มหัศจรรย์ อุบลราชธานี

Story & Photo by Editorial Staff

อุบลเมืองดอกบัวงาม แม่น้ำสองสี มีปลาแซ่บหลาย หาดทรายแก่งหิน ถิ่นไทยนักปราชญ์ ทวยราษฎร์ใฝ่ธรรม งามล้ำเทียนพรรษา ผาแต้มก่อนประวัติศาสตร์ ฉลาดภูมิปัญญาท้องถิ่น ดินแดนอนุสาวรีย์คนดีศรีอุบล (คำขวัญจังหวัดอุบลราชธานี)

จากกรุงเทพฯ เป็นระยะทาง 629 กิโลเมตร ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ที่ตั้งของจังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดที่มีพื้นที่ราบสูงและภูเขาสลับซับซ้อนมากมาย มีแม่น้ำมูลไหลผ่านตอนกลางของพื้นที่ ด้วยขนาดพื้นที่มากกว่า 15,744 ตารางกิโลเมตร ซึ่งถือได้ว่าเป็นจังหวัดที่ใหญ่จังหวัดหนึ่งและมีหน้าผาหินทรายบริเวณชายฝั่งแม่น้ำโขงอันเป็นเส้นกั้นพรมแดนระหว่างประเทศไทยและลาว มีสถานที่ท่องเที่ยวทั้งทางธรรมชาติ วัฒนธรรมมากมายให้นักท่องเที่ยวได้ไปเยือนกันได้ตลอดทั้งปี ส่วนจะมีที่ไหนบ้าง ไปดูกัน

อุบลเมืองดอกบัวงาม แม่น้ำสองสี มีปลาแซ่บหลาย หาดทรายแก่งหิน
ดอกบัวนอกจากจะเป็นดอกไม้ประจำจังหวัดแล้ว ที่อุบลราชธานีก็ยังมีสถานที่ชมดอกบัวมากมาย อย่างเช่นใกล้ตัวเมืองหน่อยก็ที่ทุ่งศรีเมือง หรือชื่อเดิม คือนาทุ่งศรีเมือง สถานที่ทำนาของเจ้าเมืองอุบลราชธานี ปัจจุบันปรับเปลี่ยนเป็นสวนสาธารณะสำหรับชาวเมืองได้มาพักผ่อนกัน หรือที่ทุ่งนาบัว ของอำเภอวารินชำราบ แม้บัวที่เห็นจะเป็นบัวหลวง ไม่ใช่บัวสายซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดอุบลราชธานีแต่ก็สวยงามเป็นอย่างมาก

เช่นเดียวกันกับภาพของแม่น้ำสองสี ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติของแม่น้ำโขงที่มีน้ำเป็นสีขุ่นๆ คล้ายสีปูน กับแม่น้ำมูลที่เป็นสีครามไหลมาบรรจบกันบริเวณ ดอนด่านปากแม่น้ำมูล บ้านเวินบึก ตำบลโขงเจียม อำเภอโขงเจียม จุดที่แม่น้ำทั้งสองสายที่ไหลมาบรรจบกันเป็นสองสีอย่างชัดเจน จนชาวบ้านเรียกว่า “โขงสีปูน มูลสีคราม” เราสามารถชมแม่น้ำสองสีได้สองจุดใหญ่ๆ คือ ลานริมตลิ่งหน้าวัดโขงเจียม และที่หมู่บ้านห้วยหมาก ซึ่งบริเวณดังกล่าวจะมีบริการนั่งเรือไปชมแม่น้ำสองสีได้แบบใกล้ชิด ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5-10 นาทีเท่านั้น ผู้ให้บริการบางราย มีกิจกรรมข้ามฝั่งไปชมตลาดขายของที่ระลึกฝั่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว หรือมีบริการพาไปรับประทานร้านอาหารที่ได้วัตถุดิบจากปลาสดๆ ที่ได้จากลุ่มแม่น้ำนี้อีกด้วย เพราะนอกจากแม่น้ำมูลที่ไหลผ่านกลางแล้วยังมีแม่น้ำชี และแม่น้ำโขงที่หล่อเลี้ยงจังหวัดอุบลราชธานีอยู่ ทำให้กลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาชั้นเยี่ยม เป็นแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์สำหรับชาวจังหวัดอุบลราชธานี นักท่องเที่ยวรวมทั้งเพื่อนบ้านเรือนเคียงอย่างเช่น สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวอีกด้วย

