สีชัง ยังไม่สิ้นมนต์ขลัง

Story & Photo  by ‘กลางทาง

ในช่วงปลายฤดูหนาวที่อากาศเหมือนกลางฤดูร้อนราวกับถอดพิมพ์มาแบบนี้ อะไรจะดีไปกว่าการไปเที่ยวทะเล จริงไหมคะแต่ถ้าจะเพิ่มโจทย์อีกสักนิด ให้เป็นทะเลที่มีมนต์เสน่ห์ของอดีตที่ไม่เหมือนที่ไหนๆ แถมใกล้กรุงเทพฯ จนพอจะไปเที่ยวได้ในวันสบายๆ “เกาะสีชัง” เป็นอีกคำตอบที่น่าสนใจนะคะ
ถิ่นสุขกายด้วย           ถิ่นดี
จิตรโปร่งปราศราคี       ชุ่มชื้น
สองสุขแห่งชาวสี         ชังเกาะ นี้แฮ
อายุย่อมยืนพื้น           แต่ร้อยเรือนริม

โคลงสี่สุภาพนี้เป็นพระราชนิพนธ์ของล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 ที่ทรงมีพระราชดำริเกี่ยวกับเกาะสีชังว่า ที่นี่มีบรรยากาศเงียบสงบ อากาศดี ทำให้ผู้คนมีสุขภาพดี มีอายุยืนยาว จึงทรงโปรดให้สร้างพระราชฐานขึ้นที่นี่เพื่อเป็นที่ประทับในฤดูร้อน พระราชทานนามว่า “พระจุฑาธุชราชฐาน” ตามพระนามสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลกที่ทรงประสูติที่นี่ และนี่เองที่เป็นจุดเริ่มต้นของความเจริญและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ข้ามมาสู่เกาะสีชัง ทำให้สีชังกลายเป็นแหล่งตากอากาศทางทะเลแห่งแรกๆ ของเมืองไทย

Sichang6
แม้หลังเหตุการณ์ รศ. 112 (พ.ศ. 2436) ที่ฝรั่งเศสยกกองเรือมาปิดอ่าวไทยและเข้ายึดเกาะสีชังเพื่อกดดันสยาม ที่นี่จะสิ้นสุดความเป็นเขตพระราชฐานลง การก่อสร้างพระตำหนักต่างๆ ถูกยุติ และต่อมาในปี พ.ศ. 2443 ยังโปรดให้รื้อถอนพระที่นั่งและพระตำหนักบางส่วนไปสร้างไว้ที่อื่น แต่พระตำหนักและสิ่งก่อสร้างเท่าที่ยังเหลืออยู่ก็ยังมีเสน่ห์พอที่จะทำให้ผู้มาเยือนสัมผัสได้ ฉันอดคิดไม่ได้ว่า ถ้า “พระที่นั่งวิมานเมฆ” ยังคงตั้งอยู่ที่นี่ พระที่นั่งไม้สักทอง 3 ชั้น กับบรรยากาศริมทะเลจะงดงามคลาสสิกเพียงไหนหนอ

Sichang4       Sichang5
จากพระจุฑาธุชราชฐาน กิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเยือนเกาะสีชัง คือ การไปสักการะ “ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่” ซึ่งเป็นที่เคารพเลื่อมใสของพ่อค้าชาวจีนที่ล่องเรือสำเภามาค้าขายและมาจอดเรือเพื่อขนถ่ายสินค้าที่เกาะสีชังนี้มาแต่ครั้งอดีตที่ได้เคยบนบานให้เจริญรุ่งเรืองทางการค้าจนได้มาสร้างศาลเจ้าไว้ และจนถึงปัจจุบันที่นี่ยังเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวไทย ชาวไทยเชื้อสายจีน และชาวจีนจากหลายประเทศ เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย ไต้หวัน ฮ่องกง ที่เดินทางมาเพื่อสักการะที่นี่โดยเฉพาะอีกด้วย

Sichang3
ไหว้ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่แล้ว ต้องเดินขึ้น “เขาพระจุลจอมเกล้า” ซึ่งเป็นที่ตั้งของเสาธงอัษฎางค์และรอยจารึกพระปรมาภิไธยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ เจ้าอยู่หัว โดยก่อนถึงยอดเขา บริเวณไหล่เขาที่มีชื่ออันไพเราะว่า “ไหล่คยาศิระ” จะเป็นที่ประดิษฐาน รอยพระพุทธบาทจำลอง ที่สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงอัญเชิญมาจากประเทศอินเดีย ที่จุดนี้รวมถึงบนลานเสาธงที่ยอดเขาเป็นจุดชมวิวที่สวยงาม สามารถเห็นทัศนียภาพของเกาะสีชังและเกาะอื่นๆ ในบริเวณใกล้เคียงได้ โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวที่ท้องฟ้าเปิด

Share This Post:Share on Facebook0Share on Google+0Tweet about this on TwitterShare on LinkedIn0