Busan : Art & Culture เที่ยวชมศิลปะและสัมผัสวัฒนธรรมที่ปูซาน
บริเวณหน้าหอจัดแสดงวัฒนธรรมแฮนยอ ยองโด (Yeongdo Haenyeo Culture Exhibition Hall) ปูซาน เกาหลีใต้ แสงอาทิตย์ยามเย็น ส่งแสงประสานกับเสียงหัวเราะที่มาพร้อมกับรอยยิ้มกว้างของหญิงชราวัยเกือบ 80 ปีตรงหน้า บ่งบอกให้เห็นถึงความสุขของวิถีชีวิตของนักดำน้ำหญิง ที่เรียกว่า แฮเนียว (Haenyo) คุณยายย้ายตามคุณพ่อมาจากเชจู สู่ปูซาน ดินแดนที่ท้องฟ้ากับท้องทะเลเป็นเสมือนผืนแผ่นเดียวกัน

อุตสาหกรรมการประมงแบบแฮนยอเริ่มต้นขึ้นในปี พ.ศ. 2430 เมื่อแฮนยอจากเกาะเชจูลำแรกเดินทางมาถึงเกาะยองโด เกาะในปูซาน ในเวลานั้น ต่อมาในช่วงต้นถึงกลางทศวรรษ 1970 ชาวแฮนยอจำนวนมากจากเกาะเชจูได้ย้ายมาปูซานเพื่อทำงานของสามี และวัฒนธรรมแฮนยอก็ได้เข้ามาตั้งถิ่นฐานในยองโด

หอจัดแสดงวัฒนธรรมแห่งนี้ เป็นสถานที่เรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมแฮนยอที่เป็นเอกลักษณ์ มีพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการเรื่องราวชีวิตของแฮนยอ (นักดำน้ำหญิง) ผ่านอุปกรณ์ดำน้ำ ภาพถ่าย และวิดีโอ ให้เราเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ วิธีการดำน้ำที่เป็นเอกลักษณ์

และได้พูดคุยแฮนยอตัวจริง ฟังเรื่องราวชีวิตส่วนตัวประสบการณ์เกี่ยวกับการใช้ชีวิตใต้ท้องทะเล ที่หาได้ยากและน่าประทับใจจากแฮนยอชาวยองโดกว่า 17 คนใช้เวลา 6 ชั่วโมงทุกวัน ตั้งแต่ 8.00 น. ถึง 14.00 น. ออกค้นหาอาหารทะเลจากทะเลเพื่อนำมาเสิร์ฟทันทีอย่างที่ฉันได้สัมผัสวันนี้

และห้ามพลาดที่จะลิ้มลองอาหารทะเลสดใหม่ที่จับได้จากทะเลโดยแฮนยอ (haenyeo) ไม่ว่าจะเป็นหอยเป๋าฮื้อ ปลิงทะเล หรือหอยเม่น และอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของที่นี่คือคิมบับที่เสิร์ฟพร้อมอาหารทะเล

จากท้องทะเล เราเดินทางต่อไปยังหมู่บ้านคึมจองซานซอง (Geumjeongsanseong Village) หมู่บ้านแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันในเรื่องมัคกอลลี (Makgeolli) หรือเหล้าขาวหมักพื้นเมืองเกาหลี คึมจองซานซอง มักกอลลี ได้รับการยกย่องให้เป็น “ไวน์พื้นบ้านดั้งเดิม” เพียงหนึ่งเดียวของเกาหลี มัคกอลลีที่นี่ผลิตขึ้นโดยยึดถือวิธีการหมักแบบดั้งเดิม ซึ่งก็คือการเหยียบย่ำยีสต์ที่โรงผลิตเหล้าข้าวในหมู่บ้านกึมจองซานซอง

ในหมู่บ้านนี้ คุณจะเห็นผู้คนกำลังปั้นยีสต์เป็นแผ่นแบนๆ หมักในห้องหมักยีสต์ที่มีอุณหภูมิสูง แล้วนำไปวางไว้ในสวนภายใต้แสงแดดเพื่อระเหยความชื้นที่เหลืออยู่ เมื่อยีสต์แห้งแล้ว จะถูกเติมลงในข้าวสวยหุงสุกใหม่และน้ำสะอาดจากภูเขากึมจองซานในภาชนะขนาดใหญ่ที่มีอุณหภูมิอุ่น หลังจากนั้นคุณจะเห็นฟองอากาศจำนวนมากผุดขึ้นมาบนผิวน้ำ ยีสต์จะค่อยๆ หมักและพร้อมเสิร์ฟ