ดังนั้นหากมาอุบลราชธานี ก็ไม่ควรพลาดปลาน้ำจืดรสชาติดีจากแหล่งผลิตที่ดีเช่นนี้ นอกจากนี้ยังมีเกาะแก่ง และหาดทรายที่เป็นความสวยงามตามธรรมชาติ อย่างเช่น หาดทรายวัดใต้ แก่งตะนะ อ.โขงเจียม แก่งสะพือ ที่ อ.พิบูลมังสาหาร ในลำน้ำมูล สามพันโบก ที่ อ.โพธิ์ไทร สถานที่ท่องเที่ยวที่หลายคนรู้จักกันเป็นอย่างดี

สามพันโบก ก็ถือได้ว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติแห่งหนึ่งที่น่าสนใจของจังหวัด สามพันโบกเป็นแก่งหินที่อยู่ภายใต้ลำน้ำโขง เมื่อฤดูน้ำหลากไหลผ่านจนเกิดการกัดเซาะกลายเป็นแอ่งน้ำมากมายกว่า 3,000 แอ่ง ซึ่งแอ่งในภาษาอีสานหรือคนลาวเรียกว่า โบก ดังนั้นคำว่า สามพันโบก ก็คือ สามพันแอ่ง (น้ำ) นั่นเอง

โดยแอ่งเหล่านี้จะปรากฏขึ้นมาให้เห็นในช่วงฤดูแล้งที่น้ำแห้ง ระหว่างปลายเดือนพฤศจิกายน-ต้นเดือนพฤษภาคมของทุกปี ต่อมาเมื่อมีการประชาสัมพันธ์ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ผ่านชุดโฆษณา “เที่ยวไทยครึกครื้น เศรษฐกิจไทย คึกคัก” ที่มีเบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์ พรีเซนเตอร์แคมเปญออกอากาศ ภาพฉากจบที่พี่เบิร์ดยืนอยู่บนแอ่งหินต่างๆ ส่งผลให้สามพันโบกแห่งนี้กลายเป็นที่เที่ยวยอดฮิตภายในพริบตา

จุดสำหรับแวะเที่ยวยอดฮิตสำหรับสามพันโบกก็อย่างเช่น โบกรูปต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปหัวใจ รูปดาว รูปมิกกี้เม้าส์ หรือสระโบกขนาดใหญ่ที่น้ำสีราวมรกต จนเรียกว่าสระมรกต เนื่องจากเป็นลานหินกว้าง การมาเที่ยวที่นี่ควรมา ช่วง 06.00 – 09.00 น. และ 15.00 – 17.30 น. ที่แดดร่มลมตกหน่อยจะเป็นการดี

ถิ่นไทยนักปราชญ์ ทวยราษฎร์ใฝ่ธรรม งามล้ำเทียนพรรษา ผาแต้ม ก่อนประวัติศาสตร์
เมืองอุบลราชธานี ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยนักปราชญ์ทั้งทางธรรมและทางโลก ยกตัวอย่างเช่น พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต และพระอาจารย์ชา สุภัทโท ต่างมีนิวาสสถานเดิมอยู่ใน จ.อุบลราชธานี หรือครูเพลงอย่าง ครูสลา คุณวุฒิ ที่ได้รับรางวัลพระพิฆเนศทองคำ สาขาผู้ประพันธ์เพลงยอดเยี่ยม ผู้ซึ่งประพันธ์เพลงที่คุ้นหูอย่าง กระทงหลงทาง ของไชยา มิตรชัย ยาใจคนจน ของไมค์ ภิรมย์พร ดอกหญ้าในป่าปูน ของต่าย อรทัย เป็นต้น หรือหมอลำอย่างหมอลำคูณ และหมอลำจอมศรี ครูเพลง หมอลำที่ได้รับการบันทึกแผ่นเสียงในช่วงหลังสงครามโลก ครั้งที่ 2 หมอลำฉวีวรรณ พันธุ ศิลปินแห่งชาติปี 2536

