1 Day Trip with NETA V
Touchable Smart EV รถยนต์พลังงานไฟฟ้า NETA V ที่ทุกคนเข้าถึงได้ ราคาจำหน่าย 549,000 บาท*

รถไฟฟ้า 5 แสนกว่า น่าสนใจใช่ไหม วันนี้มีเวลา 1 วันไปควงคู่น้อง NETA V ขับโฉบเฉี่ยว เลี้ยวซ้ายขวา ให้เตะตาคนใช้รถใช้ถนน ในเส้นทาง กรุงเทพฯ – นครปฐม กับกิจกรรม This is me and my NETA V กัน
เราไปรับรถที่โชว์รูม NETA รามคำแหง-หัวหมาก น้องๆ ก็จอดเรียงกันรอต้อนรับพวกเราสีสรรสวยงามทุกแบบ


สีหวาน น่าทานมากเธอ
คำแรกที่ต้องเอ่ยปากบอก เมื่อได้เห็นตัวจริง ต้องบอกว่าสีสันเตะตามาก ไม่ว่าจะเป็นสีชมพู เขียว ขาว ฟ้าแม้กระทั่งสีดำ ยังดูออกแนวหวานพาสเทลไปเสียหมด เรียกว่าความประทับใจสำหรับะ NETA V รถยนต์พลังงานไฟฟ้าคันนี้คงเป็นสีที่ทำให้สะกดสายตาและความสนใจ ดึงดูดให้ผู้คนอยากรู้จักให้แวะเวียนเข้ามาหา เรียกว่า ปากประตูโชว์รูมไม่แห้งเลย


ก่อนอื่น เรามีโอกาสได้เรียนรู้ระบบต่างๆ ของรถกันก่อนเดินทาง
สำหรับ NETA V เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% สไตล์ City Car มาพร้อมแนวคิด “Touchable Smart EV” รถยนต์พลังงานไฟฟ้าอัจฉริยะ การออกแบบภายนอกที่ลงตัวตามหลักอากาศพลศาสตร์ และการออกแบบภายในที่เรียบง่ายแต่แฝงไว้ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย


โดดเด่นด้วยหน้าจอ Infotainment ระบบสัมผัส ขนาดใหญ่ 14.6 นิ้ว พร้อมระบบการเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือ รองรับการเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนทั้งระบบปฏิบัติการ Android และ iOS * ผ่าน Mobile hotspot และ สาย USB เคเบิล*
กุญแจแบบสมาร์ทคีย์พร้อมระบบ Ride & Go ให้รถพร้อมสำหรับการขับขี่ทันทีที่เปิดประตูรถ แม่เจ้า!!! จะมากดปุ่มสตาร์ท ไม่มีนะคะ หาไม่เจอ (ถ้าไม่ได้จะขับ เพียงแค่เราปิดประตูแล้วแตะที่ที่จับประตู เครื่องก็จะดับลง)

แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน (Lithium-Ion Battery) ความจุ 38.5 กิโลวัตต์ชั่วโมง ให้ระยะทางในการวิ่งสูงสุด 384 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟเต็ม (ถ้าคำนวนค่าไปที่ลิตรละ 5 บาท ตกชาร์จเต็มจ่ายที่ 200 บาทเท่านั้น เอาส่วนต่างค่าน้ำมันไปผ่อนรถได้สบายๆ เลยเธอ)


การออกแบบภายในสไตล์มินิมอล พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก
- การออกแบบภายในสไตล์ Hi-Tech Minimalist Concept
- เบาะหนังสไตล์สปอร์ตออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ Ergonomic Zero Gravity Seat
- หน้าจอกลาง Infotainment Screen แบบแนวตั้ง ระบบสัมผัสขนาดใหญ่ 14.6 นิ้ว ควบคุมการทำงานฟังก์ชันต่างๆ ได้ง่าย รองรับการเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนทั้งระบบปฏิบัติการ Android และ iOS * ผ่าน Mobile hotspot และ สาย USB เคเบิล* ให้คุณเพลิดเพลินกับความบันเทิงจากจอเล็กสู่จอใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ GPS นำทาง ฟังเพลง คุยโทรศัพท์
* แอปพลิเคชั่นบางแอปพลิเคชั่นไม่อนุญาติให้ทำการสะท้อนหน้าจอซึ่งขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแอปพลิเคชั่นนั้นๆ
* ความสามารถในการแสดงผลขึ้นอยู่กับระบบปฏิบัติการและสัญญาณ โทรศัพท์มือถือที่มีการเชื่อมต่อ

