อยากไป…ไปเลย

Story & Photo by Editorial Staff

จังหวัดเลย หนึ่งในจังหวัดที่หลายคนอยากไปเที่ยวเพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่สวยงาม ประเพณี วัฒนธรรมที่สวยงามแปลกตา วัดวาอารามที่สวยงาม ศักดิ์สิทธิ์ ครั้งนี้มาแนะนำ สถานที่เที่ยวที่ขึ้นชื่อของจังหวัดเลยกัน

ต้องบอกเลยว่าที่แนะนำสถานที่เที่ยวจังหวัดเลยครั้งนี้เป็นแค่บางส่วนของจังหวัดเลยเท่านั้น เพราะเลยไม่ได้มีแค่นี้แน่นอน แต่ที่นำมาเสนอกันนี้ก็อิ่มเอมมากเลย มาดูกันว่ามีที่ไหนน่าไปเยือนบ้าง

วัดพระธาตุศรีสองรัก
วัดคู่บ้านคู่เมือง ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ตามประวัติบอกว่า สร้างขึ้นสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชแห่งอาณาจักรล้านช้าง เมื่อปี พ.ศ. 2103

เพื่อให้เป็นสักขีพยานในการช่วยเหลือซึ่งกันและกันระหว่างกรุงศรีอยุธยา สมัยสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ จึงได้ร่วมกันสร้างพระธาตุศรีสองรักเพื่อเป็นสักขีพยาน ณ กึ่งกลางระหว่างแม่น้ำน่านและแม่น้ำโขง

เป็นรอยต่อของทั้งสองราชอาณาจักรพระธาตุศรีสองรัก อยู่ริมฝั่งแม่น้ำหมัน ห่างจากตัวอำเภอด่านซ้ายประมาณ 1 กิโลเมตร

เป็นโบราณสถานที่กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนไว้ มีรูปทรงลักษณะศิลปกรรมแบบล้านช้าง ผู้คนในพื้นที่และจากทั่วประเทศมักจะมาขอพรกันเป็นจำนวนมาก

ข้อปฏิบัติเมื่อมานมัสการองค์พระธาตุศรีสองรัก ไม่นำสิ่งของหรือดอกไม้สีแดงมาบูชา ไม่แต่งกายด้วยชุดสีแดง เพราะองค์พระธาตุสร้างขึ้นเพื่อสัจจะและไมตรี ซึ่งสีแดงเป็นสัญลักษณ์ของเลือดและความรุนแรง ไม่ควรกางร่มหรือสวมหมวกและสวมรองเท้าขึ้นไป


ที่ตั้ง : ตำบลด่านซ้าย อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย 42120
เปิดให้บริการทุกวัน 07.00 – 18.00 น.

อุทยานแห่งชาติภูเรือ
ได้รับการประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2522 หนาวสุดในแดนสยาม

ครอบคลุมพื้นที่อำเภอภูเรือและอำเภอท่าลี่ จังหวัดเลย พื้นที่ทั้งหมด 75,525 ตารางกิโลเมตร ยอดภูเรือเป็นจุดสูงที่สุดในอุทยานฯ สูงจากระดับทะเลปานกลางประมาณ 1,365 เมตร ส่งผลให้มีอากาศหนาวเย็นเกือบตลอดทั้งปี

ด้านเหนือติดกับประเทศลาว ในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใสนักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นแม่น้ำเหือง และแม่น้ำโขง ที่กั้นพรมแดนระหว่างไทย-ลาวได้

พื้นที่ป่าภูเรือประกอบด้วยทิวเขาสูง มีต้นสนขึ้นสลับซับซ้อน ชื่อ “ภูเรือ” มาจากลักษณะของผาชะโงกยื่นออกมาดูเหมือนหัวเรือสำเภาใหญ่

ในช่วงฤดูหนาวจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวเพื่อสัมผัสอากาศหนาวที่อุทยานฯ และมาเฝ้ารอชมความงามของพระอาทิตย์ขึ้นที่ผาโหล่นน้อยเป็นจำนวนมากในส่วนของที่พัก

ทางอุทยานฯ ได้จัดเตรียมบ้านพักไว้ให้บริการในบริเวณที่ทำการ มีสถานที่กางเต็นท์ไว้ให้บริการนักท่องเที่ยว หากขับรถมาจะต้องมาจอดไว้ตรงลานที่อุทยานฯ จัดไว้

เพราะไม่อนุญาตให้นำรถขึ้นไปยอดภู มีรถสองแถวรับจ้างของสวัสดิการเจ้าหน้าที่อุทยานฯ คนละ 10 บาทต่อเที่ยว จากลานจอดรถภูสนขึ้นไปที่ยอดภูเรือ ระยะทาง 1 กม.


