สุขเล็กๆ ที่ พัทลุง

Story & Photo by เรื่องเล่าจากกระเป๋าเดินทาง

หลายๆ คนอาจจะยังไม่ค่อยคุ้นกับจังหวัดพัทลุงมากนัก หรืออาจไม่เคยอยู่ในสายตาเลย พัทลุงเป็น 1 ใน 14 จังหวัดภาคใต้ของประเทศไทย ที่ขณะนี้กำลังมีสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ หลายที่เลย ซึ่งแต่ละสถานที่นั้นมีความน่ารัก และมีเสน่ห์ความเป็นชุมชนท้องถิ่น “คนเมืองลุง” อย่างแท้จริง

ครอบครัวของฉันคุ้นเคยกับจังหวัดพัทลุงเป็นอย่างดีเพราะเป็นบ้านพี่เมืองน้องกับสงขลา บ้านเกิดของฉัน ในวันหยุดสุดสัปดาห์เลยขับรถกันไปเที่ยวเมืองพัทลุงเพื่อทำความรู้จักกับสถานที่เช็กอินสุดชิกใหม่ๆ เริ่มต้นกันที่ขนำคอฟฟี่ เป็นร้านกาแฟสดที่ตั้ง อยู่ท่ามกลางความเขียวขจีของทุ่งนา มีวิวเขาอกทะลุ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดพัทลุงเป็นฉากหลัง

“ขนำ” เป็นคำศัพท์ทางภาคใต้ที่แปลว่า “กระท่อมหลังเล็กๆ” แม้ว่าช่วงที่ไปนั้นรวงข้าวในทุ่งนาได้ถูกเก็บเกี่ยวไปบ้างแล้ว แต่บรรยากาศที่นี่ก็ยังเหมาะแก่การพักผ่อน จิบกาแฟ ชิมขนมตาล ขนมหวานอร่อย ประจำท้องถิ่นใต้ นั่งชิลกันยาวๆ ได้หลายชั่วโมงเลย


ร้านขนำคอฟฟี่ เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 08.30 – 19.30 น.
https://www.facebook.com/KanamCoffee

จากนั้นเราก็ยกพลไปเที่ยวกันต่อที่ตลาดป่าไผ่สร้างสุข เป็นตลาดที่ห้ามพลาดเมื่อมาเยือนพัทลุง

เกิดจากการร่วมมือกันของเครือข่ายกินดีมีสุข จ.พัทลุง และสวนป่าขวัญใจ ภายใต้การสนับสนุนของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

ด้วยคอนเซปต์ “อิ่มกาย สบายใจ สุขอยู่ที่พอ” ตลาดเน้นขายสินค้าปลอดสารพิษรักษ์โลก และอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น

ด้วยความตั้งใจจะมาฝากท้องมื้อเที่ยงกับอาหารพื้นบ้านกันที่นี่ เห็นอะไรก็น่ารับประทานไปหมด มีครบทั้งคาวและหวาน

ไม่ว่าจะเป็นขนมจีนน้ำยาต่างๆ ที่เส้นขนมจีนทำจากข้าวสังข์หยด น้ำพริกแกงไตปลาแห้ง ข้าวยำสมุนไพร ข้าวหมากเหนียวดำ

เม็ดมะม่วงหิมพานต์เคลือบน้ำตาล และอาหารอร่อยๆ อีกมากมาย

เลือกชิมเลือกซื้อกันแล้วก็อาจมานั่งปิกนิกร่วมกับชาวบ้านภายใต้ร่มในป่าไผ่

นอกจากจะมีการขายอาหารแล้ว ยังมีพื้นที่เผยแพร่วัฒนธรรมท้องถิ่น ทั้งการแสดงดนตรีพื้นเมืองของนักเรียน

