Winter in Lofoten

Story & Photo by Kanjana Hongthong

Lofoten 143613

เรื่องเดียวที่ต้องเตรียมตัว เมื่อรู้ว่าจะต้องเหาะเหินเดินอากาศไปหาหมู่เกาะโลโฟเท็น (Lofoten) แห่งนอร์เวย์ (Norway) ในช่วงฤดูหนาว คือหาทางรับมือกับอากาศหนาวในระดับที่ไม่ปกติ เพราะประเทศที่คุณภาพชีวิตเลอเลิศอย่างนอร์เวย์ ไม่ต้องกลัวเรื่องลักวิ่งชิงปล้น โจรขโมยน่าจะหายากกว่าคนขายเสื้อกันหนาว ความปลอดภัยจึงหาง่ายพอๆ กับอากาศหนาว

Lofoten 183121

ก็ไม่เลวร้ายนักหรอก สำหรับอุณหภูมิติดลบ 5-10 องศาฯ แต่ที่น่ากลัวกว่าคงจะเป็นพวกกระแสลม เพราะเมื่อพลังแห่งความหนาวรวมตัวมาเป็นแพ็กเกจเดียวกับลมที่พัดกระพืออย่างรุนแรง นั่นแหละหายนะแห่งความหนาว ที่พร้อมจะกรีดเฉือนเลือดเนื้อมนุษย์ที่อยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตรมานักต่อนัก

Lofoten 225507

จะไปโลโฟเท็นจากบางกอกต้องบินไปตั้งหลักกันที่ออสโลก่อน แต่แค่จังหวะที่เครื่องบินกำลังจะร่อนลงทาบสนามบินแห่งออสโล ใจก็ชิงแป้วซะแล้ว “ขาวโพลน” ใช้คำนี้น่าจะถูก มองจากเรือบินลงไปที่พื้นดิน หิมะขาวโพลนไปหมด ออสโลยังขนาดนี้แล้วโลโฟเท็นจะขนาดไหนกันละเนี่ย

Lofoten 151319

เที่ยวนี้ฉันใช้ออสโลเป็นแค่ทางผ่าน เพราะจากออสโลไม่ได้ทันแวะ แต่บินต่อไปหาเมืองบูดา (Bodo) เมืองหน้าด่านของการไปหาเกาะโลโฟเท็น เพราะเมื่อบินถึงบูดาแล้ว นักเดินทางมี 2 ทางเลือก คือบางคนอาจจะบินจากบูดาต่อไปหาเกาะโลโฟเท็น ซึ่งใช้เวลาแค่ 20 นาทีเท่านั้น แต่สำหรับบางคนที่อยากประหยัดเงินมากกว่าเวลา ก็มีเรือเฟอร์รีให้นั่งจากบูดาไปขึ้นที่เกาะโลโฟเท็น ซึ่งจะใช้เวลาราว 3-4 ชั่วโมง

Lofoten 132618

ที่จริงฉันก็อยากจะประหยัดเงินเหมือนกัน แต่ได้ยินมาว่า เกาะโลโฟเท็นเวลาที่เครื่องบินจะหย่อนตัวลงทาบบนเกาะนั้น สวยราวกับสรวงสวรรค์ เพราะเหตุนี้จึงเลือกบิน เมื่อบินก็ต้องวางแผนให้ดีเชียว เพราะอุตส่าห์ยอมจ่ายซะแพง ถ้าไม่นั่งให้ถูกที่ ถูกเวลา ไปนั่งด้านผิดแถมติดปีกเครื่องบิน ก็เท่ากับเสียเงินเปล่า

