ปารีส…มหานครแห่งรัก (Paris…The City of Love)

เรื่องและภาพโดย…เรื่องเล่าจากกระเป๋าเดินทาง

ปารีส มหานครแห่งประเทศฝรั่งเศสที่ชาวโลกต่างมอบฉายาให้ว่า “เมืองแห่งความรักระดับโลก” หรือ “The City of Love” บรรยากาศคลาสสิคและสถานที่สวยงามมากมายดังภาพในหนังอย่าง Midnight in Paris และ Before Sunset ดึงดูดคู่รักจากทั่วโลกให้มาเยือนอย่างไม่ขาดสาย สมกับที่ครองแชมป์เมืองที่มีนักท่องเที่ยวมากที่สุดในโลกต่อเนื่องกันมาหลายสิบปี แต่สำหรับฉันแล้ว ปารีสเพิ่มดีกรีเมืองโรแมนติกในหัวใจทำคะแนนพุ่งนำเมืองอื่นๆไปไกล เพราะครั้งหนึ่งฉันเคยได้มาใช้ชีวิตกับคนรักที่มหานครแห่งรักนี้

สิ่งที่ทุกคนต้องทำเมื่อมาถึงปารีสคือการไปเยี่ยมชมหอไอเฟล (Tour Eiffel) สัญลักษณ์ประจำเมืองที่ตั้งตระหง่านเป็นฉากหลังในภาพให้คู่รักมาเก็บบันทึกความทรงจำไว้ หรือจะขึ้นไปสูดอากาศชมวิวทิวทัศน์บนโครงเหล็กสูง 324 เมตร ที่คนทั่วโลกรอต่อคิวนานหลายชั่วโมงเพื่อขึ้นไปชมวิวมุมสูงอันตื่นตาตื่นใจ

มุมชมหอไอเฟลสุดโปรดของฉันคือที่ลานทรอคาเดโร ลงรถไฟใต้ดินที่สถานี Metro Trocadero แม้จะไม่ใช่สถานีที่ใกล้ที่สุด แต่เป็นจุดถ่ายรูปและชมวิวมุมสูงสามารถเก็บภาพหอไอเฟลได้เต็ม หรือไปเอกเขนกอยู่บนสนามหญ้าในสวนช็องป์ เดอ มาร์ (Champ de Mars)

สถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวเมือง นอนมองประติมากรรมโครงสร้างเหล็กอันสง่างามอย่างสบายอกสบายใจ อีกสถานที่หนึ่งที่เห็นวิวหอไอเฟลได้อย่างดงามก็คือจาก Montparnasse Tower ตึกระฟ้าที่มีจุดชมวิว 360 องศา นับเป็นหนึ่งในจุดชมวิวที่โรแมนติกที่สุดของปารีสโดยเฉพาะยามพระอาทิตย์ตกฉาบมหานครแห่งแสงสี ไม่ว่าจะซ่อนตัวอยู่มุมไหนของปารีส หอไอเฟลยังคงอวดโฉมความสง่างาม

ถนนชองป์เซลีเซ่ (Champs-Élysées) ที่เคยถูกได้รับการยกย่องให้เป็น The world most beautiful avenue ถนนที่เป็นดั่งสวรรค์ของนักช็อปกระเป๋าหนัก สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านค้าแบรนด์เนมหรูหรา สุดปลายถนนคือ ประตูชัยฝรั่งเศส (Arc de Triomphe de l’Étoile) ตั้งสง่าอยู่กลางจัตุรัสชาร์ลเดอโกล (Place Charles de Gaulle)

อนุสรณ์แห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงชัยชนะแห่งสงครามในสมัยปฏิวัตินโปเลียน ส่วนข้างใต้เป็นที่ฝังศพของทหารนิรนามที่เสียชีวิตจากสงครามโลกทั้งสองครั้ง ด้านบนของประตูชัยเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงปารีส เพราะนอกจากจะได้เห็นถนนใหญ่ทั้ง 12 สายมาบรรจบกันแล้ว ยังเป็นจุดที่สามารถมองเห็นเส้นแกนประวัติศาสตร์ L’axe historique ได้อย่างชัดเจนที่สุดอีกด้วย

เมื่อมาถึงปารีสต้องไม่พลาดไปชมพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Musée du Louvre) พิพิธภัณฑ์ที่เก่าแก่และยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก เป็นสถานที่รวบรวมผลงานศิลป์ระดับมาสเตอร์พีซเอาไว้มากมาย

โดยเฉพาะภาพวาดโมนาลิซ่า (Mona Lisa) ผลงานของศิลปินระดับโลก ลีโอนาร์โด ดาวินชี่ (Leonardo da Vinci)  ที่แต่ละวันมีคนมารอคิวยาวเหยียดเพื่อรอเข้าชมเป็นจำนวนมาก ด้านหน้าพิพิธภัณฑ์เป็นสวนสาธารณะตุยเลอรี่ (Jardin des Tuileries)

ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นสวนของพระราชวัง Palais Royal อาคารของพระราชวังเปลี่ยนมาเป็นพิพิธภัณฑ์และที่ทำการรัฐบาล ฉันชอบมาถ่ายรูปพีระมิดแก้วในเวลากลางคืน เพราะคนน้อยและบรรยากาศโรแมนติกมากกว่ากลางวันหลายเท่าตัวเลย

มหาวิหารนอเตรอดาม (Cathédrale Notre-Dame) หนึ่งในมหาวิหารกอทิกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลกที่มีอายุกว่า 700 ปี นอกจากต้องอดทนและใจเย็นต่อคิวเข้าไปชมความงดงามของสถาปัตยกรรมและภาพกระจกสีภายในมหาวิหาร

อยากแนะนำให้ไปเดินเล่นรอบๆ เกาะอีลเดอลาซิเต้ (Île de la Cité) กลางแม่น้ำแซน (Seine River)

ที่มีร้านคาเฟ่เก๋ๆ สไตล์ฝรั่งเศสให้ได้เลือกนั่งชมภาพของแฟชั่นนิสต้าชาวปารีเซียงสุดชิค และจะมีอะไรโรแมนติกไปกว่าการเดินเล่นริมแม่น้ำแซน

นั่งพักผ่อนหย่อนใจบนพื้นที่ริมแม่น้ำทั้งสองฝั่ง ดัชนีความโรแมนติกจะขยับตัวสูงขึ้นหากคุณได้ล่องเรือในแม่น้ำไปกับคนรู้ใจ หรือนั่งจิบไวน์รสชาติเยี่ยมบนร้านอาหารหรือบาร์เรือริมแม่น้ำยามค่ำคืน

ในปารีสสถานที่ที่คิดว่าไม่น่าจะโรแมนติกก็ยังโรแมนติก อย่างพระราชวังแวร์ซาย (Château de Versailles) พระราชวังที่สวยงามยิ่งใหญ่มากที่สุดแห่งหนึ่งของโลกและได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกจากองค์การ UNESCO นอกจากความหรูหราอลังการอันเกิดจากความทุ่มเทของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 เนรมิตให้พระราชวังแห่งนี้งดงามไปด้วยโคมระย้า ผนังหินอ่อน ลวดลายนูนสีทองอร่ามประดับกรอบประตู สวนสวยในพื้นที่ขนาด 250 เอเคอร์ที่มีบ่อน้ำพุอะพอลโล่ (Bassin d’Apollon) และพื้นที่ของวังเล็กๆ สองวังคือ Grand Trianon และ Petit Trianon ยังเป็นอีกสถานที่ที่ควรค่าแก่การเข้าชมสักครั้งหนึ่งในชีวิต

อีกหนึ่งสถานที่สุดโปรดในวันว่างของฉัน ก็คือเนินเขามงต์มาร์ต (Montmartre) เนินที่สูงที่สุดในปารีส นอกจากเป็นที่ตั้งของมหาวิหารพระหฤทัยแห่งมงมาร์ต (Sacré-Cœur Basilica) โบสถ์สีขาวที่เด่นตระหง่านอยู่บนเนินเขา ยิ่งใหญ่งดงามทั้งภายในและภายนอก บนนี้เป็นเหมือนหลังคาของปารีสสามารถมานั่งชมภาพวิวทิวทัศน์เมืองในมุมสูง ยังมีพิพิธภัณฑ์ แกลอรี่ ร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านเบเกอรี่สวยๆ น่ารักๆ จำนวนมากกระจายตัวกันอยู่บนถนนและตรอกซอย มงมาร์ตเป็นมุมที่สุนทรีย์ที่สุดมุมหนึ่งของปารีสเลยทีเดียว

โดยเฉพาะที่ลานศิลปินปลาซดูแตรต (Place de tertre) เดินชมเหล่าศิลปินกางผ้าใบสร้างสรรค์ผลงานกันสดๆ พร้อมขายให้แก่นักท่องเที่ยว หรือจะนั่งเป็นแบบให้เขาวาดเอากลับไปเป็นของที่ระลึกก็ได้ สำหรับฉัน ความโรแมนติกของปารีสไม่ได้อยู่ที่ความสวยงามของอาคารสถานที่หรือวิวทิวทัศน์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงวิถีชีวิตและไลฟ์สไตล์ของคนที่นี่ ไม่ว่าจะเดินไปตรอกซอยไหนก็จะเห็นคู่รักทำกิจกรรมร่วมกัน และอาจเป็นเพราะชาวฝรั่งเศสชอบแสดงออกถึงความรัก ไม่ว่ามุมไหนๆ ปารีสจึงอบอวลไปด้วยความโรแมนติกอยู่เสมอ

ด้วยความงดงามและความโรแมนติก ทำให้สเน่ห์ของปารีสยังคงดึงดูดใจนักท่องเที่ยวคู่รักจากทั่วโลกให้มาเยือนอย่างไม่ขาดสาย มาเติมความหวานให้ชุ่มชื่นหัวใจที่ปารีสกันค่ะ

Share This Post:000