การแสดงหนังตะลุงและมโนราห์ของชาวบ้านงานฝีมือหัตถกรรมพื้นบ้านที่ทำจากวัสดุท้องถิ่น เช่น ไผ่ กระจูด ผ้าทอ และผ้าย้อมจากสีธรรมชาติ ที่น่าซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านไปด้วย


สามารถไปเที่ยวชมตลาดป่าไผ่สร้างสุขได้ทุกวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 09.30 – 17.00 น.
https://www.facebook.com/kindeemeesuk.pattalung

มุ่งหน้าต่อไปยังอำเภอควนขนุน มาชมปอดแห่งใหม่ของคนเมืองลุงกันที่ นาโปแก ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้วิถีชาวนาเมืองพัทลุงแบบขนานแท้

สัมผัสกลิ่นอายธรรมชาติของท้องทุ่งนาที่เขียวขจีมีพื้นที่แปลงปลูกข้าวสาธิตที่เต็มไปด้วยข้าวพื้นเมืองหลากหลายพันธุ์ ได้แก่ ข้าวสังข์หยด ข้าวไข่มดริ้น และข้าวหอมจันทร์ ฯลฯ

มีสะพานไม้ ให้เดินชิลชื่นชมกับทิวทัศน์ที่งดงาม เชื่อมต่อกับกระท่อมไม้ที่เป็นศูนย์เรียนรู้วิถีเกษตรไทย ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านขายของที่ระลึก

บรรยากาศโดยรอบถูกตกแต่งด้วยอุปกรณ์ทำมาหากินของชาวบ้านเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้รู้จักและได้เพลิดเพลินกับการถ่ายรูป “นาโปแก” เป็นภาษาพื้นบ้าน “นา” ก็คือ นาข้าว ส่วนคำว่า “โปแก” หมายถึง พ่อแก่ พ่อเฒ่า พ่อของแม่ หรือคุณตา

เมื่อรวมกัน “นาโปแก” จึงมีความหมายที่เข้าใจได้ว่า “ที่นาของคุณตา” นั่นเอง เสน่ห์ของที่นี่ก็คือ การเปิดให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมทำกิจกรรมต่างๆ เช่น การเก็บเกี่ยวข้าว ไถนา ดำนา เลี้ยงควาย ขุดบ่อปลา


สามารถติดตามตารางกิจกรรมได้ที่ https://www.facebook.com/NAPOKAE นาโปแก เปิดให้เข้าชมฟรีทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-18.30 น. นอกจากนี้ยังมีที่พักให้บริการนักท่องเที่ยวอีกด้วย

หลังจากตะลอนแวะเที่ยวมาทั้งวันแล้วก็ถึงเวลาตรงดิ่งสู่ที่พัก ศรีปากประรีสอร์ต เป็นรีสอร์ตที่อยู่บริเวณคลองปากประซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านปากประ อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง

บริเวณนี้เปรียบเสมือนปากท้องของชาวบ้านบริเวณนี้ เป็นลากูนที่คลองหลายสายมาบรรจบกันและเชื่อมติดกับทะเลสาบสงขลา จึงเป็นที่ชุมนุมของสัตว์น้ำนานาชนิด ทั้งยังมีความหลากหลายและอุดมสมบูรณ์ทางด้านชีวภาพ

จุดเด่นที่ทำให้หลายคนอยากเดินทางมาสัมผัสที่นี่ก็คือ ยอยักษ์

เครื่องมือที่ชาวบ้านสร้างขึ้น มาเพื่อจับสัตว์น้ำตามวิถีชาวประมงน้ำจืดแบบดั้งเดิม

รูปแบบตัวอาคารสร้างได้กลมกลืนกับสิ่งแวดล้อมรอบข้าง จัดได้ว่าเป็นรีสอร์ตแนวอนุรักษ์ธรรมชาติ เป็นความลงตัวและสมบูรณ์แบบระหว่างธรรมชาติและความสะดวกสบาย ที่พักสวย ภายในแวดล้อมไปด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์