Lofoten 132645

ทริกมีอยู่ว่า ให้เลือกนั่งฝั่งขวาของเครื่อง และต้องไม่อยู่ตรงส่วนของปีก ปัญหาอยู่ที่ว่าเครื่องบินที่บินจากบูดาไปเกาะโลโฟเท็นนั้น ไม่มีการระบุที่นั่ง ผู้โดยสารในเครื่องบินลำเล็กราว 40 คนต้องเล่นเก้าอี้ดนตรีชิงที่นั่งที่ดีที่สุดกันเอง แน่นอนว่าเมื่อวางแผนมาดีขนาดนี้ ย่อมไม่มีพลาด แสงสวยๆ เหนือดินแดนแห่งเทือกเขาหิมะอย่างโลโฟเท็น เสียงชัตเตอร์ก็ดังกันระงมไปหมด

Lofoten 162518

ฉันมาถึงโลโฟเท็นในยามโพล้เพล้ แต่บูธรับรถของรถเช่ายังเปิดรอนักท่องเที่ยวอยู่ พูดก็พูดเถอะ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนโลโฟเท็นเกือบร้อยทั้งร้อย คือเช่ารถเที่ยวกันทั้งนั้น เพราะสำหรับเกาะนี้ ถ้าไม่เช่ารถขับตระเวนไปมุมต่างๆ ก็ยากที่จะสำรวจเกาะได้ทั่ว เพราะตัวเกาะนั้นถึงแม้ไม่ใหญ่มาก แต่รถเมล์ก็ยังไม่เยอะพอที่จะนำไปตามจุดต่างๆ ได้

Lofoten 160410

ทางที่ดี ก่อนไปก็ทำใบขับขี่สากลให้พร้อม และคนขับต้องเตรียมบัตรเครดิตไปด้วย ข้อสำคัญศึกษากฎกติกามารยาทในการขับขี่ให้ดี เพราะที่นี่ถนนค่อนข้างแคบและลื่น และเขากำหนดความเร็วบนไฮเวย์ไม่ให้เกิน 50-60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

Lofoten 044821

คืนแรก เราขับรถจากสนามบินเลคเนส (Leknes) ไปหมู่บ้านไรเน (Reine) ใช้เวลาราวๆ ชั่วโมงเศษ ก็มาถึงที่ Reine Rorbuer ที่พักที่พูดเลยว่า ใครมาโลโฟเท็น เชียร์ขาดใจให้มาพักที่นี่ เพราะตอนมาถึงไม่เห็นอะไรเท่าไร

Lofoten 133627

แต่ตอนเช้านี่สิ แค่แหวกม่านหน้าต่างก็พบว่า นี่คือที่พักที่ปรนเปรอวิวทิวทัศน์ให้แขกเหรื่ออย่างไม่กั๊ก

Lofoten 152648

หน้าบ้านเป็นท่าเรือมีแบ็กกราวนด์เป็นเทือกเขาหิมะที่งดงามจับใจพอสายๆ ฉันออกไปเดินเล่นในหมู่บ้านไรเน ก็พบว่านี่คือหมู่บ้านชาวประมงที่ทุกวันนี้ บางบ้านก็ยังทำประมงกันอยู่ ดูได้จากราวตากปลาคอดที่ยังอยู่กลางหมู่บ้าน และเรือประมงที่ยังคงออกหาปลาทุกวัน

Lofoten 170748

ส่วนที่พักที่ฉันพักอยู่นั้นมีคำลงท้ายว่าโรบูเอร์ นั่นหมายถึงที่นี่เคยเป็นบ้านพักของชาวประมงมาก่อน แต่ทุกวันนี้ถูกแปรสภาพให้เป็นโรงแรมเพื่อรับนักท่องเที่ยว บ้านชาวประมงส่วนใหญ่จะเป็นบ้านไม้สีแดง ด้านในมีเตาผิง และอุปกรณ์สำหรับทำครัวอย่างครบครัน

Lofoten 172618

ที่จริงฉันพบว่า การพักที่หมู่บ้านไรเนเป็นการตัดสินใจที่ถูกมาก เพราะใช้ที่นี่เป็นเซ็นเตอร์ในการพัก แล้วขับรถไปยังหมู่บ้านอื่นๆ ก็ไม่ไกลมากนัก อย่างเช่นที่หมู่บ้านฮัมนอย (Hamnoy) ก็ถือว่าเป็นอีกไฮไลต์หนึ่งของการมาเกาะโลโฟเท็น หมู่บ้านชาวประมงฮัมนอยอยู่ห่างจากหมู่บ้านไรเนราวๆ 15 นาที