- แผงหน้าจอมาตรวัดแบบดิจิตอลขนาด 12 นิ้ว
- พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน
- ระบบปรับอากาศควบคุมผ่านหน้าจอระบบสัมผัส
- ระบบกรองอากาศ N95
- เบาะนั่งด้านหลังพับเก็บได้
- ระบบกุญแจอัจฉริยะ (Smart Key) พร้อม Ride & Go function
- ระบบเกียร์ไฟฟ้า (Electronic Shifter)
- ความจุของกระโปรงหลังรถ 335 ลิตร กรณีพับเบาะหลังจะมีความจุมากถึง 552 ลิตร
- ระบบจ่ายกระแสไฟ V2L* (Vehicle to Load) ฟังก์ชันการปล่อยไฟฟ้าสู่ภายนอก
* ฟังก์ชัน V2L มีอุปกรณ์เสริมเพิ่มเติม/ กำลังไฟฟ้าที่ปล่อยจากรถ 3,300 วัตต์

ระบบความปลอดภัยครบครัน
- ระบบดิสก์เบรกด้านหน้า / หลัง
- ถุงลมนิรภัยคู่หน้า
- ระบบป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ
- กล้องมองหลังพร้อมสัญญาณกะระยะหลัง
- ระบบควบคุมการทรงตัว
- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชันและระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน
- เบรกมือไฟฟ้า
- ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง
- ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS
- ไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่องยนต์
แค่บอกอุปกรณ์ที่ให้มาแค่นี้ก็เหนื่อยแล้วไหมอ่ะ จัดเต็มขนาดนี้

เอาเป็นว่าไปขับเลยดีกว่า เดี๋ยวจะยาวเพราะเธอเยอะจริงๆ (ฟังก์ชั่นนะ) ออกจากโชว์รูม รถติดสลับหยุดนิ่ง ในเขตเมือง ช่วงนี้ก็ทำความคุ้นชินกับอุปกรณ์กันไปก่อน คันเกียร์จะอยู่ข้างพวงมาลัยด้านขวานะจ๊ะ มีอักษรบอกกำกับ อาจจะงงในช่วงแรกๆ

หลังผ่านออกนอกเมืองเราทำความเร็วได้พอสมควรเลย มีโหมดให้เลือก 2 โหมดจากหน้าจอ มีแบบปกติ จะจำกัดความเร็วไว้ที่ 110 กม./ชม. (เหลือเฟือมากมาย) กับแบบสปอร์ต จะจำกัดความเร็วไว้ที่ไม่เกิน 124 กม./ชม. เพื่อให้เราได้ใช้แบตฯ ให้ได้ประสิทธิภาพ และไม่ทรมานแบตฯ จนเกินไปนัก ข้อดีอีกอย่างคือการ Regenerative Braking เมื่อมีการเบรก ชะลอความเร็วของรถ (รถยนต์ที่ใช้น้ำมันไม่มีคืนน้ำมันกลับเข้าถังให้นะคะเธอ)


อัตราเร่งมีสมรรถนะเพียงพอต่อการใช้งานด้วยมอเตอร์ขนาด 95 แรงม้า แรงบิด 150 นิวตัน-เมตร แค่คุณเหยียบคันเร่ง คุณก็พุ่งปรู๊ดปร๊าด ไม่ต้องรอรอบเครื่องให้เสียเวลา กว่ารถขนาดเดียวกันจออกตัวมาคุณก็เร่งไปไกลพอสมควรแล้ว พอหลุดออกนอกเมืองเราก็ลองอัตราเร่ง บอกได้ว่าฉิว เครื่องเสียงระหว่างทางที่ได้ลองอยู่ในระดับที่ดีเลย สำหรับเราคนใช้งานทั่วไป ไม่ได้หูขั้นเทพขนาดนั้น การเข้าโค้งด้วยความเร็วก็อยู่ในระดับดี เพราะด้วยความเร็วที่จำกัดมาให้ไม่มาก


