วัดประชาคมวนาราม (วัดป่ากุง) หรือบุโรพุทโธจำลอง, ผ้าบาติก ที่จังหวัดร้อยเอ็ด
Story & Photo by Editorial Staff
ดินแดนอีสานนอกจากจะร่ำรวยด้วยวัฒนธรรม ประเพณีที่สวยงามมากมาย ในเรื่องของศาสนาก็มีวัดที่สวยงามและศักดิ์สิทธิ์อยู่มากมายเช่นกัน และนอกเหนือไปจากวัดวาอารามแล้ว ยังมีอีกอย่างที่สร้างชื่อให้กับจังหวัดร้อยเอ็ดแห่งนี้ ได้ยินเพื่อนสาวงามเจ้าถิ่นคนร้อยเอ็ดร่ายมาขนาดนี้ บอกเลยว่าเจอกัน
ผ้าไหมบาติก
ผ้าบาติก คราแรกที่ได้ยินถึงกับร้องเสียงหลงว่าเธอจะพามาร้อยเอ็ด หรือจะระเห็จลงใต้กันแน่เพื่อนจ๋า ได้รับเสียงยืนยันแน่นหนักว่าที่ร้อยเอ็ดบ้านฉันก็มีนะเธอ ว่าแล้วเราก็บึ่งหน้าไปสถานที่ที่ทำผ้าบาติกทันที
รถจอดตรงหน้าป้ายเมืองไม้บาติก มองดูแล้วเหมือนบ้านพักอาศัยมากกว่า เพราะดูแล้วร่มรื่นน่าอยู่ เมื่อเดินเข้าไปด้านในจะเป็นที่ผลิตผลงาน เราได้พบกับอาจารย์ต่อศักดิ์ สุทธิสา ประธานกลุ่มเมืองไม้บาติก ซึ่งเป็นครูสอนศิลปะที่โรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด
อาจารย์บอกกับเราว่าแรกเริ่มทำเพราะความชอบเป็นงานอดิเรก แต่เป็นที่ชื่นชอบและบอกต่อๆ กัน ของเพื่อนฝูง
จากผ้าป่านทั่วไปกลายมาเป็นผ้าไหมที่เป็นของขึ้นชื่อของท้องถิ่น จนกลายมาเป็นผ้าไหมบาติก ด้วยเส้นสายและโทนสีอันเป็นเอกลักษณ์ สีที่มีน้ำหนัก มีมิติด้วยขั้นตอนเทคนิคการซ้อนสี
ด้วยขั้นตอนการทำที่พิถีพิถันใส่ใจ ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพทำให้ที่นี่ได้รับผลิตภัณฑ์โอทอป 5 ดาว ในปี 2547 และเป็นผลิตภัณฑ์ 5 ดาวหนึ่งเดียวของ จ.ร้อยเอ็ด อีกด้วย
เราสามารถดูขั้นตอนการทำผ้าไหมบาติก ขั้นตอนการลงสีได้ด้วย และยังมีกิจกรรมเวิร์กชอปเขียนลายผ้าของเราเองได้เป็นผลงานที่มีชิ้นเดียวในโลก
โดยอาจารย์ต่อหรือทีมงานของอาจารย์จะคอยแนะนำมีค่าใช้จ่ายเล็กน้อยเป็นค่าอุปกรณ์เท่านั้น ได้ลองทำและได้ผ้าบาติกเป็นของเราด้วย นอกจากนี้ยังมีห้องพักไว้บริการสำหรับผู้ที่ต้องการเรียนรู้อย่างจริงจังอีกด้วย
และแน่นอนว่าสาวนักกิจกรรมอย่างเราไม่พลาดที่จะลองทำเวิร์กชอปกัน
บริเวณด้านหน้ายังมีชอปขายของฝาก ติดไม้ติดมือกันก่อนกลับด้วย
บุโรพุทโธจำลอง
หลังจากใช้สมาธิในการสร้างงานศิลปะชิ้นเดียวในโลกกันไปแล้ว ร่างกายต้องการพลังเสริม พวกเรามาแวะเติมพลัง กันที่ร้านต้มไก่บ้านสามพี่น้องกันที่ตัวอำเภอเมือง ก่อนจะไปกราบนมัสการและชมความงามของเจดีย์หินทราย หรือบุโรพุทโธจำลอง วัดประชาคมวนาราม (วัดป่ากุง) ที่ อ.ศรีสมเด็จ
ประวัติความเป็นมาของวัดแห่งนี้เมื่อปี พ.ศ. 2496 หลวงปู่ศรี มหาวีโร ได้จาริกวิเวกจากวัดพูลศรีสารคาม (วัดประชาบำรุง) มาที่วัดป่ากุงขณะนั้นเป็นวัดร้างเก่าแก่ มีมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2313
สภาพเป็นป่ารก เนื้อที่ประมาณ 150 ไร่ ไม่มีใครกล้าเข้ามา เพราะลือกันว่าผีดุ เจ้าที่แรง
หลวงปู่ศรีได้สั่งสอนธรรมะ เป็นที่เลื่อมใสแก่ชาวบ้านป่ากุง จึงได้ร่วมกันสร้างวัดเพื่อนิมนต์หลวงปู่ให้จำพรรษาที่วัดป่ากุงแห่งนี้ ทำให้ไม่ได้ธุดงค์ไปกราบพระธาตุพนมตามความตั้งใจแรก
ก่อนที่จะสร้างวัดหลวงปู่ศรีได้กราบนิมนต์พระอาจารย์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน และหลวงปู่บัว สิริปุณโณ มาดูบริเวณวัด ซึ่งได้เห็นควรที่จะสร้างวัดขึ้นเพราะเป็นที่วัดเก่า วันที่ 22 ต.ค. 2508 หลวงปู่ศรี และชาวบ้านได้ร่วมกันก่อสร้างวัดป่ากุง