Lofoten 154149

ฮัมนอยเป็นหมู่บ้านชาวประมงที่เก่าแก่และยังทำประมงกันจนถึงทุกวันนี้ แม้ทุกวันนี้บ้านพักหลายแห่งจะถูกดัดแปลงรับนักท่องเที่ยว แต่ในเวิ้งอ่าวของฮัมนอย เรายังเห็นเรือของชาวประมงจอดทอดสมออยู่ทุกเมื่อเชื่อวันบริเวณหมู่บ้านฮัมนอยและหมู่บ้านใกล้ๆ ก็น่าแวะไปหมด เรียกว่า สวยทุกพิกัด และถ้ามีจุดจอดรถก็สามารถจอดรถถ่ายรูปได้ตลอดทางเหมือนกัน

Lofoten 161326

อีกหมู่บ้านที่อยู่ระหว่างฮัมนอยกับไรเน คือหมู่บ้านซาคริซอย (Sakrisoy) นี่คือหมู่บ้านชาวประมงที่ตากปลาคอดกันอย่างจริงจังมาก เราจะเห็นราวตากปลาคอดทำไว้ทั่วไปหมด และที่น่าแปลกคือ บ้านของชาวประมงบนเกาะโลโฟเท็น ก็ไม่ใช่สีแดงเสมอไป

Lofoten 172331

อย่างที่หมู่บ้านนี้ก็เป็นสีเหลือง และที่หมู่บ้านนี้ ก็มีบ้านพักที่ดัดแปลงจากบ้านชาวประมงมาเป็นที่พักเช่นเดียวกัน ใครอยากซื้อผลิตภัณฑ์จากพวกปลาคอดตากแห้ง ที่หมู่บ้านนี้มีซูเปอร์มาร์เก็ตที่ขายปลาแห้งด้วยเช่นกัน

Lofoten 174623

ความจริงถ้าขับรถเลยจากนี้ขึ้นไปอีกเรื่อยๆ จะพบว่า ที่เกาะโลโฟเท็นนั้น มีชายหาดหลายแห่งที่น่าแวะ ในฤดูหนาวแบบนี้ ชายหาดทั้งหาดเป็นสีขาวหมดเลย ไม่ใช่เพราะทรายขาว แต่ทั้งหาดถูกคลุมไว้ด้วยหิมะต่างหาก

Lofoten 192722

เห็นโลโฟเท็นในฤดูหนาวแล้วต้องบอกเลยว่า อยากเห็นโลโฟเท็นในช่วงซัมเมอร์เหลือเกิน ยามไร้ลมหนาวเคล้าหิมะ ที่นี่คงเบิกบานสว่างไสว ขอให้มีวันนั้นเถอะ

Lofoten 144232

– จากกรุงเทพฯ บินไปตั้งหลักที่ออสโล มีเที่ยวบินไปออสโลทุกวัน แวะเปลี่ยนเครื่องที่อิสตันบูล
– จากออสโลมีเที่ยวบินบินตรงไปเกาะโลโฟเท็นเลย แต่ใครจะแวะไปเปลี่ยนเครื่องที่บูดาก็ได้
– ทั่วทั้งเกาะโลโฟเท็นมีหมู่บ้านที่มีที่พักให้แวะพักเยอะพอสมควร คลิกไปสำรวจได้ที่เว็บไซต์จองที่พักอย่างบุ๊กกิ้งที่ www.booking.com/ มีที่พักให้เลือกหลากหลายแบบ และสามารถเปลี่ยนแปลงการจองได้ด้วยตัวเอง
– จะเที่ยวโลโฟเท็นสะดวกสุดคือเช่ารถขับ

Share This Post:Share on Facebook0Share on Google+0Tweet about this on TwitterShare on LinkedIn0