ลำปาง (ไม่) หนาวมาก

Story & Photo by Editorial Staff

ความรู้สึกตอนที่ผมได้หมายมาจากทางทีมว่าต้องเดินทางไปลำปาง บอกตรงๆ เลยว่ามีความขุ่นเคืองในใจนิดๆ เนื่องด้วยบ้านผมอยู่จังหวัดลำพูนซึ่งไม่ได้ไกลจากลำปางมากนัก และลำปางเองถือได้ว่าเป็นจังหวัดที่ผมไปบ่อยๆ แต่หลังจากที่ผมได้เดินทางไป พบว่าลำปางมีอะไรดีๆ มากมายกว่าที่คิดที่เคยผ่านไปมาเหมือนทุกครั้ง และลำปาง(ไม่) หนาวมากอย่างที่คุณคิด แต่คูลใช้ได้ทีเดียว

พระธาตุลำปางหลวง

สำหรับคนที่เดินทางมาลำปางครั้งแรกสถานที่ที่ผมอยากแนะนำเลยคือ พระธาตุลำปางหลวง เรียกได้ว่าไหว้พระเอาฤกษ์เอาชัยกันก่อนเลย ตั้งอยู่ที่ วัดพระธาตุลำปางหลวง ซึ่งเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองลำปางมาแต่โบราณ นอกจากนี้ตามความเชื่อล้านนา พระธาตุลำปางหลวง เป็นพระธาตุประจำปีเกิดฉลูอีกด้วย ภายในวิหารหลวงมีมณฑปปราสาทพระเจ้าล้านทอง คือ ซุ้มทรงยอดมณฑปที่ใช้ประดิษฐานพระเจ้าล้านทอง พระพุทธรูปประธานในวิหารหลวง หรือเรียกว่า โขงพระเจ้า เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยในท่าขัดสมาธิ ก่ปู ราสาทคาดว่าหล่อขึ้นเมื่อพ.ศ. 2019 กู่นี้คงได้รับการบูรณะครั้งใหญ่ใน พ.ศ. 2106 หลังจากที่เมืองเชียงใหม่ตกอยู่ใต้ปกครองของพม่า นอกจากนี้วัดพระธาตุลำปางหลวงยังเป็นที่ประดิษฐาน พระแก้วดอนเต้า (พระแก้วมรกต) พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดลำปาง เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ ศิลปะล้านนาสลักด้วยหยกสีเขียวอีกด้วยและหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ที่หากมาที่นี่แล้วไม่ควรพลาดคือ เงาพระธาตุกลับหัวที่อยู่ด้านในของซุ้มพระบาท เมื่อปิดประตูให้สนิทในความมืด ให้สังเกตที่ผ้าสีขาวจะมีรูปเงาพระธาตุกลับหัวปรากฏอยู่ ในทางวิทยาศาสตร์ให้ความรู้สำหรับสิ่งนี้ว่าเป็นเรื่องการหักเหของแสงที่ทำมุมตกกระทบ จุดนี้ห้ามไม่ให้ผู้หญิงเข้าไปแต่ก็สามารถชมปรากฏการณ์นี้ได้ที่วิหารพระพุทธตั้งอยู่ทางทิศใต้ของพระธาตุเจดีย์

วัดพระธาตุดอยพระฌาน 3

อีกหนึ่งวัดที่น่าสนใจ คือ วัดพระธาตุดอยพระฌาน ตั้งอยู่ที่อำเภอแม่ทะ วัดนี้ตั้งอยู่บนยอดเขาที่เรียกว่าดอยพระฌาน ขึ้นชื่อว่าเป็นวัดที่มีความงดงามแห่งหนึ่งของจังหวัด ภายในวิหารประดิษฐานพระพุทธรูปนามว่า “สมเด็จพระพุทธสิกขีทศพลญาณพิชิตมารวิกรม ปฐมสัมมาสัมโพธิญาณศรีพระฌานบรรพต” ประดิษฐานอยู่ในซุ้มเรือนแก้วสีทองอร่าม แม้ที่วัดมีติดป้ายประกาศว่าวัดแห่งนี้เป็นที่แสวงบุญไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยว แต่คนจำนวนไม่น้อยที่เดินทางมาที่นี่เพราะวิวทิวทัศน์ที่สวยงามในมุมสูง ยิ่งในช่วงฤดูฝนหรือฤดูหนาวคุณจะเห็นหมอกที่เลาะเลียบปกคลุมพื้นที่เป็นทะเลหมอกผืนใหญ่ที่สวยงาม อีกทั้งเป็นจุดที่สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นที่งดงามอีกแห่งของลำปางหลังจากไหว้พระขอพรแล้วไปนั่งรถม้าชมเมืองกัน รถม้าเป็นหนึ่งในเอกลักษณ์ของลำปางที่เรียกกันว่า