ปัจจุบันมีเนื้อที่ประมาณ 338 ไร่ นี่คือคำอธิบายจากเพื่อนสาว ทำเอาเราอึ้งไม่อยากเชื่อว่าเธอจะแม่นข้อมูลขนาดนี้ และยังเสริมประวัติของเจดีย์หินทรายด้วยว่า เมื่อปี พ.ศ. 2531 หลวงปู่ได้ไปปฏิบัติศาสนกิจ จำพรรษาที่ประเทศอินโดนีเซีย
ได้ไปนมัสการเจดีย์โบโรโดร์ (บรมพุทโธ) เกิดความประทับใจและกลับมาเล่าให้ศิษยานุศิษย์ได้ฟัง และดำริว่าจะสร้างไว้ที่เมืองไทย ในปี พ.ศ. 2535 การก่อสร้างจึงเริ่มขึ้น
ออกแบบและสร้างโดยช่างชาวอินเดีย ด้วยแรงศรัทธาและกำลังทรัพย์ของคณะศิษย์ จนกระทั่งแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2547 มีทั้งหมด 7 ชั้น ยอดเจดีย์ทองคำแท้หนัก 101 ขึ้นประดิษฐาน ภายในพระเจดีย์เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ มีภาพแกะสลักหินทรายเหลืองนูนต่ำเล่าเรื่องราวพระพุทธประวัติและเวสสันดรชาดก รวมทั้งประวัติของหลวงปู่ศรีด้วย
หลังจากรับทราบประวัติความเป็นมาแล้วเราก็เข้าไปนมัสการเจดีย์หินทรายกันเพื่อเป็นสิริมงคล
ด้านหลังยังมีมณฑปครอบจิตกาธาน (เมรุชั่วคราว) เป็นสถานที่ประกอบพิธีพระราชทานเพลิงสรีระสังขารของหลวงปู่อยู่กลางสระน้ำ
คณะศิษยานุศิษย์ของหลวงปู่ เห็นพ้องกันที่จะเก็บรักษาอัฐิธาตุขององค์หลวงปู่ไว้ที่จิตกาธานแห่งนี้ไม่แจกจ่ายออกไป โดยสร้างมณฑปครอบไว้เป็นธรรมานุสาวรีย์ ถาวร เราได้กราบอัฐิธาตุของหลวงปู่ในบริเวณรอบมณฑป รำลึกถึงธรรมะที่หลวงปู่ได้สั่งสอนเพื่อเตือนสติตนให้ยึดมั่นในธรรมทุกขณะลมหายใจ
เราสงบนิ่งกันอยู่ครู่ใหญ่ ที่จังหวัดร้อยเอ็ดแห่งนี้เราได้สัมผัสความงดงามของศิลปะและธรรมะควบคู่กันไปในการเดินทางครั้งนี้ ทั้ง 2 สิ่งช่วยร้อยเรียงและจรรโลงจิตใจให้สะอาดสดใส
ร้อยเอ็ดยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามและน่าค้นหาอีกมากมาย เพื่อนสาว (สวย) บอกว่าไม่พลาดที่จะพาเราไปเที่ยวอีกในครั้งหน้า พร้อมรอยยิ้มกว้างถึงใบหู
- จังหวัดร้อยเอ็ดอยู่ในแคมเปญการท่องเที่ยวเมืองรอง ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่ชวนคนไทยท่องเที่ยวเมืองรอง โดยสามารถนำค่าแพ็กเกจทัวร์จากการท่องเที่ยวชุมชน, ค่าที่พักแรม ในจังหวัดเมืองรองมาคิดเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อลดหย่อนภาษีได้ตามจริง แต่สูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท (รวม Vat) และเป็นผู้มีรายได้สุทธิต่อปีอย่างน้อย 150,001 บาท สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ตั้งแต่ 1 ม.ค. – 31 ธ.ค. 61 โดยอย่าลืมขอใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบ หรือใบเสร็จรับเงินไว้ด้วย
– สอบถามข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว และการเดินทางในจังหวัดร้อยเอ็ด
เพิ่มเติมที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานขอนแก่น (พื้นที่รับผิดชอบ ขอนแก่น ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ มหาสารคาม)
โทร. 0 4322 7714 Email : tatknkn@tat.or.th Facebook : TAT.KhonkaenOffice
– เมืองไม้บาติก ร้อยเอ็ด (Muangmai Batik Roiet, Thailand)
ที่ตั้ง : 281 ม.2 ต.นิเวศน์ อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด
โทร. 0 4356 9048, 08 1261 4800