Pulau Pinang เที่ยวปีนัง มาเลเซีย
เรื่องและรูปโดยทีมงาน Vacationist

การเดินทางไปเที่ยวเกาะปีนังในครั้งนี้ เราเดินทางด้วยเครื่องบินมาลงที่หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

จากนั้นเราสามารถนั่งรถไฟจากสถานีหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ (ลงฝั่งมาเลเซีย) สามารถเช็กเวลาได้ที่ https://www.dticket.railway.co.th/DTicketPublicWeb/home/Home ทำเรื่องผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองให้เรียบร้อยต้องใช้พาสปอร์ต (Passport) โดยลงทะเบียน เพื่อเข้าประเทศมาเลเซีย ผ่านเว็บไซต์ของรัฐบาลมาเลเซีย ได้ 3 วันล่วงหน้าที่ https://imigresen-online.imi.gov.my/mdac/main?registerMain

เมื่อผ่านด่าน ตม. เข้ามาแล้ว สามารถซื้อตั๋วรถไฟได้ที่ช่องจำหน่ายหรือซื้อที่ตู้จำหน่ายอัตโนมัติ และอย่าลืมดูตารางเวลาให้ดี เพราะเวลาของประเทศมาเลเซียให้เร็วกว่าเมืองไทย 1 ชั่วโมง

จากนั้นก็ขึ้นรถไฟ KTM Komuter จากสถานีปาดังเบซาร์ไปสถานีบัตเตอร์เวิร์ธ (Butterworth) เพื่อต่อเรือเฟอร์รี่ข้ามไปยังเกาะปีนัง

โดยเรือจะออกทุกๆ ครึ่งชั่วโมง ตั้งแต่ 09.00-21.30 น. หลังจากนั้นจะเป็นรอบ 22.30 น. และ 23.30 น. มาถึงเกาะปีนังแล้ว มาดูว่าสถานที่เที่ยวของปีนังมีอะไรน่าสนใจกันบ้าง
Penang Street Art


จะบอกว่า Street Art มีอยู่ทั่วเมือง George Town เมืองหลวงของปีนังก็ไม่ผิดนัก ส่วนมากแหล่งท่องเที่ยวในจอร์จทาวน์จะอยู่ในละแวกเดียวกัน สามารถเดินเที่ยวได้


หากเป็นสายเดินเที่ยวชมเมืองอยู่แล้ว ย่านเมืองเก่าจอร์จทาวน์ได้รับการขึ้นทะเบียนประกาศให้เป็นมรดกโลก โดยองค์การยูเนสโก ในปี พ.ศ. 2551


ในส่วนของ Street Art ถนนสายหลักของการเดินชม ได้แก่ ถนน Armenian Street เดินถ่ายรูปเช็กอินกับรูปวาดต่างๆ พร้อมชมสถาปัตยกรรมแบบชิโนโปรตุกีส เดินต่อมาที่ถนน Lebuh Armenian ช่วงเย็นๆ จะเป็นถนนคนเดินที่คึกคัก ร้านขายของร้านอาหาร นักท่องเที่ยวต่างพากันมาเดินถ่ายรูปซื้อของ

โดยเฉพาะจุดที่มีภาพวาด เนืองแน่นไปด้วยผู้คนในส่วนของภาพวาดยังมีการวางจักรยาน และมอเตอร์ไซค์ของจริงมาประดับ ให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปเสมือนได้อยู่ในรูปนั้นจริงๆ อีกด้วย
Penang Hill

ไปนั่งรถไฟ Penang Hill Funicular Railway อุโมงค์รถไฟที่ชันที่สุดในโลก ขึ้นไปยัง ปีนัง ฮิลล์ (Penang Hill) ภาษามลายูเรียกว่า บูกิต เบนดีรา (Bukit Bendera) ที่ตั้งอยู่บนความสูงกว่า 800 เมตรจากระดับน้ำทะเล หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเกาะปีนัง อากาศเย็นสบาย ปีนังฮิลล์เป็นจุดชมวิวเมืองจอร์จทาวน์ ที่สามารถมองเห็นวิวแบบพาโนรามาได้ทั้งเมือง

การเดินทาง หากมาจากตัวเมืองจอร์จทาวน์ มีรถบัสสาย 204 ค่าโดยสารประมาณ 2 ริงกิต และอีกสายคือ 201 หรือเรียกใช้บริการขนส่งผ่านแอปพลิเคชันก็ได้ (ราคาถูกกว่าที่ไทย) เมื่อมาถึงที่ด้านหน้า PenangHill ถ้ามาวันธรรมดาคนจะน้อยกว่าวันหยุด ราคาตั๋วรถรางคนละ 30 RM (ริงกิตมาเลเซีย) ถ้าใครไม่อยากรอนานจะใช้บริการช่อง Fast Lane ก็ได้ค่าตั๋วประมาณ 60 RM

ระหว่างทางก็ตื่นเต้นกับการนั่งรถรางที่มีความชันมาก ขึ้นมาแล้วสามารถเดินถ่ายรูปเช็กอินได้หลายจุดแต่จะเสียค่าบริการในทุกจุด หากใครไม่สะดวกก็สามารถถ่ายรูปวิวด้านนอกโดยทั่วไปก็ได้
Kek Lok Si Temple
วัดเก็กลกซี วัดแห่งสรวงสวรรค์ หรือที่คนไทยเรียกว่า วัดเขาเต่า เนื่องจากวัดอยู่บนเนินเขาและมีเต่าเลี้ยงอยู่ในสระน้ำเป็นจำนวนมาก ตั้งอยู่ที่อีร์อิตัม เนินเขาชื่อ “ฮีซาน”หรือเนินเขานกกระเรียน สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1893 เป็นวัดจีนพุทธ นิกายมหายาน ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เจดีย์สีขาวโดดเด่นเห็นแต่ใกล้ คือ เจดีย์สมเด็จพระรามหก (เจดีย์พระพุทธเจ้า 10,000 พระองค์)

