ชวนชอปรักษ์โลก กับร้านเด็ดจากเครือข่ายเศรษฐกิจฐานราก ที่ SX MARKETPLACE ในงาน SX2025″
ตื่นตาตื่นใจกับสินค้าจากภูมิปัญญาไทยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จากเครือข่ายเศรษฐกิจฐานราก ในโซน SX MARKETPLACE ในงาน Sustainability Expo 2025 (SX2025) ทั้งงานฝีมือ งานคราฟท์ ของใช้ทำมือ ที่ตอบโจทย์นักช้อปสายกรีน และแฟนพันธุ์แท้ผลิตภัณฑ์จากท้องถิ่น มาเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่า และเต็มไปด้วยความหมาย ที่จะเปลี่ยนการชอปปิ้งของคุณไปสู่ไลฟ์สไตล์ที่รักษ์โลกและยั่งยืน พร้อมทั้งสนับสนุนชุมชนท้องถิ่นให้เติบโตอย่างยั่งยืน
- ร้าน “รู้รักสามัคคี วิสาหกิจเพื่อสังคม (ประเทศไทย)” ต้นแบบการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก ที่รวบรวมผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อจากชุมชนทั้ง 4 ภาคของไทย มาไว้ในที่เดียว ไม่ว่าจะเป็น แฟชั่นผ้าไทยร่วมสมัย – เสื้อผ้ามัดย้อมสีธรรมชาติปลอดสารเคมี ผลิตจากฝ้ายทอมือ นุ่ม เบา สบาย ใส่ได้ทุกโอกาสจากจังหวัดพะเยา, งานจักสานรักษ์โลก – กระเป๋าสานจากผักตบชวา แปรรูปจากวัชพืชธรรมชาติ กลายเป็นสินค้ามีมูลค่า ใช้งานได้จริง และยังรักษ์สิ่งแวดล้อมจากชุมชนสันปูเลย จังหวัดพะเยา, อาหารทะเลและของดีชุมชนลิบงจังหวัดตรัง ทั้งอาหารทะเลสดและแห้งจากชายฝั่งไทย รวมถึงอาหารแปรรูปสุดสร้างสรรค์ เช่น ลอดช่องอบกรอบ และ บ้าบิ่นอบกรอบ จากบ้านวังส้มซ่าจังหวัดพิษณุโลกที่พัฒนาให้เก็บได้นาน แต่ยังคงรสชาติไทยแท้
- ร้าน “ผ้าขาวม้าท้องถิ่นหัตถศิลป์ไทย” ภายใต้แนวคิด “จากท้องถิ่นสู่สากล” นำเสนอผลิตภัณฑ์จาก โครงการผ้าขาวม้าท้องถิ่นหัตถศิลป์ไทย ที่เกิดจากความร่วมมือระหว่าง “ชุมชนผ้าทอมือ” กับกลุ่ม “Creative Young Designer” (CYD) ในการพัฒนาผ้าขาวม้าให้ร่วมสมัย ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ทั้งในและต่างประเทศ ภายในบูธมีการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าจากหลากหลายชุมชน โดยเน้นผ้าอัตลักษณ์ที่ผสานภูมิปัญญาท้องถิ่นเข้ากับดีไซน์สมัยใหม่ เช่น ผ้าขาวม้าดารานาคี จากจังหวัดบึงกาฬ ใช้เทคนิคหมักโคลนแม่น้ำโขง, ผ้าน้ำมอญ ผ้าฝ้ายย้อมสีธรรมชาติ 100%, ผ้า Natrada ผ้าฝ้ายทอมือคุณภาพสูง ใช้สีธรรมชาติ จากจังหวัดเชียงใหม่, ผ้าขาวม้าร้อยรักษ์ จากจังหวัดร้อยเอ็ด ใช้เทคนิคย้อมจากเปลือกไม้ คลั่ง และคราม นอกจากนี้ยังมีแบรนด์แฟชั่นร่วมสมัย เช่น แบรนด์ WorlaCha ใช้ใยบัวหลวง, แบรนด์ WIMWIPA ผ้าขาวม้าดีไซน์ใหม่ แมทช์ได้กับทุกลุค, แบรนด์ไฉไล ใช้ผ้าฝ้ายทอมือ สีสันจากวัตถุดิบท้องถิ่นและแบรนด์ภูริษา ที่พัฒนาผ้าทอให้ทันสมัยและใส่ง่าย รวมถึงแบรนด์ที่นำนวัตกรรมมาต่อยอดผ้าไทย เช่น แบรนด์ดลมณี (Dollmanee) แปรรูปผ้าเป็นกระเป๋า รองเท้า ของแต่งบ้าน และ แบรนด์ซูฮัก (Suhug) พัฒนาเป็นเสื้อผ้า แอคเซสซอรี่ และของใช้ที่ยังคงกลิ่นอายวัฒนธรรมแบบไทย ๆ