หรือศิลปินช่างเทียนผู้ทำให้งานประเพณีแห่เทียนพรรษาเป็นที่รู้จักอย่าง อุส่าห์ จันทรวิจิตร และ ประดับ ก้อนแก้ว ซึ่งงานแห่เทียนพรรษาของจังหวัดอุบลราชธานี เรียกได้ว่าเป็นงานบุญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของจังหวัดซึ่งจัดเป็นประจำทุกปีในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 วันอาสาฬหบูชา และแรม 1 ค่ำ เดือน 8 หรือวันเข้าพรรษา

เป็นงานประเพณีที่แสดงถึงความศรัทธาที่มีต่อพุทธศาสนา และความงดงามประณีตของงานหัตถศิลป์และวิถีชีวิตของคนอุบลราชธานี นอกจากความศรัทธาที่ผ่านงานประเพณีที่เลื่องชื่อแล้ว ภาพของความสวยงามของต้นโพธิ์เรืองแสงด้านหลังอุโบสถวัดสิรินธรวรารามภูพร้าว หรือนิยมเรียกว่า วัดเรืองแสง

ซึ่งตั้งอยู่ที่ อำเภอสิรินธร ก็แสดงให้เห็นถึงความประณีตศิลป์ และความศรัทธาใน พุทธศาสนาที่รวมกันได้อย่างลงตัว

มาอุบลราชธานี สถานที่อีกหนึ่งแห่งที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่งคือ อุทยานแห่งชาติผาแต้ม ที่สร้างความมหัศจรรย์ใจให้กับผู้ที่ได้พบเห็น

เมื่อได้ไปชมคุณจะรู้สึกว่ามนุษย์เราเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติอย่างแท้จริงยามที่ยืนอยู่ต่อหน้า

ภาพเขียนสีบนผนังผาแต้มมีมาตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ ผ่านช่วงเวลามาไม่น้อยกว่า 3,000 ปี ผ่านร้อนหนาวฝนมา

ซึ่งนักโบราณคดีสันนิษฐานว่า เป็นภาพวาดของมนุษย์ สมัยก่อนประวัติศาสตร์ซึ่งเป็นสังคมเกษตรกรรม

อาจจะเลือกผาแต้มแห่งนี้เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ก็เป็นได้ และอย่าลืมไปชมพระอาทิตย์ขึ้นก่อนใครที่ผาชะนะได ฉลาดภูมิปัญญาท้องถิ่น ดินแดนอนุสาวรีย์ คนดีศรีอุบล 2 วรรคสุดท้ายนี้ได้มีการเพิ่มเติมขึ้นมาในปี พ.ศ. 2557 โดยภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีชื่อเสียงคือ งานด้านหัตถกรรมที่มีมาช้านานในการทอผ้าพื้นเมืองอุบล หมอนขิด ผ้าขาวม้า ตลอดจนเครื่องจักสาน เช่น กระด้ง กระติ๊บข้าว ข้องใส่ปลา ตะกร้า เป็นต้น แม้กระทั่งเครื่องทองเหลืองของชุมชนบ้านปะอาว บ้านปะอาว เป็นหมู่บ้านที่เก่าแก่มากแห่งหนึ่งของจังหวัด และจากคุณงามความดีของชาวอุบลราชธานี สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ช่วยเหลือเชลยศึกจากกลุ่มประเทศฝ่ายสัมพันธมิตร ความมีน้ำใจในครั้งนั้น นำมาสู่การสร้างอนุสาวรีย์แห่งความดีที่ทุ่งศรีเมือง แสดงให้เห็นว่าที่นี่เป็นดินแดนอนุสาวรีย์คนดีศรีอุบล

จริงๆ แล้วจังหวัดอุบลราชธานียังมีของดีและความมหัศจรรย์อีกมากมายนอกจากคำขวัญ อยากเชิญชวนให้หลายคนเดินทางไปค้นหา วันพักร้อนครั้งต่อไป ปลายทางอย่างอุบลราชธานีไม่ทำให้คุณผิดหวังอย่างแน่นอน