เป็นเจดีย์ 7 ชั้น มีพระพุทธรูปสำริดและพระพุทธรูปศิลาขาวทั้งหมด 10,000 องค์ แสดงถึงความสามัคคีระหว่างนิกายมหายานและหินยาน โดยลักษณะของเจดีย์เกิดจากการผสมผสานฐานเจดีย์แบบจีน ตัวเจดีย์ตามแบบไทย ยอดเจดีย์แบบพม่า ภายในวัดยังมีรูปหล่อเจ้าแม่กวนอิมสำริดสูงถึง 30.2 เมตร นอกจากนี้ยังมีสวนหย่อม มีสระเต่าสามารถซื้อผักบุ้งเป็นอาหารให้กับเต่าได้
วัดเก็กลกซีเปิดเวลา 07.00 – 21.00 น.ไม่เสียค่าเข้า แต่หากเข้าไปในเจดีย์และใช้บริการ Sky Lift จะมีค่าใช้จ่าย
ศาลเจ้าแม่กวนอิม

ศาลเจ้าแม่กวนอิม (ศาลเจ้าแห่งแรกในปีนัง) หรือกวนยินเต้ง เป็นศาลเจ้าจีนลัทธิเต๋าที่เก่าแก่ที่สุดในปีนัง สร้างขึ้นโดยชาวจีนกวางตุ้งและฮกเกี้ยนเพื่อบูชาเจ้าแม่กวนอิมหรือพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรผู้เปี่ยมเมตตา ภายในศาลยังมีทวยเทพให้กราบไหว้อีกมากมาย เช่น เทพเจ้ากวนอู เทพเจ้าตั่วแป๊ะกง เป็นที่เคารพศรัทธาของผู้คนอย่างมาก ปัจจุบันได้มีการปรับเปลี่ยนลักษณะการใช้ประโยชน์ให้เป็นพื้นที่สาธารณะ ถือได้ว่าเป็นศาลเจ้าจีนที่ผู้เคารพศรัทธาต่างพากันมากราบไหว้อยู่ตลอด โดยเฉพาะช่วงเทศกาลตรุษจีนจะเนืองแน่นไปด้วยผู้คน
Penang Little India

มาเดินเล่นผ่านโซน Little India บ้านเรือนทาสีสันสดใส มีทั้งเสียงเพลงภาษาอินเดีย กลิ่นเครื่องเทศเครื่องหอม กลิ่นสมุนไพร

สามารถหาซื้อสินค้า วัตถุดิบอาหารอินเดีย ร้านขายเสื้อผ้าและเครื่องประดับสไตล์อินเดีย ข้าวของเครื่องใช้ ของไหว้ต่างๆ ตามความเชื่อทางศาสนา และยังมีศาสนสถานของพระแม่ศรีอารีอัมมัน หรือพระแม่ศรีอุมาที่นี่อีกด้วย

ถึงแม้จะเป็น little india แต่ก็มีทั้งวัดจีนมัสยิด และวัดแขก ในแถบนี้ และมีร้านอาหารหลากหลายนานาชาติเช่นกัน นับเป็นเสน่ห์อีกแห่งของที่นี่เลย
Chew Jetty

ท่าประมงหลักๆ ก็จะมีทั้งหมด 6 ท่าด้วยกันได้แก่ Lim Jetty, Yeoh Jetty, Mixed Jetty, Lee Jetty, Tan Jetty, Chew Jetty ในส่วนท่าประมงหรือ หมู่บ้านชาวประมง ที่นักท่องเที่ยวมามากที่สุดก็คือ Chew Jetty เป็นหมู่บ้านที่ได้รับรางวัล Unesco World Heritage Site (แหล่งมรดกโลก)

ด้านหน้าทางเข้าจะมีศาลเจ้า โดยที่บ้านในชุมชนแห่งนี้ยังคงรูปแบบเดิมไว้ เป็นบ้านไม้เก่าแก่ผสมผสานศิลปะแบบจีน

บางหลังปรับเปลี่ยนเป็นร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านขายของที่ระลึก จำหน่ายสินค้าท้องถิ่นที่นี่ยังมีภาพ Street Art หลายจุด


นักท่องเที่ยวไม่พลาดที่จะเก็บภาพเช็กอิน สุดทางเดินส่วนท้ายหมู่บ้านชาวประมงยังมีศาลเจ้าอีก 1 แห่ง และเป็นลานกว้างให้นั่งชมวิวของทะเล ลมพัดเย็นสบายสามารถเดินจากส่วนเมืองเก่ามาได้ ไม่ไกล หากไม่สะดวกก็ใช้บริการเรียกรถผ่านแอปฯ ได้

ปีนัง ประเทศมาเลเซีย ยังคงมีเสน่ห์น่ามาท่องเที่ยวอยู่เสมอ โดยเฉพาะคนไทยทางภาคใต้ มาเที่ยวกันสะดวก เห็นโรงเรียนพานักเรียนมาทัศนศึกษากันเป็นจำนวนมาก ทำให้เด็กๆ ได้เปิดประสบการณ์การเรียนรู้โลกที่ไม่ไกลจากเมืองไทย อาหารการกินก็น่าจะถูกปากคนไทยอยู่ไม่น้อย หากมีเวลาไม่กี่วัน ปีนัง กำลังดีจริงๆ