซื่อสัตย์ และมีน้ำใจ
ระหว่างที่นั่งฟังอาจารย์คฑาเล่าให้ฟัง มีอยู่เหตุการณ์หนึ่งในไต้หวันที่ทำให้ทุกคนในวงสนทนาอินตามไปด้วย นั่นคือเหตุการณ์การลืมกระเป๋าของเขาที่ทำให้เรารับรู้ได้ถึงความเป็นมิตร น่ารัก และซื่อสัตย์ของพวกเขา
“ผู้คนเขาต้องพูดว่า Civilization เขาเป็นจีนแท้ แต่เป็นจีนใหม่ ถามทางตอบ ยิ้มแย้ม แจ่มใส เดินส่งขึ้นรถ โค้งแล้วโค้งอีก ขอบคุณเป็นมิตร แล้วก็ให้เกียรติเรา เป็นสิ่งที่เราประทับใจมาก เราไปมาทั่ว แต่เราก็ยังประทับใจเขาในส่วนนี้ สดๆ ร้อนๆ เลย ลืมกระเป๋า
คนดูแลอาจารย์เขาลืมกระเป๋าไว้ที่สนามบิน ถึงโรงแรมแล้วเพิ่งรู้ เราลงเครื่องช่วงเช้า แต่รู้ตอนห้าทุ่มว่ากระเป๋าหาย ถามว่ามันมีมูลค่าไหม มีด้วย กระเป๋าก็แบรนด์แล้ว ของข้างในคือบินไปช้อปปิ้งที่ฮ่องกงมาก่อน พอหายเราใจไม่ดีแล้ว ของมันเยอะ เจ้าของโรงแรม เขาก็มาถาม มาช่วยคุยให้ เขาจะขับรถพาไปซื้อของ เดี๋ยวเอารถมาพาเราไปซื้อแปรงสีฟันยาสีฟัน ระหว่างนั้นเขาก็โทรศัพท์ไปหาแท็กซี่เพื่อนเขา คือจริงๆ แท็กซี่ในเมืองมันปิดหมดแล้ว เพื่อนเขาก็มาแบบนอกเวลา พาเราไป ระหว่างรอเขาก็โทรไปติดต่อสนามบินว่ากระเป๋าแบบนี้ ส่งรูปไปให้ เชื่อไหม..ไม่ถึงห้านาที สนามบินโทรกลับมาบอกว่าใบนี้ใช่ไหม อยู่ที่นี่ ไปรับได้ เราก็บอกไม่เป็นไร วันสุดท้ายก็ต้องกลับไทเปอยู่แล้ว อยู่ไคจงจะไปทำไม ไปกลับตั้งสี่ห้าชั่วโมง โอเคจบ เดี๋ยวให้ลูกน้องไปซื้อสบู่ แปรงสีฟัน กางเกงใน
“แท็กซี่บอกฉันไปให้เดี๋ยวยูไม่สบายใจ เขากลัวว่าเราจะกังวล จริงๆ เราไม่กังวลแล้ว เพราะสนามบินห้าทุ่มเลิกงานแล้ว แต่สุดท้ายเขาก็รอ เราเลยประทับใจทั้งเจ้าของโรงแรม แท็กซี่ เจ้าหน้าที่สนามบิน นี่คืออะไร? ของดีๆ ทั้งนั้นยังอยู่ครบ เราจะให้ค่าน้ำใจ เขาขอไม่รับเงิน มันเป็นหน้าที่ของเขาอยู่แล้ว แต่แท็กซี่ต้องให้ไป ไม่แพงนะ เหมือนกรุงเทพฯ ประจวบฯ นี่ขนาดคุยไม่รู้เรื่องนะ แล้วนี่คือเหตุการณ์ประทับใจสุดชีวิตเลย ปลื้มมาก หาที่ไหนไม่มี เรานำทัวร์ไม่รู้กี่ประเทศ เดือนหนึ่งไม่รู้กี่ครั้ง”
ประเพณีที่อยู่ตรงกลางระหว่างความเชื่อและความเป็นจริง
เมื่ออาจารย์คฑาเป็นถึงผู้นำทัวร์ และผนวกกับการที่เป็นซินแสชื่อดัง เราคงจะละเลยการถามเรื่องเกี่ยวกับประเพณีและความเชื่อไม่ได้ จึงพบว่านี่เป็นเรื่องหนึ่งที่อาจารย์ประทับใจเช่นกัน “วัฒนธรรมอาจารย์ชอบมาก ตอนไปเราไปช่วงงานประเพณีเดือนมีนาคม-เมษายน มันจะมีประเพณีของเขา เราเข้าไปสัมผัสเรารู้สึกได้ถึงความไม่วุ่นวาย เขามีเทศกาลแข่งเรือมังกร เราเป็นนักท่องเที่ยวไปก็ปลอดภัยมาถึงบ้านเขาจะพัฒนาเร็ว แต่อาจารย์ชอบเรื่องความเชื่อที่มีอยู่ในใจของคนรุ่นใหม่เสมอ เขามีน้ำใจ เอื้อเฟื้อ ซื่อสัตย์
เราจะเห็นภาพหนุ่มสาวเข้าวัด ที่อื่นอาจารย์ไปมาเยอะ แต่มีน้อยมากที่เป็นแบบนี้ ต้องอายุ 40 ปีขึ้นไปถึงจะเข้า แต่ที่นั่นคือวัยรุ่นเข้าไปไหว้เทพเหย่โหลวกันเต็มไปหมด ถึงเขาจะมีการศึกษา เขาก็ยังมีความเชื่ออยู่ ไม่ใช่แค่พรด้วยนะ วันที่เราไปตรงกับประเพณี พอดี ไหว้เช้า กลางวัน เย็นเลย เรางงมาก เข้าไปเขาเดินออกมาถือหนังสือสวด นี่คือภาพแปลกๆ ท่ามกลางความศิวิไลซ์ บางที่เขาประยุกต์ไม่จุดธูปเทียนเลอะเทอะ บางวัดจุดแค่ดอกเดียว หรือ ไม่จุดเลย บางที่กำยานเล็กๆ ถือเป็นการลดโลกร้อนไปด้วย”
0
0
0