ฟาร์มโทมิตะ (Tomita Farm)

Story & Photo by Orawan

ฟาร์มโทมิตะตั้งอยู่ในเมืองฟูราโน่ (Furano) ของฮอกไกโด (Hokkaido) เป็นฟาร์มที่มีชื่อเสียงมาก โดยเฉพาะทุ่งลาเวนเดอร์ ที่นี่เป็นหนึ่งในฟาร์มลาเวนเดอร์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น

ภายในฟาร์มจะมีรถแทรกเตอร์ ชื่อ รถบัสลาเวนเดอร์ (Lavender Bus) วิ่งผ่านทุ่งลาเวนเดอร์ทิศตะวันออกและมีค่าใช้จ่ายเพียงเล็กน้อยอยู่ที่ 200 เยนเท่านั้น ใช้เวลาเดินทางไปมาระหว่างสวยประมาณ 15-20 นาที คุณสามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ทุ่งลาเวนเดอร์ ภูเขาโทคาจิ และพื้นที่ภูเขาของยุบะริ (Yubari) โดยมีบริการให้ข้อมมูล ถึง 4 ภาษา คือ ญี่ปุ่น อังกฤษ จีน และเกาหลี

นอกจากทุ่งลาเวนเดอร์แล้วยังมีดอกไม้อีกหลากหลายชนิด ภายในฟาร์มมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย มีแกลลอรี่แสดงภาพดอกไม้ในฟาร์มทั้ง 4 ฤดู พิพิธภัณฑ์ บ้านกลั่นซึ่งเป็นที่สำหรับสกัดน้ำมันหอมระเหยของลาเวนเดอร์ ร้านขายของที่ระลึกและร้านกาแฟ

เราสามารถเข้าชมสวนได้ฟรี ทุ่งลาเวนเดอร์จะเปิดให้เข้าชมในช่วงปลายเดือนเมษายนไปจนถึงกลางเดือนสิงหาคม และดอกลาเวนเดอร์บานเต็มที่ตลอดเดือนกรกฏาคมซึ่งเป็นช่วงฤดูร้อนจะมีผู้คนมากมายเดินทางมาที่สวยแห่งนี้ ร้านขายของที่ระลึกของฟาร์มและร้านกาแฟเปิดประมาณ 8.30 -17.00 น. (ช่วงฤดูหนาวจะปิดเร็วกว่านี้ประมาณ 30 นาที) แต่ร้านค้าบางส่วนอาจจะปิดทำการในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนเมษายน

ประวัติ
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นราวๆ ปี ค.ศ. 1903 เมื่อ โทคุมะ โทมิตะ (Tokuma Tomita) ซึ่งเป็นปู่ของ ทาดาโอะ โทมิตะ เจ้าของฟาร์มโทมิตะคนปัจจุบัน เดินทางจากจังหวัดฟุคุอิเพื่อมาลงหลักปักฐานในแถบนาคะฟูราโน่ เขาเริ่มต้นบุกเบิกพื้นที่แถบนี้ด้วยการปรับปรุงสภาพพื้นดินเพื่อให้พร้อมสำหรับการทำเกษตรกรรม ด้วยการลองผิดลองถูกกับพืชผลมากมายกว่าที่จะได้เริ่มต้นปลูกลาเวนเดอร์จริงๆ ก็ประมาณปี ค.ศ. 1958 โดยคนรุ่นหลานอย่าง ทาดาโอะ โทมิตะ เริ่มปลูกลาเวนเดอร์โดยมีสมาชิกในครอบครัวคอยช่วยเหลือ โดยหวังที่จะสร้างฟาร์มให้เป็นแหล่งวัตถุดิบสำคัญ ในการผลิตน้ำหอมกลิ่นลาเวนเดอร์เพื่อออกวางจำหน่าย ซึ่งดูเหมือนตลาดน้ำหอมกำลังไปได้ดีในเวลานั้น