อุทยานแห่งชาติภูเรือ : ต.หนองบัว อ.ภูเรือ จ.เลย 42160
โทรศัพท์ : 0 4288 1716, 0 4288 4144
ค่าธรรมเนียมขึ้นอุทยานฯ : ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท ยานพาหนะเสียคันละ 30 บาท

สวนองุ่นภูเรือวโนทยาน
หรือที่รู้จักกันดีอีกชื่อว่า ชาโต เดอ เลย เป็นสวนอง่นุ ขนาดใหญ่มีพื้นที่ประมาณ 800 ไร่

เพราะพื้นที่ของอำเภอภูเรือ มีอากาศหนาวเย็นตลอดปีคล้ายกับทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส

เหมาะสำหรับปลูกองุ่นพันธุ์ดีจากฝรั่งเศส ทั้งองุ่นรับประทานสดและองุ่นสำหรับใช้ทำไวน์

ซึ่งนำไปผลิตไวน์ชาโต เดอ เลย ไวน์ รสชาติเยี่ยมผลิตโดยคนไทย โดยมีจำหน่ายที่ร้านชาโต เดอ เลย พร้อมกับองุ่นสดและสินค้าเกษตรมากมาย


สวนองุ่นภูเรือวโนทยาน : หมู่ 10 ต.ร่องจิก อ.ภูเรือ จ.เลย
โทร. 0 4289 1404
เปิดให้บริการทุกวัน 08.30 – 17.00 น.

แพห้วยกระทิง
หรืออ่างเก็บน้ำหมาน อยู่ใน อ.เมือง จ.เลย ในพื้นที่ของวนอุทยานหริรักษ์

เป็นอ่างเก็บน้ำสันเขื่อนดินครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 1,500 ไร่ เพื่อการชลประทาน

ได้พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ บรรยากาศสวยงามโอบล้อมด้วยขุนเขาและป่าไผ่

นักท่องเที่ยวนิยมมาเช่าจักรยานปั่นบริเวณสันเขื่อนที่ยาวกว่า 800 เมตร หรือใช้เวลาวันพักผ่อนกับการล่องแพไม้ไผ่

เป็นแพบริการพร้อมอาหารบริการหลายเจ้า มีอาหารอีสานหลากหลาย และเติมความสดชื่นจากการลงเล่นน้ำ และล่องแพชมบรรยากาศรอบๆ อ่างเก็บน้ำ

หากขึ้นไปจุดชมวิวห้วยกระทิงก็จะเห็นบรรยากาศของอ่างเก็บน้ำโอบล้อมด้วยขุนเขา เป็นภาพมุมสูงที่สวยงาม


ค่าบริการแพขึ้นอยู่กับขนาดแพ ราคาเริ่มต้น 200-800 บาท

ภูป่าเปาะ
ไฮไลต์ก็คือ การขึ้นไปจุดชมวิวที่อยู่สูงจากระดับ น้ำทะเลประมาณ 900 เมตร

มีจุดถ่ายรูปสวยงาม สามารถมองเห็นภูหอซึ่งมีลักษณะเป็นภูเขาสูง เป็นภูเขายอดตัด หรือภูเขายอดราบ

โดยช่วงที่มีทะเลหมอกปกคลุมจะคล้ายภูเขาไฟฟูจิยามา ของประเทศญี่ปุ่น ทำให้ได้ฉายา ฟูจิเมืองเลย ภูป่าเปาะอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติภูค้อ-ภูกระแต และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูค้อ – ภูกระแต

จุดชมวิวของภูป่าเปาะมีทั้งหมด 3 จุด ซึ่งแต่ละจุดจะห่างกันประมาณ 200 เมตร จุดแรกเป็นจุดชมวิว ไม่มีอะไรมาบังสายตาสามารถมองเห็นวิวของภูหอได้ชัดที่สุด เป็นจุดที่มีระเบียงยื่นออกไปสำหรับให้นักท่องเที่ยวได้ชมวิวของภูหออย่างใกล้ชิด

ส่วนจุดที่ 2 ก็จะเห็นวิวของภูหอในอีกมุม ส่วนจุดที่ 3 เดินเท้าขึ้นเขาไปประมาณ 200 เมตร เป็นจุดสูงสุด สามารถมองเห็นวิวได้รอบ 360 องศา

ในวันที่อากาศแจ่มใสสามารถมองเห็นภูต่างๆ ตามป้ายปักหมุดที่ชี้จุดของภูต่างๆ ได้จากจุดนี้ธรรมชาติสร้างสิ่งที่สวยงามให้เกิดขึ้น


ที่ตั้ง : ตำบลปวนพุ อำเภอหนองหิน เปิดให้บริการทุกวัน นั่งรถอีแต๊กของ กลุ่มชาวบ้านค่าบริการคนละ 60 บาท (ไม่อนุญาตให้นำรถยนต์ส่วนตัวขึ้นไป) บนภูป่าเปาะไม่มีที่พักและไม่อนุญาตให้กางเต็นท์

อยากให้ทุกคนได้เห็นและสัมผัสด้วยตา เก็บบันทึกเรื่องราวความสวยงามเหล่านี้ ผ่าน
ดวงตา ผ่านกล้อง เป็นความทรงจำที่พร้อมแบ่งปันและรักษาจากธรรมชาติให้คงอยู่ อย่ารอช้า ถ้าอยากไป…ไปเลย

Share This Post:Share on Facebook0Share on Google+0Tweet about this on TwitterShare on LinkedIn0