นั่งรถม้าชมเมือง10

หากใครมาลำปางก็ควรมาทดลองนั่งสักครั้งโดยเฉพาะเส้นทางชมรอบชุมชนท่ามะโอตั้งอยู่ฝั่งเหนือของสะพานข้ามแม่นำปิง เป็นชุมชนเก่าแก่ที่เล่ากันว่ามีมาตั้งแต่สมัยชาวพม่าเข้ามาทำการค้าไม้สักกับชาวอังกฤษในจังหวัดลำปาง ทำให้มีการสร้างวัดวาอารามและบ้านเรือนมากมาย เกิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมหลายจุด อย่างเช่น วัดประตูป่อง เป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมแบบพม่ามีอายุเก่าแก่มากกว่า 100 ปี บ้านหลุยส์ ของ มร.หลุยส์เลียวโนเวนส์ คนที่เข้าทำสัมปทานป่าไม้ในจังหวัดลำปาง หลุยส์เป็นลูกของนางแอนนา เลียวโนเวนส์ผู้ที่เข้ามาสอนภาษาอังกฤษในราชสำนัก สมัยรัชกาลที่ 4 รูปทรงของบ้านเป็นสไตล์ตะวันตกโคโลเนียล มี 2 ชั้น ลักษณะกึ่งปูนกึ่งไม้ ซึ่งดูแปลกตากว่าบ้านรอบข้างเลยทีเดียว

นั่งรถม้าชมเมือง3

บ้านเสานัก คำว่าเสานัก แปลว่าเสาเยอะ ซึ่งก็เยอะจริงๆ สมชื่อมีมากถึง 116 ต้นเรียงรายกันเป็นฐานให้หมู่บ้าน เป็นลักษณะพม่าผสมล้านนาและอย่างที่ทราบกันว่าเราได้มีการประกาศยกเลิกการใช้รถม้าตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 แต่ที่ลำปางยังมีบริการรถม้าให้ได้ทดลองกัน ที่สำคัญชุมชนท่ามะโอนี้ยังเป็นสถานที่ที่สร้างล้อรถม้าด้วยไม้แห่งเดียวใน จ.ลำปาง ซึ่งหาดูยากในปัจจุบัน

นั่งรถม้าชมเมือง2

นอกจากนี้ยังมีสะพานรัษฎาภิเศก หรือ สะพานขาว, กำแพงเมืองโบราณ กู่เจ้าย่าสุตา วัดแสงเมืองมา, สถานปฏิบัติธรรมหลวงพ่อเกษม เขมโก, วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม บ้านร้อยปี ทุกที่ล้วนมีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง

นั่งรถม้าชมเมือง9

ภายในชุมชนนอกจากสถานที่ท่องเที่ยวแล้วยังมีกิจกรรมให้ทำตลอดทั้งวัน อย่างเช่น ช่วงเช้าสามารถไปตักบาตรที่ตลาดรัษฎา ซึ่งมีอาหารพื้นเมืองมากมายหลายชนิดให้ได้ลิ้มลองกันอย่างเช่น แกงฮังเล แกงกระด้าง และขนมวง สายหน่อยก็ถึงเวลาชมชุมชนอย่างเช่นผมในตอนนี้ เสียงของรถม้าที่ยำไปในชุมชนที่แสนรื่นรมย์ เป็นบรรยากาศที่ผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถูก

นั่งรถม้าชมเมือง17

สำหรับคนที่ชื่นชอบงานศิลปะ ที่ลำปางมีการดำเนินกิจกรรมลำปางสตรีตอาร์ตซึ่งโครงการริเวอร์ สตรีตอาร์ต (River Street Art) ตามแคมเปญ “ลำปางปลายทางฝัน” ภายใต้ปฏิบัติการ“เดินหน้าลำปาง สร้างสรรค์ ปันสุข 2561” ของทางจังหวัดลำปาง เพื่อสร้างสรรค์ผลงาน โดยภาพวาดจะเริ่มตั้งแต่บริเวณฐานสะพานรัษฎาภิเศก ถนนเลียบริมแม่น้ำวังฝั่งใต้ก็จะเริ่มเห็นงานศิลปะเป็นระยะๆ

Street Art 3(1)

ไม่ว่าจะเป็นภาพไก่ตัวโตสัญลักษณ์ของลำปาง ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นในชามตราไก่ใบใหญ่ข้าวแต๋นและสับปะรดน้ำผึ้งของดีลำปาง ภาพเด็กเล่นซ่อนแอบภาพรถม้าลำปาง ภาพสัตว์อีกหลากหลายชนิด

Street Art 5

ที่สะท้อนให้เห็นถึงชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชนแห่งนี้ เราสามารถสนุกสนานไปกับการแสดงท่าทางกับรูปวาดเรื่อยยาวไปจนถึงหลังจวนผู้ว่าฯ(สะพานช้างเผือก) ได้