จุดหมายแรก องค์พระปฐมเจดีย์และวัดพระปฐมเจดีย์
วัดพระปฐมเจดีย์ เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ที่ ตำบลพระปฐมเจดีย์ อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม
มีจุดเด่นที่สำคัญคือ พระปฐมเจดีย์ หรือ พระธมเจดีย์ ซึ่งเป็นเจดีย์ที่ใหญ่และสูงที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย
พวกเราขึ้นไปกราบไหว้พระขอพรกันเป็นสิริมงคล สังเกตุเห็นได้ว่า มีผู้คนสนใจรถ NETA V เดินเข้ามาพูดคุยและสอบถามอยากรู้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวรถกันพอสมควรเลย

เสียงท้องใครดัง ไม่ต้องทนฟังนาน พาไปอิ่มสำราญกันที่ร้านลั่งเอง ตลาดท่านา นครชัยศรี
ร้านลั่งเอง (Lang-ang) เป็นร้านอาหารไทยรสเด็ดสูตรเก่าแก่กว่า 70 ปี แม้ร้านจะเป็นคูหาเล็ก ๆ ในตลาดท่านา ต้องบอกเลยว่าของเขาอร่อยทุกอย่าง กินหมดทุกจาน มีสั่งเพิ่มอร่อยมากจริงๆ เมนูแนะนำอย่างเช่น กะเพราเนื้อปู


ไม่พอ ต้องไปต่อ เพราะแบตฯ ยังเหลือ เราไปทำกิจกรรมทำน้ำหอมกันต่อที่ร้าน Little Tree Cafe ร้านเก๋ไก๋ในร่มเงาไม้
ร้านนี้เป็น ร้านอาหารและคาเฟ่สไตล์อังกฤษ และพิเศษคือเป็นแบบออร์แกนิก ที่ให้คุณได้สัมผัสกับธรรมชาติ ท่ามกลางความสงบร่มรื่นของต้นไม้เขียวขจีที่ปกคลุมอยู่ทั่วทุกอาณาบริเวณ บนพื้นที่กว่า 4 ไร่ ริมแม่น้ำท่าจีน



ที่ร้านมีกิจกรรม work shop ให้ได้ทดลองทำกัน อย่างพวกเราครั้งนี้ก็ได้ทดลองทำน้ำหอม กันเอง ในระหว่างฟังครูผู้สอนก็จัดการสั่งเครื่องดื่มและเค้ก ของกินเล่น (แต่อิ่ม) พอทำก็เสียงดังไม่ฟังใครกัน ต่างคนต่างสนุกสนาน ได้ทดสอบสมรรถนะของรถ ได้ไหว้พระอิ่มบุญ และพุงกางที่ตลาดท่านา พร้อมได้น้ำหอมที่ทำเอง (น่าจะหอมนะ) หนุกหนานชามใหญ่กันไป


ขากลับเราขับรถกลับเข้ากรุงกันแบบ Free Run แน่นอนว่าก่อนเข้าเมืองกรุง รถยังทำความเร็วได้ ก่อนจะถึงเมืองกรุงที่รถติดอีรุงตุงนัง เพราะเป็นช่วงเวลาเลิกงานพอดี แต่ก็ไม่ต้องห่วงเพราะเราก็เพลินไปกับการทดลองระบบต่างๆ ของจอกลาง Infotainment Screen แบบแนวตั้ง ระบบสัมผัสขนาดใหญ่ 14.6 นิ้ว ไปเรื่อยๆ อีกอย่างที่ชอบนะหลังคาสูงนะ ไฟส่องแผนที่ก็เป็นระบบสัมผัสด้วยนะ ไฮโซโบว์ใหญ่ไปเลยจร้า

ถึงโชว์รูม NETA รามคำแหง-หัวหมาก พวกเราได้พูดคุยกันถึงข้อดีข้อเสียของรถ ที่ทาง NETA จะนำไปปรับปรุงแก้ไข เพื่อให้ตอบโจทย์ผู้ใช้งานให้ได้มากที่สุด ต้องบอกเลยว่าเทียบกับราคานี้ และเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% คุ้มมากเว่อร์

ราคาจำหน่าย 549,000 บาท หลังจากได้รับการสนับสนุนจากคณะกรรมการยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ จากราคาจำหน่ายปกติ 760,000 บาท