- ร้าน “สารพัดสรรพศิลป์” การรวมกลุ่มของยอดฝีมืองานคราฟต์ ที่สร้างสรรค์งานร่วมสมัยที่มีชิ้นเดียวในโลก พร้อมสัมผัสเสน่ห์ “งานคราฟต์ไทย” ที่งดงามและทรงคุณค่าในแบบที่หาที่ไหนไม่ได้ ไฮไลท์สินค้าที่ไม่ควรพลาด อาทิ เครื่องเงินแฮนด์เมด โดยดีไซน์เนอร์ที่ทำงานร่วมกับกะเหรี่ยงจังหวัดลำพูน, สารพัดงานปัก งานวาดมือ งานถัก ทั้งเสื้อผ้าและเครื่องประดับ, สารพัดจักสานจากภูมิปัญญาของชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยงและเผ่าลาหู่
- ร้าน “ชุมชนดีมีรอยยิ้ม” คัดสรรผลิตภัณฑ์จากความใส่ใจของชุมชน มาให้ผู้บริโภคได้กินดี…ใช้ดี… มีเอกลักษณ์บ่งบอกถึงที่มา อาทิ สินค้าเกษตร “ส้มโอทับทิมสยาม”ผลไม้ GI ที่ส่งตรงมาจากปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ไม่เพียงเท่านั้นยังมี ข้าวพื้นเมือง, ผัก, ผลไม้ปลอดสาร สดใหม่จากเกษตรกร รวมทั้งสินค้าแปรรูป “กล้วยหอม” GI เมืองปทุมธานีที่ถูกนำมาแปรรูปทอดกรอบ หอม อร่อยจนกินไม่หยุด และสินค้าแปรรูปอื่น ๆ สะอาด ปลอดภัย และได้มาตรฐาน เหมาะสำหรับบริโภคหรือเป็นของฝาก ปิดท้ายด้วยสินค้าหัตถกรรม เสน่ห์งานคราฟ์จากชุมชนภาคเหนือ อีสาน กลาง ใต้ ที่สะท้อนภูมิปัญญาและเอกลักษณ์ท้องถิ่นอย่างสร้างสรรค์
นอกเหนือจากร้านค้าจากเครือข่ายเศรษฐกิจฐานรากแล้ว ยังมีร้านค้าที่มีแนวคิดธุรกิจที่ไม่ใช่แค่ต้องการกำไรแต่ยัง Win กับสังคม และ Win กับสิ่งแวดล้อมด้วย ได้แก่ ร้านค้าจากผู้เข้าแข่งขัน Win Win WAR เป็นร้านค้าสุดยอดนักธุรกิจแบ่งปันของผู้เข้าแข่งขันรายการ Win Win WAR (Season 1 – Season 7) อาทิ ร้าน Siam Able Innovation จำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้าสำหรับผู้พิการ เช่น วีลแชร์ไฟฟ้าแบบพับได้, สกู๊ตเตอร์, เตียงไฟฟ้า, เครื่องยกตัวผู้ป่วยไฟฟ้า พร้อมบริการออกแบบเฉพาะบุคคลและดูแลหลังการขาย, ร้านแบรนด์ขนมสุนัข Jaikla (ใจกล้า) ใช้โปรตีนจากแมลง ตอบโจทย์สุนัขที่แพ้เนื้อสัตว์ทั่วไป อุดมด้วยสารอาหาร ย่อยง่าย และดีต่อสุขภาพลำไส้ ภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) เป็นต้น
มาร่วมอุดหนุนสินค้าชุมชน สัมผัสเสน่ห์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น พร้อมช่วยสร้างรายได้อย่างยั่งยืนให้คนไทยทั่วประเทศ ตลอดจนสนับสนุนร้านค้าจากผู้เข้าแข่งขัน Win Win WAR ในงาน SX2025: พอเพียง ยั่งยืน เพื่อโลก ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 5 ตุลาคม 2568 เวลา 10.00 – 20.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) โซน SX Marketplace ชั้น LG ฮอลล์ 7–8