เหมาะกับการหลีกหนีชีวิตยุ่งๆ มาสัมผัสวิถีชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ มีมุมชิลๆ ให้นั่งเล่นนั่งอ่านหนังสือ ห้องพักตกแต่งอย่างเรียบง่ายแต่ ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก

ร้านอาหารวิวยอ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของรีสอร์ต ที่นอกจากมีอาหารทะเลและอาหารพื้นบ้านที่อร่อยแล้ว ยังเป็นจุดถ่ายภาพวิวยอที่สวยงามมากๆ

วันรุ่งขึ้นฉันรีบตื่นเช้าเพื่อมาชมยอ รอพระอาทิตย์ขึ้น ยอยักษ์กับแสงเช้าเป็นบรรยากาศที่โรแมนติกอย่างไม่น่าเชื่อ


ติดต่อและสอบถามรายละเอียดที่พักได้ที่ https://www.facebook.com/Sripakpra/

เที่ยงวันอาทิตย์ บ้านเราไปฝากท้องรับประทานอาหารเที่ยงกันที่ หลาดใต้โหนด ตลาดท้องถิ่นที่โด่งดังมาหลายปีแล้ว

เพราะได้รับรางวัล “ตลาดต้องชม” เอกลักษณ์พาณิชย์…อัตลักษณ์ของชุมชน จากกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์

ชื่อของหลาดใต้โหนดมาจากภาษาใต้ที่แปลว่า ตลาดใต้ต้นตาลโตนด ฉันอยากเรียกที่นี่ว่า ตลาดแห่งความสุข

เพราะยิ่งเดินชมก็ยิ่งมีความสุขและหลงรักกับคอนเซปต์ “ของใช้ ของกิน งานศิลป์บ้านๆ”

เพื่อให้ชาวบ้านได้เอาสินค้าปลอดสารพิษ อาหารพื้นถิ่น

ขนมที่หารับประทานได้ยาก และงานฝีมือมาขาย ภายใต้ร่มไม้ในสวน บรรยากาศเย็นสบาย มีเสียงเพลงบรรเลงกันสดๆ ให้ชมให้ฟังกันอย่างเพลิดเพลิน น่าภาคภูมิใจที่เด็กๆ และชาวบ้านร่วมกันสืบสานศิลปวัฒนธรรมไทย

ความไม่ธรรมดาของตลาดแห่งนี้ สินค้าและบรรจุภัณฑ์ล้วนแล้วแต่ทำมาจากสิ่งธรรมชาติ มีการใช้ใบตอง กะลามะพร้าวแทนถ้วยโฟม พ่อค้าแม่ค้าแต่งกายชุดไทย เป็นอีกภาพที่น่าประทับใจ

สิ่งที่เราจะได้รับจากที่นี่ ไม่ใช่เพียงแค่อาหารหรือสินค้าท้องถิ่น แต่เป็นบรรยากาศที่เรียบง่ายและความสุขจากรอยยิ้ม เสียงหัวเราะเสียงพูดคุยภาษาใต้ที่สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นและจริงใจ


ติดตามภาพกิจกรรมและบรรยากาศของหลาดใต้โหนดได้ที่ https://www.facebook.com/Tainodgreenmarket/

พัทลุง เป็นจังหวัดที่เหนือความคาดหมายสำหรับฉันเสมอ ธรรมชาติงดงาม ผู้คนน่ารัก วัฒนธรรมมีเสน่ห์ เหนือสิ่งอื่นใด ความสงบและความสุข…หาได้จากที่นี่

ข้อมูลเพิ่มเติม
จังหวัดพัทลุงไม่มีสนามบิน ต้องบินไปลงที่หาดใหญ่ ตรัง หรือนครศรีธรรมราช ก็ได้ แล้วเช่ารถจากสนามบินขับต่อไปยังพัทลุง

Share This Post:Share on Facebook0Share on Google+0Tweet about this on TwitterShare on LinkedIn0