คึมจองซานซองมักกอลลี โดดเด่นด้วยรสชาติที่เข้มข้นและเป็นเอกลักษณ์ มีรสเปรี้ยวอมหวานและมีความเป็นกรดสูง ซึ่งแตกต่างจากมักกอลลีบางชนิดที่มีรสหวาน ซึ่งทำให้มีรสชาติที่เข้มข้น นุ่มนวล และเข้มข้นกว่าไวน์ข้าวชนิดอื่นๆ หากอยากลองกินคึมจองซานซองมักกอลลี ก็สามารถแวะร้านขนมได้หลายร้านในหมู่บ้านคึมจองซานซอง ซอยดงแนพาจอน และเขตดงแน เชิงเขาใกล้กับมหาวิทยาลัยแห่งชาติปูซาน ยังมีร้านอาหารท้องถิ่นอีกหลายร้าน

มาแถบภูเขาคึมจองซาน อย่าลืมแวะไปเที่ยววัดบอมอซา (Beomeosa Temple) ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งวัดที่สวยที่สุดในฤดูใบไม้ร่วง และเป็นวัดที่ใหญ่เป็นอันดับสามในย่านยองนัม รองจากวัดแฮอินซาและวัดทงโดซา วัดแห่งนี้สร้างขึ้นโดยพระภิกษุ อุ้ยซาง (Ui-sang) ในปีที่ 18 (ค.ศ. 678) ของกษัตริย์ มุนมู แห่งอาณาจักรชิลลามีอายุมากว่า 1,300 ปี

จุดน่าสนใจของวัด เริ่มจากซุ้มประตูโชกเยมุน ที่อยู่ทางเข้าด้านหน้าของวัด ทำหน้าที่เป็นประตูอิลจูมุน (Iljumun Gate) ถูกออกแบบมาให้เป็นซุ้มประตูทางเข้าเตี้ยๆทั้ง 3 ช่องทางสามารถผ่านได้เฉพาะเมื่อก้มตัวลง ซึ่งเน้นย้ำถึงความอ่อนน้อมถ่อมตน
วิหารแทอุงจอน ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติของชาติเกาหลีลำดับที่ 434 มีลักษณะสง่างามแต่แข็งแกร่ง ไม้ที่ประกอบเป็นชายคาถูกแกะสลักเป็นรูปทรงกลม ชวนให้นึกถึงความงดงามแบบดั้งเดิมอันเหนือระดับ บันไดของแท่นบูชามีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยลวดลายของยุคซิลลาและสถาปัตยกรรมสมัยโชซอนตอนปลาย ภายในพระวิหารแทอุงจอนนั้นงดงามตระการตา พระพุทธรูปไม้สามองค์ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นสมบัติของชาติมีพระพุทธรูปไม้ 3 องค์ซึ่งได้รับการกำหนดให้เป็นสมบัติของชาติเกาหลีหมายเลข 1526 นั้นได้ต้อนรับผู้มาเยือนด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตรมาอย่างยาวนาน

ภายในวัดยังมีพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราว ความเป็นมาของวัด หอระฆัง โรงทาน นอกจากคนเกาหลี ที่ชอบมาปฏิบัติธรรมแล้ว ชาวต่างชาติ ก็นิยมมากราบใหว้ และยังชอบที่จะมาปฏิบัติธรรมที่วัด ในรูปแบบ Temple stay อีกด้วย โดยสามารถสมัครได้ที่เว็บไซต์ www.templestay.com และสายมูที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องเกี่ยวกับการสอบเข้ามหาวิทยาลัย สอบเลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่ง หรือเกี่ยวกับการเรียน ความก้าวหน้าในหน้าที่การงานมาขอพรกันได้

ออกจากวัด ฉันเดินทางไปยังศูนย์ภาพยนตร์ปูซาน (Busan Cinema Center) หรือที่เรียกว่า Dureraum (두레라움; แปลว่า เพลิดเพลินกับการชมภาพยนตร์ร่วมกัน)ศูนย์รวมทางวัฒนธรรมที่ครบครันและเป็นสถานที่จัดงานอย่างเป็นทางการของเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติปูซาน (Busan International Film Festival, BIFF) ประกอบไปด้วยอาคาร 3 อาคารได้แก่ Cine Mountain, Biff Hill และ Double Cone, โรงละคร Biff (โรงละครกลางแจ้ง) ที่มีหลังคาเล็ก และจัตุรัส Dureraum ที่มีหลังคาใหญ่ ซึ่งที่นี่เป็นที่แรกในโลกที่มีการนำเอาโรงภาพยนตร์และโรงละครมารวมไว้ในอาคารเดียวกัน
Cine Mountain หรืออาคารหลักของศูนย์ภาพยนตร์ปูซานในมุมมองทางด้านสถาปัตกรรมนั้น ได้ใช้แนวคิด deconstructivism เพื่อแสดงให้เห็น formative ของอาคารที่ต้องการนำเสนอ นั่นก็คือสายน้ำและภูเขา