ทว่ายังไม่ทันได้ทำน้ำหอมของตัวเองออกจำหน่าย อุตสาหกรรมการผลิตน้ำหอมในญี่ปุ่นดูเหมือนจะซบเซาลงในช่วงเวลาต่อมา อันเนื่องมาจากการนำเข้าน้ำหอมราคาถูกจากต่างประเทศเป็นจำนวนมาก ประกอบกับมีการนำสารสังเคราะห์มาใช้แทนการผลิตน้ำหอมกลิ่นลาเวนเดอร์ ทำให้ต้นทุนของน้ำหอมถูกลงเป็นอย่างมาก เมื่อตลาดน้ำหอมดำเนินไปในแนวทางนี้ จึงทำให้กลุ่มผู้ผลิตน้ำหอมเลิกกิจการไปมากมาย พร้อมๆ กับฟาร์มลาเวนเดอร์อีกหลายแห่งที่ต้องปิดตัวลง สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้โทมิตะต้องคิดหนักอีกครั้ง แต่สุดท้ายเขาก็เลือกที่จะยืนหยัดทำฟาร์มลาเวนเดอร์ต่อไปแม้จะต้องประสบปัญหาขาดทุน

แต่แล้วสถานการณ์ก็เริ่มดีขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1976 เป็นต้นมา เมื่อช่างภาพจากบริษัทขนส่งมวลชนที่ยิ่งใหญ่ในญี่ปุ่นอย่างการรถไฟญี่ปุ่น (Japan Railway) เลือกภาพท้องทุ่งลาเวนเดอร์อันแสนงดงามของฟาร์มโทมิตะเป็นหนึ่งในภาพปฏิทินประจำปีของการรถไฟ ทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเป็นจำนวนมาก เพราะใครๆ ก็อยากที่จะสัมผัสกับความงดงามของท้องทุ่งสีม่วงที่เต็มไปด้วยดอกลาเวนเดอร์ในช่วงฤดูร้อนของญี่ปุ่น

ความสำเร็จจากปฏิทินในปีนั้น ทำให้ฟาร์มโทมิตะมีรายได้จากการท่องเที่ยวเป็นกอบเป็นกำ และต่อยอดมาสู่การเป็นผู้ผลิตสินค้าที่เกี่ยวข้องกับลาเวนเดอร์อีกมากมาย ซึ่งนอกจากน้ำหอมกลิ่นลาเวนเดอร์แล้ว ก็ยังมีสบู่ลาเวนเดอร์ น้ำมันหอมระเหยกลิ่นลาเวนเดอร์ ดอกไม้แห้งอบหอม ฯลฯ อีกทั้งนักท่องเที่ยวยังสามารถเข้าชมกระบวนการผลิตได้อย่างใกล้ชิด

การเดินทาง
คุณสามารถไปฟาร์มด้วยรถยนต์หรือระบบขนส่งสาธารณะ
รถยนต์ ใช้เวลาประมาณ 45 นาทีจากสนามบินอะซาฮิคาว่า (Asahikawa) บนทางหลวงแห่งชาติสาย 237 หรือ 2 ชั่วโมงครึ่งจากสนามบินชินจิโทเซะ (Shinchitose) บนทางด่วนโดโทะ (ออกที่ทางแยก Shimkappu) และจากตัวเมืองซัปโปโร โดยทางด่วนโด (ออกที่ทางแยก Mikasa)
รถบัส ป้ายรถบัส Nakafurano ของรถบัสฟุราโนะ (Furano) เป็นป้ายที่ใกล้ฟาร์มมากที่สุด สถานีรถไฟที่ใกล้ที่สุด คือ สถานีทุ่งลาเวนเดอร์ (Lavender Field Station) ของสาย JR Furano

รถไฟ จากสถานีรถไฟ JR Sapporo ขึ้น JR Limited Express Super Kamui (ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 25 นาที) ไปลงที่สถานี Asahikawa จากนั้นเปลี่ยนไปขึ้น JR Furano Line (ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 5 นาที) แล้วไปลงที่สถานี Nakafurano

เว็บไซต์ฟาร์มโทมิตะ (ภาษาอังกฤษ) http://www.farm-tomita.co.jp/en/

เว็บไซต์เมืองฟูราโน่ (ภาษาอังกฤษ) http://www.furanotourism.com/en/

Facebook เซนทรัลฮอกไกโด (ภาษาไทย) www.facebook.com/HokkaidoPowderBeltThai

Share This Post:Share on Facebook0Share on Google+0Tweet about this on TwitterShare on LinkedIn0