Street Art 4

แนะนำให้มาช่วงสายหรือบ่ายๆ เพราะช่วงเย็นวันเสาร์จะมีตลาดคนเดินกาดกองต้า ให้ได้จับจ่ายและซื้อหาอาหารการกิน ขนม ของฝากอีกด้วย

Street Art 3

ก่อนจะเดินทางกลับเมืองกรุง ผมไม่พลาดที่จะแวะไปอาบน้ำแร่ แช่น้ำร้อน และกินไข่ต้มแสนอร่อยที่อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของจังหวัด พื้นที่โดยรอบเต็มไปด้วยป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ ซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำ และที่อยู่อาศัยของสัตว์นานาชนิด ภายในอุทยานซึ่งเนื้อที่ประมาณ 480,000ไร่ หรือ 768 ตารางกิโลเมตรมีทรัพยากรทางธรรมชาติที่สวยงามหลายจุดด้วยกันไม่ว่าจะเป็น น้ำตก บ่อน้ำพุร้อน แอ่งน้ำอุ่น

อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน

โดยทางอุทยานได้ดำเนินงานตามแนวพระราชดำรัสในการใช้พลังงานน้ำธรรมชาติ มาประยุกต์การดำเนินงานอย่างสอดคล้องเป็นประโยชน์พร้อมทั้งมีการปรับภูมิทัศน์ให้สวยงามและสะดวกสำหรับผู้ที่เข้ามาใช้บริการ

อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน5

น้ำแร่ที่นี่มีอุณหภูมิสูงถึง70 – 80 องศาเซลเซียส สามารถแช่ไข่ให้สุกได้ภายใน15 นาที จนทำให้เกิดอีกหนึ่งกิจกรรมนั่นก็คือ การต้มไข่ในบ่อน้ำร้อน ไข่ที่ได้จะมีลักษณะไข่แดงสุกพอดีแต่ไข่ขาวจะนิ่มกำลังดี พอนำไปปรุงเป็นเมนูอื่นๆ ต่อก็จะได้รสชาติที่อร่อยยิ่งขึ้น

อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน6

ไม่ไกลกันมีน้ำตกแจ้ซ้อนที่ธารน้ำจากน้ำตกไหลมาบรรจบกับน้ำร้อนของน้ำพุทำให้เกิดธารน้ำอุ่น โดยทางอุทยานฯ ก็สร้างเป็นจุดให้สามารถลงแช่น้ำแร่ได้ ที่นี่เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย และสามารถเดินทางมาท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่ถ้ามาในช่วงฤดูที่อากาศเย็นสบายอย่างช่วงเดือน พฤศจิกายน -กุมภาพันธ์ก็จะพิเศษยิ่งขึ้น ยิ่งมาช่วงเช้าตรู่ที่ชมพระอาทิตย์ขึ้นท่ามกลางไอหมอกของน้ำร้อนที่ผสมผสานไปกับไอเย็นของอากาศยิ่งเป็นช่วงเวลามหัศจรรย์ยิ่งนัก

อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน2

ปิดท้ายการเดินทางด้วยการซื้อของฝาก โดยเฉพาะชามตราไก่และจานชามเซรามิกไปเป็นของฝากคนที่บ้านโดยแหล่งจำหน่ายเซรามิกขนาดใหญ่และมีอายุยาวนานคือที่อินทราเอาต์เลต

อินทราเอาท์เลท15

ที่นี่เป็นทั้งสถานที่ทัศนศึกษาสำหรับผู้ที่ต้องการเรียนรู้ อยู่ที่อาคารสาธิตการผลิตเพื่อชมการผลิตเบื้องต้น ภายในจะมีการจัดแสดงกระบวนการผลิตสินค้า ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นฝีมือแรงงานของเหล่าพี่ป้าน้าอาที่อยู่ในท้องที่

อินทราเอาท์เลท2

ไม่ไกลกันนั้นเป็นสถานที่จำหน่ายสินค้าของอินทราเซรามิก และสินค้าจากโรงงานอื่นๆ กว่า 30 โรงงาน ซึ่งมีสินค้าที่ใช้จัดทำขึ้นเพื่อการส่งออก

อินทราเอาท์เลท4

โดยมีคอลเลกชั่นมากมายหลากหลายแบบ ทั้งเครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร อย่างเช่น จาน ชามถ้วยต่างๆ ของประดับตกแต่งก็มีไม่ใช่น้อย ซึ่งสินค้าบางชิ้นน่ารักมากและโดดเด่นมากขนาดผมเป็นผู้ชายยังอดหยิบซื้อหาไม่ได้

อินทราเอาท์เลท3

หลายคนอาจเคยได้ยินประโยคคุ้นหูเล่นกันว่าลำปางหนาวมากมาแล้ว สำหรับผมการมาลำปางครั้งนี้ (ไม่) หนาวมาก

Share This Post:Share on Facebook0Share on Google+0Tweet about this on TwitterShare on LinkedIn0