หลังคาใหญ่เป็นหลังคายื่นที่ยาวที่สุดใหญ่กว่าสนามฟุตบอลเกือบ 3 เท่าตัว อาคารนี้ได้รับรางวัลสถาปัตยกรรมนานาชาติและงาน Chicago Athenaeum ในปี พ.ศ. 2550 และในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2556 ได้รับการรับรองโดย Guinness World Records ในฐานะอาคารหลังคายื่นที่ยาวที่สุด ติดตั้งด้วยหลอดไฟ LED 4 หมื่นกว่าดวงเพื่อเน้นขับรูปแบบของอาคารให้เด่นมากยิ่งขึ้นในตอนกลางคืน

ที่นี่มีกิจกรรมและการแสดงต่างๆ มากมายตลอดทั้งปีศูนย์แห่งนี้ออกแบบโดยบริษัทออกแบบสถาปัตยกรรม Coop Himmelb(l)au ของออสเตรีย และก่อสร้างโดย Hanjin Heavy Industries

เป็นอีกหนึ่งครึ่งที่ฉันแวะมาที่ Arte Museum Busan สถานที่จัดแสดงนิทรรศการศิลปะดิจิทัลแบบ immersive ภายใต้ธีม “ETERNAL NATURE” Arte Museum มีแค่ 8 ที่ในโลกรวมที่เกาหลีได้แก่ที่ Las Vegas USA. ,Chengdu China ,Hong Kong , Dubai Arab Emirates ในเกาหลี มี 3 ที่ ได้แก่ คังนึง (Gangneung)ยอซู(Yeosu) และที่ปูซาน (Busan) แห่งนี้ เพิ่งเปิดเมื่อวันที่ 20 กรฏาคม 2024

พิพิธภัณฑ์แห่งนี้โดดเด่นด้วยผลงานศิลปะที่ผสมผสานธรรมชาติและมรดกทางวัฒนธรรมของแต่ละภูมิภาค มีความโดดเด่นเป็นพิเศษ ด้วยผลงานศิลปะสื่อ 16 ชิ้น จากทั้งหมด 19 ชิ้น ที่สร้างสรรค์ขึ้นใหม่โดยเฉพาะสำหรับปูซาน

นิทรรศการแรกที่คุณจะได้พบเมื่อก้าวเข้าสู่พิพิธภัณฑ์คือ CIRCLE เป็นภาพวงกลมทรายสีทองเรืองแสง มีลำแสงที่ทำให้คุณรู้สึกราวกับกำลังถูกดึงเข้าไปในวงกลม นอกจากนั้นยิ่งมีธีมนิทรรศการที่เล่นกับธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นสายน้ำ อย่าง WATERFALL INFINITE ภาพสายน้ำตกที่ไหลลงมาจากความสูง 7 เมตร แผ่ขยายอย่างไม่มีที่สิ้นสุดและงดงามตระการตาโอบล้อมคุณทั้งแปดด้านของห้อง STARRY BEACH ห้องที่ให้ความรู้สึกเหมือนโอบล้อมด้วยมหาสมุทร มีเสียงคลื่น และน้ำทะเล

TORNADO ที่ที่คุณไปยืนอยู่ภายในพายุหมุน นอกจากนี้ยังมีงานศิลปะสื่อสีสันสดใสอื่นๆ ในธีมดอกไม้ ป่า และดวงจันทร์ ที่จะมาสร้างความสุขให้กับประสาทสัมผัสของคุณ พร้อมนิทรรศการพิเศษแบบอินเทอร์แอคทีฟชื่อ “LIVE SKETCHBOOK” ที่คุณสามารถอัปโหลดภาพวาดของคุณเองขึ้นบนหน้าจอ และรับชมผลงานที่มีชีวิตชีวาบนจอขนาดใหญ่ นับเป็นประสบการณ์ที่สนุกสนาน

เรียกได้ว่าเป็นการสัมผัสวัฒนธรรมและศิลปะที่ทำให้เรารู้ว่า ปูซานไม่ได้มีดีแค่ทะเลเท่านั้น ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายให้คุณได้สัมผัส




